✿Primpinky✿
Group Blog
 
All blogs
 
diary melbourne 1st day at Box hill



09/07/2007 (First day at Box Hill)


หลับไปนานก็ตื่นเพราะนาฬิกาปลุกซะแระ 8 โมง เพราะว่า Helen บอกว่าเด๋วเพื่อนจะมาตอน 10 โมง พอลืมตามาเท่านั้นได้ยินเสียงเหมือนเสียงกริ่งเนี่ย 2-3 ครั้ง เอ๊ะหรือว่าจะมาแล้วทำมัยมาเร็วจังฟระ แป่ว...เนี่ยมัน 11 โมงแล้วนี่นา รีบวิ่งไปที่ประตู อ่าวเปิดไม่ได้ซะงั้นต้องมีกุญแจ เราต้องวิ่งมาเอากุญแจที่ห้องอีก ลืมบอกไปว่าห้องเราเนี่ยอยู่หลังสุดเลยจะถึงหลังบ้านอยู่แล้ว ไกลจัด วิ่งกลับมาพร้อมกุญแจที่เปิดไม่ได้ ดีนะที่ Julianne มีกุญแจ ไม่งั้นงานนี้มีหวังโดนขังอยู่ในบ้านคนเดียวแระ เพราะ Helen ไปทำงาน ส่วนสองสาวนั้นไปเล่นสกี เฮ่อโล่งอกไปเปราะนึง แต่.......ต้องรีบอีกเพราะจะให้เค้ารอนานได้งัย บอกเค้าว่ารอแป๊บนะซัก 10นาทีขออาบน้ำก่อนเพราะเพิ่งตื่นเองค่ะ

เค้าดู nice มากเหมือน Helen เลย พอเจอเราก็ให้เบอร์เค้าแล้วก็จดเบอร์ Helen ให้เราอีกที แล้วก็เขียนที่อยู่ให้ด้วย แล้วเราสองคนก็ออกจากบ้าน ออกไปแว๊ปนึงก็นึกได้ว่าลืม passport ขอกลับไปเอาเค้าก็วนรถกลับไปเอาให้ แล้วพาเราไปดูสถานีรถไฟ แล้วก็พาแวะไปให้อาหารแมวที่บ้านเค้า แล้วก็พูดคุยกันเรื่อยเปื่อย เค้าบอกว่าเค้าจะไปสอนที่โรงเรียนบางกอกพัฒนา 2 ปี จะไปเดือนหน้าแล้ว แล้วก็เปิด CD สอนภาษาไทยให้ฟังด้วย บอกว่าเนี่ยคือการเตรียมความพร้อมก่อนไป จากนั้นเค้าก็พาขับรถผ่านโรงเรียน Box Hill แล้วไปจอดรถที่ Center Whitehorse ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

พาไปซื้อ Sim card พร้อมบัตรโทรศัพท์ ราคาทั้งหมด 40$ ตอนจ่ายเนี่ยรู้สึกเหมือนจ่ายไป 40 บาท เหอะๆ
ไม่รู้สิแบงค์มันเหมือนของเด็กเล่นเรยอ่า

แล้วก็พาไปแบงค์ ตรงดิ่งไปยัง Westpac แต่เรายังไม่ได้เปิดบัญชีเรย เพราะว่ายังไม่มี student card
แวะไปถามราคา Train Ticket แต่ยังไม่ให้ซื้อเพราะว่า รอมาถาม Helen ก่อนว่าจะต้องทำยังงัย

แล้วเราก็แวะ Supermarket หาซื้อของที่จะทำกับข้าว........ทันใดนั้นเอง Julianne หายไป......หากันไม่เจอ โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ sim card มันใช้ไม่ได้อ่ะ activate แล้วก็ยังพูดว่าไม่ได้อยู่นั่นแหล่ะ ทำงัยดี ไปขอใช้โทรศัพท์ชาวจีนคนนึงหรือเกาหลีหว่า ไม่รู้เหมือนกัน เค้าดูกัวๆเราจัง ไม่ใช่มิฉาชีพนะเฟ้ย!! เค้าไม่ให้ยืมโทรศัพท์ แต่จะให้เงินไปโทรที่ตู้ เราก็บอกเค้าว่าไม่เป็นไร เงินหน่ะมี แต่โทรศัพท์อะใช้ไม่ได้ โอเค งั้นไปกดโทรศัพท์ตู้ก้อได้ฟระ แป่ว...ใช้ไม่เป็นไม่รู้กดอะไร เลยพยายามมาดูที่มือถือดีกว่าว่ามันใช้ยังงัย เฮ่อ...ลองเองไม่สำเร็จแฮะ งั้นเอางี้ไปที่ร้านดีกว่าใกล้ๆร้านนึงขายมือถือมีสัญลักษณ์ YES OPTUS ที่เราใช้ด้วยสิ ดีที่สุด ถ้างั้นก็ร้านนี้แหล่ะน่าจะช่วยเราได้ ตรงดิ่งไปยังสาวเกาหลีแสนสวยสุด sexy น่ารักยังกะดารา แต่หน้ายังกะตรูด ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แต่ก็ยังดีที่ช่วยจนเสร็จ

หมายเหตุ
การเปิดใช้ Pre-Paid sim ครั้งแรก ของที่ออสเตรเลียไม่เหมือนไทยตรงที่ พอเราเปิดใช้ sim ปุ๊บใช้เบอร์ได้ปั๊บ เบอร์ที่เป็นบน card เป็นเพียงเบอร์ sim ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์นะ ต้องลงทะเบียนผ่านทางเวป หรือโทรไปที่ศุนย์บริการพร้อมบอก ชื่อ ที่อยู่ passport วันเกิด แล้วก็อะไรอีกจำไม่ได้แระ แล้วเค้าก็จะให้เลือกเบอร์โทรที่หน้าจอ เราก็ได้เบอร์มาแล้ว คือ 0431096809 แต่....ยังไม่สามารถใช้งานได้ทันทีนะ ต้องรออีก 20 นาที โถ่...ชีวิต แล้วจะหากันเจอมั๊ยเนี่ย

และแล้วเราก็ใช้มือถือได้ซะที กดเบอร์ไปยัง Helen รู้ว่า Julianne รอเรา 20 นาทีแล้วรอไม่ไหว เค้าต้องรีบกลับบ้านจะมีคนมาทาสีบ้าน อืม ไม่เป็นไร เพราะทำใจไว้แระว่าต้องกลับบ้านเอง

รู้สึกจะอยู่คนเดียวจะเป็นสองชะโมงแระนะเนี่ย นี่มันกี่โมงแล้วนะ บ่ายสองกว่าแล้วยังไม่ได้กินข้าวเลยอ่ะ เมื่อคืนก็กินข้าวมื้อสุดท้ายตอนสี่โมงเย็น โอ้ย อยากเป็นลม ซื้อของเยอะเกินหนักก็หนัก เหนื่อยก็เหนื่อย หาซื้อนมก็ไม่ได้ ทำมันมันขาดแคลนนมเหรอเนี่ย supermarket มีแต่ผักกับเนื้อสัตว์ขาย พระเจ้า!!! งงชีวิต

เข้าไปถามคนเอเชียอีกคนก็ได้ ตอนเข้าไปถาม Excuse Me!! ทำมัยมันต้องตกใจฟระ ไม่ได้มาทำร้ายนะ มาขอความช่วยเหลือ หน้าตาช้านก็น่ารักดีอยู่อะนะ ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเรย คิคิ จากนั้น ยัยคนนี้ก็เดินพาเราหาซื้อนม เดินไปเดินมาก็ต้องระเห็ดไปอีกห้างนึง ลืมบอกไปว่า Center Whitehorse กับ Center Box Hill เนี่ยมันอยู่ติดกันเหมือนสยามเซ้นเตอร์กะพารากอน อ่ะนะ ตอนที่เราเจอคนนั้นหน่ะอยู่ที่ Center Box Hill แล้วเค้าก็พาเราเดินไป Supermarket ที่ Whitehorse ซื้อเสร็จเราก็ขอบคุณเค้าใหญ่เรยว่าขอบคุณมาก เพราะเค้าเลือกยี่ห้อนมให้ด้วยว่าอันนี้เค้าเคยกิน ก็ใช้ได้นะ เราก็เชื่อเค้าเอามาอันนึงเป็นนมกล่องใหญ่ อยู่ได้ 1 อาทิตย์ เค้าก็กำชับเราให้ดูวันหมดอายุด้วยทุกครั้ง ดีแฮะคนนี้ คราวนี้เริ่มคุยกันแระว่าเค้าชื่ออะไร.......daisy.....นั่นคือชื่อของเค้าหล่ะ เค้าเรียนอยู่ Swinburne เรียนจบแระ แต่คงจะหา course เรียนต่ออีกปึนึงมั๊ง แล้วเค้าก็จัดของที่เราซื้อมาให้รวมเป็นถุงใหญ่ๆ3 ถุง พร้อมกับแกะนมให้เรากินด้วย เพราะว่าที่นี่เค้าไม่มีหลอดให้นะ ถ้าอยากได้ต้องซื้อเองแยกต่างหาก ดังนั้นเค้าก็เลยจัดแจงฉีกกล่องนมเหมือนเทให้หมากินอ่ะ เหอะๆ แอบขำตัวเอง ทำมัยเปิ่นได้ซะขนาดนี้ นั่งกรอกนมเข้าปากหน้า supermarket หน้าทาออกจ่ายเงินเรยนะ หลังจากซัดนมช๊อกโกแลตไปกล่องนึงเริ่มดีขึ้น ค่อยยังชั่วคราวนี้กลับบ้านได้แระ นอกจากเค้าจะพาเราไปซื้อนมแล้วเค้ายังพาไปซื้อตั๋วรถไฟอีกต่างหาก พร้อมพาไปส่งที่สถานีด้วย ขอบคุณมากมายยยย เธอช่างเป็นคนดีจิงๆ
ลืมบอกไป daisy เป็นคนไต้หวัน ดีนะที่เคยดูหนังใต้หวันมาบ้าง ก็ Devil Beside You งัย ที่พระเอกหล่อบาดใจ คิคิ บอกเค้าไปว่าเราเคยดูเรื่องนี้ เค้าก็คงรู้สึกดีที่มีคนรู้จักบ้านเค้าด้วย

การผจญภัยวันนี้ของเรายังไม่จบลงนะ
พอขึ้นรถไฟจาก Box hill มายัง Chatham พอจะลงเนี่ยนึกว่าประตูจะเปิดอัตโนมัติเหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรา แต่ผิดคับ มันมีลูกบิดสีเหลืองๆ ดีนะที่สายตาเหลือบลงไปอ่านขณะรอประตูเปิด ไม่งั้นเนี่ยเลยสถานีแระ ไม่รู้ชะตากรรมต่อไปแน่ๆ อืม....ในที่สุดก็มาถึงแระ อ่าวจะข้ามรางรถไฟไปยังงัยฟระ แล้วบ้านเราเนี่ยอยู่ส่วนไหนเนี่ย เพราะตอนมาอ่ะ Julianne ขับผ่านตั้งไกลแล้วชี้ให้ดู ใครจะนึกว่าจะหลงทางฟระ เลยไม่ได้จำเส้นทางเลย เฮ่อ พอลงมาปุ๊บก็มองๆไปเห็นอุโมงค์มืดๆอยู่ เป็นทางเดียวที่จะเดินไปได้ เอาวะ เป็นงัยเป็นกัน รีบวิ่งจากตรงนั้นเลย กลัวจิงๆ กลัวจะมีคนมาจี้ ถ้าเป็นที่กรุงเทพ เปลี่ยวๆอย่างงี้ไม่มีคนเลยเนี่ยคงแย่แล้ว นี่ขนาดกลางวันนะยังน่ากลัวเลย เอางัยดีมีทางแยกด้วยว่าจะไปซ้ายหรือว่าขวา ตัดสินใจเดินไปทางขวา น่ากลัวกว่าเดิมอีก มองไม่เห็นคนเลย มีแต่ตึกเก่าๆมีรถจอดประปาย แล้วผนังก็มีการวาดละเลงสีเหมือนถิ่นสลัม เฮ่อ ชีวิต จะกลับถึงบ้านมั๊ยเนี่ยตู

ยืนกดโทรศัพท์หา Helen แต่ไม่มีใครรับให้ฝากข้อความอีกตะหาก โชคยังดีที่มีเด็กฝรั่งปั่นจักรยานผ่านมาเลยแอบถามทางเค้าว่าถนน Kingston Rd เนี่ยอยู่ตรงไหน เค้าดูเหมือนไม่เข้าใจเราเลยอ่ะ แล้วก็บอกให้เราเดินไปทางที่เรามาเมื่อกี้น่าจะเป็นหมู่บ้านมากว่าทางนี้นะ เราก็เดินย้อนกลับไปแล้วผ่านอุโมงค์ไปออกทางตรงข้ามกัน ว้าว!! ถนนที่เราหาอยู่เนี่ยมันอยู่ตรงข้างหน้านี่เอง ดีใจมากมาย เลยมีอารมณ์ถ่ายรูปแระ คิคิ ไว้จะอวดนะ

ถึงบ้านด้วยอาการหิวโซ ทำกับข้าวอะไรดีนะที่มันง่ายๆได้กินเร็วๆ ว่าแต่ Helen ไม่มีหม้อหุงข้าวนี่นา เอางัยดีนะ ใช้ Microwave ก็ไม่ค่อยจะเป็นด้วย เอาวะเป็นไงเป็นกัน ดีนะที่ถาม Julianne ไว้แล้ว หาภาชนะอยู่นานไม่รู้จะใช้อะไรดี แต่ใต้ microwave เป็นพลาสติกที่เขียนว่า microwave เอาวะอันนี้แหละใช้ได้แน่ๆ เริ่มปฏิบัติการหุงข้าวด้วย Microwave โดย ใส่ข้าว 1 ส่วน น้ำ 1.5 ส่วน ปิดฝา เอาเข้าไปใน Microwave ตั้งเวลา 25 นาที ซักพัก.....มีเสียงระเบิด ฝานั่นเอง ดีนะที่เราปิดไม่สนิท แอบโง่ปิดฝา เหอะๆๆ จะได้กินข้าวมั๊ยน๊า....พอครบตามกำหนด ข้าวไม่สุกเพราะน้ำน้อยไป ก็เลยต้องเติมน้ำเข้าไปอีก 1 ส่วน ได้ข้าวมากินแระแต่ข้าวที่หุงด้วย Microwave มันไม่อร่อยนะ

ส่วนกับข้าวก็ ไข่ต้ม เพราะไม่กล้าทอดหมูที่เตรียมมา กลัวบ้านเค้าเหม็น ช่วงแรกๆพยายามทำอะไรต้มๆไปก่อนก็แล้วกันเนาะ แล้วก็หั่นแตงกว่าชนิดที่ไม่ได้ปลูกในประเทศเรา มันไม่อร่อยเอาซะเรย ซื้อมาตั้งแพง เชอะกินก็ได้ จะทิ้งก็เสียดายนี่นา

ผ่านพ้นไป 1 มื้อแล้ว กว่าจะกินข้าวเสร็จก็บ่ายสี่แล้ว คราวนี้ได้เวลาจัดสัมภาระที่ขนมาจากประเทศซะทีนะ เริ่มจัดเหมือนจะอยู่ยาวนานนนนน จิงๆจะว่าไปที่นี่ก็ดีทุกอย่างอะ สะดวกสารพัด หรูอีกตะหาก ราคาก็ ไม่แพงมาก แต่ไม่มี internet นี่สิ มันอยู่ยากอ่ะ เฮ่อ คงต้องลองดูที่อื่นซะแล้วงานนี้

คืนนี้ไม่ค่อยหนาวเท่าเมื่อวานสงสัยว่าจะมีคนไปปรับ heater ให้สูงขึ้นแน่ๆเรย นอนหลับปุ๋ยๆไม่ฝันมา 2 คืนแระ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 8.00 น. จะได้ตื่นมาเจอชาวบ้านซะหน่อย สองสาวเพิ่งกลับมาจากเล่นสกีดูเหมือนโบจะไม่สบาย
















10/07/2007


วันนี้ตื่นมาตอน 10.00 น. แต่นาฬิกามันผิดอ่ะ ตั้งผิดไปตอนนี้มัน 11.00 น. ต่างหาก ข้าวเช้าก็ข้าวต้มหมู ตั้งเป้าไว้ว่าวันนี้แหละจะออกไปสำรวจ Box Hill ซะหน่อย กว่าจะออกจากบ้านได้ก็บ่ายโมงแระ ที่สำคัญพอเปิดประตูออกไปมีหมอกอีกตะหาก ไม่อยากก้าวเท้าออกจากบ้านเลย.........แต่ก็ต้องไป ต้องหาทางไปโรงเรียนให้ได้ก่อนเด๋ววันจริงจะฉุกละหุกเกินไป ชะล่าใจไม่ได้ด้วย เพราะวันพรุ่งนี้ไม่แน่ว่าจะได้ไป

ไปถึงสถานีก็เข้าโหมดเดิมคับพี่น้อง มั่นใจอย่างแรงว่าไป platform 3 แน่นอน รอรถไฟแล้วปรากฏว่ามันอยู่อีกด้านนึง นึกตามนะ รางรถไฟเนี่ยมี 3 ฝั่ง แบบนี้
==========================================รางรถไฟ#1
………………………………………………………………………………………………………………………………………………....
Platform 2 คือส่วนที่รอรถไฟ มีฝั่งด้านบน กะด้านล่าง ด้านบนไป city ด้านล่างไป Box Hill
………………………………………………………………………………………………………………………………………………....
==========================================รางรถไฟ#2
==========================================รางรถไฟ#3
………………………………………………………………………………………………………………………………………………....
Platform 3 คือส่วนที่รอรถไฟ ไป Box Hill แต่ที่แปลกคือมีเป็นเวลาคือ ช่วงเช้ามี6.36-10.25 และช่วงบ่าย 3.25-6.42น.
………………………………………………………………………………………………………………………………………………....

เพราะฉะนั้น นึกออกแล้วใช่ป่าวว่าผิดที่ตรงไหน...ก็ตรงเวลางัย คิคิ เราไปถึงตอนบ่ายโมงพอดี ไม่มีรถ ไม่มีใครซักคนตรงนั้นเลย รอพักใหญ่ก็มีคนอินเดียคนนึงโผล่มาตรง platform 2 อยู่ไกลกันคนละฝั่งแต่เราก็ยังหน้าด้านตะโกนถามเค้า ดีนะที่เค้าช่วยเหลือกด Emergency Call แล้วก็จะมีเสียงคนพูดๆๆๆ อัตโนมัติว่ารถไฟไปทางไหนอะไรอย่างงี้ไอ่เราก็ฟังไม่ทันหรอกนะ ไม่อยากจะบอก แล้วเค้าก็บอกให้เราข้ามไปอีกฝั่งโดยลอดใต้สะพานขึ้นมา แล้วก็บอกว่ารถเที่ยวต่อไปจะมาตอน 13.26 น. เราก็ได้แต่ thank you very much เนี่ยตั้งแต่เมื่อวานพูดคำนี้จะถึงห้าสิบรึยังก็ไม่รู้.....^^

การผจญภัยยังไม่สิ้นสุด
ซื้อตั๋วรถไฟแบบถูกสุดคือใช้ได้ 2 ชั่วโมง ราคา 2.5$ เริ่มบันทึกตอน 13.05 น. แสดงว่า สามารถใช้ได้ถึง 15.05 น. วันนี้ไม่อยากกลับบ้านค่ำกลัวความมืด ก็เลยตั้งใจจะไปแค่ Box hill Center หาซื้อถุงเท้าใหม่ซะหน่อย เพราะว่าถุงเท้าที่เราเอามาหน่ะมันซื้อคู่ละ 10 บาทที่ตลาดนัดแถวที่ทำงาน มันไม่ได้ช่วยบรรเทาความหนาวของเราแม้แต่น้อย งั้นเวลาเท่านี้ก็เหลือเฟือ พอไปถึงปุ๊บก็เดินๆหาซื้อถุงเท้า แต่ไม่เจออะ ไม่รู้มันไปมุดอยู่ตรงไหน ใจจริงอยากได้กางเกงวอร์มด้วยอ่ะ ราคาที่เห็นถูกสุดก็ 10$ แต่....ขามันยาวจัด จะใส่ได้เหรอเนี่ย เอาไว้ก่อนก็ได้ 10$ เนี่ยก็เงินเหมือนกัน เก็บไว้หาอะไรลงท้องดีก่า เนาะ ไปหาพวกถุงเท้า กะ ถุงมือ กะ หมวกใหม่ดีก่า
อีกความคิดก็อยากลองไปที่โรงเรียนดูซักครั้งดูว่ามันอยู่ไกลมั๊ย เมื่อวานที่มากะ Julianne อ่ะมันดูใกล้ๆเอง งั้นลองเดินไปแป๊บนึงก็ได้ ยังงัยก็ทัน 2 ชะโมงอยู่แล้ว พอเอาเข้าจริงๆ เดินไปทางไหนเนี่ยทำมัยมันมองไม่เห็นตึก Box Hill Tafe เหมือนเมื่อวานหล่ะ เอาวะลองถามคนแถวนี้ดูก็ได้ “Excuse Me, could you please tell me how to go to Box Hill Tafe” คำตอบที่ได้ยินอยากเป็นลมจิงๆ ต้องเดินไปถึง 2 แยกไฟแดงแหนะ จากสถานีรถไฟที่เราลงเมื่อกี้อ่ะ

เอาวะเอางัยเอากัน เดินก็เดิน ทางที่ต้องข้ามไฟแดงมันก็มีแต่สีแดง หลายอันมากมาย ทำงัยดีเนี่ยไม่เขียวซะที รถก็จอดนิ่งๆเอง ข้ามเรยดีมะเนี่ย..........และแล้วสายตาดิชั้นก็เหลือบไปเห็น ป้าย เขียนว่า “Camera safe road” เอ๊ะ มันคืออะไรหว่า มีเสียงแว๊ปเข้ามาในสมองพอดี คุ้นๆว่ามันคือ กล้องวงจรปิดที่เมืองนี้นิยมใช้จับคนขับรถไม่ดี พวกฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง มิน่า คนที่นี่มีระเบียบวินัยแท้ ค่าปรับมันสูงลิ่วนี่เอง (1000$) งั้นรอก็ได้ ว่าแต่นี่มันปุ่มอะไรก็ไม่รู้ น่าจะเป็นปุ่มที่กดรอสัญญาณนะเนี่ย เริ่มฉลาดขึ้นมาแระ คิคิ หลังจากยืนรอนานเป็นชาติ ร้อนก็ร้อน หนาวก็หนาว ลมก็พัด งง หล่ะสิว่าหมายความว่าจะใด ก็เมืองนี้อะนะ มันเย็นๆประมาณ 15 องศา หรือต่ำกว่านี้ แต่ถ้ามีแสงแดดส่งมากระทบจะร้อนแบบแสบผิวทีเดียว ดังนั้น ร่มที่เตรียมมาก็มีประโยชน์แฮะ กันแดดกันลมปะทะที่หน้าได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ไม่มีใครกางร่มก็เถอะ ตูไม่สนเฟ้ย เชอะ มองได้มองไป

เย้ๆ ในที่สุดก็มีไฟเขียวให้ข้ามถนน เดินไปข้ามแยกแรกก็จะเป็น Box hill Tafe เหมือนกันแต่เป็น Nelson campus เพราะฉะนั้นต้องเดินไปข้ามอีก 1 แยก ถึงจะเป็น Elgar campus สำหรับพวก International Student อย่างเราๆ สรุประยะทางเดินน่าจะประมาณกิโลกว่า จากสถานีรถไฟ ไม่เกิน 2 กิโลมั๊ง เดินก็ประมาณ 30 นาทีแบบเดินทอดน่อง สงสัยถ้าตื่นสายเนี่ยต้องหอบกินแน่เร้ยยย

พอไปถึงก็ไปเจอคนจากอินเดียมั๊ง ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ หน้าตาละม้ายคล้ายอ่ะ ตีว่าเป็นคนอินเดียละกัน เราก็เลยตรงดิ่งเข้าไปถามว่า เส้นทางนี้สามารถขึ้นรถ Bus หรือ Tram ได้ที่ไหน ประมาณว่าไม่อยากเดินย้อนกลับไปลองถามดูดีกว่าเผื่อว่าไม่ต้องเดิน เพราะว่าตั๋วใช้ด้วยกันได้ แต่ตอนนี้ทำใจว่าจะต้องซื้อตั๋วใหม่แล้วหล่ะ เค้าบอกว่านี่ตั๋วนี้ใช้ได้ถึง 4 โมงเย็นนะ ตอนนี้เพิ่งบ่าย 2 เองยังใช้ได้อยู่ (แอบงง ทำมัยมันใช้ได้เกินวะ ช่างมัน ดีแล้วหล่ะ งั้นจะได้ใช้ตั๋วเดิม) เค้ายังบอกอีกว่า นู้นแหน่ะ ที่ขึ้นรถ Tram ต้องเดินต่อไปอีกเกือบครึ่งกิโลมั๊ง ส่วนใหญ่ไม่มีใครเค้าขึ้นรถกันหรอกเพราะเดินๆมันก็มีค่าไม่ต่างกันมาก คนที่นี่ถึงนิยมเดินกันงัยหล่ะ แป่วT_T เดินก็เดิน

แอบถามเค้าถึงที่พักแถวๆนี้ด้วย แต่เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เค้าบอกว่าที่ International Office เนี่ยตรงที่เรายืนอยู่ให้เค้าช่วยเราหาได้ แล้วก็พาเราเดินเข้าไป.... ตูไม่อยากให้เค้าหาให้นี่นา อยากหาเอง จะได้ถูกๆ ก็เลยบอกเค้าว่า ไม่เป็นไรไว้วันหลังก็ได้ Today I just survey. แล้วก็เดินเรื่อยเปื่อยกลับไปที่ shopping ตามตั้งใจ

วันนี้ได้ถุงเท้าน่ารักๆผ้าเหมือนผ้าขนหนูนุ่มๆมาด้วย ราคา 2$ ถูกกว่าไทยอีก ก็เราซื้อมาจาก Platinum ราคา 120 บาท แต่ที่นี่ 60 บาทเองง่ะ ดีนะที่ซื้อมาแค่คู่เดียว

นอกจากนั้นก็ได้มาม่ากะปลากระป๋องด้วย ราคามันไม่แพงมาก เอามาติดบ้านไว้เผื่อทำกับข้าวไม่ทัน เนาะ
ราคามาม่าต้มยำกุ้งกะหมูสับเหมือนของไทยเปะ ราคา 0.4$ =12 บาท
ปลากระป๋องปลายิ้ม ราคา 0.99$ ก็ 30 บาท
ได้ผักกาดครึ่งหัวมาด้วย หัวใหญ่มากมาย มันกิโลละ 1.99$ ของเราซื้อมา 2.31$ แพงมาก แต่ทำงัยได้ก็อยากกินนี่นา มันกินได้หลายครั้ง ไม่เป็นไรหรอก เนาะ

แล้วก็เดินสบายใจกลับบ้านด้วยตั๋วใบเดิม สรุปว่า Trip นี้ไปกลับจากบ้านเราเสียตังค์ไป 75 บาท ถูกกว่าตอนอยู่กรุงเทพอีก ค่า Taxi ไปกลับก็ 100 บาทแระ หยวนๆ วันนี้โชคดี สู้ๆ
กลับบ้านมาก็หิวโซ ตอนนี้ประมาณบ่ายสี่ก็ บ่ายโมงของไทยแระ กระเพาะร้องโครกครากเชียว งั้นอะไรหม่ำๆดีก่า กินหนมปังที่ซื้อมาเมื่อวานกะนม มันชั่งไม่อร่อยเอาซะเรย ทิ้งไปครึ่งอัน อันละตั้งหลายเหรียญ แต่มันเลี่ยนมากมายไม่อร่อยเรย ทิ้งๆไปก็ไม่เสียดายซักนิด กินส้มก็ได้เชอะ อร่อยกว่าอีก

หลังจากนั้นก็เข้าห้องมาจดบันทึกต่างๆมากมายรวมทั้งเคลียร์เงินที่เหลืออยู่ในกระเป๋าด้วย เริ่มเขียน Blog แระดีกว่าคิคิ เผื่อจะมีคนรออ่าน ^^

ตอนเย็น Helen กลับมา เราก็เลยเสนอทำอาหารเย็นให้ แต่วันนี้เค้ามีแขกพิเศษมาบ้าน เค้าเล่าว่าคนนี้แหละเป็นคนที่ไป holiday ที่ประเทศไทยกะเค้ามา เค้าดีมากมาย เล่าๆๆๆ อะไรมากมายให้ฟัง สรุปว่าวันนี้อย่าทำกับข้าวให้เค้าเลยเนาะ เพราะว่าผู้ชายคนนั้นกินจุ เด๋วไม่พอยาไส้ เชๆ ได้เรย งั้นตอนนี้เราก็ควรกลับเข้าไปอยู่ในห้องซะแร้ว ไม่อยากเป็น กขค. เนาะๆ แล้วเค้าก็เรียกเราออกมาทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ จำชื่อไม่ได้อ่ะ วันหลังจะบอกนะ เค้าเอาช่อดอกลิลลี่มาฝากด้วยใหญ่มาก และดูท่าที Helen จะปลื้มเค้าเอามากๆ ก่อนไปเราก็บอกเค้าว่า Don’t forget to put to sugar in the vest. It’ll be stay longer. คิคิ เค้าชมเราว่าอะไรก็ไม่รู้แปลไม่ได้ แต่รับรู้ได้ว่าเค้าชม ^^

คืนนี้เพิ่งรับรู้ได้ว่าลองจอห์นที่เค้าว่ากันว่าอุ่นเนี่ย มันอุ่นใช้ได้เลย เพิ่งใส่วันนี้เอง วันนี้นอนสบายกว่าเมื่อวานเยอะเลย อาจจะเป็นเพราะว่าเริ่มปรับตัวได้แล้วมั๊ง วันนี้คืนที่ 3 แล้วนี่นา แต่แย่อย่างนึงดันเป็นเมนส์วันนี้นี่สิ ปวดท้องชะมัด
Good night นะ







11/07/2007


พรุ่งนี้แล้วสินะจะต้องไปโรงเรียน จิงๆวันนี้ตั้งใจตื่นแต่เช้าตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 7.00 น. จะได้ออกไปตะแลตแต๊ดแต๋ ข้างนอกจนเย็นได้ แต่ตื่นสายอีกแล้วเราตื่น 9.30 แหน่ะ กว่าจะอาบน้ำสระผม แต่งตัว ทำกับข้าว หุงข้าวแบบใหม่ที่ Helen สอนเมื่อคืน นานแหะ แถมต้องคอยคนข้าวไม่ให้ติดหม้ออีกตะหาก ไม่งั้นเด๋วฝาก็กระดํน ต้องคอยคุมตลอด กว่าจะได้ข้าวก็ 30 นาทีเห็นจะได้ กว่าจะกินข้าวเสร็จก็ 11.30 น. เอางัยดีนะ ขี้เกียจออกไปนอกบ้านจัง พอเห็นแดดแล้วนึกอยากซักผ้าขึ้นมา กว่าจะซักเสร็จแดดหายไปอีกแระ ฝ้าก็ครึ้มดีที่ฝนไม่ตก ต้องออกไป check ผ้าตลอดว่าแห้งขนาดที่เอามาตากข้างในได้รึยัง แดดที่นี่เวลาส่องเนี่ยสงสัยเชื้อโรคจะตายหมด มันแรงดีจิง สรุปว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย นั่งอ่านภาษาอังกฤษดีก่า เผื่อพรุ่งนี้จะมีสอบ

และแล้ววันนี้ก็ไม่ต้องเสียเงิน กับข้าววันนี้ก็ต้มจืดผักกาดขาว กะ ไข่เจียว อืมใช้ได้เหมือนกันแฮะ กินกลัวยไปด้วยลูกนึง กะว่าพรุ่งนี้จะซื้อผลไม้มาตุนดีก่าเนาะ อร่อยกว่ากินข้าว แต่มันก็แพง เด๋วไปหาผลไม้แปลกๆถูกๆกินดีก่า คิคิ

วันนี้ Helen บอกว่าจะพาไป Meeting ด้วยถ้าอยากไป เป็นประชุมกลุ่มย่อยๆมีหลายชาติ ไปเพื่อทำให้ฝึกพูดฝึกฟังภาษาอังกฤษ เค้าจะให้เราเป็น Guest ของเค้า อยากรู้จังว่าจะเป็นยังงัย สาธุ้ อย่าเป็น amway นะ กัวจิงๆ

เล่าต่อๆๆ
ไปมาแว้ว!!! It’s nice club. If you’ve ever heard before, it is the “Toastmasters Club”.
มันเป็นสมาคมที่มีไว้ฝึกฝนการพูดจาในที่สาธารณะ ประมาณนั้น ซึ่งวันที่เราไปอ่ะ พอดีว่า Helen ถูกรับเชิญให้ขึ้นไปพูดซักถามทุกคนในเรื่องต่างๆตาม topic ที่เตรียมมา วันนั้นเราก็โดนถามด้วย เค้าถามว่า ทำมัยถึงได้มาเรียนที่ Box Hill ได้หล่ะ How do you learn about Box Hill? อยากรู้หล่ะสิว่าตอบว่าอะไร เว้ย ... เราอ่ะมั่วจัด จำไม่ค่อยได้อ่ะประมาณว่า I’d like to improve my English skill so I went to the education exhibition at Bangkok and the man who came from box hill talked to me, I’m interested in what he said is. Then I asked my parent to go to Melbourne to study at box hill. And I’m here. Thank you. ดูดิมั่วจัด จับเวลาได้แค่ 23 วินาที แต่คำตอบที่ควรตอบควรมีความยาวประมาณ 1.30 วินาที เค้ามีการจับเวลาด้วย ถ้าใครพูดเกินก็จะเริ่มส่งสัญญาณ ประมาณว่าโม้ไป แล้วถ้าใครตอบไม่ค่อยดี เค้าก็จะแนะว่าควรตอบแบบไหน ทำน้ำเสียงประมาณไหน หนุกดีไปอีกแบบสำหรับคนต้องการฝึกพูด แล้วทุกคนก็ชมเราว่าสำเนียงดีอย่างงั้นดีอย่างงี้ ให้กำลังใจกันเข้าไป ตูพูดเนี่ยก็มั่วจัดห่วยจัด

ตบท้ายเค้าก็ให้แสดงความคิดเห็นว่าไอ้ Toastmasters Club เนี่ยเป็นยังงัยบ้าง ในการเข้าร่วมครั้งแรก โอ๊ะ ฟังๆแล้วไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเค้าโฟกัสมาที่เรา ดีที่ Helen บอก ไม่งั้น อายแน่ ไม่รู้จะตอบยังงัย ถ้าเราเก่งภาษาอังกฤษเหมือนคนพวกนี้อ่ะนะ คงขี้เกียจมาฟังอะไรอย่างงี้ แต่กรณีนี้มันต่างกัน คือเราต้องการเรียนรุ้ภาษาอังกฤษมันก็ดีอ่ะนะ ตื่นเต้นดี สรุปว่า เราก็ตอบไปว่า This is the first time that I’ve heard “Toastmaster club” from Helen, but I don’t know what it is. But now I think I know about Toastmaster. Nice to meet you. Thank you. ดูจากคำตอบแล้วก็เหมือนการเอาตัวรอด คิคิ แล้วเค้าก็ชมเราอีกแล้ว จะชมทำมัยฟระ งง คงเป็นเพราะ Helen บอกพวกเค้าว่าเราเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้แค่ 2 วันมั๊ง แล้วภาษาสำเนียงคงฟังรู้เรื่อง เหอะๆ แถมยังโม้อีกว่า Her English is Excellent อยากจะบ้า ไปบอกเค้าอย่างงั้นทามมัย เฮ่อ เด๋วเค้าก็รู้หมดว่าพูดไม่รู้เรื่อง







Create Date : 16 กรกฎาคม 2550
Last Update : 19 มกราคม 2552 22:08:28 น. 2 comments
Counter : 1952 Pageviews.

 
สอบถามเรื่องการใช้ SIM OPTUS ครับ รู้มาว่าการโทรกลับมาที่เมืองไทยถ้ากดรหัสก่อน กด+66 รหัสประเทศจะทำให้ค่าโทรถูกลงรบกวนสอบถามรหัสนั้นด้วยนะครับ ยกตัวอย่างเช่นตอนไปฮ่องกงผมใช้ SIM ของที่นั้นแล้ว Press 021+66+ 2+ phone number


โดย: โต้ง IP: 118.173.251.86 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:16:21:48 น.  

 
โทดทีครับ แจ้งกลับที่เมล์ผมทีนะครับ robeperas@hotmail.com


โดย: โต้ง IP: 118.173.251.86 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:16:23:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prim_pm
Location :
Seoul Korea

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Welcome to -->
โลกแห่งการกิน 555 ไม่ใช่ๆ มันคือ Diary ตะหาก
&gblog

ไปเที่ยวกับเรามั๊ย?
:: New Updated ::
+Korea-Taipei Trip

+Beijing China trip

+Melboune&Sydney

+สนามไดร์ฟกอล์ฟ
สีชมพูของเรา


+สรุป Diary Australia
:: ใครชอบชุดลูกไม้ระบายโบว์เหมือนเราบ้าง? ::

:: มองหาชุดเก๋ๆอยู่รึป่าว ::

:: ชุดคู่รัก Pre-wedding เก๋ๆ ::

:: เสื้อกันหนาว/Jacket มั๊ย ::

:: Family Set Korean Style ::

:: ชุดเด็กสไตล์เกาหลี ::

:: เสื้อผ้าผู้ชายสไตล์เกาหลี :: กระเป๋าแนวเกาหลี

Google

MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com
New Comments
Friends' blogs
[Add prim_pm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.