เมอลิน ฟอร์เรส สตีล เป็นบุตรสาวคนเดียวของมหาเศรษฐี จาร์ สตีล ซึ่งเห็นว่าลูกสาวอายุ 26 ปีสมควรมีคู่ได้แล้วจึงได้ยัดเยียดแนะนำชายหนุ่มแปลกหน้าให้ กระทั่งรายล่าสุดที่เมอลินจับได้ว่าเข้ามาตีสนิทถึงขนาดหมั้นหมายกันเพราะ ต้องการร่วมลงทุนทางธุรกิจกับบิดาของเธอมากกว่าสนใจตัวเธอ หลังจากถอนหมั้นผู้เป็นพ่อก็ยังไม่วายจะหาคนใหม่มาให้ ด้วยความเบื่อหน่าย เมอลินเลยพนันกับพ่อว่า ในเวลาหนึ่งเดือนเธอจะใช้ชีวิตอยู่แบบคนจนต้องทำมาหากิน เพื่อพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่า ดีกว่าเป็นสาวรวยทรัพย์ที่ผู้ชายเข้ามาเพื่อหวังเงินเท่านั้น จาร์ สตีลเลยติดต่อให้เมอร์ลินไปเป็นผู้ช่วยค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ให้กับไลล่า ทอร์ป นักเขียนนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งตรงกับความรู้ที่เมอลินเรียนจบมา หญิงสาวเข้ากันได้ดีกับนายจ้างและอแมนด้าผู้เป็นหลานย่าของไลล่า คืนแรกที่ไปอยู่เธอนอนไม่หลับเลยลุกขึ้นกลางดึกเพื่อไปชงช็อกโกแลตดื่ม และไปชนเข้ากับคาเมรอน ทอร์ป ลูกชายของไลล่า ที่ดูเหมือนจู่ๆ โผล่มาจากพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต่อมาเมอลินจึงล้อเลียนว่าเขาเป็นนายโรเชสเตอร์ และเธอคือ เจน แอย์ นางเอกของเรื่อง คืนนั้นทั้งคู่ปะทะคารมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร และมีผลทำให้เมอลินเกลียดขี้หน้าเขาตั้งแต่แรกพบ คาเมรอน ทอร์ปเป็นพ่อม่าย แม่ของอแมนด้าตายไปแล้ว เขากำลังหมายตาสาวคนใหม่ที่ได้รับมรดกเป็นกองทุนที่เขาสนใจ เพราะการแต่งงานครั้งแรกที่ผิดพลาด ทำให้เขาตั้งใจว่าครั้งต่อไปจะใช้เหตุผลในการแต่งงานมากกว่าอารมณ์หรือความรู้สึก และเพราะบิดาของเขาสร้างหนี้สินไว้มากมายทำให้คาเมรอนต้องทำงานเพื่อใช้หนี้ด้วย ทำให้เขามองหาเจ้าสาวที่อยู่ในโอวาทและร่ำรวย ทั้งคู่ปะทะคารมกันก็จริงแต่ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้นิสัยใจคอที่แท้จริงกันไปด้วย ในที่สุดคาเมรอนก็ได้คำตอบว่าเขาต้องการแต่งงานกับใครอย่างแท้จริง แต่กลับหาเมอลินเพื่อปรับความเข้าใจไม่เจอ เพราะเธอคิดว่าเขามีอะไรกับเธอเมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนรวย เลยตัดสินใจเลิกทำงานกลับบ้านเร็วกว่ากำหนด จาร์ สตีลเป็นคนติดต่อให้คาเมรอนรู้ความจริงว่าเมอลินเป็นลูกสาวเขาและสนับสนุน ให้คาเมรอนมาง้อขอแต่งงานเพราะเขาเป็นคนวางแผนให้เมอลินไปทำงานกับแม่ของคาเมรอนตั้งแต่แรก เมอลินเลือกคู่ เกษวดีแปล พิมพ์ครั้งที่ 2 พิมพ์ครั้งแรก ชื่อเรื่อง ไฟรักในหัวใจ รัศริตา แปล บันทึกแนบท้ายเรื่องนี้เพิ่งจำได้ว่าเคยอ่านในชื่ออื่นซึ่งน่าจะเป็น ไฟรักในหัวใจ เมื่ออ่านไปถึงฉากหนึ่งในเรื่องแล้วรู้สึกว่าคุ้นๆ สาเหตุที่จำไม่ได้ในตอนแรกเพราะอ่านมานานมากแล้วจนเริ่มเลือนๆ แต่ฉากเด่นในเรื่องทำให้นึกออก เพราะรู้สึกว่าหนังสือหลายเรื่องมีแต่อ่านแล้วผ่านไป ทำให้จำไม่ได้นอกจากฉากเด่นจริงๆ เลยขอบันทึกไว้เพื่อเตือนความจำสัก 2-3 ตอน คือตอนที่คาเมรอนบังเอิญเห็นร่างเปลีอยของเมอลินโดยไม่ตั้งใจ แล้วเอ่ยถามว่า "คุณเป็นพรหมจารีรึเปล่า" เหตุผลที่เขาให้กับเธอว่าเพราะอะไรถึงตั้งคำถามนั้นคือ "ผู้หญิงที่เคยผ่านผู้ชายมาก่อน จะไม่วิ่งแอบรีบคว้าอะไรมาปิดบังเนื้อตัวทันทีที่มีผู้ชายมาแสดงความสนใจ เนื้อตัวที่เปล่าเปลือยของเธอหรอก" อีกฉากซึ่งเป็นฉากในความทรงจำคือตอนที่ทั้งคู่ไปอยู่ในตู้เก็บเสื้อโค้ทแล้วมีคนเมาจะมาเปิดตู้ คาเมรอนดึงประตูไว้เพื่อถ่วงเวลาให้เมอลินแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วถามว่า "ต้องการอะไร" คนเมาก็ตอบว่าเสื้อคลุมกันฝนของเขา ตอนนี้ฝนตกหนักมาก เมื่อคาเมรอนหยิบเสื้อคลุมตัวที่ระบุมาให้ได้แล้ว คนเมาก็เข้าใจว่าเป็นตู้รุ่นใหม่รับคำสั่งอัตโมนัติ เลยคุยกับตู้พูดได้ไม่ยอมไป จนคาเมรอนต้องบอกว่าระงับการส่งสัญญาณเสียง คนเมาเลยต่อว่าว่าเครื่องจักรหยายคาย จะฟ้อง แต่กลับไม่รู้จะฟ้องใคร คาเมรอนเลยแนะนำให้ไปฟ้องกับมิสซิสทอร์ป มารดาของเขานั่นเอง คนเมาเห็นดีด้วยจึงยอมผละไป ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสย่องออกจากตู้ได้ อีกฉากที่น่ารักคือ ตอนที่คาเมรอนมาง้อขอแต่งงานกับเมอลิน นอกจากดอกไม้เต็มบ้านกับช็อกโกแลตเต็มอ่างอาบน้ำแล้ว กลางคืนก็มีวงออเครสตราซิมโฟนีมาบรรเลงให้ฟังที่สวนหลังบ้านใต้หน้าต่างห้อง นอนของเมอลิน และเล่นไวโอลินด้วยฝีมือที่แสนห่วยของตัวเองให้ฟัง เพื่อให้เธอรับปากแต่งงาน แต่หญิงสาวปฎิเสธจนเพื่อนบ้านทนไม่ไหวต้องตะโกนว่า คาเมรอนหันไปตอบว่าเขาเรียนมาตั้ง 2 ปี และโดนคนเดิมตอบกลับมาว่า จนกระทั่งครูที่สอนฆ่าตัวตายไง คาเมรอนไม่สนใจสีไวโอลินต่อ ทำให้เมอลินขำและเห็นว่าเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ และยอมรับปากจะนำเรื่องการแต่งงานไปพิจารณา คาเมรอนถึงเลิกเล่นไวโอลินปล่อยให้ชาวบ้านฟังเสียงเพลงที่แท้จริง แต่สุดท้ายก็มีรถไซเรนมารับไปนอนโรงพักคืนหนึ่งอยู่ดี ส่วนสำนวนแปลของเกษวดีเล่มนี้มีหลายจุดที่แปลกๆ เช่น "ขณะพบว่า ณ ใต้ล่างแห่งเสื้อที่หล่อนสวม หล่อนหาได้สวมใส่อาภรณ์ชั้นในชนิดอื่นใดไม่" แต่สรุปว่าเรื่องนี้ไม่พลิกตอนจบ คงความสนุกไว้ได้แม้จะเล่มบางไปสักนิดและด้วยเหตุผลที่ว่าอ่านแล้วลืมนี่แหละ เลยอยากรีวิวเก็บไว้
อิจฉาคนได้อ่านหนังสือเด้ อิอิ