Group Blog
 
All Blogs
 
กัวลาลัมเปอร์ เที่ยวใกล้ๆง่ายนิดเดียว # 2 First World Outdoor Theme Park

สำหรับมื้อเช้าใน First World Cafe บนชั้น 3 ของโรงแรม ให้บริการตั้งแต่ 6.30 -10.30 ครับ



เมื่อลงจากลิฟต์ เราจะต้องเดินอ้อมตามลูกศรครับ เพื่อใช้ทางเข้าด้านหน้า



ช่วงนี้มีโปรโมชั่นสำหรับมื้อเที่ยงและเย็นด้วย แต่ผมว่าหาทานร้านข้างนอกน่าจะดีกว่านะครับ เพราะมีให้เลือกมากกว่า



ภายในห้องอาหารามเช้าวันเสาร์ คนน้อยมากครับ ผมมาหกโมงครึ่งกว่าๆ ห้องอาหารค่อนข้างใหญ่มากๆครับ เรียกว่ารองรับแขกของโรงแรมได้เกือบทั้หมดเลย โดยจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆให้เลือกนั่ง คือมีทั้งโซนอาหารธรรมดา และคนที่เป็นมังสวิรัติด้วย (เพราะในมาเลเซีย ค่อนข้างหลากหลายในเรื่องเชื่อชาติและศาสนาน่ะครับ) ที่สำคัญอาหารที่นี่ เป็นอาหารฮาลาลทังหมด ที่สำคัญไม่มีหมูแน่ๆครับ 55



ไลน์อาหาร main หลัก จะเป็นข้าวและแกงต่างๆครับ ดูแล้วไม่ค่อยหลากหลายอย่างที่ผมคิดไว้นะครับ อาหารตะวันตก ก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ด้วยความที่มข้อจำกัดเรื่องฮาลาล ผลิตภัณฑ์ต่างๆของหมูที่เราคุ้นเคยในอาหารเช้า อย่าง แฮม เบคอนเลยไม่มีน่ะเองครับ



ผมมาพักคนเดียวแต่ก็ยังได้คูปองทานอาหารสำหรับ 2 คนเลย ตอนแรกผมว่าถ้าห้องหาหารไม่ปิดไว (10.30) ยังคิดจะมาฝากท้องมื้อเที่ยงที่นี่เลยนะครับ แต่สุดท้ายเห็นไลน์อาหารแล้ว ก็เลิกคิดไปเลยล่ะครับ



คอร์นเฟล็ก ขนมปัง แยม



สลัดผัก ที่มีให้เลิอกน้อยมากทั้งชนิดของผัก และน้ำสลัด



อีกมุมของขนมปัง



ข้าวต้ม และซุปครับ นอกจากนี้ยังมี station ไข่ที่มีพ่อครัวมาปรุงให้



อุปกรณ์



มุมเครื่องดื่มครับ ธรรมดาๆ น้ผลไม้มีแค่ น้ำส้มกับน้ำสัปปะรด (ที่สำคัญเป็นน้ำผลไม้ผสม) ชา กาแฟ นม



สุดท้ายกับมื้อเช้าของผมครับ ตักเอามาประมาณว่าทำ nasik lemak ทานเองน่ะครับ 55



เช้าวันถัดมาผมขอตะลุยกับ Outdoor Theme Park ครับ เพราะเป็นวัถุประสงค์หลักที่มาเก็นติ้งเลย



สำหรับ Ourdoor Theme Park ค่อนข้างมีขนาดใหญ่พอสมควรครับ มีเครื่องเล่นถึง 28 ชิ้น โดยจะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ

Genting Land เป็นส่วนพื้นราบหลักของสวนสนุกเครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเหมาะกับเด็กๆ

Frontier Land เป็นส่วนพื้นที่สระน้ำไปจนถึงตัวอาคารของ Indoor Theme Park เครื่องเล่นเหมาะสำหรับเด็กเล็กๆไปจนถึงเด็กโต

Magic Moutain เป็นส่วนของสวนสนุกที่อยู่ด้านบนของเขา เครื่องเล่นค่อนข้างหวาดเสียวและเหมาะกับวัยรุ่นจนถึงผู้ใหญ่มากกว่าครับ



ทางเข้าสวนสนุกจะมี 2 ทางครับ ทางหลักคือ ด้านหน้าของ Theme Park Hotel ส่วนประตูทางด้านหลังจะเข้า First World Hotel ครับ โดยจะเดินผ่าน Indoor Theme Park แล้งลงบันไดเลื่อนออกมา



ราคาค่าตั๋วครับ ถ้าทำบัตร World Card จะได้ส่วนลดพิเศษด้วย(ทำบัตรฟรี ดูรายละเอียดที่ตอนแรกได้ครับ)



เวลาเปิด-ปิดของสวนสนุกครับ



สำหรับคนที่มีเวลาน้อย เน้นประหยัดงบ ผมแนะนำให้เข้ามาเที่ยวช่วงกลางคืนครับ (ซื้อตัวแบบ evening pass) จะเข้ามาเล่นได้ตั้งแต่เวลา 19.00-22.00 ในคืนวันเสาร์ (และช่วง peak) แล้ววิ่งขึ้นไปเล่นในส่วนของ Magic Mountain ก็ได้ครับ เพราะในโซนนี้จะมีเครื่องเล่นตื่นเต้นเยอะ แถมช่วงเย็นๆคนก็ไม่เยอะ คิวไม่มาก สามารถเก็บเครื่องเล่นได้หมดเหมือนกัน แถมด้วยบรรยากาศแสงไฟกลางคืนสวยๆครับ



ได้ wristband มาแล้ว เตรียมไปสนุกกันได้เลยครับ สำหรับวันนี้ผมจ่าย one day pass ในราคา 46 RM ครับ (เพราะใช้บัตร world card ลดราคาค่าตั๋ว)



เครื่องเล่นชิ้นแรก ที่คอยต้อนรับเราจากด้านหลังและถือป็น Siganture ของที่นี่ก็ Flying Coaster ครับ สำหรับเจ้าตัวนี้ แยกซื้อตั๋วเล่นต่างหาก ใช้ร่วมกับตั๋ววันไมได้ครับ หรือคนที่มาเก็นติ้งจะไม่เข้าสวนสนุก แต่จะเล่นเจ้านี่ตัวเดียวก็ได้ครับ เพราะประตูทางเข้าเครื่องเล่น ไม่ได้เข้าทางสวนสนุกครับ แต่อยู่ด้านหลังเลย ค่าตั๋วคือ 12 RM แต่ถ้ามี wristband ตั๋ววันก็ลดเหลือ 10 RM ครับ



ผมเตรียมมาตะลุยสวนสนุกตั้งเปืด (8.00) เลยครับ หมอกยังลงอยู่เลย แต่ที่จริงหมอกก็จะลงมาเรื่อยๆครับ ถึงจะตอนสายๆก็เถอะ



รถบัสโดยสารสองชั้นสไตล์อังกฤษ จอดอยู่แถวร้านค้าขายของว่างทางด้านหลังของสวนสนุกครับ



ด้านหลังของสวนสนุกครับ First World Hotel ที่เห็นเป็นอาคารสูง สีแสบๆ อาคารเตี้ยด้านหน้าก็คือ Indoor Theme Park และที่เห็นเป็นรางรถไฟเหาะทางขวาก็คือ Flying Coaster (29) ตัวเลขในวงเล็บจะตรงตามในแผนที่นะครับ





ด้านในสุดของโซน Genting Land ก็คือ Pirate Ship (8) หรือเรือไวกิ้งที่เราคุ้นหูน่ะเองครับ





ถัดมาจะเป็นเวทีกลางแจ้ง Merdaka Stage ครับ



ถ้ามองถัดมาจาก Merdaka Stage จะเห็นว่าเหมือนสะพานลอยด้านบน ก็จะเป็น Parrot Lane (38) ที่เป็นโซนนกแก้ว และสัตว์เลี้ยงต่างๆเอาไว้โชว์เล็กๆน้อยๆครับ



ที่เห็นเป็นเหมืนอสะพานลอยนี่ก็เพราะเขาทำเป็นทางเชื่อมระหว่างโซน Magic Fountain ด้านบน กับ Genting Land น่ะเองครับ





สำหรับเครื่องเล่นแรกที่ผมได้เล่น (เพราะไม่ต้องรอให้คนเต็ม) ก็เจ้านี่ครับ รถรางเล็กๆ ที่เรียกว่า Pirate Train (6) นั่งเล่นเป็นขำๆครับ ว่า เออ..อายุปูนนี้ก็กล้านั่งเนอะ 55 (ไม่อายน้องคนคุมเครื่องเล่นเล๊ย..)





ถัดมาก็จะเป็น สนามเด็กเล่นเล็กๆสำหรับเด็กครับ





Flying Jumbo (5) มานั่งเจ้าช้างบินได้กันครับ เขาจำกัดความสูงขั้นต่ำของคนที่จะเล่น แต่ไมได้จำกัดอายุนะครับ 55





ใกล้ๆกันก็เป็น น้ำพุดนตรี Musical Fountain (39) ที่จะเปิดก็ใกล้ๆเที่ยงแล้วล่ะครับ





ภาพในมุมกว้างนิดนึง



Rodeo Rider (14) ให้เด็กๆได้โดนเหวี่ยงเหมือนนั่งอยู่บนหลังม้าครับ



ถ้ามองลงไปทางด้านสระน้ำ จะมีเครื่องเล่น 2 ตัวในสระครับ นั่นคือ เรือถีบ Boating (7) และ Bumper Boat (27)





เปลี่ยนบรรยากาศจากการเล่นรถบั๊ม มาเป็นเรือบั๊ม Bumper Boat (27) ได้ครับ สนุกมันส์กว่ากัน แถมเปียกน้ำได้ง่ายๆด้วยครับ



เดินกันต่อครับ ใกล้ๆกับเจ้าช้าง Jumbo ก็มี Astro Fighter (4) ให้เด็กๆได้ขับยานอวกาศหมุนรอบแกนกลางครับ ก็แปลกดีครับ ที่เครื่องเล่นเหมือนกันอย่าง Flying Jumbo ก็อยู่ติดกันเลย สงสัยจะเป็นที่นิยมของเด็ก เลยต้องมีสองเครื่องเล่นเอาไว้เฉลี่ยปริมาณเด็กแน่ๆเลยครับ





Tea Cup (3) ถ้วยหมุนแสนสนุกของเด็กๆ แต่ผมว่ามันเริ่มจะทำให้ผู้ใหญ่เวียนหัวได้ง่ายๆล่ะครับ



เครื่องเล่นเสียวๆอย่างรถไฟเหาะ Cyclone (21) ที่ขึ้นป้ายว่าเป็นรถไฟเหาะแห่งแรกของมาเลเซียเลยล่ะครับ อยู่เกือบถึงทางเข้าเลย อาจจะดูว่าเก่าไปหน่อย แต่สภาพโครงสร้างยังแข็งแรงมากๆครับ ที่สำคัญ ถือเป็นเครื่องเล่นกระตุ้นความตื่นเต้นได้ดี ก่อนที่จะขึ้นไปโซนด้านบนครับ เพราะเจ้า Cyclone นี่อยู่ด้านหน้าทางขึ้นบันไดเลื่อนไปสู่ Magic Mountain น่ะเองครับ





ก่อนจะถึงทางเข้าด้านหน้า ก็จะเป็นโรงละคร Arena of Stars (30) ไว้สำหรับจัดการแสดงต่างๆครับ




ภาพมุมกว้างของปากทางเข้าด้านหน้า



ทางเข้าด้านหน้าของ Outdoor Thme Park อย่างเป็นทางการครับ มีน้ำพุตัวการ์ตูนคอยต้อนรับอยู่ ขนาบด้วยเครื่องเล่นซ้าย ม้าหมุนสองชั้น Double Deck Carousel (2) และทางด้านขวา เป็นม้านั่งแบบหมุนเหวี่ยง Spinner (19)



ทางด้านขวามือ จะมีตู้ Locker ให้บริการ สามารถฝากของได้ทั้งวันครับ ในราคาตู้ละ 3 RM (ถูกกว่าใน Indoor Theme Park อีกครับในนั้น 5 RM)



หรือถ้าใครหิว อยากเติมพลัง ก็มี fast food ชื่อที่เราไม่ค่อยคุ้นตาอย่าง Marry Brown ครับมีทั้งเมนูข้าว เมนูโจ๊ก กลางวันก็ยังมีคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวให้เลือกทานด้วยล่ะครับ



การที่มีม้าหมุน Double Deck Carousel (2) มาตั้งอยู่ตรงทางเข้านี่ ทำให้ผมนึกถึงสวนสยามบ้านเราขึ้นมาเลยนะครับเนี่ย



แต่เจ้าม้านั่ง Spinner (19) ใกล้กันนี่สิครับ เห็นอย่างนี้ หวดเสียวไม่ใช่เล่นเลยนะครับ คืออารมณ์น่ากลัวตอนที่มันเหวี่ยง ว่าจะหลุด ไม่หลุดเนี่ยแหละครับ ทำให้หัวใจเต้นโครมครามได้เลย



ช่วงเช้าอย่างนี้คนน้อยมากครับ



ปากทางเข้า



ใกล้ๆกันนั้น ยังมี Beryl's Chocolate Wonderland (31) เหมือนเมืองจำลองช็อกโกแลตน่ะครับจัดแต่งได้สวยงาม น่าจะถูกใจคนที่ชอบขนมหวาน และการถ่ายรูปครับ เพราะมีมุมสีสันสวยงามให้ถ่ายได้เยอะเลย โดยตรงทางออกจะมีซุ้มขายช็อกโกแลตยี่ห้อเดียวกับชื่อของเครื่องเล่นนี้ด้วย แต่เราไม่ซื้อ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ





เดี๋ยวเราเลี้ยวขวาม ขึ้นบันไดเลื่อนไปบน Magic Mountain กันครับ



ขึ้นมาก็จะเจอกระเช้าชิงช้าสวรรค์ Matahari (13) ที่มีไอศกรีมชื่อดังเป็นสปอนเซอร์ ความสูงของกระเช้า ไม่ได้สูงมากครับ แต่ด้วยที่ตั้งที่มาอยู่บนเขา เลยทำให้ดูสูงและมองเห็นวิวได้ในมุมกว้างเลยล่ะครับ





ถ่ายรูปตัวเองลำบากเลยไม่ได้ภาพในมุมสูงเลย



ใกล้ๆกัน จะเป็น Space Shot (26) เครื่องเล่นที่เป็นหอคอยสูง ให้เรานั่งแล้วจะพาเราขึ้นไปบนยอดสูงสุดก่อนที่จะปล่อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกครับ ผมว่าผมชอบเจ้านี่ที่สุดในสวนสนุกแล้วล่ะครับ



ถัดมาจะเป็น Grand Prix Fun Kart (25) ขับรถแข่งสนุกๆด้วยตัวเองในสนามครับ โยก่อนจะเล่นเราต้องเซ็นต์หนังสือยินยอมเล็กน้อยครับ ว่าจะรับฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรไปเนื่องจากความคึกคะนองของเราเอง จะไม่ฟ้องร้องทางสวนสนุก



ด้านหลังสนามแข่งก็จะเป็น Dinosaurland (12) ล่องแก่งตามหาไดโนเสาร์ครับ



เนืองจากยังเป็นเวลาเช้าจัด (หมอกลงอยู่เนื่องๆ) คนไม่เยอะ พอผมขับรถไปได้ 2 รอบ ผมก็ชะลอความเร็วเพื่อจะคืนรถ แต่ลุงคนคุมรถกลับยกนิ้วโป้งแล้วบอก Go Go ให้เล่นไปได้เรื่อยๆครับ สรุปแล้วผมขับรถไปได้ 14 รอบ เรียกว่า ฉ่ำเลย เพราะเย็นจริงๆ เย็นทั้งอากาศ ทั้งหมอกที่มาปะทะตั้วด้วยนี่แหละครับ



ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นเครื่องเล่นของเด็กเล็ก (เผื่อน้องๆหนูๆขึ้นมาบนนี้จะได้มีเครื่องเล่นด้วยไงครับ) อย่าง Busy Bugs (16) Circus Ride (17) และ Junior Bumper Car (18)





สำหรับตัวอาคารตึกใหญ่ จะเป็น สนามซ้อมยิงธนู Archery (37) โดยด้านล่างจะเป็นร้านอาหาร ขายของที่ระลึก และทางเดินลงไปสู่ Parrot Lane (38) นั่นเองครับ



ด้านในสุดคือ รถไฟเหาะตีลังกา Corkscrew (24) ที่ไม่ได้มีความเสียวจากตัวรถไฟอย่างเดียวครับ ดที่ตั้งที่อยู่จุดสูงจุดหนึ่งของภูเขาก็ช่วยเพิ่มความเสียวได้เป็นอย่างดีเลย ยิ่งถ้ามีหมอกลงนะครับ รถไฟวิ่งแต่ละทีเนี่ย ไอหมอกเย็นปะทะหน้าเลยล่ะครับ





Corkscrew (24)



เครื่องเล่นสุดท้ายบนโซนนี้ก็คือ Dinosaurland เป็นการล่องแก่งตามล่าหาไดโนเสาร์ครับ โดยมีไกด์เป็นคนแนะนำพันธุ์ได้โนเสาร์ต่างๆ อันนี้คาดว่าเด็กๆน่าจะชื่นชอบกันเป็นพิเศษล่ะครับ





หลังจากเก็บด้านบนเสร็จ ผมก็ลงมาเล่นเจ้า Flying Coaster (29) ครับ เพราะเห็นมีคนเริ่มเล่นกันแล้ว



ปกติแล้วเราจะนั่งบนรถไฟเหาะกันใช่ไหมครับ แต่ Flying Coaster (29) นี่จะให้เรายืนบนเครื่อง ก่อนจะจับเรานอน แล้วให้เราเหาะไปบนเครื่องเล่นเหมือน Superman (แต่ตัวเครื่องเล่นกลับแต่งลาย Spiderman ไปซะอย่างนั้น) ถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่สนุกคุ้มค่าน่าลองครับ ได้ใจผมตรงที่ผมไปคนเดียว คิวยังไม่มาก เขาก็จับให้ผมเล่นคนเดียวไปเลยน่ะครับ



สำหรับค่าตั๋ว จะไม่รวมกับตั๋ววันที่ซื้อครับ ปกติ 12 RM (คนภายนอกจะมาเล่นเจ้านี่อย่างเดียวก็ได้ เพราะไม่ได้ใช้ประตูทางเข้าร่วมกับสวนสนุกครับ) แต่ถ้าคนซื้อตั๋ววันจะได้ลดเหลือ 10 RM ครับ



เหลือแต่เครื่องเล่นในโซน Frontier Land ที่ติดกับสวนสนุกในร่มครับ ผมขอเริ่มด้วย Flying Dragon (28) รถไฟเหาะมังกรบินสีชมพู ที่หาทางขึ้นเครื่องเล่นนี้ยากหน่อยครับ คือต้องเดินมาทางสระตรงกลาง ถึงจะเห็นทางเข้าน่ะครับ





ถือเป็นเครื่องเล่นไม่เสียวมาก เล่นกันได้ทั้งครอบครัวครับ



เครื่องเล่นสำหรับนั่งชมวิวอีกชิ้น ก็คือรถราง Monorail (1) ที่สถานีทางขึ้นจะอยู่ใกล้ๆกับทางเข้าครับ รถรางนี้จะแล่นครบรอบสวนสนุกทั้ง Outdoor และ Indoor Theme Park ครับ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที



ทางเข้าด้านหน้า จากมุมสูงบน monorail ครับ



สวนสนุกโดยรวม ฉากหลังคือ First World Hotel



เครื่องเล่นที่ปิดซ่อมครับ Crazy Space Lab (11) อยู่บน Magic Mountain



เครื่องเล่นที่ร้างไปแล้วอยู่บนเขาเหมือนกันครับ อยู่ด้านหลังของ Dinosaurland



สถานีขนส่งข้าง First World Hotel ใครจะเข้า KL หรือไปจุดต่างๆก็สามารถขึ้นรถจากที่นี่ได้ครับ



เข้ามาในส่วนของ Indoor Theme Park ครับ จะเห็นบันไดเลื่อนทางลงไปสู่ Outdoor Theme Park



เวทีกิจกรรม บันไดเลื่อนขึ้นไปโรงหนัง



Sky Venture



หอไอเฟล



แล้วก็มาถึงเครื่องเล่นสุดท้ายครับอย่างล่องแก่ง



ซึ่งผมพลาดตรงที่มาเล่นเจ้านี่เป็นชิ้นสุดท้าย แล้วก็เปียกไปเลย ถ้าเล่นเจ้านี่ก่อนแล้วไปเหวี่ยงบนเครื่องเล่นพวกรถไฟเหาะ คงจะแห้งไปแล้วน่ะครับ





ในเวลาเพียง 3 ชม.กว่าๆ ผมก็เก็บเครื่องเล่นได้หมดนะครับ เรียกว่ายังไม่ถึงเที่ยงดีเลย เพราะฉะนั้น ใครที่อยากประหยัดงบ ผมถึงแนะนำให้มาเล่นช่วงกลางคืน ซื้อเป็น Evening Pass ได้ไงล่ะครับ

ว่าแล้วก็นึกเสียดายค่า Locker 5 RM ที่ฝากกระเป๋าจังครับ เพราะคิดว่าคนอาจจะเยอะผมเลย check out ห้องพักออกมา แล้วเอากระเป๋ามาฝากไว้ใน locker รู้อย่างนี้ กลับห้องไปเช็ดหัว หรืออาบน้ำใหม่ ก่อนยังทันเลยนะเนี่ยครับ

อาหารกลางวันก่อนจะลงมาจากเก็นติ้งก็เป็น laksa ไก่ ของร้าน Marry Brown ครับ มื้อนี้ 12.70 RM





Create Date : 03 สิงหาคม 2554
Last Update : 3 สิงหาคม 2554 6:12:20 น. 4 comments
Counter : 5808 Pageviews.

 
เคยไปมาแล้วค่ะ เก็นติ้ง แต่ไม่ได้เล่นเครื่องเล่น outdoor เสียดายมากๆๆๆๆๆ


โดย: PrettyNatty วันที่: 3 สิงหาคม 2554 เวลา:18:37:21 น.  

 
ผมแอบมาหาข้อมูลเที่ยวนะครับ ปล. พี่ใส่เสื้อตัวเดียวตลอดเลยหรอครับ


โดย: กำนัน IP: 115.67.96.30 วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:2:01:04 น.  

 
รบกวนถามเป็นข้อมูลค่ะ ว่าส่วนของ outdoor นี่ถ้าผู้ใหญ่เข้าไปแต่ไม่เล่นเครื่องเล่นเลยนี่ต้องเสียเงินค่าตั๋ววันด้วยหรือไม่ค่ะ


โดย: ฤทัย IP: 118.173.84.122 วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:21:53:21 น.  

 
คนไปน่ารักจริงที่เอาข้อมูลมาฝากน่ะจ้า


โดย: chino IP: 182.53.33.182 วันที่: 11 มีนาคม 2556 เวลา:2:06:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prapasawat
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




Friends' blogs
[Add prapasawat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.