Group Blog
 
All blogs
 
ปลาระเบิดคันหู : เรทรอคูลัส ปลาหมอน้ำเชี่ยว

สวัสดีครับ มาตอนนี้หาเรื่องอีกแล้ว
เนื่องจากเกิดไปสัญยง-สัญญากับพี่แขก (Login // Khaek แห่งเว็ป ninekaow.com ห้องปลาหมอสายแท้)
ว่าจะทำกระทู้ เพราะเห็นแก่ของกินที่พี่แขกอุตสาห์จะหิ้วมาให้

คนเราก็แบบนี้ครับ เห็นของอร่อยเป็นต้องพุ่งใส่

แต่จะกินฟรีมันก็กระไรอยู่ พ่อแม่สอนมาดีก็แบบเนี๊ย...
กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบแทนขนมที่พี่แขกเอามาให้ครับ
ใครสนใจอยากกินขนมเปี๊ยะอร่อยๆ ติดต่อพี่แขกได้ ที่บ้านพี่เขาทำไส้
อร่อยจริงๆ ให้ดิ้นตาย...




มาว่ากันเรื่องปลาดีกว่า ตอนนี้ขอนำเสนอปลาหมอชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายปลาหมอสกุล Geophagus , Satanoperca
และถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Eartheater ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

ปลาตัวที่ว่านี้อยู่ในสกุล Retroculus หลายท่านอาจยังไม่คุ้นชินนัก
แต่ถ้าสนใจโปรดอ่านต่อครับ





สำหรับท่านที่สนใจปลากลุ่มนี้คงจะเคยผ่านหูผ่านตาบ้างนะครับ

เพราะมีหลายๆ ท่านโพสรูปยั่วจนน้ำลายหกแหมะหน้าจอ ทำให้บรรดาเพื่อร่วมงานหรือคุณเมียทั้งหลาย

คิดว่าท่านกำลังดูคลิปเพลงคันหูอยู่ก็เป็นได้

เนื่องด้วยรูปกายภายนอกที่สวยแบบเถื่อนๆนี่เอง ที่เราท่านต่างสนใจ
แต่สนใจไปก็เท่านั้นครับ เพราะยังไม่มีผู้ค้าท่านใด กล้าเอาเข้ามาขาย

คนเลี้ยงอย่างเราก็ได้แต่ฝันเปียก เอ๊ย ! ฝันหวานว่าคงมีสักวันที่ได้ปลาสกุลนี้มาครอบครอง



สกุล Retroculus นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศบราซิล
พบได้ในแม่น้ำสาขาต่างๆของแม่น้ำอเมซอน เช่น Amapá , French Guiana , Xingu , Tapajó

โดยอาศัยอยู่ในจุดที่มีกระแสน้ำแรงกว่าเพื่อนร่วมกลุ่มชนิดอื่น
แหล่งน้ำที่ว่านี้เปรียบได้กับลำธารบ้านเรา กระแสน้ำแรง ใส สะอาด อุณหภูมิต่ำ
มีอ๊อกซิเจนละลายสูงมาก และมักเป็นแหล่งน้ำที่ไม่ลึกมากนัก มีแก่งหินมากมาย





ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ปลาสกุลนี้มีการปรับตัวจนทำให้ลักษณะภายนอกดูแตกต่างจากเพื่อนในกลุ่ม Eartheater

กล่าวคือ มีลำตัวที่ยาวขึ้น ความกว้างของลำตัวน้อยกว่าเพื่อนรวมกลุ่มทั้งหลาย
เนื่องจากเพื่อลดแรงเสียดทานจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ครีบอกมีขนาดใหญ่ แข็งแรงสำหรับช่วยในการพยุงตัว

ครีบหางมีความกว้างน้อยกว่า เพื่อให้กระแสน้ำไหลผ่านและยังช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวต้านกระแสน้ำได้ดีนั่นเองครับ





ชื่อสกุล Retroculus มาจากคำวิเศษณ์ ในภาษาละติน Retro หมายถึงตำแหน่งข้างหลัง, ด้านหลัง

oculus, เป็นคำนามในภาษาละตินหมายถึง ตา เมื่อเอาสองคำมารวมกัน
จะหมายถึงตำแหน่งดวงตาของปลาอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนไปด้านหลังเมื่อเทียบกับปลาชนิดอื่นๆ

โดยในปลาสกุลนี้มีที่ได้รับการบรรยายตั้งชื่อวิทย์แล้วทั้งสิ้น 3 ชนิด ที่เหลือยังไร้นามอยู่อย่างนั้นต่อไป



โดยชนิดแรกที่จะกล่าวถึงนั่นคือ Retroculus lapidifer (De Castelnau, 1855)

lapidifer มาจากภาษาลาตินสองคำผสมกัน โดยคำว่า Lapi มาจากคำว่า lapidis หมายถึง หิน
Ferre แปลว่าเลื่อนออกไป แปลโดยรวมว่าผู้เคลื่อนย้ายหิน

เหตุที่ได้ชื่อเด็กแนวแบบนี้มาใช้นั้น เพราะนักวิทยาศาสตร์พบเห็นพฤติกรรมการผสมพันธุ์ของปลาชนิดนี้

ว่ามีการเคลื่อนย้ายเศษหินเศษกรวดสร้างเป็นรังเป็นหลุม เมื่อวางไข่เสร็จแล้วแม่ปลาจะนำเอาวัสดุต่างๆ
เช่นก้อนกรวดที่เลือกมาอย่างดี เศษกิ่งไม้ มาสุมบริเวณที่วางไข่







R. lapidifer พบได้ใน Rio Tocatins, Capim & Amazon ในประเทศบราซิล ขนาดเมื่อโตเต็มที่ราว 20.3 ซม.(www.fishbase.org)

ลักษณะโดยทั่วไป // ลำตัวมีสีอมเขียว มีจุดประสีฟ้าและสีแดงตามลำตัว
ครีบหลังมีสีเดียวกับลำตัวหากมองในบางมุมจะมีเหลือบประกาย
ฐานครีบหลังมีสีแดงในปลาโต มีขลิบสีส้มที่ครีบหลัง




ส่วนหางมีสีแดงประกายฟ้าอมเขียวขึ้นที่ด้านบนของครีบหาง ครึ่งล่างเป็นสีเขียว ครีบก้นมีขนาดใหญ่ สามารถพับเก็บได้เพื่อลงจอด
เอ๊ย! เพื่อการยืนด้วยครีบอกอย่างมั่นคง

ส่วนหัวมีลวดลายสีฟ้าพาดผ่านเป็นลายเส้น ดวงตาสีเหลือง ริมฝีปากมีสีเขียวเข้ม
ตรงแผ่นปิดเหงือกสีจุดขึ้นกระจุกอยู่สีสันเหมือนลายเส้นที่บริเวณหน้าครับ







Retroculus septentrionalis Gosse, 1971

septentrionalis มาจำคำว่า septentrio ในภาษาลาตินแปลว่า ภาคเหนือ

ปลาตัวนี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดเลยนะครับ เนื่องจากแทบไม่มีข้อมูล และไม่มีรูปของปลาสภาพดีขนาดใหญ่ ซึ่งแสดงสีสันเต็มที่ออกมาเลย

มีแต่รูปปลาตัวเล็กซึ่งยังแยกอะไรไม่ค่อยจะออก แถมอยู่ในลักษณะตื่นตกใจด้วยซ้ำ ทำให้เกิดลายดำเป็นปื้นๆ เนื่องจากตัวปลามีความเครียด

พบทางตอนเหนือของมวีปอเมริกาใต้ในบราซิล ขนาดโตเต็มที่ราว 19 ซม.







Retroculus xinguensis Gosse, 1971

คงไม่ต้องอธิบายมาก เห็นชื่อก็รู้เลยว่ามาจากแม่น้ำ xingu ในบราซิล แต่ก็ยังพบได้ใน Amazon, Tapajós ด้วยครับ

ลักษณะเหมือนเพื่อนร่วมสกุลแต่ต่างกันที่สีสัน โดยสีพื้นจะออกโทนสว่างกว่าเป็นสีเขียวอมเหลือง

บริเวณครีบต่างๆ จะมีฟ้าอมชมพู แต่เมื่อปลาจับคู่ครีบที่ว่านี้จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมแดง



ลวดลายบริเวณครีบจะไม่เหมือน R. lapidifer ขนาดโตเต็มที่ราว 14.4 ซม.(www.fishbase.org)
แต่ในเว็บอื่นบอกสามารถโตได้ถึง 25 ซม.

R.xinguensis ถือว่าเป็นพระเอกของปลาในสกุลนี้เลยนะครับ
ด้วยสีสันที่สว่างตากว่า เมื่อปลาพร้อมผสมพันธุ์สีสันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก

บริเวณอกจะมีแต้มสีแดงเกิดขึ้น ริมฝีปากมีสีเหลืองอมเขียวนิดๆ ดูน่ารักซะไม่มี



หลังจากที่ทราบข้อมูลคร่าวๆ ของปลาในสกุลนี้ไปบ้างแล้ว ทีนี้มาดูเรื่องการเลี้ยงดูรักษาบ้างนะครับ

ตรงนี้ผมว่าคนเลี้ยงปลาหมอในกลุ่ม Geophagus, Satanoperca

น่าจะไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก เพราะของมันเคยๆกันอยู่
แต่หากวันนึงปลากลุ่มนี้เข้ามาในบ้านเราก็อยากให้ระวังเรื่องของการจัดการตู้หน่อยนะครับ

เพราะจริงๆ แล้วปลาในสกุล Retroculus ก็เลี้ยงไม่เหมือน Eartheater อื่นๆ เสียทีเดียว

เหมือนที่เคยเกิดกับ Satanoperca demon ที่มีคนมาบ่นให้ฟังว่าเอาไปเลี้ยงแล้วร่วงระนาว...

ทั้งๆที่เคยเลี้ยง สุรินัมกับ ทาปาโจสรอดมาแล้วแท้ๆ

รายละเอียดปลีกย่อยเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรศึกษาตรวจสอบครับ ถึงแม้จะเป็นปลาเพาะก็ตาม
แต่การเพาะแค่ไม่กี่รุ่น ก็ไม่อาจทำให้ปลาสามารถพัฒนาตัวเองเพื่อปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปได้

ไม่อย่างนั้นคงมีคนเลี้ยง ฟรอนบุรุนดิในตู้น้ำหมัก เคียงคู่กับปลากะแมะได้ไปแล้วล่ะครับ จริงไม๊...



ทีนี้จะมาว่าเรื่องการเลี้ยงก่อน เรื่องการจัดสภาพแวดล้อมต่างๆ
ซึ่งทางที่ถูกที่ควรเราควรลำลองสภาพแวดล้อมในธรรมชาติมาไว้ในตู้ของเรา

แต่ไม่ต้องขนาดไปสร้างแก่งหินหรือน้ำตกมาวางไว้ในตู้ให้ใหญ่โตเกินไปนะครับ
ขอแค่มีการวางแผนที่ดีโดยเริ่มตั้งแต่ขนาดตู้ปลาก่อนเลย



ปลาในกลุ่มนี้ตู้ที่ควรจัดหามา ไม่ควรเล็กกว่า 36 นิ้ว แต่ทางที่ดีควรเริ่มต้นที่ 48 นิ้วไปเลยจะเยี่ยมมาก

จัดหาชัยภูมิที่อากาศถ่ายทีไม่อบอ้าว เพราะนั่นจะทำให้ปลาอยู่ลำบาก
เนื่องจากอากาศร้อน ออกซิเจนในน้ำจะต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นอย่างแรก

เพราะถ้าหากตู้ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่อับ ร้อน แล้วล่ะก็ ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมาให้แก้ไขกันไม่จบไม่สิ้น



ระบบกรองก็ควรจัดหนัก จัดเต็ม วัสดุกรองจะไม่พูดมากนะครับเนื่องจากผมใช้แต่หิมพัมมิสและปะการังเป็นหลัก

ส่วนสินค้ามียี่ห้อต่างๆ อันนั้นก็แล้วแต่ท่านจะพึงใจซื้อหามาใช้ เพราะถ้าพูดเชียร์อะไรไป จะหาว่าปลาระเบิดไม่เป็นกลาง

จากที่เขียนไว้แล้วว่าปลากลุ่มนี้อยู่ในแหล่งน้ำที่ไหลแรงสักหน่อย

ดังนั้นแรงของปั๊มน้ำจึงควรเลือกให้แรงกว่าเดิมสักหน่อย ปูพื้นด้วยกรวดขนาดเล็กไม่มีคม จัดวางสภาพแวดล้อมให้เปิดพื้นที่โล่งไว้มากๆหน่อย



เพราะเมื่อปลาโตขึ้นจนพร้อมผสมพันธุ์ ปลาจะจับคู่สร้างรังทำหลุมขนาดใหญ่ราวๆ 1-2 หลุม
และตัวปลาเองจะเริ่มก้าวร้าวขึ้น แต่ไม่ถึงกับไล่กัดใครหนักหน่วงนัก
เป็นเพียงแค่การไล่ไปให้พ้นๆ เท่านั้น

เศษวัสดุชิ้นเล็กๆ สามารถจัดหามาโปรยเพื่อให้ปลาได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติให้ท่านได้ชื่นชมกัน



เช่นเศษกิ่งไม้จมน้ำท่านสามารถหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราว 3-4 ซม.
โปรยลงไปในตู้ให้ปลาได้ขุดย้าย หินก้อนใหญ่นั้นก็ควรจะมี ควรเลือกหินที่มีลักษณะหลายแบบ

ทั้งแบน ทั้งกลม ตามสภาพแวดล้อมที่ปลาจากมา

ต้นไม้น้ำนั้นใส่ได้ แต่ผู้เขียนไม่นิยมนัก เพราะขี้เกียจดูแล
ถ้าอยากให้มีก็ลองหาต้นไม้ที่ทนทานสักหน่อยก็ดีครับ

ขอนไม้เลือกชนิดที่ไม่เป็นกิ่งนะครับ เพราะปลาอาจไล่กันจนกิ่งไม้ทิ่มตาได้ เลือกแบบเป็นท่อนๆ วางนอนสุมลงไปดีกว่า



ปั๊มลมเป็นสิ่งที่ควรมีเช่นกันสำหรับการเลี้ยงปลาจากแหล่งน้ำไหลต่างๆ
วางในบริเวณมุมอับของตู้เช่นมุมตู้ นอกจากเพิ่มออกซิเจนแล้ว ยังช่วยให้เศษตะกอนต่างๆ ถูกเป่าขึ้นมาปะทะกันกระแสน้ำจากปั๊ม

ทำให้เศษตะกอนเหล่านั้นถูกพัดปลิวลิ่วละล่องไหลเข้ากรองอย่างสะดวกโยธิน
นอกจากเพิ่มอ๊อกซิเจนแล้วปั๊มลมยังช่วยให้อุณหภูมิต่ำลงด้วยนะครับ

หากยังเย็นไม่พอใจท่านและปลา พัดลมตัวเล็กๆก็น่าสนใจไม่น้อย



เรื่องอาหารการกินนั้นส่วนตัวผู้เขียนอยากให้เน้นหนักไปทางอาหารเม็ดจมน้ำครับ

เพราะสะดวก สะอาด ก่อนให้ก็แช่น้ำก่อนไม่ว่าอาหารเม็ดนั้นจะบรรยายสรรพคุณวิเศษวิโสเพียงใดก็ตาม

เชื่อเหอะ... อาหารเม็ดห่อละหลายร้อยก็ทำปลาท้องอืดตายมาแล้ว!!!







ส่วนเรื่องอาหารสด จากประสบการณ์การทำปลาตายมาเยอะ
แนะนำว่าไรทะเลล้างสะอาด และเนื้อกุ้งสับ ประเสริฐที่สุดแล้ว
ชนิดอื่นผู้เขียนไม่แนะนำ แต่ถ้าอยากให้ก็ไม่มีใครห้าม เชิญตามสบาย



ทีนี้มาว่าเรื่องน้ำ จากที่หามาปลาตัวนี้ชอบน้ำกลางๆ นะครับ
เพราะไม่ได้อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่มีเศษซากพืชทับถมอะไรเลย
(เศษซากพืชโดนน้ำพัดไปแม่น้ำสาขาอื่นหมดแล้ว)

แต่ถึงกระนั้นก็มีช่วงทดสอบความอึดเหมือนกัน คือในฤดูร้อน แหล่งน้ำที่ปลาอาศัยจะแห้งลง
จากลำธารที่ไหลแรงจะกลายเป็นสายน้ำไหลเท่าเยี่ยวแมว ค่า pH กลางๆ

เมื่อหน้าน้ำ จะกลายเป็นค่า pH ต่ำลงในหน้าแล้ง เนื่องจากปลาจะอาศัยอยู่ตามแก่งน้ำตื่นๆ ที่ติดอยู่บนโขดหินบ้าง ริมตลิ่งบ้าง




ตัวไหนโชคดีมีวิชาก็จะสามารถอยู่ในแก่งหินที่มีหลุมขนาดใหญ่พอจะเอาตัวรอดได้
ตัวไหนไม่ขยันเรียนก็ซวยหน่อย เพราะอาจไปติดในร้องหินตื้นๆลึกเพีง 1 นิ้ว

แถมแสงแดดก็แผดเผา จากธรรมดาเคยอยู่สบายๆ 22-26องศา
ก็จะซวยขนาดหนัก ไปนอนดิ้นกระแด่วๆ ในแอ่งน้ำลึกเพียงหนึ่งนิ้ว
แถมอุณหภูมิสูงถึง 35 องศา บ้าจริงเชียว...

ซึ่งพวกปลาป่าที่นำมาขายกันก็จับเอาหน้าแล้งนี่แหละครับ
ดังนั้นปลากลุ่มนี้จึงสามารถปรับตัววอยี่ในอุณหภูมิที่กว้างมาก

แต่เอาเลี้ยงในตู้ ก็อย่าให้เกิน 30 องศาแล้วกัน และอย่าให้อุณหภูมิแกว่งเป็นตาแก่ไม่ใส่ กกน.ล่ะ เดี๋ยวปลาจะป่วยเอาได้อีก



การเปลี่ยนถ่ายน้ำนี่ พูดจนปากจะยานถึงไข่

ไม่มีคลอรีน ไม่ใส่สารเคมีมั่ว ไม่หมักปลาด้วยเกลือ เพราะเราจะเลี้ยงปลาหมอ ไม่ใช่ทำปลาร้า

เปลี่ยนน้ำตามความเหมาะสม ตามจำนวนปลา และเอาเท่าที่ระบบกรองจะรับไหว เรื่องเปลี่ยนน้ำมันไม่มีสูตรตายตัว อย่ายึดติด


เปลี่ยนบ่อยในปริมาณที่พอเหมาะปลาก็อยู่กับเรานาน

เปลี่ยนบ้างไม่เปลี่ยนบ้างก็ป่วยบ้าง ไม่ป่วยบ้าง

ไม่เปลี่ยนเลย ก็ไม่มีปลาเหลือให้เลี้ยง โอเค๊... เข้าใจไม่ยากชิมิ๊





ทีนี้มากล่าวถึงสิ่งที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด และถือว่านี่คือชีวิตของผู้เขียนเลยนั่นคือ เรื่องการผสมพันธุ์
(หมายถึงปลานะ ไม่ใช่ตัวผู้เขียนเอง)

ก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน เลี้ยงไป ดูแลไป เดี๋ยวปลาก็จับคู่กันเองถ้าในตู้มีปลาตัวเมีย แต่มีทริคเล็กๆ ซึ่งทำได้

เมื่อปลาเริ่มมีทีท่าว่าจะจับคู่ก็ให้ใส่ใบหูกวางแห้งลงไปหน่อย

เพื่อให้ค่า pH ต่ำลง ซึ่งจากที่หาข้อมูลมาทางฝรั่งเขาว่าจะช่วยให้ปลาพร้อมผสมพันธุ์กันมากขึ้น

อันนี้ผู้เขียนรู้สึกเฉยๆ เพราะหลังๆ ก็เห็นเพาะปลากลุ่ม Eartheater ในน้ำที่มีค่า pH กลางๆ
วางไข่กันให้ครึก ราคาร่วงระนาวอย่างที่เราท่านเห็นกันอยู่



พ่อปลาแม่ปลาจะเริ่มขุดหลุมทำรัง สร้างเรือนหอ และเริ่มมีพฤติกรรมผีเข้า
นั่นคืออารมณ์ร้ายไล่ชาวบ้านเขาไปทั่ว ถึงตอนนี้แนะนำให้เอามารหัวใจออกไปเลี้ยงที่อื่น

แล้วงดรบกวนปลาทั้งสองซะ อย่าขัดจังหวะ ตับ ตับ ตับ ตับ



แม่ปลาจะวางไข่ทีละประมาณ 10-20 ฟอง จากที่หามาเขาว่าได้ไข่รวมสุทธิที่ 150-200 ฟองเลยทีเดียว ไข่จะฟักเอาเมื่อผ่านไปราว 3-4วัน

7-8 วันให้หลังลูกปลาจะเริ่มว่ายน้ำตามประสาปลาห้าว

ในช่วงนี้สามารถให้อาหารขนาดเล็กเช่นไรทะเลแรกฟัก หรืออาหารผงสำหรับอนุบาลลูกปลาได้แล้วครับ

ส่วนจะปล่อยให้พ่อแม่ปลาเลี้ยงดูต่อ หรือจะให้พ่อแม่บุญธรรม
(คนเลี้ยงนั่นแหละ)เลี้ยงดูนั้น อันนี้ก็แล้วแต่ผู้เลี้ยงท่านจะตัดสินใจ



ในภายภาคหน้าหากมีใครกล้าเอาปลากลุ่มนี้มาขาย
ก็หวังเพียงว่าจะมีผู้สนใจแห่ไปซื้อหามาเลี้ยงดู ให้คนนำเข้ามากำลังใจมากขึ้นหน่อยนะครับ

ผมเชื่อว่าคนไทยสามารถเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ได้สบายมาก
หากมีความตั้งใจ แต่ก็อย่างว่า ณ ตอนนี้ ขอให้มีเข้ามาขายก่อนทีเถิด

อยากเลี้ยงจนจะลงแดงอยู่แล้ว




สวัสดี


Create Date : 15 กรกฎาคม 2554
Last Update : 15 กรกฎาคม 2554 14:49:30 น. 1 comments
Counter : 2826 Pageviews.

 
//www.Sanookbet.com เรามีคาสิโนไว้บริการท่านมากมายเช่น GClub, Royal1688, Ruby888, Holiday-Palace,Genting Crown,Reddragon88,Princess Crown ซึ่งแต่ละคาสิโนออนไลน์
ได้รับความเชื่อถือด้านความซื่อตรง มั่นคงเรื่องระบบ รูปแบบเกมส์เพลิดเพลิน ตื่นเต้น เร้าใจ ทำให้ท่านได้ลุ้นระทึกทุกเกมส์การเล่นเสมือนได้เข้าไปนั่งเล่นจริงที่คาสิโนโดยท่านไม่ต้องเสียเวลา
เดินทางให้เหน็ดเหนื่อย เล่นได้โทรมาขอถอนเงินสดกับเราได้ทันที เรามีทีมงาน Call Center มืออาชีพไว้คอยบริการท่านตลอด 24 ชม.นอกจากนี้แล้วเรายังมีบริการ SportBook ออนไลน์จากหลายค่าย
ยอดนิยมไว้บริการท่าน เช่น SBOBET , IBCBET , STSBET , WINNINGFT
สนใจติดต่อเราที่ 080-7977773-6
www.sanookbet@gmail.com
//www.Sanookbet.com
Sanookbet.com


โดย: Sanookbet.com IP: 202.58.99.182 วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:13:22:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลายเส้นหลังเขา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




กี่โมงกันแล้วหน๋อ..... หลงเข้ามาแล้วอยู่นานๆ หน่อยนะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add ลายเส้นหลังเขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.