✿Primpinky✿
Group Blog
 
All blogs
 
หลังจ่ายเงิน และรอวีซ่า

อะ มาดูกันว่าระหว่างรอเนี่ยเราทำอะไรบ้าง
(ซวยอะไรบ้างมาดูกัน)


เริ่มจากตรวจร่างกาย

ข้อมูลของโรงพยาบาลที่รับตรวจสุขภาพเพื่อยื่นวีซ่า เนี่ยมีอยู่หลายที่ในกรุงเทพ หาดูในเวปละกันนะ เราจำไม่ได้อ่ะว่าเวปอะไร
แต่เราสอบถามมา 2 ที่ คือ
BNH (สีลม) และ โรงพยาบาลกรุงเทพ (เพชรบุรี ซอยศูนย์วิจัย)

BNH = 2,100 บาท
รับตรวจ จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00-12.00น.

รพ.กรุงเทพ = 1,700 บาท
แต่วันอาทิตย์ปิด ส่วนวันเสาร์เปิดครึ่งวัน 8.30-12.00 น.

เราก็ถามๆเพื่อนที่รู้จักกันเค้าแนะนำให้ไป BNH บอกว่าดี ดูในเวปก้อมีแต่คนไป BNH กัน เอาวะงานนี้เด๋วก็รู้
เรานั่ง Taxi ไปวันอาทิตย์ตอนเช้าเรย 7.30น. ไปถึงก็เกือบ 8 โมง

โอ้ จอร์จ โรงบาลหรูจัด ดีนะที่วันนั้นแต่งตัวดีๆไป (ใส่ dress) ตอนแรกกะจะใส่กางเกงขาสั้นลากเตะไป
แต่ว่าเปลี่ยนใจกะทันหัน ไม่งั้นเนี่ย....T_T

งานนี้ไม่มีรูปนะ เพราะว่าไม่ได้เอามือถือ W810i ไปอ่ะ เสียใจด้วย

ข้างล่างยังกะ lobby ในโรงแรม พนักงานต้อนรับอย่างดีมาก เรามารถ Taxi
ยังมาเปิด-ปิด ประตูรถให้ด้วย (first impression)

ส่วนห้องตรวจสุขภาพอยู่ชั้น 4 ขึ้น lift ด้านซ้ายมือของตัวตึกขึ้นไปเรย.......
พอออกจาก lift ตึ้ง ตึง ตึง ตึง ตะลึงๆๆๆๆ สวนหย่อม สีเขียวววว อยู่ข้างหน้า ถูกตกแต่งไว้อย่างดูดีตรงกลางตึก ... ลงทุนแหะโรงบาลนี้

แล้วเราก็เลี้ยวขวาเดินตรงไปยังห้องตรวจสุขภาพ พนักงานต้อนรับที่นี่ แต่งตัวเหมือนพนักงานในโรงแรมเลยอ่ะ
ถูกต้องเค้าต้อนรับเราอย่างดีมาก
แต่...ซวยที่เราเอง ไม่มีใครบอกว่าต้องเอา passport มาด้วยหนิ
ปกติไปโรงบาลที่ไหนๆเค้าก็ดูแค่บัตรประชาชน
(แงๆๆๆ ทำมัย agency เราไม่เห็นบอกเรยฟระ โมโหๆๆๆ)

ต่อรองกะเค้าก้อไม่ได้ ถ้าไม่มีสำเนาเค้าก็จะไม่ให้ตรวจ

เอางัยดีอ่ะ งานนี้ passport ตัวจริงอยู่ที่ปราจีนอ่ะ ไม่ได้เอามาด้วย
สำเนาจะไปหาที่ไหนได้......คิดไปคิดมา นึกได้ว่า

"เอกสารของเราทั้งหมด agency ก็ต้องมีสิ"

ครั้นจะให้เค้า fax มาให้ ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครอยู่ที่บริษัทนี่นา มันเป็นวันอาทิตย์ ทำงัยดีๆๆๆ
เนี่ยอุตส่าห์รีบมาเพื่อจะได้เข้าเรียนภาษาอังกฤษตอน 9 โมงทัน

งานนี้เล่นเอาชั้นเดินคอตกกลับไป จะไปเรียนภาษาตามเดิม....T_T
(ลืมบอกไปว่าสถานที่เรียนภาษา กะ office agency อ่ะ คือที่เดียวกัน)

ไปถึงตอน 8.30 น. เจอพี่คนนึงนั่งอยู่ ....ความคิดในหัวพลันแล่น...
เราเรยเดินตรงไปอ้อนวอนให้พี่เค้าช่วยหยิบเอกสารของเราในโต๊ะพี่นีให้ เค้าถามเราว่าโทรหาพี่นีรึยัง
เราโทรหาแล้วแต่ปิดเครื่องอ่ะ เค้าบอกว่าเบอร์ xxxxxxx นี้นะ
เราบอกว่าไม่ใช่อ่ะค่ะ ปกติเค้าใช้อีกเบอร์โทรหาเรา...ทำให้เรารู้ได้ว่านั่นเป็นเบอร์บริษัท ส่วนเบอร์พี่เค้า เราไม่เคยมีเรย
พูดคุยกันพักใหญ่เค้าก้อหยิบเอกสารสำเนา passport ที่เราต้องการให้
คิคิ ดีใจจัง รีบนั่ง Taxi กลับไปตรวจร่างกายเร้ย....ลั่นล้าๆๆๆ

วันจันทร์ไม่ต้องลาหยุดแระ แค่นี้ก้อกะถูกหัวหน้าด่าอยู่แระ ลาบ่อยจัด

นอกเรื่องแป๊บนะ พูดถึงเรื่องลาเนี่ย เราลาเพราะทำเรื่องเรียนภาษาเนี่ย 4 ครั้งแระ
ครั้งที่ 1 ไปงานนิทรรศการ เพื่อหาที่สมัครเรียน เผื่อได้ส่วนลด วันเสาร์เราต้องทำงานอะนะ บริษัทไม่หยุด

ครั้งที่ 2 อันนี้ไปเยี่ยมชมบริษัท ที่เราจะฝากชีวิตในอนาคตไว้ เหอะๆๆแอบพูดเกินไปนิดส์ แต่จิงๆนะ ...
ขอเตือนทุกคนว่า ให้ไปกับบริษัทที่คนติดต่อเราอ่ะเค้าสามารถติดต่อเราได้ตลอดเวลาที่เราต้องการ
ไม่ใช่ว่าโทรไปทีไรก็ไม่ว่าง โทรไปไม่ติด เพราะนอกเวลางาน คิดถึงตอนที่ไปอยู่ที่นู้น ว่าเวลาก็ไม่ตรงกัน
ถ้าโทรหาวันอาทิตย์ เรามีปัญหาก็ไม่สามารถติดต่อได้

ครั้งที่ 3 ไปจ่ายเงิน ไปทำ Bank draft เหมือนที่เล่าครั้งก่อน

ครั้งที่ 4 ไปเรียนภาษา ที่เค้าห้ามขาดอ่ะ แล้วก็ตรวจร่างกาย
และเกือบจะไม่ได้ตรวจซะแระ เพราะไม่มี passport

นี่ลืมเล่าด้วยนะว่า เค้าต้องการรูป 2 นิ้วมาติดแบบ form ขอตรวจสุขภาพ...ฮึ่ม
อันนี้ agency เราก็ไม่บอกอีกแระ ใครจะเตรียมมาด้วยฟระ เพราะว่ายื่นทุกอย่างให้เค้าหมดแล้วนี่..
ใครที่ไม่รู้เหมือนเราต้องศึกษาก่อนนะ อย่าไปพึ่งเค้ามาก ถ้าเค้าไม่เป็น professional จิงๆอ่ะ
ช่วยเราได้ไม่เยอะหรอกไม่ต้องไปหวังอะไรให้มันมากมาย
ดีนะที่เรานึกได้ว่าเคยให้รูปกะเค้าไปแล้ว 2 รูป แล้วก็ถามเค้าว่าเค้าใช้ไปรึยัง และดีที่ยังไม่ได้ใช้
เลยขอยืมมาแปะอันนี้ก่อนแล้วอาทิตย์หน้าจะเอามาคืนให้...เฮ่อ เหนื่อยใจ และ เหนื่อยกาย

เล่าต่อนะ
ตรวจร่างกายเค้าให้ทำอะไรบ้าง BNH ที่นี่เค้ากรอกทุกอย่างให้เราหมดเลย ไม่ต้องทำเอง
หลังจากให้ข้อมูลพยาบาลเบื้องต้น เค้าก็ให้ไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อ X-ray ปอด
แนะนำว่าถ้าจะใส่ dress ไปให้ใส่แบบมีกระดุมบนไว้ปลดออกด้วย
อย่าใส่แบบสวมไปนะ เด๋วจะหาว่าไม่เตือน เพราะเสื้อคลุมเค้าให้แค่ครึ่งตัว
ท่ายืนตรวจนี่สิ โคตรฮา นึกตามนะ ให้เอาหน้าแนบเครื่องเค้า เอามือไว้ตรงสะโพกสองข้าง
ทำท่ายังกะเป็ด...5555
แอบขำตัวเอง แค่ 2 นาทีก้อเสร็จแระ

แล้วก็ตรวจสายตา ให้อ่านตัวเลขเหมือนร้านแว่นเรย อันนี้ก็แป๊บเดียว 2 นาทีได้มั๊ง
เสร็จแล้วก็ให้เราเปลี่ยนชุดคืนได้

จากนั้นก็ตรวจฉี่ ก่อนตรวจเค้าจะให้ไปอยู่บริเวณ lobby ชั้นเดียวกันนี่แหละ
มีขนม นม ชา กาแฟ ให้กินด้วย เพื่อให้เราได้ดื่มน้ำมากๆ จะได้ฉี่จางๆ
เค้าให้เรากิน (4-5 แก้ว) ก่อนจะเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปให้เค้า

แล้วสักพักเค้าจะให้เราพบแพทย์...เสร็จเค้าก้อถามว่าเราเป็นโรคอะไรรึป่าว
แพ้ยาอะไรมั๊ย ..แล้วก้อให้เราถอดเสื้ออีกแระ..ทำมัยเมื่อกี้ให้เราเปลี่ยนชุดวะ งง

แต่คราวนี้พอถอดเสื้อเสร็จ ให้เอาผ้าปิดไว้ นอนบนเตียง...
อยู่ๆหมอก็เข้ามา แล้วมาเปิดผ้าออก พร้อมกับบอกว่า
ขอโทษนะคะ ตูหล่ะอาย.....ไม่เห็นมีใครบอกเรยว่าต้องตรวจมะเร็งเต้านมเรย
แล้วเค้าตรวจอย่างงี้เหรอวะ ลูบๆคลำๆอยู่ได้ อายนะเฟ้ย

จบๆๆดีก่า...ยังรู้สึกอายๆอยู่เร้ย

อีกแป๊บนึงเค้าก้อยื่นใบเอกสารให้ไปจ่ายเงิน แล้วบอกว่าเด๋วส่งผลไปให้ที่สถานฑูต วันจันทร์

เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย!!!~

คราวนี้เริ่มกลับมาเป็นคนดี หลังจากตรวจเสร็จกลับไปถึงที่ office agency
เพื่อจะเรียนภาษา ถึงตอน 10.30น. อาจารย์ยังนั่งรอเราอยู่เรย..แอบงงว่า
ไอ้นักเรียนที่บอกว่าจะมาเรียน วันนั้น 2 คนมันหายไปไหนฟระ เหลือตูเรียนคนเดียวอีกแร้ว !!! T_T
ใครทึ่เคยอยากเรียนภาษาอังกฤษ ตัว ต่อ ตัว จะรู้ว่า ถ้าอาจารย์คุยไม่เก่ง แล้วเราก็ไม่เก่งภาษา
คุยกันคนละเรื่องเนี่ยมันน่าเบื่อแค่ไหน เฮ่อ นึกว่าจะมีคนมานั่งให้คุยด้วย

สรุปว่า...วันนนั้นเราก็ทนนั่งเรียนจนถึงเที่ยง แต่ ชะโมงครึ่งที่ผ่านมาทำมัยมันนานจัง !!!
ขอเมาท์นิดนึงละกันนะ ไม่ใช่ว่าอาจารย์เค้าไม่ดีนะ เค้าพูดสำเนียงดีมาก แต่...เค้าไม่ใช่คนคุยเก่ง
และไม่ใช่อาจารย์ เค้าเป็นคนที่เคยไปอยู่ที่ซิดนี่ย์ นานกว่าเจ็ดปี อายุมากกว่าเราแค่ 2 ปี
แต่เรารู้สึกว่าเราจะแก่กว่ายังงัยไม่รุ่ สงสัยว่าจะทำงานมานาน...T_T 4 ปีที่เราทำงานมาเนี่ยมันก้อแป๊บเดียวเองน๊า

ยังงัยก็ตามวันนี้ขอพูดกะเค้าให้ได้ ไม่งั้นครั้งหน้า ต้องมานั่งมองหน้าหาเรื่องคุยกันอีก
ถอนหายใจคนละสิบรอบ กว่าจะหมดชะโมง
เราเรยเสนอพี่เค้าว่า อยากให้พี่เค้าช่วยเตรียมการสอนหน่อย และช่วยถามเรื่องที่เค้าให้เราเล่าด้วย
จะได้เป็นการช่วยเราให้พูดได้เยอะขึ้น จากเดิมเค้าให้เราเล่าเรื่องไปเที่ยวตลาดน้ำเค้าฟัง
พอเล่าจบเค้าก้อเปลี่ยนเรื่องคุย อย่างงี้จะเหนื่อยทั้งคู่ เค้าก็ยินดีที่จะทำตาม

ตอนแรกเค้าก็จะเตรียมเหมือนกันการสอนอ่ะ แต่เค้าบอกว่าเค้าอยากให้เราพูดๆๆๆไปเรื่อยๆมากกว่า ถ้าจำกัดเนื้อเรื่องในการสนทนาจะเบื่อ
แต่เราบอกพี่เค้าว่าเราเรียน course intensive speaking นะ 20 hrs.
นี้ควรได้อะไรมากกว่านี้ เช่น สถานการณ์ต่างๆต้องคุยยังงัย อยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน ที่โรงพยาบาล หรือสนามบิน อะไรอย่างงี้ เค้าเรยให้ความกระจ่างว่า

อ่าว...พี่เอเจนซี่เค้าบอกว่า ให้ผมสอน conversation ธรรมดาๆเท่านั้น !!! แป่ว นี่ช้านถูกหลอกอีกแล้วเหรอเนี่ย !!!

มีอีกๆ กระเป๋าเดินทางที่จะได้ฟรีอ่ะ ---จึ่ง! เป้ ใส่ของธรรมดาๆ นึกว่ากระเป๋าเดินทางใบเล็กล้อเลื่อน

แล้วที่ว่าส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน 2,000 บาท จำได้ว่าเคยถามตอนที่ไปงานนิทรรศการ ถามเค้าว่าสามารถจองเองได้รึป่าว
เค้าว่าได้ แต่ตอนนี้ ถ้าจะได้ส่วนลดนี่ ต้องให้เค้าจองให้...ตอนนี้ตั๋วเต็มครับพี่น้อง ดิชั้นจะทำอย่างไรดี ได้แต่รอ waiting list
แต่ว่า เราก้อแอบจองตั๋วเครื่องบินเองเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าเค้าบอกว่าจองไว้ไม่เสียอะไร ตอนนี้วันที่ 7/7/07
ว่าง 1 ที่พอดี เอารึป่าว เลขสวยจังแหะ น่าสนๆ แต่ว่าอยากไปวันที่ 9/7/07 มากกว่านี่นา ไม่อยากรีบไปเสียตังค์ ไหนจะค่าที่อยู่ ค่ากิน เค่ารถ อีกหล่ะ

เราก็ลังเลนิดนึงแต่เค้าว่า จองไปไม่มีเสียตังค์ถ้ามั่นใจจะไปค่อยจ่ายตังค์เค้าก็ได้
แล้วเค้าจะทำ waiting list ให้อีกวันที่ 8 และ 9 ด้วย
หลังจากนั้นเพียง 2 นาที เค้าส่ง email confirm มาให้เราทันที

สุดยอด!!เร็วจัด first impression จิงๆกะที่นี่
ticket2home.com นี่เราโทรไปตอนสามทุ่มเมื่อคืนนะเนี่ย
ที่อื่นยังหาตั๋วให้เราไม่ได้เรย แถมยังมีโฆษณาอีกว่า เราไม่ยอมให้ใครขายถูกกว่า
ถ้าเราได้ราคาแพงกว่ายินดีจ่ายส่วนต่าง ...อันนี้ไม่รู่ข้อเทจ็จจิงนะ แต่ชอบๆๆ
(คิคิ ของฟรีและถูกเนี่ย มันน่าดึงดูดใจจิงๆ)




ระหว่างรอวีซ่า เราก้อทำเรื่องลาออกเรียบร้อยแล้ว แต่บริษัทเราสามารถลาเรียนต่อได้ด้วย เราก็เลยทำเรื่องเรียบร้อยแล้ว

ทำงานวันสุดท้ายวันที่ 18 มิ.ย. 50 นะคะทุกคน อีกแค่ 5 วันเอง...ตอนนี้ทำมัยยังไม่รู้สึกใจหายน๊า...

สงสัยเราจะความรู้สึกช้าไปหน่อย คงต้องรอย้ายบ้านและไม่ได้มาทำงานกระมัง

สาธุ~ ขอให้วีซ่า ข้าน้อยผ่านด้วยเถิด





Create Date : 12 มิถุนายน 2550
Last Update : 25 มิถุนายน 2550 23:44:27 น. 3 comments
Counter : 884 Pageviews.

 
เคยโดนหมอตรวจหน้าอกเหมือนกันอ่ะค่ะ
เขินมากมาย แต่ต้องทำหน้านิ่ง
รู้สึกว่าแอร์มันจะเย็นๆเป็นพิเศษ


โดย: Blinded วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:16:56:29 น.  

 
ดีจังเลยนะครับ ได้มีโอกาสไปหาประสบการณ์ อีกหน่อยก็คงจะพูดปร๋อเลย แหะๆ แล้วก็คงจะเก็บเงินได้เยอะเลยนะครับ

เห็นเพื่อนๆหลายคนก็ไปกันอ่ะครับ


โดย: sak (psak28 ) วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:18:03:55 น.  

 
Yr doc. is guy or lady???

Ei Ei.
I'll talk to u later na.
(Can not use Thai front -____-")


โดย: soung IP: 58.137.10.226 วันที่: 21 มิถุนายน 2550 เวลา:13:02:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prim_pm
Location :
Seoul Korea

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Welcome to -->
โลกแห่งการกิน 555 ไม่ใช่ๆ มันคือ Diary ตะหาก
&gblog

ไปเที่ยวกับเรามั๊ย?
:: New Updated ::
+Korea-Taipei Trip

+Beijing China trip

+Melboune&Sydney

+สนามไดร์ฟกอล์ฟ
สีชมพูของเรา


+สรุป Diary Australia
:: ใครชอบชุดลูกไม้ระบายโบว์เหมือนเราบ้าง? ::

:: มองหาชุดเก๋ๆอยู่รึป่าว ::

:: ชุดคู่รัก Pre-wedding เก๋ๆ ::

:: เสื้อกันหนาว/Jacket มั๊ย ::

:: Family Set Korean Style ::

:: ชุดเด็กสไตล์เกาหลี ::

:: เสื้อผ้าผู้ชายสไตล์เกาหลี :: กระเป๋าแนวเกาหลี

Google

MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com
New Comments
Friends' blogs
[Add prim_pm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.