• 1. บันทึกความทรงจำ
• ....มุมรีวิวนิยายแปล
• ....มุมรีวิวนิยายไทย
• ....มุมเที่ยวไปตามฝัน
• ......Jordan
• ......Russia
• ....มุมตามใจตัวเอง (รหัส)
• 2. บันทึกงานเขียน
• .....ดั่งพรหมเพรียกหา
• 3. ห้องฟังเพลง
• .....มุมมิวสิควีดีโอ - Playlist
• 4. สวนข้างบ้าน
• 7. ห้องอเนกประสงค์ (รหัส)
• 8. ห้องเก็บของ (รหัส)
• ....ห้องเก็บของ No 2 (รหัส)
• 9. ห้องนิรภัย (รหัส)

Goodbye Russia Moscow : Underground Train สถานีรถไฟใต้ดิน เมืองมอสโคว์ แต่ละสถานีจะต่างๆ กัน ซึ่งสร้างในหลายทศวรรษที่ผ่านมา สามารถกล่าวได้ว่าเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่งดงามที่สุด บางสถานีเป็นรูปสลักของคนอาชีพต่างๆ บางสถานีมีการเขียนลายบนเพดานเหมือนตามโบสถ์หรือพระราชวัง อยู่ในย่าน shopping street บริเวณ Red Square จากซากอร์ซเราเดินทางกลับเข้ามอสโคว์ ระยะเวลา 2-3 วันที่เมืองมอสโคว์เห็นอุบัติเหตุทุกวันในเส้นทางที่รถผ่าน ทำให้รู้สึกว่าคนรัสเซียขับรถตามใจฉันยิ่งกว่าคนไทย ขอให้ได้แซง ใจร้อน และรถติดไม่แพ้กรุงเทพฯ สถานที่นำชมส่งท้ายคือ สถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งนอกจากจะเป็นการขนส่งมวลชนที่สำคัญแล้ว แต่ยังงดงาม เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปกรรม สร้างในปี 1931 แต่เปิดบริการครั้งแรกในปี 1935 ไกด์ท้องถิ่นพาพวกเราขึ้นรถไฟใต้ดินและลงชมสถานีต่างๆ ซึ่งสร้างในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นแนวความคิดของการออกแบบในทศวรรษต่างๆ มีทั้งวิจิตรวิลิศมาหรา พื้นๆ แต่สง่างาม ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆ ดูแผนผังแล้วเหมือนใยแมงมุม พาให้คนต่างถิ่นแบบพวกเรางงกันได้มาก ผู้คนก็เยอะแม้จะไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนของเขา ไกด์กำชับว่าถ้าเกิดหลงกันขอให้อยู่ที่เดิม เพราะไม่อย่างนั้นหากันไม่เจอแน่ โชคดีที่ไม่มีใครหลง เท่าที่ดูมีทั้งหมด 4 ชั้น ค่าโดยสาร 7 รุเบิ้ล(ประมาณ 1.5 บาทต่อ 1 รูเบิ้ล ณ.ขณะนั้น) ซึ่งถูกกว่าค่าเข้าห้องน้ำสาธารณะซะอีก (8 รูเบิ้ล) รถไฟยังเป็นรุ่นโบราณเสียงดังมาก มาทุกๆ 1 นาทีครึ่งหรือ 2นาทีก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนจะมาเร็วขึ้นอีกครึ่งนาที ส่วนรถแท๊กซี่ นอกจากมีรถแท็กซี่ที่ติดป้ายไว้แล้ว รถส่วนตัวก้อสามารถโบกเรียกได้เหมือนรถแท็กซี่ เพราะเขาจะยอมจอดรับทำเหมือนแท๊กซี่ส่วนราคาก็อยู่ที่ตกลงกัน โผล่จากรถไฟใต้ดินก็เป็นบริวเณจตุรัสแดงไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า Gum วันนี้ปล่อยอิสระให้เดินชอปปิ้งตามอัธยาศัย พวกเราแวะเข้าห้องน้ำที่แสนแพง (ไม่เหมือนเมืองไทยเลย) จากนั้นก็เดินหาซื้อของถ่ายรูปแถวๆ จตุรัสแดงเป็นการส่งท้าย อำลามอสโคว์ ได้เวลาก็ไปกินอาหารเย็นก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยสายการบินแอร์โรฟลอทของรัสเซีย และจบทริปรัสเซียด้วยประการฉะนี้   Create Date : 10 ตุลาคม 2553     Last Update : 10 ตุลาคม 2553 21:25:15 น. Counter : 739 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ซากอร์ซ มอสโคว์ Uspensky Cathedral Uspensky Catherdal สร้างปี ค.ศ. 1559 โดย Ivan ที่ 4 เป็นมหาวิหารที่มีหลังคาเป็นรูปครึ่งวงกลม 5 โดม และกลายเป็นมหาวิหารหลักของศาสนสถานแห่งนี้ ด้านหลังที่เห็นยอดโดมสีฟ้าจุดขาว เป็นมหาวิหารอุสเปนสกีปัจจุบันยังใช้ทำพิธีกรรมทางศาสนาเหมือนวัดบ้านเรา วันที่ไปมีการทำพิธีศีลจุ่มให้เด็กอยู่ส่วนใหญ่ผู้คนที่มาทำบุญมักจะใช้ผ้าคลุมศีรษะเพื่อแสดงความเคารพ มหาวิหารทรินิตี้ เป็นสุดยอดศิลปกรรมของยุคกลางของรัสเซีย สร้างในปีค.ศ. 1422 อาคารสีขาวครอบด้วยโดมครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งภายในมีร่างของ St. รูปหนึ่งอยู่เนื่องจากหลังจากเสียชีวิตแล้วไม่เน่าเปื่อยเหมือนพระเกจิอาจารย์บ้านเรา ชาวรัสเซียเชื่อว่าเข้าไปขอแล้วจะสมหวัง พ่อค้าแผงลอยที่ซากอร์ซ ร้านอาหารรัสเซียนที่เมืองซากอร์ซ แต่คนละมุมกับที่พวกเราไปนั่งกินเป็นอาหารกลางวันวันสุดท้ายที่รัสเซีย เช้านี้คิดถึงอาหารไทย เลยเอาไวไวต้มโคล้งไปที่ห้องอาหารหวังจะได้ซดให้คล่องคอ แต่ผิดหวังที่น้ำร้อนหมดหม้อต้ม ขอให้พนักงานในห้องอาหารเติมใหม่ก็รอไปเถอะ จนนักท่องเที่ยวต้องช่วยกันเองตะแคงมันลงมาแบ่งๆ กันไป ไม่ประทับใจกับโรงแรมนี้เลยเพราะเจอห้องน้ำน้ำซึมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ในที่สุดก็ได้กินไวไวต้มโคล้งจนได้ ด้วยความช่วยเหลือของนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน หลังอาหารเช้าออกเดินทางไปซากอร์ซ เพื่อไปชมมหาวิหารอีกแห่ง เมืองซากอร์ซ อยู่ห่างจากมอสโคว์ไป 70 ก.ม. เพื่อเยี่ยมชมศาสนสถานทรินิตี้และเซนต์เซอร์เจียส (Trinity & ST. Sergius Monastery) มรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 15-17 ของรัสเซีย เป็นหนึ่งในศาสนสถานที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย สร้างในทศวรรษ 1340 เป็นที่ทำงานของศิลปินชั้นนำของรัสเซียไม่ว่าจะเป็นช่างวาดภาพ ช่างไม้ ช่างเครื่องเงิน หลังจากการชมมหาวิหารเหล่านี้ก็เป็นเวลาชอปปิ้งสินค้าพื้นเมือง สนามหญ้าด้านหลังเป็นสถานที่บรรดาชาวบ้านจะนำสินค้ามาวางขาย ราคาต่อรองได้และค่อนข้างจะถูกกว่าที่หน้ามหาวิทยาลัยมอสโคว์ เพราะ local ไกด์บอกว่าเป็นงานที่ชาวบ้านผลิตแล้วนำมาเขายเองโดยไม่ผ่านคนกลางสินค้าหลักๆ ไม่พ้นตุ๊กตาแม่ลูกดก ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ พวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น ราคาย่อมเยา หลังจากเดินชมมหาวิหารอุสเปนสกี้ และช้อปปิ้งจนเหนื่อย เราก็ไปกินอาหารกลางวันที่ร้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวิหารนัก ที่ร้านนี้ก็มีของที่ระลึกขาย ราคาค่อนข้างสูงกว่าแถวตลาดนัดแต่ก็สวยกว่า และหลังอาหารกลางวันจากร้านนี้แหละที่พวกเราแวบกลับไปตลาดนัดเพื่อไปซื้อผ้าพันคออีกรอบ เนื่องจากพวกเราถูกใจกับผ้าพันคอ แต่ได้สีไม่ครบที่ต้องการไกด์ช่วยถามให้และบอกว่าจะมีมาเพิ่ม และความที่สื่อสารกันไม่เข้าใจคิดว่าเขาจะตามไปส่งให้ที่ร้านอาหารที่เราจะไปกินมื้อกลางวันเลยบอกตกลง ปรากฎว่ากินเสร็จไกด์ชวนเดินกลับไปซื้อ ด้วยความที่กลุ่มเราอยากได้ เลยแอบแวบกลับไปซื้อกันเพิ่มคนละ 2-3 ผืน เลยต้องหอบแฮกกลับมาเพราะต้องวิ่งไปวิ่งกลับ เนื่องจากคนอื่นๆ เดินไปรอที่รถกันหมดแล้ว ช่างเป็นการซื้อของที่เหน็ดเหนื่อยจริงๆ อาหารที่เพิ่งกินมาเลยย่อยหมด 555   Create Date : 06 กันยายน 2553     Last Update : 6 กันยายน 2553 15:39:06 น. Counter : 535 Pageviews.   10 comment Share Tweet

The Hermitage (St. Petersburg) Winter Palace จตุรัสด้านหน้าพระราชวังฤดูหนาว The Hermitage เย็นวันที่ไปเที่ยว มีคอนเสิร์ตพอดี ทำให้ห้องบางห้องในพิพิธภัณฑ์ปิดเร็วกว่าปกติ เพราะเจ้าหน้าที่ก็อยากไปดูคอนเสิร์ตกัน อย่างห้องมาลาไค้ทแต่พอเราบอกว่ามาจากประเทศไทย ก็รีบเปิดให้ดูทันที เปิดไฟให้เสร็จสรรพเพราะเป็นปีที่เมือง St. Peterberg ฉลองครบรอบความสัมพันธ์กับประเทศไทยพอดี ราชสมบัติภายในพระราชวังฤดูหนาว The Hermitage ภาพเขียนบนพื้น เนปจูน ลวดลายบนเพดาน ภาพเขียนของศิลปินเลื่องชื่อ The Malachite Room ทั้งห้องประดับด้วยหินสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นเสา โต๊ะ เตาผิง ซึ่งเป็นศิลปะของรัสเซีย คู่แข่งกับห้องอำพัน The Amber Room ที่พระราชวังแคทเธอรีน ราชรถของซาร์ ร้านผลไม้ข้างทาง ระหว่างเดินไปร้านอาหาร โชว์ในภัตตาคารคืนส่งท้ายก่อนเดินทางกลับมอสโคว์ ช่วงบ่ายเราเดินทางกลับเข้าเมือง St. Petersburg เพื่อชมพระราชวังฤดูหนาว (Winter Palace) ที่เรียกกันว่า The Hermitage ที่งดงามไปด้วยการตกแต่งพระราชวังในแบบบาโร้ค ลวดลายอ่อนช้อยสีขาวตัดทองแต่งด้วยโคมระย้า ประดับด้วยปูนปั้นและแกะสลัก ยกเว้นห้องมาลาไค้ทจะตกแต่งด้วยหินสีเขียวทั้งหมดเป็นงานแบบเดียวกับ Mosaic แต่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้จาก Mosaic มาเป็น Malachite แทน วัตถุดิบทั้งหมดได้จากเหมืองในเทือกเขา Ural และ Alta พระราชวังแห่งนี้เป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมโดยฝืมือศิลปินเชื้อสายอิตาเลี่ยน Rastrelli เขาได้กล่าวไว้ว่า ของทุกชิ้นในพระราชวังแห่งนี้ต้องงดงามเลิศหรู จากการที่พระราชินีแคทเธอรีนทรงมีรสนิยมทางด้านศิลปะเป็นเลิศพระองค์จึงได้ทรงเลือกซื้องานของศิลปินยุโรปที่มีชื่อเสียงไว้จำนวนมาก ทำให้พระราชวังของพระองค์กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีค่าแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะส่วนที่แสดงภาพวาดซึ่งถือได้ว่าเป็น Art Gallery ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากศิลปินเอก อาทิเช่น Rambrandt, Rubens, Picasso, Botticelli, Raphael, Leonado da Vincis, Michelangelo, Velazquez, Goya เป็นต้น และชม Colletion ของ Peter Carl Faberge ที่คนไทยคุ้นกันดี (ข้อมูลจากบริษัททัวร์) เย็นวันนี้มีการแสดงคอนเสิร์ตบริเวณลานหน้าพระราชวัง เจ้าหน้าที่ก็เลยเลิกงานเร็วกว่าปกติเพื่อไปชมคอนเสิร์ต จบการชมพระราชวังฤดูหนาว ก็สิ้นสุดการเที่ยวเมือง St. Petersburg เราไปกินอาหารเย็นที่ภัตตาคาร ซึ่งมีการแสดงพื้นเมืองให้ดูระหว่างกินไปด้วย จากนั้นก็เดินทางกลับมอสโคว์ กว่าจะเข้าที่พัก อาบน้ำนอนกันได้ก็ปาไปตี 2 กว่าแถมห้องนอนคืนนี้ก็แย่มาก เพราะห้องน้ำน้ำซึมออกมาจนพรมปูพื้นหน้าห้องเปียกแฉะทีเดียว ดีที่พักแค่คืนเดียว พรุ่งนี้ก็เดินทางกลับแล้ว   Create Date : 08 สิงหาคม 2553     Last Update : 10 สิงหาคม 2553 10:42:00 น. Counter : 643 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Peterhof Palace (St. Petersburg) Summer Palace วงดนตรีบรรเลงหน้าปราสาท ดูเหมือนที่รัสเซียจะนิยมมีวงดนตรีบรรเลง เห็นมา 3 ที่แล้วคือที่นี่ Pavlovsk Palace และหน้าโรงแสดงศิลปพื้นเมือง ลานน้ำพุที่มีชื่อเสียงของ Peterhof เปิดเฉพาะฤดูร้อน (พ.ค. - ก.ย.) ลานน้ำพุที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระราชวังออกแบบโดย เลอบลอง (Le Blond) ช่างชาวฝรั่งเศสซึ่งพระเจ้าปีเตอร์มหาราชเชิญมาจากปารีสพร้อมลูกมืออีกจำนวนหนึ่งเพื่อก่อตั้งสำนักก่อสร้างใน St. Peterburg และเป็นผู้หนึ่งที่ออกแบบผังเมือง St.Peterburg Peterhof พระราชวังฤดูร้อน หนึ่งในพระราชวังที่โดดเด่นตั้งอยู่ชานเมือง St. Peterburg ริมทะเลฟินแลนด์ คลองที่เห็นเชื่อมติดกับทะเลข้างหน้าและสามารถเปิดให้เรือแล่นเข้ามาในคลองหน้าพระราชวังนี้ได้ เป็นศิลปแบบบาโร้ค เช้าวันนี้เราไปชม Peterhof พระราชวังฤดูร้อน หนึ่งในพระราชวังที่โดดเด่นตั้งอยู่ชานเมือง St. Peterburg ริมทะเลฟินแลนด์ (ห่างจากเมือง St. Peterburg ไป 29 ก.ม.) เป็น Grand Palace ที่สร้างเสร็จก่อนพระเจ้าปีเตอร์มหาราชจะสิ้นพระชนม์ได้ไม่นาน ตกแต่งโดยช่างเอกสมัยนั้นคือ Rasstrelli จุดเด่นของพระราชวังจะอยู่ที่ลานน้ำพุด้านหน้าเราต้องต่อแถวเพื่อเข้าชมภายในพระราชวังระหว่างที่รอก็จะมีบรรดาพ่อค้าทั้งหลายมาเร่ขายของที่ระลึกทั้งตุ๊กตาแต่งชุดประจำชาติ ผ้าคลุมไหล่ ราคาก็อยู่ที่ความสามารถในการต่อรองซึ่งสนุกสนานทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย แถวขยับคนขายก็ขยับตามไปด้วยไม่ต้องกลัวเสียคิว ทำให้การเข้าแถวเพื่อรอเข้าชมไม่น่าเบื่อจนเกินไป (แน่ล่ะ ก็เจ้าของทัวร์ช่วยต่อให้อย่างผู้ชำนาญจนคนขายต้องยอมตกลง แล้วมีการถามด้วยว่าของกลุ่มคุณมีคนไหนมั่ง จะได้ไม่หลงให้ราคานี้กับกลุ่มอื่นด้วยไง อิอิ) ส่วนการเข้าชมพระราชวังจะมีจุดให้เปลี่ยนรองเท้า ไม่เชิงเปลี่ยนแต่ให้ใส่รองเท้าผ้าหุ้มรองเท้าที่เราใส่อยู่เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นพระราชวังเสียหาย จำไม่ได้ว่าที่พระราชวังแคทเธอรีนต้องใส่ด้วยหรือเปล่า   Create Date : 19 กรกฎาคม 2553     Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 14:39:50 น. Counter : 934 Pageviews.   6 comment Share Tweet

Russian Dance ระบำพื้นเมือง ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของที่ระลึก เครื่องประดับทำด้วยอำพัน หลังจากไปชมห้องอำพันมาแล้ว ก็ต้องต่อด้วยเรื่องของอำพัน ที่ได้แต่ดูๆ ชมๆ ไปตามเรื่อง ร้านขายของระหว่างทางกลับจากไปดูการแสดง วงดนตรีเล็กๆ หน้าทางเข้าโรงละครที่แสดงศิลปพื้นเมืองของรัสเซีย ตัวอย่างการแสดง สวยๆ ทั้งนั้นเลย ตามโปรแกรมที่มอสโคว์คืนที่สอง เราจะได้ชมละครสัตว์รัสเซีย แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่คณะละครสัตว์เดินทางออกจากมอสโคว์เลยอด ทางทัวร์เลยชดเชยให้ไปดูการแสดงศิลปะพื้นเมืองที่ St. Petersburg แทน เป็นการเต้นรำของหลากหลายชนเผ่าของรัสเซีย ระหว่างพักครึ่งการแสดง ก็มีของว่างให้กินนิดหน่อย อยู่ที่ค่าบัตรมั้ง เพราะบางคนก็ไม่ได้เข้ามากิน และเป็นธรรมดาทีกินเสร็จก็เตร่ไปดูของที่ระลึก ของที่ระลึกอีกอย่างของรัสเซียคือ ผ้าคลุมไหล่ซึ่งจะมีสีสรรลวดลายสวยงามและนางระบำที่เต้นโชว์ก็มีชุดหนึ่งเต้นอวดผ้าคลุมไหล่ผืนงามๆ ยั่วให้อยากได้ ราคาน่าจะแพงกว่าข้างนอก เลยได้แต่ดูๆ ไว้ก่อน (อีกแล้ว) แต่ถ้าได้ลายที่เห็นบนเวทีไม่แน่อาจจะตัดใจซื้อสักผืน พวกเราได้แต่ซื้อหนังสือติดมือกันมาคนละเล่ม   Create Date : 01 มิถุนายน 2553     Last Update : 1 มิถุนายน 2553 2:44:30 น. Counter : 608 Pageviews.   5 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com