1. พัดลมระบายอากาศแบบติดผนัง

2. พัดลมดูดอากาศแบบติดกระจก

3. พัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้าไม่ต่อท่อระบายอากาศ

4. พัดลมดูดอากาศแบบต่อท่อฝังฝ้า

1. ลักษณะของห้องที่จะติดพัดลมดูดอากาศต้องคำนึงถึงหลักการการไหลของอากาศเป็นสำคัญ โดยปกติแล้วลมจะเข้าช่องเล็ก-ออกช่องใหญ่ , เข้าช่องล่าง-ออกช่องบน (ตามทฤษฎีอากาศร้อนจะลอยขึ้นบน อากาศเย็นจะตกลงด้านล่าง)  ดังนั้นการระบายอากาศที่ถูกต้องนั้นต้องเกิดการไหลเวียนของอากาศภายนอกเข้ามาในตัวบ้าน ไม่ใช่การเปิดประตูให้ลมเข้าแต่ไม่มีทางออก เช่น ห้องน้ำจึงควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศเป็นที่สุด

2. จุดที่จะติดตั้งพัดลมดูดอากาศต้องสามารถถ่ายยเทอากาศได้โดยตรง ถ้าไม่มีช่อองให้อากาศผ่านก็ติดพัดลมดูดอากาศแบบฝังเพดานแทน

3. การคำนสณอัตราส่วนขของห้องในการเลือกพัดลมดูดอากาศแต่ละรุ่นมีดังนี้ ปริมาตรของห้อง = กว้าง x ยาว x สูง (หน่วยเป็นเมตร) ขนาดที่ต้องใช้หรือ CMH = ปริมาตรของห้อง x ค่ามาตรฐาน - CMH = คิวบิค (ลูกบาศก์) เมตร ต่อชั่วโมงเปลี่ยนหน่วยเป็นคิวบิคฟุตต่อชั่วโมง หรือ CFH โดยการจับไปคูณกับ CMH ด้วย 35.32 หรือลดหน่วยต่อชั่วโมงเป็นต่อนาทีโดยการหารด้วย 60 (ค่ามาตรฐานที่ควรใช้ในทุกห้อง) ห้องครัวควรใช้ค่ามาตรฐาน  15 , ห้องน้ำควรใช้ค่ามาตรฐาน 10 , ห้องนั่งเล่นห้องนอนควรใช้ค่ามาตรฐาน  6 สุดท้ายควรเลือกพัดลมดูดอากาศรุ่นที่มีขนาด CFH สูงกว่าค่าที่คำนวณได้ เพื่อความมั่นใจว่าอัตราการระบายอากาศเป็นไปตามที่ต้องการ