หนังสือลำดับที่ 12 ในชุดพรานราตรี ซึ่งเป็นนิยายโรมานซ์แนวเหนือจริง เป็นเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มนักล่าแวมไพร์ ตามที่สำนักพิมพ์ได้บอกไว้ในคำนำ หนังสือเล่มนี้แบ่งเป็นสองภาค คือภาคที่แอชรอนเป็นมนุษย์ก่อนจะเป็นเทพเมื่อ 9548 ปีก่อนคริสต์ศักราช และภาคปัจจุบันเมื่อแอชรอนเป็นเทพ ช่วงแรกของหนังสือเล่าความเป็นมาของแอชรอนผ่านสายตาของเจ้าหญิงริสซ่าผู้ เป็นพี่สาวซึ่งจดบันทึกไว้ เรื่องราวเริ่มขึ้นใน เดือนพฤษภาคม 9548 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมื่ออาร์คอนเทพผู้สร้างแห่งแอตแลนเตียนสั่งให้สังหารบุตรชายของตนเองกับอโพลิมีเทพีแห่งการทำลาย เนื่องจากคำพูดพล่อยๆ ของเทพีแห่งโชคชะตา 3 นางซึ่งเป็นลูกนอกสมรสของอาร์คอนที่ว่าโอรสองค์นี้จะเป็นผู้ทำลายวงศ์เทพ แห่งแอตแลนเตียนทั้งหมด ทำให้เทพีอโพลิมีต้องปกป้องลูกชายของตน นางได้ผ่าท้องตัวเองแล้วผนึกความเป็นเทพของอโพสโทโลสโอรสของนางเพื่อไม่ให้ เหล่าเทพหาเจอและสังหารเสีย จากนั้นให้นำไปฝากเข้าครรภ์ของราชินีมนุษย์ที่กำลังใกล้คลอด โดยไปบอกผู้พยากรณ์ให้แจ้งกับราชินีว่าชีวิตของเด็กทั้งคู่ผูกติดกัน ถ้าโอรสของนางตาย โอรสของราชินีก็ตายด้วย สมุนปีศาจและเทพบริวารได้นำทารกไปใส่ไว้ในครรภ์ของราชินีอาร่าแห่ง ดีดูมอสของกรีก เมื่อราชาเห็นโอรสองค์โตมีตาสีเงินก็โทษว่าราชินีนอกใจไปมีสัมพันธ์กับเทพทำ ให้ไม่ยอมรับเป็นลูก พร้อมทั้งคำทำนายจากสตรีผู้รอบรู้ว่าเขาจะเป็นผู้ทำลายล้าง ทำให้องค์ราชาสั่งให้นำไปประหารทันที แต่หญิงชราผู้รอบรู้ห้ามไว้และบอกว่าหากฆ่าทารกนี้ลูกชายของพระราชาก็จะตาย เช่นกัน ส่วนแฝดน้องมีตาสีฟ้าปกติทำให้องค์ราชายอมรับแต่แฝดน้องเท่านั้น เมื่ออายุได้ 7 ปีแอชรอนแฝดองค์โตก็ถูกส่งไปอยู่ที่แอตแลนติสกับเอสเตสผู้เป็นอา เจ้าหญิงริสซ่าพี่สาวคนโตมีอายุห่างจากคู่แฝด 7 ปี มองเห็นความอยุติธรรมที่แอชรอนได้รับ ทำให้นางรักและคอยเป็นห่วงเมื่อได้รับจดหมายแจ้งข่าวเป็นนัยถึงความลำบากของ เขา ทำให้นางตัดสินใจเดินทางไปแอตแลนติส และได้พบว่าน้องชายที่รักยิ่งของนางถูกผู้เป็นอาขาย และฝึกให้เป็นทาสสวาท ทำให้นางดึงดันช่วยแอชรอนหนีมาจากอาและพากลับเกาะดีดูมอส โดยหลอกแอชรอนว่าพ่อของทั้งคู่ไม่เคยรู้เรื่องนี้และรักเขา ท้ายที่สุดเมื่อองค์ราชาหาเจอก็จับแอชรอนส่งกลับไปให้เอสเตส ทำให้แอชรอนผิดหวังที่โดนริสซ่าหลอก และเสียใจที่ตนไม่เป็นที่ยอมรับของพระบิดา 1 ปีต่อมาเอสเตสเสียชีวิตระหว่างที่มาพักอยู่ที่วังในกรีก ทำให้องค์ราชาต้องเดินทางไปแอตแลนติสริสซ่าขอตามไปด้วยเพราะห่วงน้อง และภาพของแอชรอนที่อยู่บนเตียงกับเจ้าชายแห่งแอตแลนติส ทำให้พระราชาสั่งให้ไล่แอชรอนออกไปจากบ้าน ทันทีโดยไม่มีอะไรติดตัวแม้แต่เสื้อผ้า นอกจากเสื้อคลุมที่ริสซ่าให้ ชีวิตที่ยากลำบากหลังจากเร่ร่อนไปทั่วจนที่สุดก็กลับมายังดีดูมอสเพราะ เยื่อใยที่ผูกพันกับพี่สาว ทำให้แอชรอนกลับไปทำงานเป็นโสเภณีเหมือนเดิม เมื่อข่าวล่วงรู้ไปในพระราชวังว่ามีคนหน้าเหมือนเจ้าชายสติกซซ์มาเป็นโสเภณี พระราชาสั่งให้คนมาจับตัวไปขังไว้และให้อดอาหาร แต่เพราะว่าเมื่อแอชรอนตาย สติกซซ์ก็ตายด้วยทำให้องค์ราชาจำใจต้องช่วยชีวิตของแอชรอนไว้ ส่วนริสซ่าก็ถูกบรรดาวุฒิสมาชิกเสนอให้นำไปถวายตัวแด่เทพอพอลโล วันที่ริสซ่าถูกถวายตัวแอชรอนเดินเข้าไปในวิหารของอาร์ทิมิสเพื่อหาความตาย แต่กลับได้พบและมีความสัมพันธ์กับอาร์ทิมิส จากนั้นแอชรอนได้เรียนรู้ถึงความเจ็บปวดจากการทรยศ หักหลัง และการไม่เป็นที่ยอมรับอีกหลายครั้งจนหมดอาลัยในชีวิต โดยกระโดดระเบียงห้องพักลงไปแต่กลับไม่เป็นอะไรเพราะมีปีศาจบริวารของเทพี อโพลิมีมาช่วยไว้และบอกให้รู้ว่าที่แท้แล้วตัวเองเป็นเชื้อสายเทพ ไม่ใช่แค่ครึ่งเทพอย่างที่เข้าใจกัน จากนั้นได้ชักนำให้ไปเจอกับแม่ที่แท้จริงและได้รับพลังคืนมา เมื่ออาร์ทิมิสรู้แทนที่จะยินดีกลับกลัวเกรงในอำนาจและวางยาคิดจะฆ่าแอชรอน แต่กลับเป็นเหตุให้แอชรอนช่วยริสซ่าและหลานชาย ลูกของอพอลโลจากการลอบฆาตกรรมจากชาวอพอลไลท์ที่ได้รับการว่าจ้างมาไม่ได้ เมื่ออพอลโลรู้ว่าลูกและเมียโดนฆ่าก็อาละวาดและทำร้ายแอชรอน ๆ เห็นอาร์ทิมิสยืนดูอยู่ในเงามืด ก็ร้องเรียกทำให้อพอลโลโกรธมากถือเป็นการดูหมิ่นเลยสังหารเขา เมื่อเทพีอโพลิมีหลุดจากที่จองจำ ซึ่งหมายความว่าแอชรอนตาย ทำให้นางเสียใจมาก และเพราะนางเป็นเทพแห่งการทำลายล้าง ทำให้นางไปแก้แค้นกับเทพแห่งแอตแลนเตียน และทำลายเทพทั้งหมด รวมไปถึงเมืองแอตแลนติส จากนั้นก็มุ่งหน้าไปโอลิมปัสเพื่อล้างแค้นอพอลโลและอาร์ทิมิส ระหว่างนั้นเทพีแห่งโชคชะตาที่หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่โอลิมปัสก็มาขอความร่วม มือจากอาร์ทิมิสเพื่อยับยั้งอโพลิมี อาร์ทิมิสยอมร่วมมือเพราะรู้ว่าเทพวงศ์โอลิมปัสแม้แต่ซูสก็มีอำนาจห่างไกล กับเทพีอโพลิมี นางแอบไปหลอกให้แอชรอนดื่มเลือดของนางทำให้แอชรอนฟื้นคืนชีพ และเท่ากับเป็นการจองจำอโพลิมีตามคำสาปเหมือนเดิม ยกเว้นแต่แอชรอนจะไปช่วยปลดปล่อย ส่วนแอชรอนกลับต้องผูกติดกับอาร์ทิมิสไปตลอดกาล เพราะถ้าไม่ยอมดื่มเลือดนางก็จะคุมสติไม่อยู่ กลายเป็นอสุรกาย พร้อมจะฆ่าได้ทุกเวลาเมื่อกระหายเลือดขึ้นมา กว่าครึ่งเล่มเป็นชีวิตของแอชรอนในอดีต เมื่อมาถึงยุคปัจจุบันแอชรอนจำต้องเป็นผู้นำของกองทัพดาร์ค ฮันเตอร์ที่เทพีอาร์ทิมิสได้สร้างขึ้น และได้พบกับโซเทอเรีย กาเฟียรี่ ซึ่งเป็นนักโบราณคดีที่สนใจเรื่องของแอตแลนติสและต้องการทุนไปขุดค้นต่อ แต่แอชรอนไม่ต้องการให้ใครขุดเจอและได้ค้นพบเรื่องราวน่าอับอายในอดีตที่ตน เองเคยเป็นโสเภณีในยุคนั้น เขาได้ทำลายความน่าเชื่อถือในเอกสารและสิ่งของที่ทอรี่นำมาเสนอในที่ประชุม สัมมนา ทำให้ทอรี่โกรธเคืองมาก และเมื่อต้องการหาผู้ชำนาญภาษากรีกในบันทึกเล่มที่ขุดค้นพบก็ได้รับคำแนะนำ จากเพื่อนให้รู้จักกับแอชรอน จากความไม่ประทับใจในการพบกันครั้งแรกทำให้การพบกันครั้งที่ 2 เป็นไปได้ไม่ดีนัก แต่เพราะคำพูดของทอรี่ที่บอกว่าไม่สนใจจะขึ้นเตียงกับแอชรอนทำให้เขากลับ สนใจเธอขึ้นมาเพราะอดีตที่ผ่านมา เขาพบเจอแต่สิ่งตรงกันข้าม ยามเป็นมนุษย์ไม่ว่าใครเห็นยกเว้นแต่เด็ก ทุกคนต่างปราถนาเขา ซึ่งสาเหตุมาจากเทพีแห่งความปราถนาได้แตะตัวเขาตอนเกิด ทำให้แอชรอนกลับไปหาเธอและอ่านบันทึกให้ฟัง เป็นบันทึกของริสซ่าพี่สาวของเขานั่นเอง จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้น และแอชรอนได้พบว่าที่แท้เขาเคยรู้จักทอรี่มาตั้งแต่เด็ก และเขาได้ช่วยชีวิตปู่ของทอรี่มาจากสงครามยุคนาซีและพาข้ามน้ำข้ามทะเลมา อาศัยอยู่ที่อเมริกา หาพ่อแม่บุญธรรมให้ และระหว่างเดินทางเขาเคยเล่าเรื่องแอตแลนติสให้ฟัง ทำให้ครอบครัวนี้เชื่อว่าแอตแลนติสมีจริง ส่วนทอรี่ก็ได้พบว่าที่แท้ตัวเองเป็นผู้หญิงที่เทพีอโพลิมีได้เลือกไว้ให้ ลูกชาย ทำให้ความสัมพันธ์ด้านรักๆ ใคร่ๆ ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จสักครั้ง ต้องมีอันเป็นไปทุกที เมื่ออาร์ทิมิสรู้เรื่องของทอรี่ก็หาวิธีกำจัดด้วยการกักขังให้แอชรอนอยู่ใน ห้องที่ไม่สามารถใช้พลังได้และไม่ยอมให้กินเลือดของตัวเองเพื่อให้ครองสติ ไม่อยู่ จากนั้นก็ส่งทอรี่เข้าไปหา ทำให้แอชรอนกัดและกินเลือดของทอรี่จนตายในที่สุด เทพีอโพลิมีชิงวิญญาณของทอรี่ไปและเล่าเรื่องราวให้ฟังพร้อมทั้งแนะนำว่าให้ ทอรี่ดื่มเลือดของแอชรอนเพื่อฟื้นคืนชีพ และจากนั้นก็ให้แอชรอนดื่มเลือดของทอรี่เพื่อจะได้ไม่ต้องมีการผูกพันกับเท วีอาร์ทิมิสอีก ทอรี่ตกลง และเมื่อฟื้นกลับมาทอรี่ก็ทำตามคำแนะนำของเทพีอโพลิมี จากนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์เหมือนแอชรอน
ความเห็น เรื่องนี้ทีแรกคิดว่าจะให้ 3 ดาวครึ่ง แต่หักออกครึ่งดาว เพราะความสมจริงในเหตุผลของเรื่องยังไม่มากพอใน 2 จุดซึ่งคิดว่าทำให้ความสนุกของเรื่องลดลง แต่ถ้าใครชอบเรื่องเทพเจ้ากรีก ก็อ่านได้สนุกพอใช้ เพราะเรื่องราวยุคปัจจุบันน้อยกว่าครึ่ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวยุคโบราณสมัยแอตแลนติสก่อนเจอกับนางเอก เน้นเรื่องความสัมพันธ์กับอาร์ทีมิสมากกว่า แม้จะเป็นเพราะผู้เขียนต้องการปูพื้นเรื่องให้เห็นว่าเพราะอะไรแอชรอนถึงไม่ ไว้ใจใคร หรือไว้วางใจใครยาก แต่การรู้จักนางเอกและไว้ใจนางเอกก็ไม่ได้ปูพื้นให้เห็นมากสักเท่าไหร่ว่า ทำไมถึงได้ยอมวางใจอีกครั้ง ผ่านการทดสอบน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยนอกจากด้วยคำพูดและการกระทำเพียงเล็ก น้อย ถ้าเทียบกับอดีตที่โดนกระทำอย่างหนักหนาสาหัส นอกจากที่มาบอกตอนหลังๆ ว่าแม่จับจองไว้ให้ และพระเอกเคยรู้จักตั้งแต่รุ่นปู่ และอีกจุดทีแม่แนะนำให้ทอรี่และแอชรอนดื่มเลือดซึ่งกันและกัน เพื่อให้แอชรอนหลุดจากการผูกพันกับอาร์ทิมิส (ง่ายไป) น่าสงสัยว่าแล้วแต่ละฝ่ายจะหาแหล่งอาหารจากที่ไหนให้ตัวเองเมื่อแต่ละคนต่าง ไม่กินเลือดคนอื่นเลยซึ่งต่างกับอพอลโลและอาร์ทิมิส ที่ยังมีแหล่งอาหารจากที่อื่น แต่หนังสือก็ให้แง่คิดว่าถ้าเทพแห่งแอตแลนเตียนยอมรับชะตากรรมที่จะถึงกาล พินาศ แอชรอนก็ไม่ต้องมาตกระกำลำบากขนาดนี้ แต่เป็นเพราะทั้งพ่อและแม่ดิ้นรน ทำให้แอชรอนมีชีวิตที่ย่ำแย่ แต่กระนั้นเทพแอตแลนเตียนก็ยังไม่พ้นการดับสูญทั้งวงศ์อยู่ดี แม้ว่าจะเกิดจากผู้เป็นแม่ของแอชรอนแทน
มาเผาบ้าน ม๊ายยอมไม่ยอม ให้แอชรอนสุดหล่อของอุ๋ย 3 ดาวได้ไง เอาอีก 2 ดาวคืนมาเลย