"พอถึงโรงพยาบาลรีบวิ่งหอบลูกชึ้นเบลคะบุรุษพยาบาลรีบเข็นเข้าห้องฉุกเฉินขอบคุณมากคะ ไม่มีใครถามอะไรทั้งนั้นถึงถามคงไม่มีกระจิตกระใจตอบ พอถึงห้องฉุกเฉินหมอรีบวิ่งเข้ามาดูอาการ รีบทำความสะอาดแผลถามรายละเอียดว่าน้องโดนอะไรมา โดนมานานรึยัง พร้อมทั้งขออนุญาติถ่ายรูปเพื่อปรึกษา อาจารย์อีกที ไม่รู้ว่าเรียกอะไร อาจารย์ รุ่นพี่ หรืออื่นๆ ระหว่างทำแผลเบื้องต้น จขทก อยู่กับลูกไม่ยอมปล่อยลูกไปไหนเบลที่เข็นมาก็ขึ้นไปกอดปลอบลูก หัวใจแทบสลายเหมือนกำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญ แต่พยายามไม่ร้องคะ กลัวลูกเห็นแล้วร้องหนักกว่าเดิม พอทำแผลเสร็จคุณหมอให้รีบ ไปเอกซเรย์ศรีษะ
ลูกชายนอนไปแล้วด้วยความเพลีย แต่เกาะมือเราไว้แน่นเราก็ยังไม่ลงจากเตียงนะคะ นอนไปด้วยทั้งๆที่เอกซเรย์นั่นแหละ พอยกหัวน้องเพื่อวางฟิล์มทีน้องสะดุ้ง หาเรา เราก็ต้องบอกว่ามี๊อยู่นี้ๆๆ ไม่ไปไหน จะอยูข้างๆตลอด ขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้าใจคนเป็นแม่ไม่ไล่ลงจากเตียงไม่ไล่ออกจากห้องเอกซเรย์ พอเสร็จรอไม่ถึง5นาที ก็ได้ฟิล์ม ไปให้หมอ หมอก็แจ้งว่า กระโหลกน้องไม่มีปัญหาอะไร จะมีก็แต่กระดูกตรงแก้มใกล้ๆเบ้าตา ที่ร้าวแต่หมอจะไม่ทำอะไร เนื่องจากน้องสามารถกรอกตาได้อยู่กระดูกจะสามารถสมานเองได้
ต่ออีกรอบหมอให้สแกนช่วงหน้าอกก็ไปแบบเดิมรออีก 5 นาทีก็ได้ฟิล์มเอกซเรย์มา (คือรอบนี้ไม่รู้หมอให้ไปเอกซเรเพิ่มเพราะอะไรนะคะ) พอกลับมา
หาคุณหมอ หมอก็สอบถามว่า อาหารและน้ำกินครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เราก็ตอบไปตอน5ทุ่ม หมอก็บอกเคสน้องต้องดมยาและทำการล้าง และเย็บแผล
เพราะแผลลึก และต้องรีบทำเพื่อไม่ให้เซลล์หนังที่ฉีกออกตาย เราก็ค่ะๆ เซ็นยินยอมต่างๆนาๆ จขกท.ใจร้อนถามหมอผ่าตอนนี้เรยทำอะไรก็ได้ให้เรา
สามารถรู้ได้ว่าดวงตาลูกปกติ
หมอแจ้งว่า การดมยาทำให้อะไรก็ไม่รู้ไม่ได้ฟัง คร่าวๆคือถ้าน้องหลับแล้วอาหารยังอยู่จะเกิดการสำลักและเป็นอันตรายได้ หมอบอกประมาณตี5ครึ่งนะ หลังจากนั้นก็ให้น้ำเหลือ ยาฆ่าเชื้อ และพาขึ้นไปห้องเด็ก รอเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีห้าครึ้ง นานมากๆใจกังวลต่างๆนาๆ ภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอนไม่หลับได้แต่ขอโทษลูกที่ให้นอนตรงนั้น ได้แต่บอกว่าอยากโดนเองเหมือนคนบ้า มองนาฬิกาตลอด
พอเวลาตี5กว่าๆ เราก็รอ ในใจคิดว่าถ้าตี5ครึ่งเมื่อไหร่ลูกเรายังไม่เคลื่อนย้าย เราจะไปแจ้งพยาบาล กลัวเขาลืม แต่ไม่ที่นี้เป๊ะมาก ตี5ครึ่งเข็นแปลทะเบียนประวัติ มาเลย ขอบคุณที่เป๊ะขนาดนี้ เพราะหัวอกคนเป็นแม่อยากให้ลูกได้รับความปลอดภัยเร็วที่สุด ตามเปลไปเลยค่ะลูกก็สะดุ้งเป็นพักๆ ถ้าเขาจับมือเราอยู่เขาจะไม่โวยวาย พอถึงห้องผ่า ขอค่ะขออีกเหมือนกัน ขอเข้าไปด้วย แต่เพื่อความสะอาดปลอดภัย คุณหมอให้เข้าไปส่งในห้องผ่าได้ จนลูกดมยาสลบเท่านั้น
มีพยาบาลให้เรา เปลี่ยนเสื้อคุมหมวกจับมือลูกตามเข้าไปที่ห้องผ่ามีคนอยู่ในนั้นเป็น20คนเลย และมีท่านหนึ่งให้ จชทก จับฝาครอบให้ลูกดม พอลูกสลบ เขาถึงเชิญจขกท ออกเพื่อทำการผ่าตัด พอออกมาหน้าห้องผ่าร้องไห้ๆๆเดินวนเหมือนในละครเลยคะ สามีได้แต่หน้าแดงๆนั่งเงียบๆ พอมองนาฬิกาผ่านไปครึ่ง ชม. ในใจคิดนานจังแค่เย็บแผลทำมัยนานขนาดนี้ จะเป็นอะไรมากมั้ย ยิ่งคิดยิ่งร้องวนไปวนมา ตาลูกจะเป็นอะไรมั้ย จะบอดมั้ย ถ้าบอดเอาตาเราไปใส่แทนได้เลยมั้ย
ผ่านไป ชม กว่าๆ คุณหมอศัลออกมาแจ้งว่า ตอนนี้ได้ทำการเย็บแผลน้องเรียบร้อยแล้ว ในลูกตามีเศษใบพัดพัดลมอยู่ขนาด3มม.ที่ตาขาวได้ทำการเอาออกและทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว จขกท สอบถามเรื่องตาดำมีปัญหามั้ย หมอแจ้งว่าตาดำเท่าที่เห็นไม่เป็นอะไร แต่ยังตอบอะไรมากไม่ได้
หมอจักษุ คือหมอเฉพาะทางไม่อยู่เพราะช่วงเทศกาล อ่าววว มามืดอีกแล้ว รอใช้มั้ยต้องรอใช้มั่ย ลูกช้านรอไม่ได้นะดวงตาหนึ่งดวงมีความหมายกับลูกฉันมาก..."