เรื่อง : ชุดบุปผาในสวนรัก
ผู้เขียน : Jayne Castle
ผู้แปล : ญาดา
อมาริลลิส : 3 ดาวครึ่ง
ซินเนีย : 3 ดาวครึ่ง
ออร์คิด : 3 ดาว
ความสนุก : เฉลี่ย 3 ดาวครึ่ง
หนังสือชุดบุปผาใน สวนรัก เป็นแนวเหนือจริงในโลกสมมติชื่อดาวเซนต์เฮเลนส์ ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นชาวอาณานิคมของดาวโลก ในเรื่องสมมติว่าชาวโลกที่ไปตั้งรกรากบนดาวเซนต์เฮเลนส์หลังจากที่ถูกค้นพบ เมื่อสองร้อยปีก่อนมาจากบริเวณฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือติดมหาสมุทรแปซิฟิก พวกเขาเดินทางผ่านตาข่ายของพลังงานในอวกาศใกล้โลก เรียกว่าม่านพลังงาน หลังจากการลงหลักปักฐานที่ดาวดวงใหม่ ม่านพลังงานก็ปิดลงอย่างกระทันหัน มันไม่เคยเปิดออกอีกเลย ทำให้พวกเขาต้องตกค้างอยู่ที่นั่นนับแต่นั้นมา ดาวเซนต์เฮเลนส์มีพืชพรรณและสัตว์แตกต่างไปจากโลก ทำให้มีชื่อของสัตว์และอาหารแปลกๆ
ในเรื่องทุกคนต่างมีพลังจิตแตกต่างกันไป แต่แยกหลักใหญ่ๆ เป็นสองแบบคือ ปริซึมและผู้มีพลังจิต โดยปริซึมทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยรวมศูนย์พลังให้ผู้มีพลังจิต ในเรื่องนางเอกจะมีพลังจิตแบบปริซึม ส่วนพระเอกก็มีพลังจิตในรูปแบบต่างๆกัน ทั้ง 3 ตอนเป็นแนวสืบสวนสอบสวน โดยที่พระเอกและนางเอกของเรื่องบังเอิญเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมทำให้ ร่วมกันคลี่คลายคดี
อมาริลลิส ลาร์ค รับงานเป็นปริซึมให้กับ ลูคัส เทรนส์ เพื่อตรวจสอบหาคนขายข้อมูลของบริษัท พลังจิตของลูคัสเป็นพลังจิตแบบจับพลังจิตของคนอื่นได้เมื่อเขาใช้พลัง ซึ่งนำให้ทั้งคู่ไปเกี่ยวพันกับการสืบหาฆาตกรที่ฆ่าศาสตราจารย์แลนเดร็ธ ผู้เป็นอาจารย์ที่อมาริลลิสให้ความนับถืออย่างมาก
ซินเนีย สปริง ถูกเรียกว่า สุภาพสตรีสีแดง เพราะเรื่องอื้อฉาวที่เกิดกับเธอ ซินเนียเข้าไปตามหามอร์ริส เฟนวิกลูกค้าซึ่งหายไปของเธอกับนิค แชสเทน เจ้าของคาสิโนผู้สันโดษและลึกลับ เพราะคิดว่าเขามีส่วนในเรื่องนี้ เนื่องจากรู้ว่ามอร์ริสได้ติดต่อขายสมุดบันทึกของแชสเทนให้นิค และได้พบว่าเขามีพลังจิตแบบแมทริกซ์เหมือนลูกค้าที่หายไปของเธอ แต่พลังของเขาสูงกว่ามาก ทั้งคู่พบว่ามอร์ริสตายอยู่ที่ร้านขายหนังสือเก่าของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่การร่วมมือกันหาฆาตกร
ออร์คิด อดัม เป็นนักเขียนนิยายแนวแวมไพร์พลังจิต และมีงานเสริมคือเป็นปริซึมให้กับบริษัทไซเนอร์ยี่ เหมือนอมาริลลิสและซินเนีย เธอรับงานเป็นปริซึมให้กับ เรฟ สโตนเบรเกอร์ ผู้มีพลังจิตด้านกลยุทธสูงมากในการค้นหาวัตถุโบราณต่างดาวที่ถูกโจรกรรมไป จากห้องแล็บของมหาวิทยาลัย ออร์คิดพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นเพื่อนร่วมงานเก่าในสถาบันวิจัยพาราซิน ซึ่งเชื่อว่าฆ่าตัวตายเพราะความเครียด ออร์คิดไม่เชื่อเรื่องทั้งหมดและร่วมกันสืบหาความจริง
บันทึกแนบท้าย
ไอเดียของคนเขียนเรื่องของม่านพลังงานน่าสนใจทีเดียว ในเรื่องอธิบายว่า "ม่าน มีคุณสมบัติหลายอย่างที่แปลกประหลาด ที่น่าสนใจที่สุดซึ่งมันสามารถทำให้โครงสร้างของเวลาและอวกาศ ทฤษฎีที่ทำให้การเดินทางระยะทางไกลในอวกาศเป็นไปได้คือการโค้งงอ ซึ่งสามารถอธิบายได้โดยการสมมติว่าจุดที่เราอยู่ในอวกาศคือจุดหนึ่งบน ขอบกระดาษแผ่นหนึ่งและจุดที่จะเดินทางไปอยู่ที่ขอบกระดาษอีกด้านหนึ่งโดยการ งอแผ่นกระดาษเพื่อให้ขอบทั้งสองด้านมาอยู่ใกล้กันทำให้สามารถย่นระยะทางและ เวลาในการเดินทาง เพราะระยะทางไกลมากๆ จนไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ แผ่นกระดาษนี้ก็เปรียบเสมือนระนาบหนึ่งในอวกาศ มันทำหน้าที่เหมือนประตูพลังงานที่เชื่อมไปยังระบบสุริยะอันห่างไกลซึ่งดาว เซนต์เฮเลนส์อยู่ในนั้น"
ในส่วนของจินตนาการให้ 4 ดาวค่ะ แต่ความสนุกของเนื้อเรื่อง ตลอดจนการผูกปมฆาตกรรมนั้น
อมาริลลิส และ ซินเนีย ให้ 3 ดาวครึ่ง
ออร์คิดให้ 3 ดาว เพราะฆาตกรเดาได้ง่ายไปนิด เนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบ อาจเป็นเพราะเขียนแนวนี้มา 2 เล่มแล้วพอเล่ม 3 ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ และถ้าใครไม่ได้อ่าน 2 เล่มแรกมาก่อน อาจจะงงเล็กน้อยกับโลกสมมติเพราะคนเขียนไม่ค่อยอธิบายเหมือนสองเล่มแรก คงคิดว่าคนอ่านเคยอ่านมาก่อนแล้ว ทั้งๆ ที่มีการเพิ่มแนวปรัชญาใหม่ๆ ของดาวเซนต์เฮเลนให้คนอ่านงงเล่น แต่กลับไม่มีการอธิบายประกอบ
สำนวนแปลในเรื่องซินเนียขาดๆ เกินอยู่บ้าง ไม่ลื่นไหลเท่ากับอีก 2 เล่มแม้จะเป็นคนแปลคนเดียวกัน ส่วนบทบรรยายเรื่องม่านพลังงานยังทำได้ไม่ดีนัก ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ต้นฉบับหรือสำนวนแปล เพราะอ่านแล้วเหมือนไม่ต่อเนื่องหรือยังไม่ค่อยปะติดปะต่อดังตัวอย่างที่ยก มา
|