Group Blog
 
All Blogs
 
ปี 195 AD

ปี Xingping ที่ 2 195 AD
(29 มกราคม 195 – 16 กุมภาพันธ์ 196)

ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนแรก วันที่ 7 กุมภาพันธ์ มีการประกาศนิรโทษกรรมจากทางการ

โจโฉโจมตีลิโป้พ่ายแพ้ที่ Dingtao

ราชโองการแต่งตั้งให้อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพขวา

เมื่อตั๋งโต๊ะเสียชีวิต ประชาชนในเมืองหลวงมีจำนวนหลายแสนครอบครัว แต่เมื่อลิฉุยและพวกปล้นสะดมชาวบ้าน ชาวบ้านอดอยากถึงขนาดกินเนื้อคน ภายในเวลาสองปี มีชาวบ้านเหลืออยู่น้อยไม่มากจากการอพยพและอดตาย

ลิฉุย กุยกีและหวนเตียว โอ้อวดความสำเร็จของเขาและช่วงชิงอำนาจกัน เป็นที่มาของการทะเลาะกัน กาเซี่ยงแนะนำให้พวกเขาปฏิบัติตัวเองอยู่ในศีลธรรม แม้ว่าพวกเขาจะเกลียดซึ่งกันและกัน ก็ไม่แสดงมันออกมา

ก่อนหน้านั้น เมื่อหวนเตียวโจมตีม้าเท้งและหันซุย Li Li หลานชายลิฉุยนำกองทัพสู้รบได้ไม่ดีนัก หวนเตียวด่าเขา บอกว่า ทหารเหล่านี้ล้วนแต่ต้องการตัดหัวลุงเจ้า เจ้ายังทำตัวไร้ความสามารถแบบนี้ หรือต้องการให้ข้าสังหารเจ้า

เมื่อม้าเท้งและหันซุยพ่ายแพ้และหลบหนีไป หวนเตียวไล่ตามพวกเขาไปถึงตันฉอง หันซุยบอกกับหวนเตียวว่า แม้ว่าเราจะทำสงครามกัน แต่เราไม่มีความเคียดแค้นส่วนตัวต่อกัน ท่านและข้าก็มาจากตำบลเดียวกัน ข้าต้องการที่จะคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวเพื่อบอกลา พวกเขาจึงควบม้ามาคุยกันเพียงลำพังครู่หนึ่ง เมื่อหวนเตียวนำทัพกลับ Li Li ได้รายงานลิฉุยว่า ข้าเห็นหันซุยและหวนเตียวพบและคุยกันบนหลังม้า ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่ทั้งสองดูสนิทสนมกันและไม่มีใครล่วงรู้คำพูดของพวกเขา ลิฉุยซึ่งอิจฉาหวนเตียวเนื่องจากความสามารถในการรบของหวนเตียวจึงเกิดการระแวง

เมื่อหวนเตียววางแผนที่จะโจมตีทัพพันธมิตรทางตะวันออก เขาร้องขอทหารเพิ่มจากลิฉุย ในเดือนที่สองลิฉุยเรียกตัวเขาเข้าประชุม และฆ่าเขาทันทีเมื่อเขานั่งลงในที่ประชุม เหล่าแม่ทัพที่เหลือจึงเกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน

ลิฉุยชวนกุยกีมาดื่มด้วยกันเสมอ และบางครั้งกุยกีก็อยู่ที่บ้านลิฉุยทั้งคืน ภรรยากุยกีกลัวว่าสามีของนางจะมีความสัมพันธ์กับหญิงรับใช้ของลิฉุย นางจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

เมื่อลิฉุยส่งของขวัญมาให้กุยกี เป็นอาหารบางอย่าง ภรรยาของกุยกีนำถั่วที่คั่วเกลือไปแช่ไว้ในยาพิษ และนำมันไปรวมกับของขวัญ นำมันมาให้สามีของนางดู พูดว่า ไก่สองตัวไม่อาจขันได้บนกิ่งไม้เดียวกัน ข้าคิดว่าท่านไม่ควรเชื่อใจท่านลิฉุยมากนัก ต่อมาไม่นาน ลิฉุยเชิญกุยกีไปดื่มสังสรรค์อีก กุยกีดื่มจนเมามาก เขาเกิดความสงสัยว่าเขาจะโดนวางยาพิษหรือเปล่า เขาจึงดื่มฉี่ของตัวเองเพื่อให้อาเจียนออกมา ทั้งสองจึงเริ่มรวบรวมกองทัพโจมตีซึ่งกันและกัน

ฮ่องเต้จึงส่งขุนนางมาทำการไกล่เกลี่ย แต่ทั้งสองก็ไม่ยอมสงบศึก กุยกีพยายามที่จะชิงตัวฮ่องเต้มาที่ค่ายทหารของเขา แต่ทหารคนหนึ่งของเขาลอบไปบอกลิฉุยในยามค่ำคืน

ในเดือนที่สาม วันที่ 22 เมษายน ลิฉุยส่งหลานชายเขา ลิเซียมนำทัพหลายพันนายเข้าล้อมวังหลวง และนำราชรถสามคันไปรับตัวองค์ฮ่องเต้ แม่ทัพใหญ่ เอียวปิวบอกว่า มีธรรมเนียมประเพณีแต่โบราณแล้วว่า องค์ฮ่องเต้หรือแม้แต่ท่านอ๋องจะไม่เสด็จประทับในบ้านของสามัญชน พวกท่านกำลังละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติ พวกท่านไม่ควรทำเยี่ยงนี้ ลิเซียมตอบว่า ท่านแม่ทัพได้ตัดสินใจแล้ว

เหล่าขุนนางจึงเดินตามราชรถ ทหารจึงกรูเข้าไปในวังหลวง ปล้นชิงข้าวของทุกอย่าง รวมถึงนางสนมและผู้หญิงทุกคนในวังหลวง

เมื่อฮ่องเต้มาถึง ลิฉุยนำทองคำและผ้าไหมที่ได้จากการปล้นวังหลวงมาไว้ที่ค่ายของเขา หลังจากนั้นเขาจึงจุดไฟเผาวังหลวง บ้านของขุนนางและราษฎร ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

ฮ่องเต้จึงส่งขุนนางชั้นสูงไปไกล่เกลี่ยทั้งสองอีกครั้ง แต่กุยกีได้จับตัว เอียวปิว Zhang Xi Wang Long Deng Yuan ซุนซุย ฮันหยง Xuan Fan Rong Ge จูฮี Liang Shao Jiang Xuan กุยกีขังพวกเขาไว้เป็นตัวประกัน จูฮี หวาดกลัวจนล้มป่วยและเสียชีวิต

ในฤดูร้อน เดือนที่สี่ วันที่ 20 พฤษภาคม แม่นางฮกสิ่วจากฮองหลิมได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ฮกอ้วนพ่อของพระนางได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ถือคฑาทอง

กุยกีจัดงานเลี้ยงสำหรับขุนนางผู้ใหญ่ และปรึกษาเรื่องโจมตีลิฉุย เอียวปิวจึงว่าขุนนางราชสำนักที่ต่อสู้กัน คนหนึ่งลักพาตัวฮ่องเต้ อีกคนจับตัวขุนนางผู้ใหญ่ไว้เป็นตัวประกัน จะมีสถานการณ์ไหนเลวร้ายกว่านี้ได้อีก

กุยกีโมโหมาก คว้าดาบออกมาจะไปทำร้ายเอียวปิว เอียวปิวจึงว่า เจ้าเองไม่ได้ทำสิ่งดีเพื่อแผ่นดินนี้เลย ข้าเองจะกลัวตายไปทำไมเล่า ก่อนที่กุยกีจะทำร้ายเอียวปิว เอียวปิดได้คัดค้านอย่างแข็งขัน กุยกีจึงยอมเลิกรา

ลิฉุยเรียกทหารหลายพันนายจากเผ่าเกี๋ยง และชนเผ่าอื่น ๆ ทางเหนือ เขาได้มอบสิ่งของที่ค่าที่ยึดจากวังหลวง ผ้าไหม และสัญญาจะมอบนางสนมในวังหลวงให้เป็นทาสพวกเขา แล้วลิฉุยจึงใช้พวกเขาเข้าโจมตีกุยกี

ในขณะเดียวกัน กุยกีก็วางแผนกับแม่ทัพของลิฉุย แม่ทัพ Zhang Bao ลอบซุ่มโจมตีในยามค่ำคืนวันที่ 22 พฤษภาคม กุยกีนำทหารเข้าโจมตีลิฉุย ลูกธนูปักเข้าไปถึงผ้าม่านในกระโจมของฮ่องเต้ ลิฉุยเองก็โดนธนูยิงเข้าที่หูขวา

Zhang Bao และลูกน้องวางเพลิงเผาบ้านเรือน แต่เพลิงก็มอดลง และ เอียวฮองก็หยุดการโจมตีของทัพหลักกุยกีไว้ได้ กองทัพกุยกีจึงถอยกลับ Zhang Baoและพวก รวมถึงทหารของพวกเขาจึงหนีไปอยู่กับกุยกี

วันที่ 23 พฤษภาคม ลิฉุยย้ายฮ่องเต้อีกครั้งไปอยู่ที่ป้อมทางตอนเหนือและแต่งตั้งขุนพลเฝ้าประตูไว้

ฮ่องเต้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก บรรดาเหล่าขุนนางที่เข้าเฝ้าก็ล้วนแต่ส่อแววอดอยากหิวโหย แต่เมื่อฮ่องเต้ได้ขอลิฉุยข้าวสารและกระดูกเพื่อทำอาหารเลี้ยงพวกเขา ลิฉุยตอบว่า ทุกเช้าค่ำ ข้าได้ส่งอาหารมาที่นี่ ใยท่านต้องร้องขอข้าวสารอีก แต่ลิฉุยไม่ได้ส่งมาแต่เพียงกระดูกเน่า ๆ เท่านั้น ฮ่องเต้โมโหมากและต้องการที่จะด่าเขา แต่ เอียวกีได้แนะนำว่า ลิฉุยรู้ดีว่าเขาทำตัวเป็นกบฏ เขาต้องการให้ท่านย้ายไปอยู่ที่ Huangbocheng ใน Chiyang (เป็นฐานที่มั่นของลิฉุย) ขอให้ท่านอดทนต่อพฤติกรรมชั่วร้ายของลิฉุยด้วย

Zhao Wen เขียนจดหมายไปหาลิฉุยว่า ท่านได้สังหารหมู่ผู้คนไปมากมาย ปล้นทรัพย์สินในวังหลวง ฆ่าขุนนางผู้ใหญ่ ท่านได้ทะเลาะกับกุยกี ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นสงครามต่อสู้กันถึงตาย ราชสำนักได้พยายามให้ท่านสงบศึกต่อกัน แต่คำสั่งราชสำนักไม่มีผลอันใดต่อพวกท่าน เวลานี้ท่านยังต้องการจะย้ายองค์ฮ่องเต้ไปยัง Huangbocheng ข้าเองเป็นตาเฒ่าคนหนึ่ง ผ่านโลกมามาก ยังไม่เข้าใจเหตุผลท่านเลย ในหนังสือ Book of changes มีคำกล่าวไว้ว่า คนเราทำผิดครั้งแรกแล้ว ยังทำผิดซ้ำสองอีก เมื่อใดที่ทำความผิดนั้นเป็นครั้งที่สาม หายนะใหญ่หลวงจะบังเกิด เรื่องเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการทำให้พวกท่านกลับเป็นพันธมิตรกันอีกครั้ง ลิฉุยโกรธมาก เขาตั้งใจที่จะฆ่า Zhao Wen แต่น้องชายของเขา Li Yang ได้ห้ามไว้ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ลิฉุยก็ล้มเลิกความตั้งใจ

ลิฉุยเป็นคนที่เชื่อในไสยศาสตร์ อำนาจมืด พ่อมดหมอผีต่าง ๆ เขามักจะบูชายัญให้แก่ตั๋งโต๊ะนอกวังหลวงอยู่เสมอ เมื่อไหร่ที่เขาพูดกับฮ่องเต้ เขาจะยกย่องฮ่องเต้ว่า ทรงชาญฉลาดและปรีขาสามารถอยู่เสมอ และด่าว่ากุยกีนั้นดื้อรั้น เป็นกบฏ ฮ่องเต้ก็จะรับสั่งตอบเอาใจเขา ลิฉุยก็พึงพอใจ คิดว่าฮ่องเต้ทรงโปรดตัวเขา

ในเดือนที่ห้า วันที่ 4 กรกฎาคม ฮ่องเต้ส่ง ฮองหูเฮียบไปไกล่เกลี่ยระหว่าง ลิฉุยและกุยกี ฮองหูเฮียบไปหากุยกีก่อน กุยกียอมสงบศึกแต่โดยดี แต่ลิฉุยปฏิเสธบอกว่า กุยกีเป็นเพียงขโมยและโจรขโมยม้า เขากล้าดีอย่างไรเอาตัวเองมาเทียบกับข้า ข้าจะต้องลงโทษเขาอย่างแน่นอน ท่านก็ได้เห็นแผนการและกองทัพของข้าแล้ว ทหารองข้าล้วนกล้าแกร่งมากพอที่จะเอาชนะกุยกีได้แน่ นอกจากนี้ กุยกียังจับตัวขุนนางผู้ใหญ่ไว้เป็นตัวประกัน เขากระทำความผิดอุกอาจเช่นนี้แล้วท่านยังจะช่วยเขาอีกหรือ

ฮองหูเฮียบบอกว่า คิดให้ดี ๆ ท่านแม่ทัพ ท่านคงยังจำความแข็งแกร่งของตั๋งโต๊ะได้ในเวลาไม่นานมานี้เอง ลิโป้ก็เป็นคนสนิทของเขา แต่ลิโป้กลับวางแผนโค่นล้มเขา ไม่นานตั๋งโต๊ะก็ถึงจุดจบ สิ่งนี้ย่อมเกิดขึ้นกับคนที่มีความแข็งแกร่งแต่ปราศจากการวางแผนที่ดี

เวลานี้ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ มียศฐาบรรดาศักดิ์มากมาย กุยกีก็เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แต่ท่านลักพาตัวฮ่องเต้ ซึ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง เตียวเจก็ไปเข้าร่วมกับกุยกี เอียวฮอง ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าหัวหน้าโจร แต่ถ้าเขาเชื่อว่าท่านทำผิด แม้ว่าท่านจะเลี้ยงดูเขาดีเพียงใด ไม่ช้าเขาต้องเล่นงานท่านแน่ ลิฉุยด่าเขาและเชิญเขากลับไป

ฮองหูเฮียบกลับมาถึงวัง เขาบอกกับฮ่องเต้ว่า ลิฉุยได้ปฏิเสธราชโองการ น้ำเสียงของเขาก็แสดงความไม่เชื่อฟังในพระองค์ ฮ่องเต้กลัวว่าลิฉุยจะรู้เรื่องที่ ฮองหูเฮียบรายงาน เขาจึงสั่งให้ ฮองหูเฮียบจากไปในทันที

ลิฉุยส่งอ่องเฉียงไปเรียกตัว ฮองหูเฮียบกลับมาเพื่อฆ่า แต่ อ่องเฉียงรู้ดีว่า ฮองหูเฮียบนั้นซื่อสัตย์และมีใจสุจริต เขาจึงปล่อยตัวไปและบอกกับลิฉุยว่า พวกข้าไล่ตามตัวเขาไม่ทัน

วันที่ 6 กรกฎาคม ลิฉุยเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ มีตำแหน่งสูงกว่าขุนนางใหญ่ทั้งสาม

ซิหลันและลิฮอง ลูกน้องของลิโป้ได้ตั้งค่ายที่ Juye โจโฉเข้าโจมตีพวกเขา ลิโป้พยายามเข้าช่วยทัพ ซิหลันแต่ไม่สำเร็จและถูกโจมตีจนต้องถอยทัพ โจโฉตัดหัว ซิหลันและลูกน้อง

กองทัพโจโฉมาถึง Shengshi โตเกี๋ยมได้เสียชีวิตแล้ว ลูกน้องโจโฉคนหนึ่งจึงได้แนะนำให้เขายึดมณฑลชีจิ๋ว ก่อนที่จะสู้รบกับลิโป้ต่อ

ซุนฮกบอกว่า ในอดีตฮ่องเต้ฮั่นโกโจได้ยึดดินแดนภาคกลางเป็นที่มั่น ส่วนฮ่องเต้ฮั่นกองบู๊ ก็ใช้เมืองโห้ลายเป็นที่ตั้ง ทั้งสองได้วางรากฐานและใช้เป็นที่ตั้งสำคัญ เมื่อพวกเขารุกโจมตี ศัตรูก็แตกพ่ายไป และเมื่อพวกเขาถูกโจมตีพ่ายแพ้ต้องถอยทัพ พวกเขาก็ยังสามารถรักษาที่มั่นได้ แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่ในที่สุดเขาก็จะได้ชัยชนะและครอบครองแผ่นดินทั้งหมด

เมื่อท่านเป็นผู้ครองมณฑลกุนจิ๋ว ท่านได้ปราบปรามโจรภูเขาต่าง ๆ ผู้คนจึงอพยพมาอยู่กับท่าน ยอมรับการปกครองของท่าน แม่น้ำแยงซีและเมืองกิจิ๋ว ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของแผ่นดิน แม้ว่าชนบทจะถูกทำลายไป แต่มันเป็นการง่ายสำหรับท่านที่จะคิดการใหญ่โดยเริ่มจากที่นี่ พื้นที่นี้คือ ดินแดนภาคกลางของท่าน เปรียบเสมือนเมืองโห้ลายของท่าน ท่านต้องยึดดินแดนที่นี่ก่อน

เวลานี้ท่านได้ชัยชนะเหนือลิฮองและซิหลัน ถ้าท่านส่งกองทัพบางส่วนไปตะวันออกโจมตีตันก๋ง เขาย่อมไม่กล้าเสี่ยงยกทัพมาตะวันตกแน่ ให้ท่านใช้โอกาสนั้น นำทหารไปทำการเพาะปลูก รวบรวมอาหาร สะสมเสบียง ด้วยวิธีนี้ ลิโป้ต้องพ่ายแพ้ เมื่อท่านได้ชัยชนะเหนือลิโป้แล้ว ท่านก็สามารถเป็นพันธมิตรกับมณฑลยังจิ๋วทางใต้(เล่าอิ้ว) และโจมตีอ้วนสุดยึดครองดินแดน Huan และ Si

สมมุติว่าท่านทิ้งศึกกับลิโป้แล้วมุ่งไปตะวันออก ถ้าท่านทิ้งทหารป้องกันที่นี่น้อยเกินไป ท่านก็จะไม่มีทหารเพียงพอที่จะทำการได้สำเร็จ แต่ถ้าท่านเหลือทหารป้องกันไว้น้อยนิด ผู้คนก็จะละทิ้งบ้านช่องมาหลบอยู่ในเมือง ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ และลิโป้ก็จะได้โอกาสปล้นพวกเขา ผู้คนต่างจะพากันไม่มั่นใจในตัวท่าน Juancheng Fan และวุยอาจจะรักษาไว้ได้ แต่เมืองอื่นที่เหลือก็จะเสียไปอย่างแน่นอน

ถึงตอนนั้น ท่านก็เสียมณฑลกุนจิ๋ว ไปอย่างถาวร และถ้าท่านล้มเหลวในการยึดครองมณฑลชีจิ๋ว ก็จะไม่มีเมืองเหลือให้ท่านพักพิงอีก ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าโตเกี๋ยมจะตายไปแล้ว แต่การยึดครองมณฑลชีจิ๋ว กลับไม่ง่ายดายนัก ผู้คนต่างได้ประสบการณ์จากความพ่ายแพ้ครั้งก่อน พวกเขาต่างหวาดกลัวและจะร่วมกับทหารต่อสู้กองทัพท่าน ดินแดนตะวันออกนั้นผ่านฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว พวกเขาจะรอคอยท่านในกำแพงเมืองที่แข็งแกร่ง เหลือทุ่งนาที่ว่างเปล่าให้แก่ท่าน ท่านจะไม่ได้สิ่งใดเลย จะไม่มีสิ่งใดเหลือให้แย่งชิง ไม่เกินสิบวัน กองทัพนับแสนของท่านจะต้องมีปัญหาก่อนที่จะทำการสู้รบเสียอีก

การโจมตีมณฑลชีจิ๋ว ครั้งก่อนของท่านก็โหดเหี้ยมร้ายกาจ เหล่าคนที่รอดชีวิตต่างพากันเคียดแค้นที่ญาติมิตรของเขาถูกฆ่าตาย พวกเขาจะยอมสู้ตาย ไม่คิดที่จะยอมแพ้ ท่านอาจะสามารถยึดเมืองได้ แต่ไม่สามารถได้ใจผู้คน

ในทุก ๆ สถานการณ์ เราต้องเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับแรก ทางเลือกที่ดีคือการเลือกความปลอดภัยมากกว่าการเพิ่มอันตรายให้ตัวเอง สิ่งสำคัญคือต้องไตร่ตรองแต่ละโอกาสอย่างดี และไม่ทำสิ่งใดที่เป็นการเสี่ยงต่อที่มั่นของท่าน แผนการในปัจจุบันของท่านไม่มีผลดีเลยต่อหัวเมืองทั้งสาม โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง โจโฉจึงเลิกล้มความคิดนั้นไป

ลิโป้ยกทัพมาอีกครั้งจาก Dongmin ร่วมกับตันก๋งนำทัพหมื่นคนมาต่อสู้ ทหารโจโฉเกือบทั้งหมดออกไปเก็บเกี่ยว เหลือทหารเพียงพันนายรักษาการณ์ ค่ายพักมีการป้องกันเพียงน้อยนิด ด้านตะวันตกก็เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ ด้านใต้ของเขื่อนนั้นเป็นป่ารก โจโฉซุ่มทหารไว้หลังเขื่อนครึ่งหนึ่ง ส่วนทหารอีกครึ่งตั้งแนวป้องกัน เมื่อกองทัพลิโป้มาถึง โจโฉสั่งกองหน้าเข้าโจมตี ทันทีที่กองทัพทั้งสองปะทะกัน ทหารที่ซุ่มอยู่ปีนเขื่อนขึ้นมา และพุ่งเข้าใส่ทัพลิโป้อย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาเอาชนะทัพลิโป้ และตามไล่โจมตีไปตลอดทางจนถึงค่ายของลิโป้ จึงถอยทัพกลับ ในคืนนั้นเอง ลิโป้ก็ถอยทัพกลับไป

หลังจากถอยทัพกลับ โจโฉได้ยึดครอง Dingtao และส่งทหารกองย่อย ๆ ไปยึดครองหัวเมืองต่าง ๆ ในมณฑลกุนจิ๋ว ลิโป้หนีไปอยู่กับเล่าปี่ทางตะวันออก เตียวเมาก็ติดตามเขาไป ทิ้ง เตียวเจี๋ยวน้องชายเขาให้ดูแลกองทัพของครอบครัวและเมือง Yongqiu

เมื่อลิโป้มาพบเล่าปี่ครั้งแรกนั้น เขาปฏิบัติตัวอย่างสุภาพที่สุด กล่าวว่า ท่านและข้าต่างก็เป็นคนจากชายแดนทั้งคู่ ข้าเห็นทัพพันธมิตรก่อตั้งกองทัพเพื่อสังหารตั๋งโต๊ะ ตัวข้าเองก็เป็นคนที่สังหารตั๋งโต๊ะ แต่เมื่อข้ามาที่หัวเมืองตะวันออกนี้ เจ้าเมืองทุกคนต้างไม่ต้อนรับข้า หนำซ้ำยังคิดที่จะฆ่าข้าด้วย

เขาจึงเชิญเล่าปี่มาที่กระโจมของเขา ให้นั่งบนเตียงของภรรยาเขา และให้ภรรยาเขาคำนับเล่าปี่ ลิโป้รินสุราให้แก่เล่าปี่ ทั้งคู่กินและดื่นด้วยกัน ลิโป้เรียกเล่าปี่เป็นน้องชายของเขา อย่างไรก็ดี เล่าปี่รู้สึกว่าคำพูดและพฤติกรรมของลิโป้นั้นไม่น่าไว้วางใจ เล่าปี่จึงแกล้งยินดีที่ได้พบลิโป้ แต่ในใจนั้นเขารังเกียจลิโป้

ลิฉุยและกุยกีสู้รบกันหลายเดือน ทหารของทั้งสองล้มตายจำนวนหลายหมื่นคน ในเดือนที่หก เอียวฮองลูกน้องของลิฉุยวางแผนฆ่าลิฉุย แต่ถูกล่วงรู้ก่อน เอียวฮองได้นำทหารก่อกบฏ ทำให้กองทัพของลิฉุยอ่อนแอลง

ในวันที่ 24 สิงหาคม แม่ทัพเตียวเจมาถึง Shan เขาต้องการมาสงบศึกระหว่างลิฉุยและกุยกี และนำตัวฮ่องเต้ไปยังเมือง ฮองหลง ชั่วคราว แต่ฮ่องเต้นั้นคิดเสด็จกลับไปเมืองหลวงเก่าที่ลกเอี๋ยง ฮ่องเต้ได้ส่งพลนำสารเพื่อแสดงความต้องการความสงบสุข หลังจากการแลกเปลี่ยนกันสิบครั้ง กุยกีและลิฉุยได้ตกลงสงบศึกกัน ทั้งสองมอบตัวลูกชายคนโปรดของตัวเองให้แก่อีกคนเพื่อเป็นตัวประกัน ภรรยาของลิฉุยรักลูกชายของเขามาก การเจรจาจึงจบลง

เผ่าเกี๋ยงและชนเผ่าอื่น ๆ พากันล้อมที่พักขององค์ฮ่องเต้ บอกว่า โอรสสรวรรค์อยู่ที่นี่ใช่หรือไม่ แม่ทัพลิสัญญากับเราว่าจะมอบหญิงรับใช้ให้แก่เรา พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน ฮ่องเต้วิตกเรื่องนี้มาก จึงส่งเล่าอ้ายไปพูดกับกาเซี่ยงว่า ในฐานะที่ท่านเป็นขุนนางที่จงรักภักดี ท่านเองก็ได้รับบรรดาศักดิ์มากมายจากฮ่องเต้ เวลานี้เผ่า เกี๋ยง และเผ่าป่าเถื่อนอื่น มีอยู่ทุกหนแห่ง ท่านต้องทำอะไรซักอย่าง

กาเซี่ยงจึงเรียกผู้นำเผ่ามา มอบสุราและอาหารให้พวกเขา และสัญญาว่าจะให้ตำแหน่งขุนนางและรางวัลแก่พวกเขา พวกเขาจึงเดินทางกลับ ลิฉุยจึงโดดเดี่ยว กองทัพของเขาก็อ่อนแอลง และเมื่อการเจรจาสงบศึกถูกทบทวนอีกครั้ง ลิฉุยจึงตกลก ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนลูกสาวกันเป็นตัวประกัน

ในฤดูใบไม้ร่วง เดือนที่เจ็ด วันที่ 17 กันยายน ฮ่องเต้เสด็จไปที่ประตู Xuanping เพื่อต้องการข้ามสะพาน ทหารหลายร้อยคนของกุยกีซึ่งเฝ้าประตูอยู่พูดว่า นั่นคือองค์ฮ่องเต้ ใช่หรือไม่ ทหารหลายร้อยคนของลิฉุยซึ่งนำหน้าขบวนราชรถได้กันไม่ให้ทหารกุยกีเข้าใกล้ ทั้งสองฝ่ายเกิดการสู้รบกันขึ้น เล่าอ้ายจึงตะโกนเสียงดังบอกว่า องค์ฮ่องเต้อยู่ในราชรถนี้ เอียวกีเลิกผ้าม่านของราชรถขึ้น แล้วฮ่องเต้ก็ตรัสว่า เหล่าทหารทั้งหลาย พวกท่านกล้าดียังไงถึงมารุมล้อมรถของเรา ทหารของกุยกีจึงถอยไป และเมื่อขบวนราชรถข้ามสะพาน ทหารกุยกีทุกคนต่างร้องตะโกนว่า ทรงพระเจริญหมื่น ๆ ปี

ในค่ำวันนั้น ขบวนได้เดินทางมาถึง Baling บรรดาขุนนางที่ติดตามเสด็จล้วนแต่หิวโหย เตียวเจจึงปันส่วนอาหารให้ขุนนางแต่ละคน ลิฉุยย้ายค่ายพักไปอยู่ที่ Chiyang

ในวันที่ 19 กันยายน เตียวเจถูกแต่งตั้งเป็นแม่ทัพทหารม้าเร็ว และมีที่ทำการขุนนางคล้ายกับขุนนางชั้นสูงทั้งสาม กุยกีเป็นแม่ทัพราชรถและทหารม้า Yang Ding เป็นแม่ทัพหลัง เอียวฮองเป็นแม่ทัพผู้เชิดชูคุณธรรม ทั้งหมดได้รับตำแหน่ง Marquise ตังสินลูกน้องเก่างิวฮู ถูกแต่งตั้งเป็นแม่ทัพรักษาความสงบและดูแลราชสำนัก

กุยกีต้องการที่จะให้ฮ่องเต้เสด็จไป Gaoling แต่ขุนนางผู้ใหญ่หลายคนและเตียวเจคิดว่า ฮ่องเต้ควรจะเสด็จไปประทับที่ ฮองหลง มีการประชุมใหญ่หารือในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ ฮ่องเต้ส่งสารไปหากุยกี บอกว่า ฮองหลง นั้นใกล้กับที่บวงสรวงและวัดโบราณ ไม่น่าเป็นที่ต้องสงสัย กุยกีก็ยังไม่เห็นด้วย ฮ่องเต้จึงไม่ทรงเสวยอาหารทั้งวัน กุยกีรู้ข่าวเข้า จึงบอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้พระองค์ไปประทับที่ตำบลใกล้ ๆ นี้ก่อน

ในเดือนที่แปดวันที่ 27 กันยายน ฮ่องเต้เสด็จไป Xinfeng ในวันที่ 29 กันยายน กุยกีวางแผนลักพาตัวฮ่องเต้ไปประทับที่ Mei ตันอิบรู้แผนการนี้ก่อน จึงลอบบอก Yang Ding ตังสินและ เอียวฮองให้ไปรวมกันที่ Xinfeng เมื่อกุยกีรู้ว่าแผนของตัวเองล้มเหลว จึงทิ้งกองทัพของเขาและหลบไปเนินเขาทางใต้

โจโฉล้อมเมือง Yongqiu เตียวเมาไปหาอ้วนสุดขอความช่วยเหลือ เตียวเจี๋ยวน้องชายเขา แต่เตียวเมาถูกลูกน้องตัวเองฆ่าตายในระหว่างทาง

ในฤดูหนาว เดือนที่สิบ โจโฉถูกแต่งตั้งเป็นผู้ครองมณฑลกุนจิ๋ว

ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ลูกน้องของกุยกีประกอบด้วย Xia Yu Gao Shi และคนอื่น ๆ วางแผนบังคับให้ฮ่องเต้เสด็จกลับไปตะวันตก Liu Ai เห็นเพลิงลุกไหม้หลายจุด จึงขอร้องให้ฮ่องเต้เลือกค่ายใดค่ายหนึ่งเป็นที่พักเพื่อหลบภัย

Yang Ding และ ตังสินนำกองทัพมาเพื่ออารักขาฮ่องเต้ไปยังค่ายพักที่ เอียวฮอง Xia Yu และคนอื่น ๆ ก็นำทหารมาขัดขวางขบวนเสด็จ Yang Ding และ เอียวฮองต่อสู้ได้ชัยชนะ ฮ่องเต้จึงสามารถเสด็จไปต่อได้

ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ฮ่องเต้เสด็จไปที่ Huayin ตวนอุยมอบเสื้อผ้าของเขาและทรัพย์สมบัติให้แก่ฮ่องเต้ และจัดหาเสบียงให้ขุนนางคนอื่น เขาต้องการให้ฮ่องเต้เสด็จมาที่ค่ายของเขา แต่ ตวนอุยมีเรื่องบาดหมางกับ Yang Ding ตันอิบและ จั่วหลิงลูกน้อง Yang Ding จึงว่า ตวนอุยวางแผนก่อการกบฏ

เอียวปิว Zhao Wen Liu Ai Ling Shao ต่างพากันพูดว่า ตวนอุยไม่มีทางคิดก่อกบฏ พวกเราขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แต่ ตังสินและ Yang Ding บังคับผู้สังเกตการณ์ของ ฮองหลง คนหนึ่งให้บอกว่า เขาเห็นกุยกีมาที่ค่ายของ ตวนอุยฮ่องเต้ทรงลังเลพระทัย จึงตัดสินใจประทับทางใต้ของถนนโดยไม่มีที่พัก

ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เอียวฮองตังสินและ Yang Ding ตั้งใจโจมตี ตวนอุย พวกเขาส่ง ตันอิบและ จั่วหลิงไปขอให้ฮ่องเต้ออกราขโองการให้โจมตี ฮ่องเต้จึงตรัสว่า ไม่เคยมีหลักฐานว่า ตวนอุยกระทำความผิดอันใด แต่ เอียวฮองและคนอื่นต้องการที่จะโจมตีเขา พวกท่านเลยขอให้ข้าออกราชโองการอย่างนั้นหรือ ตันอิบยังยืนกรานที่จะให้ฮ่องเต้ออกพระบรมราชโองการให้ แต่จนถึงเวลาเที่ยงคืน ฮ่องเต้ก็ยังคงปฏิเสธ

เอียวฮองและพวกจึงโจมตีค่ายของ ตวนอุยโดยพละการ แต่สิบวันผ่านไป พวกเขาก็ยังไม่สามารถยึดค่ายได้ ตวนอุยยังคงแบ่งเสบียงอาหารและข้าวของให้กับฮ่องเต้และขุนนางคนอื่น ไม่หวั่นไหวในความจงรักภักดีของเขา

ไม่นานจึงมีราชโองการสั่งให้ขุนนางทุกคน ประกาศให้ Yang Ding และพวกสงบศึกกับ ตวนอุย Yang Ding และพวกรับคำสั่งตามราชโองการและนำทัพกลับไปค่ายพวกเขา

ลิฉุยและกุยกีโกรธมากที่ฮ่องเต้เสด็จไปทางตะวันออก เมื่อพวกเขารู้ข่าวที่ Yang Ding โจมตี ตวนอุยพวกเขาจึงนำทัพมาร่วมด้วย มุ่งมั่นว่าจะบังคับให้ฮ่องเต้กลับไปตะวันตก

เมื่อ Yang Ding รู้ว่า ลิฉุยและกุยกีมาถึง เขาจึงต้องการจะกลับไป Lantian กุยกีตัดขาดกับเขา ทำให้ Yang Ding ต้องหนีไปเกงจิ๋วโดย

เตียวเจ ซึ่งมักจะไม่ลงรอยกับ เอียวฮองและ ตังสินจึงเข้าร่วมกับลิฉุยและกุยกี

ในเดือนที่สิบสอง ฮ่องเต้ได้เสด็จมาถึง ฮองหลง เตียวเจ ลิฉุยและกุยกี ไล่ตามฮ่องเต้มา มีการรบใหญ่เกิดขึ้นที่ Dongjiang ใน ฮองหลง กองทัพของ ตังสินและ เอียวฮองพ่ายแพ้ เหล่าขุนนางและสามัญชนล้มตายจำนวนมากเกินกว่าจะนับได้ เหล่าขุนนางพากันทิ้งข้าวของทุกสิ่งหนี

Ju Jun ได้รับบาดเจ็บและพลัดตกจากหลังม้า ลิฉุยถามลูกน้องของเขาว่า เขาจะรอดตายรึเปล่า Ju Jun ด่าลิฉุยว่า เจ้ากับลูกน้องก่อการกบฏอย่างอุกอาจ เป็นศัตรูกับองค์ฮ่องเต้ ทำอันตรายเหล่าขุนนางผู้ใหญ่ นำนางสนมออกจากวังหลวง บรรดาทรราชย์และโจรกบฏในอดีต ไม่มีใครเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว ลิฉุยจึงฆ่าเขาตาย

ในวันที่ 24 ธันวาคม ฮ่องเต้เสด็จออกนอกที่ประทับไปยังตำบลตังกั๋ง ตังสินและ เอียวฮองต้องการที่จะสงบศึกกับลิฉุยและพวก แต่กลับส่งสารลับไป โฮต๋อง ถึงอดีตหัวหน้าโจร ลิงัก หันเซียม และ โฮจ๋ายและอ๋องของเผ่าซงหนูใต้ Qubei พวกเขานำทัพม้าหลายพันคนมาร่วมกับกองทัพ ตังสินและ เอียวฮองเข้าโจมตีลิฉุยและพวก พวกเขาได้ชัยชนะ ฆ่าทหารกองทัพลิฉุยหลายพันคน

ด้วยชัยชนะเหนือพวกลิฉุย ตังสินและพวกจึงพากันเดินทางต่อไป

ในวันที่ 1 มกราคม ฮ่องเต้ได้ออกจากตำบลตังกั๋ง ไปทางตะวันออก ตังสินและ เอียวฮองอารักขาราชรถ Hu Kai เอียวฮอง หันเซียม และ Qubei ต่างเป็นทัพหลัง ลิฉุยและพวกตามมาโจมตีอีกครั้ง ครั้งนี้ เอียวฮองพ่ายแพ้ยับเยิน ขุนนางผู้ใหญ่ Deng Yuan Xuan Fan Tian Fen Zhang Yi ล้วนเสียชีวิตเพราะการรบครั้งนี้

ลิฉุยจับตัว Zhao Wen Wang Jiang Zhou Zhong และ Guan Ge และต้องการที่จะสังหารพวกเขา แต่กาเซี่ยงบอกว่า พวกเขาเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ท่านจะฆ่าพวกเขาไม่ได้ ลิฉุยจึงปล่อยตัวพวกเขาไป

ลิงัก พูดกับฮ่องเต้ว่า สถานการณ์คับขันยิ่งนัก ฝ่าบาทควรจะเสด็จประทับบนหลังม้า ฮ่องเต้จึงรับสั่งว่า ข้าจะทิ้งเหล่าขุนนางเอาตัวรอดได้อย่างไร

กองทัพทั้งสองต่อสู้กันเป็นระยะทาง 40 ลี้ เมื่อถึง Shan พวกเขาก็ตั้งค่ายเพื่อป้องกัน หลังจากพ่ายแพ้หลายต่อหลายครั้ง ทหารอารักขาฮ่องเต้จึงเหลือไม่ถึงร้อยนาย ทัพของลิฉุยและกุยกี ยิงธนูจากภายนอกค่ายเข้ามาทุกทิศทาง ขุนนางและเหล่าทหารหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว ต่างคนต่างคิดถึงวิธีที่จะหนีออกไปอย่างเดียว

ลิงัก ได้เสนอให้ฮ่องเต้เสด็จประทับทางเรือผ่าน Dizhu ไปทางแยก Meng แต่เอียวปิวคิดว่าแม่น้ำแยงซีอันตรายเกินไปสำหรับการล่องเรือขององค์ฮ่องเต้ เขาจึงให้ ลิงัก ข้ามแม่น้ำตอนกลางคืน นำเรือเทียบฝั่ง และจุดไฟเป็นสัญญาณสำหรับจุดนัดพบ

ทันทีที่ฮ่องเต้และขุนนางผู้ใหญ่หนีออกจากค่าย ฮกเต็ก พี่ชายของฮองเฮาก็ทำหน้าที่คุ้มกันฮองเฮา เขาขนผ้าไหมสิบพับในแขนเสื้อของเขา ตังสินส่ง ซุนเติ้นไป
ขู่เอาผ้าไหมจากเขา (อาจเป็นเรื่องเท็จ เพราะว่าหลักฐานหลายอย่างระบุว่า ตังสินเป็นขุนนางที่ภักดี) พวกเขายังฆ่าขุนนางคนหนึ่งด้วย เลือดเปรอะเปื้อนฉลองพระองค์ของฮองเฮา

ฝั่งแม้น้ำนั้นสูงกว่าร้อยฟุต จึงไม่สามารถเดินเท้าไปได้ พวกเขาจึงสร้างที่นั่งสำหรับฮ่องเต้ด้วยผ้าไหม ผู้ชายที่อยู่แถวหน้าช่วยกันหย่อนตัวฮ่องเต้ไป คนอื่น ๆ พากันหาทางลงน้ำ บางคนก็กระโดดลงน้ำ ต่างเร่งรีบจนหมวกและเครื่องประดับศรีษะพวกเขาเสียหายหมด

เมื่อพวกเขามาถึงริมน้ำ ต่างพากันแย่งจะขึ้นเรือ แต่ ตังสินและ ลิงัก ใช้มีดสั้นและขวานสั้นขู่ให้พวกเขาออกห่างเรือ พวกเขาถึงกับตัดนิ้วบางคนที่พยายามขึ้นมาบนเรือ

เมื่อฮ่องเต้สามารถขึ้นเรือได้ คนที่ข้ามมาพร้อมฮ่องเต้มีเพียงฮองเฮา เอียวปิว และขุนนางอีกสิบกว่าคน นางสนม ขุนนางและคนที่ไม่สามารถข้ามมาได้ ถูกปล้นโดนทหาร เหล่าทหารแย่งชิงเสื้อผ้าของเขา แม้กระทั่งเส้นผมก็ถูกตัดไป ผู้คนหนาวตายจำนวนมากเกินกว่าจะนับได้

ซุนซุยถูกฆ่าโดยลิฉุย

ลิฉุยมองเห็นไฟทางตอนเหนือของแม่น้ำ เขาจึงส่งทหารม้าไปสอดแนม และพบเห็นฮ่องเต้อยู่กลางแม่น้ำ พวกเขาตะโกนว่า พวกมันกำลังพาฮ่องเต้ไป ตังสินกลัวว่าพวกทหารจะยิงธนูใส่ จึงใช้ผ้ามาคลุมตัวฮ่องเต้ไว้

เมื่อพวกเขามาถึงเมืองไทเอียงฮ่องเต้เสด็จไปค่ายของลิงัก เตียวเอี๋ยงเจ้าเมืองโห้ลายส่งคนหลายพันขนเสบียงไปให้พวกเขา

ในวันที่ 27 ธันวาคม ฮ่องเต้เสด็จไปตำบลอันอิบ โดยราชรถที่ใช้วัวเป็นพาหนะ ฮองอิบเจ้าเมืองโฮต๋อง เสนอบรรณาการเป็นผ้าฝ้ายและผ้าไหม ทั้งหมดถูกมองให้แก่เหล่าขุนนาง ฮองอิบได้ถูกแต่งตั้งเป็นพระยา โฮจ๋าย ได้รับตำแหน่งแม่ทัพปราบปรามทิศตะวันออก เตียวเอี๋ยงได้รับตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ความสงบของแผ่นดิน ทั้งคู่ได้รับสัญลักษณ์แทนพระองค์ และสิทธิ์ในการจัดตั้งที่ว่าการของตัวเอง

แม่ทัพทุกคนในกองทัพต่างแย่งชิงกันเพื่อการแต่งตั้ง มีคนจำนวนมากต้องการตำแหน่ง เกินกว่าจะแกะสลักตราตั้งได้ทัน ตราตั้งบางอันก็ใช้เหล็กขูดขีดอย่างลวก ๆ ฮ่องเต้ประทับอยู่ในบ้านหลังเล็กในพุ่มไม้เตี้ย ประตูไม่สามารถล็อคได้ และเมื่อฮ่องเต้มาพบกับขุนนาง เหล่าทหารเลวก็สามารถมาแอบซุ่มดูได้ และล้อกันเล่นโดยผลักทหารคนอื่นออกมา

ฮ่องเต้ส่งฮันหยงกลับไปฮองหลง เพื่อสงบศึกกับลิฉุย กุยกี ลิฉุยปล่อยตัวขุนนางผู้ใหญ่ที่เขาจับเป็นนักโทษ และส่งนางสนมบางคนกลับ พร้อมด้วยรถม้า ข้าวของมีค่าและตราตั้งต่าง ๆ ที่เขาขโมยจากวังหลวง ข้าวสารหมดจนขุนนางต้องกินผักและผลไม้

ในวันที่ 17 มกราคม เตียวเอี๋ยงมาจาก Yewang เพื่อเข้าประชุม เขาวางแผนนำตัวฮ่องเต้กลับลกเอี๋ยง แต่ขุนนางคนอื่นไม่เห็นด้วย เตียวเอี๋ยงจึงกลับไป Yewang

ในเวลานั้น เตียงอั๋นว่างเปล่าไร้ผู้คนนานกว่า 40 วัน ผู้คนพากันอพยพหนีตาย คนที่อดอยากก็กินเนื้อคนด้วยกัน สองสามปีต่อมาก็ต้นไม้ใบหญ้าก็ขึ้นเต็มถนนหนทาง

ชีสิวแนะนำอ้วนเสี้ยวว่า ตระกูลของท่านได้ถวายการรับใช้ฮ่องเต้มาหลายพระองค์ เวลานี้ฮ่องเต้ทรงร่อนเร่ไม่เป็นหลักแหล่ง วังหลวงถูกทำลาย เมื่อมองดูมณฑลต่าง ๆ เหล่าเจ้าเมืองต่างพากันซ่องสุมผู้คนเพื่อช่วยเหลือฮ่องเต้ แต่ใจจริงนั้น คิดที่จะแย่งชิงดินแดนผู้อื่น โดยไม่คำนึงถึงความอยู่รอดของแผ่นดินหรือสันติสุขของประชาขน

ในมณฑลนี้ เขตชายแดนล้วนแต่สงบสุข ท่านเองก็มีกองทัพที่เกรียงไกร และขุนนางที่มีความสามารถมากมาย ท่านควรที่จะไปเชิญฮ่องเต้จากตะวันตกมาที่นี่ สร้างวังหลวงให้พระองค์ประทับที่เมืองเงียบกุ๋น ถ้าท่านได้ตัวฮ่องเต้ ท่านก็จะมีอำนาจเหนือขุนนางทุกคน ท่านจะสามารถรวบรวมกองทัพเพื่อลงโทษคนที่ไม่เคารพราชสำนัก ใครจะกล้าต่อต้านท่าน

กัวเต๋าและอิเขงแย้งว่า ราชสำนักฮั่นใกล้ถึงจุดจบแล้ว แม้ว่าท่านต้องการจะกอบกู้ไว้ แต่มันยากเกินกว่าที่จะทำได้ เจ้าเมืองต่าง ๆ พากันตั้งตัวเป็นใหญ่ สร้างกองทัพไว้เพื่อเตรียมการ ยกทัพโจมตีกันด้วยจำนวนทหารหลายหมื่นคน นี่เป็นเหมือนช่วงเวลาที่ราชวงศ์ฉินกำลังล่มสลาย ผู้ใดที่สามารถเป็นใหญ่ได้ ผู้นั้นย่อมเป็นเจ้า

ถ้าท่านรับฮ่องเต้มาอยู่ที่นี่ ท่านต้องรายงานทุกอย่างที่ท่านทำต่อเขา ถ้าท่านเชื่อฟังคำสั่งฮ่องเต้ ท่านก็จะเสียอิสระไป แต่ถ้าท่านไม่เชื่อฟังฮ่องเต้ ท่านก็จะกลายเป็นกบฏ นี่ไม่ใช่แผนการที่ดีเลย

ชีสิวบอกว่าถ้าท่านรับฮ่องเต้มาตอนนี้ ท่านจะเป็นเหมือนผู้ทรงคุณธรรมที่บ้านเมืองในเวลานี้กำลังต้องการ ท่านควรจะรีบตัดสินใจก่อนที่คนอื่นจะดำเนินการก่อนท่าน แต่อ้วนเสี้ยวไม่ฟังคำแนะนำเขา

ก่อนหน้านั้น จูตีแห่งตันเอี๋ยงได้เป็นขุนพลรับใช้ซุนเกี๋ยน เขาเห็นว่าอ้วนสุดปกครองอย่างหยาบช้าเพียงใด เขารู้ดีว่าอ้วนสุดจึงปกครองได้ไม่นาน เขาจึงชักจูงให้ซุนเซ็กกลับมาและครอบครองดินแดนแยงซีตะวันออก

ในตอนนั้น งอเก๋งกำลังรบติดพันกับวัวเหล็ง เตียวเอ๋ง และแม่ทัพคนอื่นของเล่าอิ้ว แต่เวลาล่วงเลยไปปีกว่าแล้ว งอเก๋งก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ ซุนเซ็กบอกกับอ้วนสุดว่า ครอบครัวของข้ากำลังรบติดพันอยู่ทางตะวันออก ข้าต้องการไปช่วยน้าของข้าโจมตีอัวกั๋ง เมื่อยึดอัวกั๋งได้แล้ว ข้าจะกลับดินแดนบ้านเกิดเพื่อรวบรวมกองทัพ ข้าคิดว่าสามารถรวบรวมคนสามหมื่นเพื่อช่วยท่านกอบกู้แผ่นดิน

อ้วนสุดรู้ว่าซุนเซ็กนั้นไม่พอใจที่เขาไม่ให้ตำแหน่งตามที่สัญญาไว้ แต่เล่าอิ้วยึดครองขยกโอ๋และอองลองก็ครองเมืองห้อยแข เขาจึงไม่คาดหวังว่าซุนเซ็กจะทำการอะไรได้ เขาจึงอนุญาตให้ไปและแต่งตั้งซุนเซ็กเป็นขุนพลผู้ทำลายแนวป้องกันศัตรู

ซุนเซ็กได้รับทหารน้อยกว่าพันคนและทหารม้าไม่กี่สิบนาย แต่เขาเกณฑ์ทหารเพิ่มเติมจากทุกที่ ที่กองทัพของเขาผ่านไป เมื่อเขามาถึงลิหยง กองทัพของเขามีจำนวนกว่าห้าหรือหกพันคน

Zhou Shang ลุงของจิวยี่เป็นเจ้าเมืองตันเอี๋ยงในตอนนั้น จิวยี่นำทหารออกมาต้อนรับซุนเซ็กและได้นำเสบียงอาหารมาให้เขาด้วย ซุนเซ็กดีใจมาก พูดกับจิวยี่ว่า ข้าได้พบท่านอีกแล้ว วาสนาของเราตรงกันจริง ๆ

พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปอัวกั๋งและ Danglikou พวกเขายึดที่ทั้งสองได้ ทำให้วัวเหล็งและเตียวเอ๋งต้องถอยหนีไป

ซุนเซ็กข้ามแม่น้ำแยงซี ต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า ศัตรูของเขาต่างพากันพ่ายแพ้และไม่มีใครกล้าที่จะต่อสู้กับเขา เมื่อศัตรูรู้ว่า ป้าอ๋องน้อยซุนมาถึง (ความสำเร็จของซุนเซ็ก ทำให้คนนำไปเปรียบเทียบกับเซี่ยงหวี่ หรือ ฌ้อป้าอ๋อง และเรียกเขาเป็นเสียวป้าอ๋อง หรือป้าอ๋องน้อย) พวกเขาก็หมดกำลังใจที่จะต่อสู้ เหล่าขุนนางพากันทิ้งเมือง หลบหนีขึ้นเขาหรือเข้าป่า เมื่อกองทัพของซุนเซ็กเข้าเมืองได้ เพราะว่ากองทัพของซุนเซ็กมีระเบียบวินัย ทหารพากันเชื่อฟังคำสั่งเขา ทหารจึงไม่กล้าปล้นทรัพย์สินชาวบ้าน ไม่มีไก่ สุนัขหรือพืชผักถูกขโมย ชาวบ้านจึงพากันยินดีและนำสุราและเนื้อออกมาเลี้ยงต้อนรับทหารของซุนเซ็ก

ซุนเซ็กนั้นมีรูปงามและเป็นคนสนุกสนาน เขายังใจกว้างและรับฟังผู้คน มีความสามารถดีเยี่ยมในการใช้คน จึงเป็นเหตุให้ทหารและคนที่ได้พบกับเขาล้วนแต่อุทิศตัวรับใช้เขาและเต็มใจยอมชีวิตให้แก่เขา

ซุนเซ็กยึดครองค่ายเล่าอิ้วที่เอียวจู๋ เสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนเก็บไว้ที่นั่น เวลานั้น ซีเหลนายอำเภอ Pengcheng ฉกหยงนายอำเภอแห้ฝือ ล้วนยอมรับเล่าอิ้วเป็นผู้นำ ซีเหลรักษาเมืองวัวเหลง ในขณะที่ฉกหยง นำทหารไปตั้งค่ายทางตอนใต้ของเมือง ซุนเซ็กโจมตีทั้งคู่พ่ายแพ้ไป

ซุนเซ็กโจมตีกองทหารหนึ่งของเล่าอิ้วที่ Meiling และยกทัพไป Hushu และ Jiangcheng โจมตีและยึดครองทั้งสองเมือง หลังจากนั้นเขาเดินทัพไปโจมตีเล่าอิ้วที่ขยกโอ๋

ไทสูจู้ซึ่งเป็นคนตำบลเดียวกับเล่าอิ้ว ได้มาหาเขาจาก Donglai เมื่อซุนเซ็กมาถึง ลูกน้องเล่าอิ้วบางคนได้แนะนำให้เขาตั้งไทสูจู้เป็นนายทหาร แต่เล่าอิ้วตอบว่า ถ้าข้าแต่งตั้งไทสูจู้จริง ๆ เขาเฉียว คงหัวเราะเยาะข้าแน่ เขาจึงใช้ไทสูจู้เป็นทหารสอดแนม

เมื่อไทสูจู้ครองสอดแนมพร้อมทหารม้าคนหนึ่ง ไทสูจู้ได้พบกับซุนเซ็กโดยบังเอิญที่เขาสินเต๋ง ซุนเซ็กนำทหารม้าสิบสามนายมากับเขา ซึ่งมีฮันต๋งและอุยกายรวมอยู่ด้วย ไทสูจู้ควบม้าเข้าโจมตีในทันที เข้าไปเผชิญหน้ากับซุนเซ็ก ซุนเซ็กทำร้ายม้าของไทสูจู้และคว้ามีดสั้นที่หลังคอของไทสูจู้ (ทหารในยุคนั้นนิยมพกมีดสั้นไว้ที่หลังคอเพื่อเอาไว้ขว้างใส่ศัตรู) ส่วนไทสูจู้ก็ได้หมวกของซุนเซ็กไป ไม่ช้าทหารม้าจากกองทัพทั้งสองก็มาถึง ทั้งสองจึงเลิกต่อสู้แยกกันกลับค่าย

เล่าอิ้วต่อสู้กับซุนเซ็ก แต่พ่ายแพ้จนต้องหนีไป Dantu ซุนเซ็กเข้าสู่ขยกโอ๋ ปูนบำเหน็จให้กับทหารที่มีความดีความชอบ เขายังออกประกาศไปทุกหัวเมืองว่า ชายทุกคนแม้แต่ลูกน้องเก่าของเล่าอิ้วและฉกหยง ถ้ามาสวามิภักดิ์ต่อเขา สามารถมาเข้าร่วมกองทัพเขาได้ไม่มีข้อยกเว้น คนที่เต็มใจเข้าร่วมในกองทัพ ครอบครัวเขาจะได้รับการยกเว้นภาษีและการใช้แรงงาน และไม่มีการบังคับเกณฑ์ทหาร ในเวลาสองสามสัปดาห์ ผู้คนต่างหลั่งไหลมาสมัครเข้ากองทัพเขา ดั่งหมู่เมฆที่มาจากทุกทิศทาง มีคนมาสมัครเข้ากองทัพเขาเกินกว่าสองหมื่นคนและทหารม้าหนึ่งพันคน ทำให้กองทัพของเขาเป็นที่น่าเกรงขามต่อเจ้าเมืองในดินแดนแยงซีตะวันออก

ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ อ้วนสุดแต่งตั้งซุนเซ็กเป็นแม่ทัพผู้ทำลายอาชญากร

ลิห้อมลูกน้องของซุนเซ็ก ได้พูดกับเขาว่า ภาระหน้าที่ของท่านยิ่งใหญ่ขึ้นทุกเหมือนเหมือนกองทัพท่านที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อย จึงมีการจัดการบางอย่างในกองทัพที่ล่าช้า ข้าจึงขออาสาเป็นผู้ควบคุมทัพเพื่อช่วยท่านจัดการสิ่งต่าง ๆ

ซุนเซ็กตอบว่าลิห้อม ในฐานะท่านเป็นผู้นำตระกูลของท่าน ท่านเองก็มีลูกน้องไม่ใช่น้อย และมีชื่อเสียงจากความสามารถของท่าน ทำไมท่านถึงอยากลดตัวเองมารับตำแหน่งต่ำต้อยเพื่อหางานเล็กน้ิอยในกองทัพของข้า

ลิห้อม ตอบว่า ข้าไม่ได้จากบ้านเกิดตัวเองมาเข้าร่วมกับท่านเพื่อฐานะของครอบครัว แต่เพราะข้าต้องการช่วยท่านกอบกู้บ้านเมือง เวลานี้เราเหมือนอยู่ในเรือลำเดียวกัน ถ้าเรือจมพวกเราทุกคนก็ตายด้วยกัน นี่จึงถือเป็นประโยชน์ของข้า หาใช่ของท่านคนเดียวไม่ ซุนเซ็กหัวเราะชอบใจและอนุญาตให้เขา

ลิห้อม กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาเป็นชุดศึกสำหรับขี่ม้า ฉวยเอาแส้และเดินลงจากที่ประชุมแม่ทัพไปรายงานตัวเป็นผู้ควบคุมกองทัพ ซุนเซ็กมอบตราตั้งให้เขาและแต่งตั้งให้เขาควบคุมดูแลกิจการทั้งหมดของกองทัพ ทั้งกองทัพจึงเคารพและรู้สึกดีที่ซุนเซ็กแต่งตั้งให้เขาดูแล กฏกองทัพทั้งหมดจึงถูกปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ซุนเซ็กแต่งตั้งเตียวเหียนเป็นขุนพลแห่งความซื่อตรงและเตียวเจียวเป็นหัวหน้าขุนนาง พวกเขาคนใดคนหนึ่งมักจะอยู่รักษาการณ์ที่ค่าย ขณะที่อีกคนจะไปช่วยเหลือกองทัพ Qin Song Chen Duan และขุนนางคนอื่นจากกองเหลงรับหน้าที่วางแผน

ซุนเซ็กปฏิบัติต่อเตียวเจียวเหมือนอาจารย์และเหมือนเพื่อน และมักจะนำคำแนะนำของเขามาใช้ในการบริหารบ้านเมืองและการจัดการกองทัพ เตียวเจียวนั้นไดรับจดหมายจากบรรดาบัณฑิตและผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ ทางตอนเหนืออยู่บ่อย ๆ พวกเขาล้วนแต่ยกย่องสรรเสริญเตียวเจียวแต่ไม่พูดถึงเพื่อนร่วมงานของเตียวเจียวเลย เมื่อซุนเซ็กรู้ข่าว เขาหัวเราะบอกว่าในอดีต ท่านกวนจงเป็นเฉิงเซี่ยงของรัฐฉี ใคร ๆ ก็รู้ว่าความสามารถของเขาเป็นหนึ่งไม่มีสองรองผู้ใด แต่ในที่สุดก็เป็นฉีหวนกงนายของเขาที่ขึ้นครองความยิ่งใหญ่ เวลานี้เตียวเจียวเป็นคนที่มีความสามารถ ถ้าข้าสามารถใช้ความสามารถเขาได้ ความสำเร็จและชื่อเสียงของเขาก็กลายเป็นของข้าเหมือนกัน

อ้วนสุดแต่งตั้งอ้วนอิ๋นลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นเจ้าเมืองตันเอี๋ยง Zhou Shang และจิวยี่จึงเดินทางกลับเมืองฉิวฉุน

เล่าอิ้วหนีจาก Dantu ไปห้อยแข แต่เขาเฉียวบอกว่า ห้อยแขนั้นอุดมสมบูรณ์ ซุนเซ็กต้องหมายตาไว้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเมืองห้อยแขยังติดทะเล ทำให้หลบหนีได้ลำบาก ท่านไม่ควรไปที่นั่น ที่ที่เหมาะที่สุดคืออิเจี๋ยง ซึ่งตอนเหนือติดกับมณฑลอิจิ๋ว ทางตะวันตกติดกับเกงจิ๋ว รวบรวมผู้คนที่นั่น และส่งคนไปถวายเครื่องราชบรรณาการ เป็นพันธมิตรกับโจโฉในมณฑลกุนจิ๋ว แม้ว่าอ้วนสุดจะขวางทางระหว่างทางทั้งสอง แต่อ้วนสุดนั้นเห็นแก่ตัวและโหดเหี้ยมเหมือนสุนัขป่า เขาไม่สามารถครองอำนาจได้นานนัก

เมื่อท่านได้รับอำนาจจากทางการ จากบรรณาการที่ส่งไป โจโฉและเล่าเปียวต้องส่งทัพมาช่วยเหลือท่านแน่ เล่าอิ้วจึงทำตามคำแนะนำเขา

ก่อนหน้านั้น โตเกี๋ยมแต่งตั้งฉกหยงเป็นนายอำเภอแห้ฝือ และส่งเขาไปควบคุมการขนส่งเสบียงที่กองเหลง แห้ฝือ และ Pengcheng แต่ฉกหยงกลับนำเสบียงเหล่านั้นไปใช้เองตามใจ เขาตั้งสถานที่สวดมนต์ของชาวพุทธ และสนับสนุนให้ราษฎรของเขาอ่านพระสูตร ทำให้ดึงดูดชาวบ้านที่นับถือพุทธจากเมืองใกล้เคียงย้ายมาอยู่ในเขตของเขามากกว่าห้าพันครอบครัว ในวันสรงน้ำพระ มีการจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มมากมายเรียงรายตามถนนหลายสิบลี้ มีของเหลือจำนวนหลายแสน

เมื่อโจโฉโจมตีโตเกี๋ยม เขตแดนของชีจิ๋ว จึงอยู่ในภาวะสงคราม ฉกหยง นำราษฎรหมื่นคนไปยังกองเหลง ที่ซึ่ง Zhao Yu เจ้าเมืองกองเหลงต้อนรับเขาอย่างดี และ ซีเหลนายอำเภอ Pengcheng ถูกโตเกี๋ยมขับไล่มาตั้งค่ายอยู่ที่วัวเหลง

ฉกหยงโลภอยากได้ความมั่งคั่งและทรัพย์สินของเมืองกองเหลง เขาจึงสังหาร Zhao Yu ในงานเลี้ยง ปล่อยให้ทหารของเขาปล้นชาวบ้านไปทั่ว แล้วข้ามแม่น้ำแยงซีไปอยู่กับซีเหล ไม่นานเขาก็ฆ่าซีเหลเหมือนกัน

เล่าอิ้วส่ง Zhu Hao เจ้าเมืองอิเจี๋ยง ไปโจมตีจูกัดเสียน เจ้าเมืองที่อ้วนสุดแต่งตั้ง จูกัดเสียนถอยทัพไปป้องกัน Xicheng หลังจากนั้นเล่าอิ้วจึงยกทัพไปตะวันตกไป Pengze เขาส่งฉกหยงไปช่วย Zhu Hao โจมตีจูกัดเสียน

เขาเฉียวบอกกับเล่าอิ้วว่า เมื่อฉกหยงนำทัพต่อสู้ เขามักจะห่วงอยู่เสมอว่าเขาจะได้อะไรจากการสู้รบ แต่ Zhu Hao มักจะปฏิบัติต่อผู้คนด้วยดีเสมอ ท่านควรจะเตือน Zhu Hao ให้ระวังตัว เมื่อฉกหยงมาถึงเขาล่อลวง Zhu Hao แล้วฆ่าเสียแล้วยึดอำนาจของ Zhu Hao เล่าอิ้วจึงยกทัพไปโจมตีเขา ฉกหยงพ่ายแพ้ หลบหนีขึ้นภูเขา และถูกฆ่าโดยคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น

มีราชโองการแต่งตั้งให้ฮัวหิม ขุนนางระดับสูงในสังกัดราชครูมาเป็นเจ้าเมือง อิเจี๋ยง

จูตีแม่ทัพใหญ่เมืองตันเอี๋ยงขับไล่เค้าก๋องเจ้าเมืองง่อ และยึดเมืองเป็นของตัวเอง เค้าก๋องหนีไปอยู่กับเงียมแปะฮอหัวหน้าโจรภูเขา


Create Date : 15 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 1 มิถุนายน 2549 0:56:15 น. 2 comments
Counter : 640 Pageviews.

 


โดย: wbj วันที่: 15 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:12:01 น.  

 
ขอบคุณพี่ wbj ที่มาแวะเยี่ยมชมครับ


โดย: ซุนเซ็ก (kazama ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:28:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.