Get more detail for your trip

ภูผาวารี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




Since Aug 2009
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ภูผาวารี's blog to your web]
Links
 

 
รีวิวเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน: พร้อมข้อมูลกินเที่ยวช๊อปและเวลาเดินทางอย่างละเอียด Part 1

รีวิวเที่ยวฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน: พร้อมข้อมูลกินเที่ยวช๊อปและเวลาเดินทางอย่างละเอียด Part 1

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปฮ่องกง แต่เป็นครั้งแรกที่ผมจะไปฮ่องกงแบบสบายกว่าครั้งที่แล้วมา แน่นอนว่าความสบายก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยทริปนี้เสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด คนละ 23,000 บาท สำหรับ 5 วัน 4 คืน (ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเรือไปมาเก๊า ค่าตั๋ว Disneyland) ไม่รวมค่าช๊อปปิ้งซึ่งจ่ายมากกว่าค่ากินอยู่เสียอีก

    การหาตั๋วเครื่องบินที่เวลาดีราคาถูกเป็นปัญหาสำหรับผม เนื่องจากทริปนี้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โชคดีที่ได้โปรโมชั่นของ Cathay Pacific ซึ่งราคารวมภาษีอยู่ที่ 10,xxx บาทต่อคน มาช่วยไว้ (ราคาพอๆ กับหางแดงที่รวมทุกอย่างแล้ว) ดูรีวิวโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินและการเดินทางไปกลับฮ่องกงกับ Cathay Pacific คลิ๊กที่นี่ครับ

เวลาจริงที่ใช้ท่องเที่ยวฮ่องกงมาเก๊าในวันแรก The Peak, Avenue of stars (Thu 26 May 2011)
8:10 – 8:30 (20นาที) เขียนใบ ตม.ไทย รอคิวตรวจ Passport
8:30 – 10:20 (1 ชั่วโมง 50นาที) นั่งกินบะหมี่และเล่นเน็ตฟรีที่ King Power Lounge
10:20 – 10:50 (30นาที) เดินไปที่ Gate รอขึ้นเครื่อง

15:00 – 15:33 (33นาที) เครื่องลงจอด ผ่านตม.ฮ่องกง รอกระเป๋า ซื้อ Octopus Card และเดินออกไปรอ รถเมล์ S1
15:33 – 15:53 (20นาที) ขึ้นรถเมล์ S1 ไป MTR Tung Chung หรือ City Gate
15:53 – 16:35 (42นาที) ถึง MTR Tung Chung เดินเข้าไปรอ MTR (3 นาที) MTR ไป Nam Cheong (21นาที) รอเปลี่ยนขบวน (7นาที) MTR ไป Hung Hom (11นาที)
16:35 – 16:45 (15นาที) ถึง MTR Hung Hom ออก Exit C2 ไปโรงแรม Habour Plaza Metropolis (5นาที) Check-in และเข้าที่พัก (5นาที)

17:51 – 18:27 (36นาที) ออกจากโรงแรมไป MTR ไป Hung Hom (5นาที) MTR ไปลงที่ East Tsim Sha Tsui แล้วจึงเดินไปที่ MTR Tsim Sha Tsui แล้วขึ้น MTR ไปลง Central (31นาที)
18:30 – 18:44 (14นาที) ออก MTR Central Exit J2 เดินไป Lower Peak Tram Terminal (เดินแบบคนไม่ค่อยรู้ทาง)
18:44 – 19:00 (1ชั่วโมง16นาที) รอรถรางขึ้น The Peak คิวยาวมาก (ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเนื่องจากใช้ Octopus Card รูดได้เลย)
19:00 – 19:13 (13นาที) นั่งรถรางขึ้น The Peak

19:13 – 19:26 (13นาที) เดินขึ้น Sky Terrace แบบชิวๆ
19:13 – 20:10 (57นาที) ถ่ายรูป ชมวิวกลางคืน ดู Symphony of Life แบบไม่มีเสียงเพลง (คนเยอะมาก)
20:10 – 20:20 (10นาที) ลงจาก Sky Terrace มา Upper Peak Tram Terminal แต่เนื่องจากคนเยอะเลยหาอะไรกินก่อน
20:20 – 20:39 (19นาที) เดินหาอะไรกิน นั่งกิน McDonalds
20:39 – 20:45 (6นาที) เดินลงมาต่อแถวขึ้นรถรางลงไปด้านล่าง
20:45 – 21:16 (31นาที) รอรถรางลงจาก The Peak (ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วเนื่องจากใช้ Octopus Card ได้)
21:16 – 21:26 (10นาที) นั่งรถรางมาถึงด้านล่าง

21:26 – 21:50 (24นาที) เดินออกจาก Lower Peak Tram Terminal และรอรถเมล์สาย 15C (8นาที) นั่งรถเมล์สาย 15C ไป Pier 7 (18นาที)
21:50 – 21:56 (6นาที) รอเรือ Star Ferry ซึ่งปิดบริการตอนสี่ทุ่ม (คาดว่าได้นั่งเที่ยวสุดท้าย)
21:56 – 22:08 (12นาที) นั่งเรือ Star Ferry ไป Avenue of Star
22:08 – 23:04 (56นาที) เดินเล่นที่ Avenue of Star ตามหาฝ่ามือเฉินหลง


เครื่องลงจอด ใช้เวลาเอากระเป๋าและผ่านตม.ฮ่องกงไม่นาน ผมก็มุ่งตรงไปยัง Counter ของ MTR เพื่อซื้อบัตร Octopus ที่ดาวสีชมพูบนแผนที่ จากนั้นเลี้ยวขวาไปจุดจอดรถเมล์ ตามป้ายที่เขียนว่า Airbus เพื่อขึ้นรถเมล์สาย S1 ไป MTR Tung Chung แล้วขึ้นรถไฟฟ้า MTR ไปสถานี Hung Hom ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง



วิธีที่ผมใช้เดินทางเข้าตัวเมืองฮ่องกงเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดซึ่งเสียค่าโดยสารเพียง 20 HKD เดินทางถึงสถานี MTR Hung Hom (ถัดจากสถานี East Thim Sha Thui ไป 1 สถานี) ประหยัดไปได้ถึงคนละ 50 – 60 HKD เลยทีเดียว (เมื่อเทียบกับ Airport Express) แต่อาจเสียเวลาเดินทางมากกว่าอยู่ประมาณ 10 – 20 นาที
  • ผมเคยเปรียบเทียบเวลาและค่าโดยสารในการเดินทางเข้าเมืองด้วยวิธีต่างๆ ลองดูรีวิวได้ที่นี่ครับ



    เดินทางถึงสถานี Hung Hom ซึ่งเป็นสถานีที่ค่อนข้างใหญ่เนื่องจากเป็นสถานีที่สามารถต่อรถไฟฟ้าไปยังกวางโจวและเซินเจิ้นได้ รถเมล์และรถแท็กซี่มากมายจอดอยู่บริเวณโดยรอบ ตึกที่เห็นฝั่งตรงข้ามสถานีก็คือ Habour Plaza Metropolis ที่พักของผมใน 3 คืนต่อจากนี้นั่นเอง



    บรรยากาศภายในห้องพักครับ
  • สามารถดูรีวิวอย่างละเอียดของ Habour Plaza Metropolis คลิ๊กที่นี่ครับ




    ผมชอบวิวจากห้องพักที่นี่มากเลยครับ ดูแล้วสบายตาดี



    หลังจากเอนกายพักผ่อนได้สักชั่วยาม ก็เริ่มต้นท่องเที่ยวฮ่องกงในเวลาเกือบหกโมง จุดหมายแรกคือ The Peak ยามค่ำคืน



    การเดินทางไป The Peak ผมใช้บริการของ Peak Tram หรือรถราง แต่การเดินทางไป Lower Peak Tram Terminalของผมคราวนี้อาจจะแปลกกว่าคนทั่วไปสักหน่อย เพราะใช้วิธีเดินเท้าจาก MTR Central ไปยัง Lower Peak Tram Terminal สาเหตุที่ไม่นั่งรถสาย 15C จาก Pier 7 เหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจากระยะทางในแผนที่บอกผมว่าเดินจาก MTR Central ไป Pier 7 เพื่อขึ้นรถสาย 15C ระยะทางใกล้เคียงกับเดินไป Lower Peak Tram Terminal

  • รีวิวเดินทางไป Lower Peak Tram Terminal ด้วยการนั่งสาย 15C จากป้ายที่ใกล้ Central ที่สุด คลิ๊กที่นี่
  • รีวิวเดินทางไป Lower Peak Tram Terminal ด้วยการนั่งสาย 15C จาก Pier 7 www.hongkongfanclub.com/index.php?topic=44.0

    ช่วงแรกๆ ก็หลงๆ แต่พอจับทางได้ก็สบาย มีป้ายบอกอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครอยากเดินตามรอยผม มีวิธีง่ายนิดเดียวครับ ถึง MTR Central เดินออก Exit J2 จากนั้นเดินขนานกับถนนตรงไปจนเจอสี่แยก (เดินตามเส้นสีชมพูบนแผนที่) ที่สี่แยกนี้จะมีสะพานลอยซึ่งเชื่อมต่อกันจนเหมือน sky walk บ้านเรา (สะพานลอยแทนด้วยเส้นสีเทาในแผนที่) หาทางขึ้นสะพานลอยให้ได้ครับ แล้วเดินตามสะพานลอยไปเรื่อย ๆ จะเจอตึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงหรือ Bank of China Tower ให้เดินเลียวไปทางขวามือ จากนั้นจะมีป้ายบอกอยู่ตลอดทางว่า The Peak ไปทางไหน



    มองจากสะพานลอยที่อยู่บนถนน Garden Road ก็จะเห็นตึกสูงเรียวซึ่งเป็นที่ตั้งของ Lower Peak Tram Terminal ด้านล่างของตึกจะเขียนด้วยตัวหนังสือสีขาวบนแถบสีน้ำเงินว่า Private Banking



    เมื่อสุดเส้นทางสะพานลอย เดินลงมาฟุตบาท หันไปทางขวามือจะเจอโบสถ์คริสต์อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน เดินมาอีกนิดแล้วข้ามถนนด้วยสะพานลอยอีกครั้ง ก็ถึงแล้วครับ



    เห็นคนต่อแถวที่ Lower Peak Tram Terminal แล้วตกใจมากครับ ทำไมคนถึงเยอะอย่างนี้ ทั้งที่วันนี้เป็นวันพฤหัส ผมจึงตัดสินใจจ่ายค่ารถรางโดยการรูดบัตร Octopus แทนการต่อคิดซื้อตั๋วจาก Counter เพื่อลดเวลารอคิวให้น้อยลง (แต่ก็ไม่ได้ใช้ส่วนลด 10% ที่ได้มาจาก Tourist Day Pass หรือ Airport Express Travel Pass) แต่ถึงกระนั้นก็ยังรอคิวชั่วโมงกว่า ใครจะมาช่วงเย็นๆ แบบนี้ เผื่อเวลาไว้บางนะครับ ช่วงเวลาที่คิวน้อยคือหลังสามทุ่มเป็นต้นไปครับ (เท่าที่ผมเห็นตอนผมลงมา) The Peak และรถราง Peak Tram เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนครับ
  • ดูวิธีการซื้อตั๋ว Peak Tram และ Sky Terrace ราคาถูก คลิ๊กที่นี่ แล้วดูในหัวข้อ “ซื้อตั๋วราคาถูก”



    ถึงสถานีด้านบนก็เดินขึ้นไปชั้นบนสุด รูดบัตร Octopus อีกครั้งเพื่อขึ้นไปที่ Sky Terrace ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงที่สุดของ The Peak ภาพที่เห็นคือคนมหาศาลเลยครับ ไม่มีแม้ที่จะเข้าไปเกาะราวถ่ายรูปกับวิวสวยๆ คราวที่แล้วมาถึงตอนห้าโมงเย็นวันเสาร์เดือนเมษายังถ่ายรูปสบายๆ อยู่เลย



    ด้วยความอดทนก็รอจนกว่าจะได้ราวเกาะชมวิว ก็เลยได้ถ่ายวิวสวยๆ อย่างที่เห็น



    ตอนนี้ด้านล่างมี Symphony of Life ก็เห็นไฟกระพริบๆ แต่ไม่มีเสียงเพลง เลยไม่สนุกตื่นเต้นเท่าไรนัก



    ช่วงที่ผมไป มีมุมให้เขียนข้อความให้คนรักแล้วเอาไปห้อยไว้ที่หัวใจรูปใหญ่ซึ่งตรงกลางหัวใจเขียนไว้ว่า “Say I love you at The Peak”



    ขากลับเดินผ่านชั้นสองของตึกซึ่งมีตั๋วดิสนีย์ขาย ถ้าซื้อ 2 ใบจะแถมร่มให้ฟรี 1 คัน (หมดเขต Oct 11) แต่ไม่สามารถใช้ส่วนลดที่ได้จาก Tourist Day Pass หรือ AE Travel Pass ได้ ถ้าจะใช้ส่วนลดต้องไปซื้อหน้าประตูทางเข้าดิสนีย์ครับ

    ลงต่อแถวขึ้นรถรางกลับไปด้านล่างก็เจอคนมหาศาลอีกแล้วครับ เลยไปหาอะไรกินแถวนั้นก่อนเพื่อให้คนน้อยกว่านี้ มื้อนี้เลยฝากท้องไว้ที่นี่ ซึ่งผมคิดว่าเป็นอาหารที่ถูกที่สุดในฮ่องกงแล้ว ถูกกว่าอาหารข้างทางอีก (แต่มาเมืองไทยกลับเป็นอาหารที่แพงไปได้)



    เดินกลับมาคิวก็ยังเยอะอยู่ดี ครั้นขึ้นรถเมล์สาย 15 ลงไปด้านล่างก็เกรงว่าสิ่งที่กินไปเมื่อครู่จะออกมาก่อนเวลาอันควร



    รอคิวประมาณครึ่งชั่วโมง รถรางของผมก็มาเทียบท่า



    เมื่อลงถึงด้านล่างจึงรอรถเมล์สาย 15C เพื่อเดินทางไปยัง Pier 7 วันนี้โชคดีครับ ได้ขึ้น 15C ชมเมืองฮ่องกงยามค่ำคืน ซึ่งปกติแล้วไม่ใช่ 15C ทุกคันที่เปิดประทุน (ใช้บัตร Octopus ในการจ่ายเงินค่ารถเมล์)



    บรรยากาศบนรถเมล์ 15C เปิดประทุน ผู้คนต่างตื่นเต้นถ่ายรูปกันยกใหญ่



    ผ่านตึกน้อยใหญ่



    และตึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกง Bank of China Tower



    ถึง Pier 7 ก็รูดบัตร Octopus นั่นเรือ Star Ferry เที่ยวสี่ทุ่มข้ามจากฝั่งฮ่องกงมายังฝั่งเกาลูน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรือเที่ยวสุดท้าย ด้านล่างคือวิวบนเรือ Star Ferry



    เดินเล่นที่ Avenue of Star ที่ฝั่งเกาลูนก่อนกลับเช้าที่พัก คราวนี้ตั้งใจจะหาฝ่ามือเฉินหลงให้เจอ เดินไปเดินมาเจอเรือสำเภาสีแดง Duk Ling ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโด่งดังของฮ่องกง ถ้าใครอยากนั่งเรือ Duk Ling ก็มีบริการครับ ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ //www.dukling.com.hk/



    เดินมาเกินครึ่งทางก็ยังไม่เจอฝ่ามือเฉินหลงซักที เจอแต่เทพีดวงดาว (ผมตั่งชื่อเอง)



    มาจนสุดทาง Avenue of Star ถึงจะเจอฝ่ามือเฉินหลง เฮ้อหลอกให้เดินซะทั่วเลย วันนี้เจอฝ่ามือเฉินหลง สมใจ นอนหลับฝันดีแล้วครับ






    เวลาจริงที่ใช้ท่องเที่ยวฮ่องกงมาเก๊าในวันที่สอง Disneyland, Shopping @ Mong Kok (Fri 27 May 2011)

    8:30 – 8:57 (27นาที) เดินจากโรงแรมไป MTR Hung Hom นั่งกิน Mc ที่สถานี และไปรอขึ้น MTR
    8:57 – 9:32 (35นาที) นั่ง MTR ไป MTR Disneyland Resort
    9:32 – 9:41 (9นาที) เดินเข้า Disneyland แวะถ่ายรูปแบบชิลๆ (7นาที) ชื้อตั๋วแบบไม่มีคิวเลยแม้แต่คนเดียว (2นาที)
    9:41 – 9:53 (12นาที) ถ่ายรูปตรงน้ำพุหน้าทางเข้า
    9:53 – 10:00 (12นาที) เดินไปรอที่ประตูทางเข้า เป็นวันที่คนน้อยไม่เยอะเหมือนเสาร์อาทิตย์และช่วง Star Guest
    10:00 – 10:29 (29นาที) เข้าประตูสิบโมงตรง ถ่ายรูปหน้าทางเข้าและเดินดูของตามร้านค้าต่างๆ เนื่องจากพื้นที่ส่วนเครื่องเล่นเปิดให้เข้าตอนสิบโมงครึ่ง
    10:29 – 10:34 (5นาที) หลังจากเข้าส่วนเครื่องเล่นได้ก็รีบวิ่งไปต่อแถวเล่น Autopia (ขับรถตามราง) ที่ Zone Tomorrow Land ซึ่งคราวที่แล้วไม่ได้เล่น
    10:34 – 10:45 (11นาที) ต่อคิว (4นาที)ขับรถ Autopia ราวกับว่าเป็นเด็กอีกครั้ง (7นาที)
    10:45 – 10:57 (12นาที) เดินไปเล่น เล่น Astro Blasters ได้ทันทีโดยไม่มีคิว (8นาที)
    10:57 – 11:12 (14นาที) ต่อคิว (5นาที) เล่น Space Mountain (รถไฟเหาะ) (7 นาที)
    11:12 – 11:23 (11นาที) เดินไป Zone Fantasy Land (5นาที) รอคิว (2นาที) เล่น Mad Hatter Tea Cup (ถ้วยหมุน) (4นาที)
    11:23 – 11:41 (18นาที) เดินไป Small world (4นาที) รอคิวเพราะอยากนั่งหน้าเรือ (ที่จริงไม่มีคิว) (3นาที) นั่งเรือที่ Small world (ชมตุ๊กตานานาชาติ) (11นาที)
    11:41 – 11:51 (10นาที) เดินเล่น ถ่ายรูป
    11:51 – 12:15 (24นาที) เข้าคิว (7นาที) ดู Mickey’s Philhar Magic (หนังสี่มิติ) (17นาที)
    12:15 – 12:23 (8นาที) ดูของที่ระลึก เดินเล่น
    12:23 – 13:18 (55นาที) เข้าคิว (20นาที) ดู The Golden Mickeys (โชว์การแสดงประกอบเพลง) (35นาที)
    13:18 – 13:30 (12นาที) ใช้ Fast Pass เข้าคิว(4นาที) ชม The Many Adventures of Winnie the Pooh (นั่งรถเข้าบ้านหมีพูห์) (5นาที)
    13:30 – 13:40 (10นาที) เดินดูของที่ระลึก
    13:40 – 13:02 (22นาที) ทานอาหารกลางวัน
    14:02 – 14:16 (14นาที) เดินไปถ่ายรูปกับ Minnie Mouse แต่เธอดันหายตัวไป เลยอดถ่าย
    14:16 – 14:36 (20นาที) ซื้อของที่ระลึกที่เล็งๆไว้
    14:36 – 15:08 (32นาที) รอคิว (12นาที) นั่งรถไฟชม Disneyland เต็มรอบ (20นาที)
    15:08 – 15:26 (18นาที) เดินเล่นมาถ่านรูปที่ Sleeping Beauty castle
    15:26 – 16:01 (35นาที) นั่งรอ(19นาที) ดูขบวน Parade ดูขบวน Parade Disney’s Flights of Fantasy (16นาที)
    16:01 – 16:20 (19นาที) รีบวิ่งมาต่อแถวเพื่อ รอคิว(10นาที) เล่น Orbitron (ยานอวกาศหมุนๆ) (5นาที)
    16:20 – 16:35 (15นาที) เดินไปมา ถ่ายรูป ดูโชว์เคาะกระป๋องให้เป็นเพลง
    16:35 – 16:47 (12นาที) ต่อคิว(5นาที) เล่นม้าหมุน Cinderella Carousel (7นาที)
    16:47 – 16:52 (5นาที) เดินชิวๆ ไปถ่ายรูปกับดาราที่ Fantasy Gardens
    16:52 – 17:44 (52 นาที) ต่อคิวถ่ายรูปกับหมีพูห์ Pooh (15นาที) มินนี่ Minnie Mouse (21นาที) ตุ๊กตาหมีของมินนี่ (ไม่ดังเลยไม่มีคิว) (3นาที) กูฟฟี่ Goofy (อันนี้ก็ไม่ดังเลยไม่มีคิว) (2นาที) และมิกกี้ Micky Mouse (11นาที)
    17:44 – 17:57 (13นาที) เดินไปที่ Zone Adventure Land แวะกินวาฟเฟิลฮ่องกงที่ไม่ค่อยอร่อย
    17:57 – 18:12 (15นาที) ต่อคิว (3นาที) ล่องเรือ Jungle River Cruise (ล่องเรือ ส่องสัตว์ เข้าป่า จำลอง) (12นาที)
    18:12 – 18:41 (29นาที) เมื่อย นั่งพักที่ร้านฟาสฟู้ด พร้อมกันกินเบอร์เกอร์รองท้องที่Zone Tomorrow Land
    18:41 – 18:49 (8นาที) เล่น Astro Blasters อีกรอบ (ไม่มีคิว)
    18:49 – 19:25 (36นาที) เลือกซื้อของที่ระลึก
    19:25 – 19:40 (15นาที) ต่อคิว (4นาที) ขับรถ Autopia ในเส้นทางที่ไม่ซ้ำกับเมื่อเช้า (7นาที)
    19:40 – 19:51 (11นาที) เดินไปเล่น Astro Blasters เป็นรอบที่ 3 (ไม่มีคิว)
    19:51 – 19:58 (7นาที) เล่น Astro Blasters เป็นรอบที่ 4 (ไม่มีคิว) เล่นยังไงคะแนนก็น้อยคนข้างๆ ตลอดเลย
    19:58 – 20:05 (7นาที) รีบวิ่งออกไปที่ Sleeping Beauty castle ดู Tinker Bell Castle Illumination (5นาที)
    20:05 – 20:43 (38นาที) รอดูพลุ (25นาที) (ระหว่างรอก็ดูปราสาทเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ) ดูพลุ "Disney in the Stars" Fireworks (13นาที)
    **ตามโปรแกรมข้างต้นยังไม่ได้เล่น Rafts and Tarzan’s Tree House, Dumbo the Flying Elephant, Stitch Encounter และเข้าชม The Lion King
    20:43 – 21:03 (20นาที) เดินออกจาก Disneyland มาที่ MTR
    21:03 – 21:50 (47นาที) นั่ง MTR มาที่ Mong Kok
    21:50 – 22:13 (23นาที) ทานบะหมี่ฮ่องกงแถว Mong Kok
    21:13 – 22:25 (12นาที) ทานลูกชิ้นเนื้อร้านโปรดใต้ตึก Sincere
    22:25 – 23:11 (46นาที) เดิน Shopping แถว Mong Kok

    เนื่องจากไม่ได้เตรียมรีวิวของร้านอาหารย่านนี้ ประกอบกับเกรงว่าจะเสียเวลาหาร้านอาหาร ผมจึงมี 2 ตัวเลือกคือ McDonald และ Maxim’s Express แต่เสียดายที่ตอนเช้าอย่างนี้ Maxim’s Express ไม่ขายข้าวมันไก่ของโปรด และไม่มีอะไรที่เราอยากทาน เลยจำใจกิน McDonald เหมือนเคย



    นั่งรถไฟฟ้าข้ามเกาะทะลุภูเขา



    เพื่อมาขึ้นรถไฟขบวนนี้ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งภายนอก



    และภายในห้องโดยสาร



    และแล้วรถไฟก็จอดที่ชานชาลาสุดคลาสสิก ก่อนเวลาประตูเปิดเกือบครึ่งชั่วโมง




    เดินเล่น ซื้อตั๋วแบบไม่ต้องกลัวเข้าคิว มาทีไรก็ไม่เคยมีคิว ผมเลือกซื้อตั๋วหน้าทางเข้าเนื่องจากต้องการใช้คูปองส่วนลดที่ได้จาก Tourist Day Pass ซึ่งลดไปทั้งหมด 30 HKD + 5 HKD (เมื่อจ่ายด้วย VISA) ซึ่งทำให้ผมซื้อตั๋ว Disneyland ได้ในราคาเพียง 315 HKD หรือประมาณ 1200 บาทเท่านั้น (ตั้งแต่สิงหาคม 2011 เป็นต้นไปราคาตั๋วปรับขึ้นจาก 350 เป็น 399 HKD)
  • ดูวิธีการซื้อตั๋ว Disneyland ราคาถูก และ Promotion คลิ๊กที่นี่ แล้วดูในหัวข้อ “ซื้อตั๋วราคาถูก”



    คิวรอเข้าสวนสนุก ซึ่งถือว่าน้อยมากครับ คราวที่แล้วมาวันเสาร์ในช่วง Star Guest ซึ่งตรงกับปิดเทอมของฮ่องกง คิวยาวมาก แต่ก็สนุกไปอีกแบบ เนื่องจากได้ลุ้นในโปรแกรม Star Guest
  • ดูรีวิวเที่ยว Disneyland ในช่วง Star Guest คลิ๊กที่นี่



    พอเข้าประตูมาได้ เกือบทุกคนก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ ผมก็เช่นกัน



    เมื่อเข้ามาแล้ว ยังต้องรอส่วนที่เป็นเครื่องเล่นเปิดตอนสิบโมงครึ่ง เลยเดินดูตามร้านขายของที่ระลึกไปเรื่อยๆ



    เดินมาเจออยู่ร้านนึง ขายโมเดลที่ทำจากแก้ว สวยมากๆ แต่ก็แพงมากๆ ด้วย ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งตก 5200 บาทเลยทีเดียว



    ดาราใหม่ของที่นี่ครับ Tinker Bell สนนราคาอยู่ที่ 8000 บาท กลางคืนวันนี้เธอจะบินรอบปราสาทให้ผมดูครับ



    ตัวละครสุดคลาสสิกของ Disney, Snow White



    หลังจากบริเวณเครื่องเล่นเปิดให้เขา ผมก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อไปขับรถ Autopia



    ที่จริงแล้วก็เป็นเครื่องเล่นแบบเด็กๆ ขับรถตามราง ถ้าขับออกนอกเส้นทาง รางก็จะดึกตัวรถกลับมาเอง ความสนุกของมันอยู่ที่ได้ขับรถโดยไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไร บางคนก็ได้รอดอุโมงค์ บ้างก็ขึ้นภูเขา บ้างก็ขึ้นสะพาน เนื่องจากมีเส้นทางให้เลือก 3 เส้นทาง



    ขับด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตลอดเวลา !!



    เส้นทางที่ผมได้คราวนี้คือเข้าป่าและขึ้นเขา



    หลังจากขับรถ Autopia สมใจอยากแล้ว เดินออกมาอีกนิดเพื่อเข้าไปยิงปืนแข่งกันใน Astro Blasters ซึ่งเครื่องเล่นนี้ปกติคิวน้อยอยู่แล้วเนื่องจากสามารถเล่นได้หลายๆ คนพร้อมกัน แต่วันนี้ไม่ต้องต่อคิวเลยแม้แต่คนเดียว



    บรรยากาศภายในสนามยิงปืนซึ่งจะมีที่นั่งเลื่อนไปเรื่อยๆ จนออก ระหว่างนั้นก็ต้องยิงให้โดนเป้ามากที่สุด และคะแนนจะขึ้นเรื่อยๆ



    วันนี้ผมเล่น Astro Blasters ถึงสี่รอบ โดยสองรอบแรกผมอยู่ทางซ้ายมือ แฟนผมอยู่ทางขวามือ คะแนนออกมาแบบนี้ครับ



    รอบที่สามและสี่ ผมขอแฟนผมเปลี่ยนฝั่งไปนั่งฝั่งขวามือ เนื่องจากคิดว่าอีกฝั่งคงยิงได้ดีกว่า คะแนนก็ออกมาแบบนี้ครับ สรุปว่าเกมนี้อยู่ที่คนยิงครับ แพ้แฟนตัวเองทั้งสี่รอบเลยครับ



    หลังจากนั้นรอคิวเล็กน้อยเพื่อเข้าไปนั่งรถไฟเกาะ Space Mountain



    มันคือรถไฟเหาะ (แต่ไม่ตีลังกา) ในความมืด เหมือนเรานั่งยานอวกาศอยู่เลย สนุกและหวาดเสียวดีเนื่องจากมองไม่เห็นว่าข้างหน้าทางเป็นอย่างไร



    ระหว่างสนุกและหวาดเสียวนั้น มีการแอบถ่ายรูปไว้โชว์ว่า พอเวลาคุณเสียว หน้าตาคุณเป็นอย่างไร ฝรั่งเสื้อเขียวด้านหลังแสดงอาการเสียวได้ตลกมาก



    หลังจากนั้นเดินไป Zone Fantasy Land นั่งถ้วยหมุน Mad Hatter Tea Cup ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เหมือนผมก็เคยเล่นถ้วยหมุนๆ แบบนี้ที่เมืองไทย



    เดินต่ออีกนิดในโซนเดียวกันไปนั่งเรือชมตุ๊กตาน่ารักๆ ใน Small world อันที่จริงไม่ต้องรอคิว แต่อยากนั่งหน้าเรือและเป็นส่วนตัว เลยเสียเวลารอเรือเล็กน้อย



    ราวกับว่าได้เที่ยวรอบโลก มีทั้งีอียิปต์



    ชนเผาอินเดียแดงในอเมริกา



    ทัชมาฮาลในอินเดีย



    และเมืองฮ่องกง



    ถ่ายรูปสวนหน้า Small World เล็กน้อยก็เดินไปต่อแถวดูหนังสี่มิติ Mickey’s Philhar Magic



    ใส่แว่นตาสำหรับดูหนัง และใช้เวลาดูประมาณ 20 นาที ที่ว่าสี่มิติคือ คนดูโดนน้ำกระเด็นใส่ โดนลมเป่า แบบเดียวกับที่โดนัลด์ ดั๊ก โดนในเรื่องนั่นเอง

    มา Hong Kong Disneyland คราวที่แล้วผมก็มีโอกาสได้ดูหนังสี่มิตินี้เช่นกัน แต่คราวนี้เนื้อเรื่องบางส่วนเปลี่ยนไปเนื่องจาก Hong Kong Disneyland พึ่งมีดาราใหม่ นั่นคือ Tinker Bell นั่นเอง



    หลังจากนั้นรีบเดินไปต่อแถวเพื่อดูโชว์การแสดงประกอบเพลง The Golden Mickeys



    อีกตั้ง 20 นาทีการแสดงถึงจะเริ่ม แต่ผู้คนก็มาต่อแถวกันยาวอย่างที่เห็น



    เมื่อเวลาผ่านไป แถวด้านหลังผมยาวสุดลูกหูลูกตา



    มีทั้งการแสดงโชว์ของครอบครัวโดนัลดักและ Goofy



    Toy Story ก็มา



    Stitch โต้คลื่น



    Beauty and The Beast



    อสูรกลายร่างเป็นเจ้าชาย



    และโชว์อื่นๆ เช่น มู่หลาน ทาร์ซาน



    เดินมาอีกหน่อยในโซนเดียวกันเพื่อใช้ Fast Pass (บัตรสำหรับจองเวลาเล่นเครื่องเล่น สามารถนำบัตรเข้าสวนสนุก ไปรูดเพื่อจองเวลาเล่นได้ แต่มีเครื่องเล่นไม่กี่เครื่องที่มี Fast Pass) เข้าคิว นั่งรถเข้าบ้านหมีพูห์ใน The Many Adventures of Winnie the Pooh



    ทำให้คุณรู้จักหมีพูห์และผองเพื่อนมากขึ้น



    ได้เวลาอาหารกลางวันในยามบ่าย มือนี้ฝากท้องไว้กับบะหมี่หมูและบะหมี่เนื้อตุ๋นที่สวนอาหารข้างบ้านหมีพูห์ รสชาติอร่อยดี ราคาก็ชามละ 70 HKD แพงตามประสาอาหารในสวนสนุก



    เดินไปต่อแถวถ่ายรูปกับ Minnie Mouse แต่จู่ๆ ก็ได้เวลาพักของเธอ เลยออกจากแถวเพราะนึกว่าเธอพักนาน ที่ไหนได้ อีกเพียงแค่ 3 นาทีเธอก็ออกมาให้ถ่ายรูปเหมือนเดิม ขี้เกียจต่อแถวใหม่เลยไปรอขึ้นรถไฟชม Disneyland ดีกว่า รอซักพักรถไฟก็มา



    ขึ้นรถไฟมาถึงสถานีหน้าประตูทางเข้า (รถไฟมีแค่ 2 สถานีคือ หน้าประตูทางเข้าและ Zone Fantasy Land) แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ลงจากขบวน เพราะเกือบทุกคนอยากนั่งรถไฟให้ครบรอบ



    หลังจากได้นั่งรถไฟครบรอบสมใจ ก็ได้เวลารอดูขบวน Parade Disney’s Flights of Fantasy เริ่มต้นจาก... รถขายน้ำ นำหน้าขบวนเลยครับ ที่จริงก็เตรียมตัวมาดีโดยการนำน้ำขวดใหญ่ใส่กระเป๋ามาดื่มกันแล้ว แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงต้องเสียเงิน 20 HKD ซื้อน้ำที่ Disneyland อยู่ดี



    ตามมาด้วยช้าง Dumbo มาโชว์ว่า Hong Kong Disneyland ครบ 5 ขวบแล้วนะ มุมที่ผมดูไม่ค่อยดีเท่าไรเนื่องจากได้เห็นแค่ข้างๆ ขบวน



    และเหล่าเพื่อนพ้อง Mickey Mouse



    Winnie the Pooh ซึ่งคราวที่แล้วที่ผมมา Pooh และเพื่อนไม่ได้ออกมาโชว์ตัว



    Lion King



    ดาราคนใหม่ของ Hong Kong Disneyland, Tinker Bell



    Stitch



    หลังจากชมพาเหรดเสร็จก็รีบวิ่งมาที่ Zone Tomorrow Land เพื่อต่อแถวเล่นขับยานอวกาศ Orbitron ซึ่งไม่เคยเล่นมาก่อน แต่พอเล่นแล้วก็รู้สึกว่าแบบนี้เมืองไทยก็มี



    ถือซะว่าขึ้นมาถ่ายรูปมุมสูง



    เดินผ่าน สวนน้ำ (สวนที่มีน้ำฉีดออกมา) เด็กๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน



    ฟังเพลงที่บรรเลงจากถังและกระป๋อง



    เล่นม้าหมุน Cinderella Carousel ปีที่แล้วก็เล่น ปีนี้มาก็ยังไม่เบื่อ ทำเป็นเด็กไปได้



    ต่อคิวถ่ายรูปกับดาราดังของ Disney โดยเฉพาะ Pooh หนึ่งในดวงใจผมเลย



    เดินไปที่ Zone Adventure Land เพื่อนั่งเรือ Jungle River Cruise ราวกับว่าไปผจญภัยในป่าแอฟริกา มีทั้งช้าง เสือ จระเข้ คนป่า ซึ่งเป็นของปลอมแต่สามารถหลอกเด็กหลายคนว่ามันคือของจริงได้



    ตอนสุดท้ายของการล่องเรือ จบด้วยภูเขาไฟระเบิด



    เดินเที่ยวเล่นทั้งวัน ขอนั่งพักซักหน่อยที่ร้านฟาสฟู้ด Zone Tomorrow Land อาหารขยะยังคงเป็นอาหารที่ถูกที่สุดในฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน รวมทั้งที่นี่ด้วยซึ่งแฮมเบอร์เกอร์ถูกกว่าบะหมี่



    เลือกซื้อของที่ระลึกในร้านอยู่พักใหญ่ เนื่องจากเจอของถูกใจราคาไม่แพงนัก เป็นตุ๊กตาต่างๆ อยู่ในแคปซูล ลูกละ 16 HKD



    รอเวลาดูพลุโดยการ ขับรถ Autopia อีกรอบเพราะอยากขับไปอีกเส้นทางที่รอดใต้ภูเขา และแข่งยิงปืนกันอีก 3 รอบใน Astro Blasters



    ใกล้สองทุ่มแล้ว จึงรีบวิ่งออกไปที่ Sleeping Beauty castle เพื่อดู การแสดงแสงสีเสียง Tinker Bell Castle Illumination คนมารอกันดูกันเยอะมาก



    ภาพที่เห็นราวกับว่า Tinker Bell บินอยู่รอบปราสาท Sleeping Beauty castle การแสดงนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที



    ระหว่างรอดูพลุตอนสองทุ่มครึ่ง ก็ดู Sleeping Beauty castle เปลี่ยนสีไปพลางๆ





    พลุมาแล้วครับ จุดอยู่ประมาณสิบห้านาที ของจริงสวยมาก แต่ถ่ายภาพออกมาไม่สวยเลย



    กลับมาหาอะไรทานแถว Mong Kok แวะร้านราเมนแชงการีล่า สั่งแค่ชามเดียวก่อนครับ เพราะคราวที่แล้วสั่งคนละชามแล้วทานไม่หมด เป็นราเมนที่ต้องเลือกเครื่องเอง ก็ชี้ๆ เอาครับว่าจะใส่อะไรบ้าง อร่อยดีครับ ราคาประมาณชามละ 30 HKD

    ดูดดูรวบรวมรีวิวร้านอาหาร ในฮ่องกง มาเก๊า พร้อมแผนที่ คลิ๊กที่นี่ครับ



    น้ำเตาหู้ขวดนี้อร่อยดีครับ ผมชอบ มีขายตาม 7-11 ทั่วไป ตลอดทริปนี้ ซื้อดืมอีกหลายขวดทีเดียว



    มาย่าน Mong Kok ทั้งที ต้องไม่ลืมแวะชิมลูกชิ้นเนื้อใต้ตึก Sincere ร้านนี้ครับ เนื้อแน่นน้ำจิ้มอร่อยได้ใจจริงๆ สนนราคาไม้ละ 13 HKD



    หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาช๊อปปิ้งตอนห้าทุ่ม ร้านส่วนใหญ่จะปิดประมาณเที่ยงคืน



    ได้กระเป๋าคิตตี้, ฟองน้ำ และ Bioderma เช็ดเครื่องสำอาง สำหรับใช้ทั้งปี



    วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยสุดๆ เที่ยวตั้งแต่เช้ายันมืดเลยครับ แต่ก็สนุกสุดๆ เหมือนกัน
  • ดูตอนต่อไป Snoopy’s World, Shopping @ Causeway Bay, Dining @ Jordan, Go to Macau, City of Dream คลิ๊กที่นี่





    Create Date : 14 สิงหาคม 2554
    Last Update : 1 กันยายน 2554 21:50:07 น. 22 comments
    Counter : 23066 Pageviews.

  •  
    สวัสดีค่ะ
    พอดีช่วงเดือนพ.ย.นี้ มีแพลนพาครอบครัวไปเที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน โดยวันแรกไปถึงฮ่องกงประมาณ 2 ทุ่ม และวันกลับต้องขึ้นเครื่องตอน 10 โมง
    อยากให้ช่วยแนะนำโปรแกรมและการเดินทางในฮ่องกงค่ะ เพราะเป็นทริปต่างประเทศครั้งแรกของครอบครัว และพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่งค่ะ ที่ๆอยากไปมากๆคือ ดิสนีย์แลนด์ กับไหว้พระขอพรเทพเจ้าโชคลาภค่ะ
    รบกวนด้วยนะค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ


    โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.163 วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:17:19:49 น.  

     
    3 วัน 2 คืนแบบนี้เหมือนได้เที่ยวแค่วันเดียวเองนะครับ ถ้ายังไม่จองอะไร แนะนำให้หาเวลาใหม่ครับ เอาแบบไปเ้ช้ากลับดึก หรือไม่ก็เป็น 4 วัน 3 คืน

    ถึงฮ่องกงสองทุ่ม วันแรกก็คงเดินเล่นแถวโรงแรม ไม่แน่ใจว่าพักโรงแรมอะไรครับ

    วันที่สองตอนเช้าไปวัดหวังต้าซินกับวัดนางชีก็ได้ครับ แล้วค่อยไป Disneyland อยู่จนดูพลุตอนสองทุ่มแล้วก็กลับโรงแรม ลองดูวิธีไปวัดทั้งสองด้านล่างครับ
    https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=poohphawaree&date=01-07-2010&group=24&gblog=3

    วันที่สามก็คงไม่ได้ทำอะไร เตรียมตัวกลับบ้านครับ


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:23:01:39 น.  

     
    ขอบคุณมากค่ะ
    เรื่องวันคงไม่สามารถเปลี่ยนได้แล้วค่ะ จองแอร์เอเชียตอน 0 บาท ได้แค่ช่วงนี้อะค่ะ โรงแรมยังไม่ได้จองเลยค่ะ แต่ที่ดูไว้ก็ขอให้ใกล้สนามบินมากที่สุดค่ะ
    เพราะวันกลับเช้ามากค่ะ แล้วไม่เคยเที่ยวต่างประเทศแบบครอบครัวด้วยค่ะ จุดประสงค์ก็คืออยากพาลูกๆไปดิสนีย์แลนด์ กับไปไหว้พระขอพรเทพเจ้าโชคลาภอยู่ติดทะเล แต่ไม่รู้จักชื่อว่าอะไรค่ะ (เคยไปแล้วกลับมารู้สึกการเงินดีมากๆค่ะ) กลัวเรื่องการเดินทางค่ะ ไม่ทราบว่าที่ฮ่องกงจะมีรถเช่าพร้อมคนขับไหมค่ะ


    โดย: nonglex IP: 124.120.249.130 วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:17:43:52 น.  

     
    อืม ถ้าไปเจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay นี่อาจจะเสียเวลานิดนึงเพราะต้องเดินทางด้วยรถเมล์ แต่ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องค่าเดินทาง ก็ไปแท็กซี่ได้ครับ

    เปลี่ยนโปรแกรมให้ใหม่ครับ วันที่สอง เช้าไป Repluse Bay บ่ายไป Disneyland

    ส่วนเรื่องโรงแรม ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องราคา ก็อยู่ Disneyland Resort เลยก็ได้ครับ เพราะ Disneyland ใกล้สนามบิน


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:21:51:26 น.  

     
    ขอบคุณค่ะ
    ถ้าพักที่ดิสนีย์รีสอร์ท ห่างจากสนามบินไม่มาก แล้วช่วงเย็นหาอาหารทานง่ายหรือเปล่าค่ะ
    ที่ดูไว้ก็มี โนโวเทล ซิตี้เกจ ค่ะ แต่รู้สึกหองพักจะเต็มแล้ว
    ดิสนีย์รีสอร์ทห้องพักพร้อมบัตรเข้าสวนสนุกด้วยใช่ไหมค่ะ


    โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.167 วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:13:17:16 น.  

     
    ก็คงต้องทานในรีสอร์ทอย่างเดียวเลยครับ เพราะแถวรีสอร์ทนี่มีแต่ป่าและทะเล

    ถ้าต้องการหาอะไรทานง่ายด้วย อยู่ตัวเมืองก็ได้นะครับ วันสุดท้ายก็ตื่นเช้าหน่อย ทันบินแน่นอนครับ


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:22:22:35 น.  

     
    ถ้าตัวเมืองพอจะแนะนำโรงแรมได้ไหมค่ะ มีเด็ก 2 คนด้วย กลัวลูกจะกินอะไรไม่ค่อยได้
    แล้วรถจะติดหรือเปล่าค่ะ

    ขอบคุณมากๆค่ะ


    โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.166 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:9:54:34 น.  

     
    ระดับราคาประมาณไหนครับ?

    ลองเข้าไปดูรวบรวมรีวิวโรงแรมด้านล่างนะครับ
    https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=poohphawaree&month=16-06-2010&group=24&gblog=8


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:18:05:22 น.  

     
    คิดว่าจะพักในตัวเมืองแล้วค่ะ เพราะต้องเอาอาหารเป็นหลัก อยากทราบว่าเมืองไหนเดินทางสะดวกที่สุดค่ะ ถ้าจะกลับสนามบิน ช่วยบอกวิธีการขึ้นรถให้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ


    โดย: nonglex IP: 161.246.39.14, 161.246.254.163 วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:11:35:06 น.  

     
    เมืองไหน? ย่าน Tsim Sha Tsui น่าจะ ok ที่สุด ส่วนการขึ้นรถกลับสนามบินก็นั่ง Airport Express ต่อเดียวถึงสนามบินเลยครับ โดยที่ Airport Express จะมีรถ Shuttle bus คอยรับตามโรงแรมต่างๆ ด้วยครับ


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:22:32:53 น.  

     
    Mickey’s Philhar Magic นี่เนื้อเรื่องเปลี่ยนไปจากของเก่าเยอะไหมคะ


    โดย: mumuu IP: 223.207.19.194 วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:15:10:21 น.  

     
    เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เหมือนเดิมครับ มีเนื้อเรื่องของ Tinker Bell เพิ่มขึ้นไม่เยอะ


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:19:49:38 น.  

     
    อยากจะไปมั้ง


    โดย: โคราชดง วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:12:13:23 น.  

     
    อยากทราบว่าพักย่านไหน แหล่งช้อบปิ้งถูกๆเยอะคะ ^_^


    โดย: Rain IP: 110.169.207.127 วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:15:03:59 น.  

     
    ตอบคำถามคุณ Rain ไม่ถูกเลยแฮะ ก็น่าจะทุกย่านที่อยู่ในตัวเมืองแหละครับ Tsim Sha Tsui, Yau Ma Tei, Jordan, Mong Kok, Wan Chai, Causeway Bay


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:23:37:02 น.  

     
    อยากจะลองไปเที่ยงฮ่องกงดูบ้าง ไม่เคยไปเลยค่ะ คุณ Pooh คิดว่า การไปครั้งแรกซื้อเป็น Package หรือว่า ลุยเองเลยดีค่ะ แต่ใจอยากจะลุยเองเลยค่ะ ส่วน disney land พอเสียค่าบัตรเข้าไปแล้ว ไปข้างในต้องเสียค่ะเล่นอีกมั้ยค่ะ ขอบคุณมากคะ


    โดย: giftsy IP: 58.181.130.170 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:09:16 น.  

     
    คิดว่าจะไป 5 วัน 4 คืน นี่ กำลังดีมั้ยค่ะ


    โดย: giftsy IP: 58.181.130.170 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:10:30 น.  

     
    ซื้อ Package กับลุยเองไม่ต่างกันเท่าไรนะครับ เพราะ Package ก็ได้แค่รถรับส่งโรงแรมเพิ่ม ที่เหลือก็เที่ยวเองอยู่ดี ถ้าหาตั๋วถูกๆ ได้ก็แนะนำให้ไปเองดีกว่า เพราะประหยัดกว่าแน่นอน

    Disneyland เสียค่าบัตรแล้วไม่ต้องเสียค่าอะไรเพิ่มแล้วครับ ดูโชว์ เล่นเครื่องเล่น กี่รอบก็ได้ แต่จากประสบการณ์ไม่เคยเล่นเครื่องเล่นและดูโชว์ต่างๆ ครบภายในวันเดีัยว อาจจะต้องเลือกที่อยากดู อยากเล่นน่ะครับ

    ไป 5 วัน 4 คืนกำลังดีเลยครับ


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:24:07 น.  

     
    สวัสดีค่ะ ขอคำแนะนำหน่อยนะค่ะ จะเดินทางเดือน ตค ค่ะ เดินทางด้วยตัวเองครั้งแรกนะค่ะ ภาษาอังกฤษไม่เก่งสามารถจะเดินทางด้วยตัวเองจะรำบากในการสื่อสารไหมค่ะ ช่วยแนะนำโปรแกรมเที่ยวฮ่องกงและที่พัก(ย่านช็อปปิ้งค่ะ)ให้หน่อยค่ะ จะเดินทาง 26 ตค 2ทุ่มกลับ 31 ตอนเช้า 10โมงค่ะ ขอบคุณนะค่ะ


    โดย: minnie IP: 171.4.135.239 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:55:54 น.  

     
    ภาษาอังกฤษไม่เก่ง ไม่ลำบากหรอกครับ พกแผนที่และรูปใส่มือถือไปเยอะๆ อันที่คนฮ่องกงก็ไม่ได้พูดอังกฤษได้ทุกคนครับ ผมเข้าร้านข้าวยังต้องชี้รูปอยู่เลย

    ไปนานจัง อิจฉาๆ ถ้าอยากได้ที่พักย่านช๊อปปิ้งก็ JJ Hotel เลยครับ ถูกและดี แต่มักจะไม่ค่อยว่าง ต้องรีบจอง จองที่ Booking.com จองแล้วยกเลิกได้ ไม่เสียตังครับ ส่วนที่อื่นลองดูตามนี้เลยครับ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=poohphawaree&group=24&month=20-06-2011&gblog=15

    ส่วนโปรแกรมก็ตามนี้เลยครับ
    www.bloggang.com/viewblog.php?id=poohphawaree&date=14-08-2011&group=24&gblog=16

    ปล พฤษภานี้ผมก็ไปพักที่ JJ Hotel ขอโทษที่ตอบช้าไปหน่อยนะครับ พึ่งกลับจากฮ่องกง


    โดย: Pooh (ภูผาวารี ) วันที่: 2 มีนาคม 2555 เวลา:21:24:53 น.  

     
    คือจะไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนๆ ครั้งแรกเลยที่จะไปเที่ยวต่างประเทศกันเอง
    ควรจองที่พักใกล้ mrt ป้ายรถเมล์ ประมาณนี้ป่ะคะ อยากเน้นสะดวกเดินทาง ใกล้ที่ท่องเที่ยว ไปกลับสนามบินง่าย ราคาไม่แพงมาก (เยอะ 5555)
    กะข้ามไปเที่ยวมาเก๊าเช้าไป เย็นกลับ ดีไหมคะ คาดว่าไป 5วัน 4คืนอะค่ะ
    รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เดินทางกุมภาค่ะ


    โดย: skr IP: 171.100.40.147 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:19:48:12 น.  

     
    คือจะไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนๆ ครั้งแรกเลยที่จะไปเที่ยวต่างประเทศกันเอง
    ควรจองที่พักใกล้ mrt ป้ายรถเมล์ ประมาณนี้ป่ะคะ อยากเน้นสะดวกเดินทาง ใกล้ที่ท่องเที่ยว ไปกลับสนามบินง่าย ราคาไม่แพงมาก (เยอะ 5555)
    กะข้ามไปเที่ยวมาเก๊าเช้าไป เย็นกลับ ดีไหมคะ คาดว่าไป 5วัน 4คืนอะค่ะ
    รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ เดินทางกุมภาค่ะ


    โดย: skr IP: 171.100.40.147 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:19:48:12 น.  

    ชื่อ :
    Comment :
      *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
     
     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.