Group Blog |
คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม กับการรักษาโรค
สวัสดีค่ะ
ได้มีโอกาสไปวัดอาวุธกสิตาราม ที่ซอยจรัญ 72 ซึ่งอยู่ใกล้ๆโลตัสบางพลัด และได้เห็นหนังสือ "แม่ชีเบอร์1 ตำนานยิ่งใหญ่-พระพุทโธน้อย" จึงรีบคว้าเลยค่ะ เพราะมีของแถมคือ พระพุทโธน้อยปี 2511 ด้วย และมีประวัติท่าน ถ้าใครสนใจพระพุทโธน้อยและหนังสือเล่มนี้ ลองไปดูที่วัดอาวุธนะคะ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ท่านมีชื่อเสียงมากด้านการรักษาโรค ขอสรุปให้ฟังดังนี้นะคะ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมเกิดวันอาทิตย์ 4 มีค. พ.ศ. 2437 -ขึ้น 15 ค่ำ เดือน4 ปีมะเมีย - สำเร็จรอบรู้ในอภิญญา 6 - ได้อธิษฐานต้นมะม่วงต้นเล็กๆ ให้ออกดอกได้ในคืนเดียว - ย่นหนทางยาวให้สั้น - เดินตากฝนไม่เปียก - เรียกฝนให้ตกได้ ขอให้ฝนหยุดตกได้ - เรียกลมให้พัดได้ ฯลฯ __________________________________________________________ นายครรชิต : ป่วยเป็นโรคปวดท้องมานาน เวลานี้ก็ยังปวดอยู่ รักษาตัวหมดเงินมากมายแล้ว กลางคืนปวดแทบไม่ได้นอนทุกคืน อุบาสิกาบุญเรือน : อย่าปวด ให้หายปวดเดี๋ยวนี้ หายปวดหรือยัง นายครรชิต : หายปวดแล้ว อุบาสิกาบุญเรือน : คืนวันนี้อย่าปวด รุ่งเช้า นายครรชิต :เมื่อคืนนี้ไม่ปวดเลย นอนได้สบายตลอดคืน ____________________________________________________ มีคนหลังโกง เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าค้ำ ได้มาหาอุบาสิกาบุญเรือน ขอให้รักษา อุบาสิกาบุญเรือน : "ให้ทิ้งไม้เท้า!"- ชายหลังโกงขว้างไม้เท้าทิ้ง อุบาสิกาบุญเรือน : "ให้ยืนตรงๆ" - ชายหลังโกงค่อยๆยืดตัว และยืนตัวตรงได้ อุบาสิกาบุญเรือน : "ให้ออกเดินและวิ่ง" - ชายคนนั้นก็วิ่งได้ หายเป็นปรกติ เดินกลับบ้านได้เหมือนคนปกติ ___________________________________________________ มรว.ไกรเทพ เทวกุล เป็นนิ่วในถุงน้ำดี แน่น จุกเสียดทุกเดือน หายใจไม่ออก ไป x-ray คุณหมอให้ทำการผ่าตัดทันที - ได้มาปรึกษาคุณป้าบุญเรือนถึงอาการเจ็บป่วย คุณแม่บุญเรือน : ทำไมไม่มาปรึกษาฉันตั้งแต่แรก ถ้าอยากตายก็เชิญไปผ่าได้ - ให้ทานไพล และน้ำอธิษฐาน และให้ปูนอธิษฐานไปทาตามหน้าอกและท้อง เว้นวัน2 วันท่านก็นวดให้ - ปฏิบัติตามเคร่งครัด อาการค่อยทุเลา และหายในเดือนนั้นใหม่ - คุณป้าบุญเรือนให้ไป x-ray ใหม่ นำฟิล์มเก่าใหม่มาเทียบกัน - แผ่นแรกมีวงกลมสีขาวเท่าเหรียญสองสลึง (พ.ศ.2494) , แผ่นx-ray ทีหลังไม่มี - คุณหมอบอกในบริเวณถุงน้ำดีไม่มีก้อนนิ่วแล้ว ________________________________________________________________ บุตรชายคุณกฐินอายุ 9 ปี(พ.ศ.2493) เท้าบวมข้อเท้าถึงหลังเท้า เดินไม่ได้ ปวดมากจนขาลีบเล็ก อุ้มมาหาคุณป้าบุญเรือน อุบาสิกาบุญเรือน : เป็นกระดูกงอกที่ใต้ตาตุ่ม - ท่านทาปูนอฐิษฐานให้ว่าจะต้องหาย - สามีพาลูกไปหาหมอ x-ray หมอบอกเป็น กระดูกงอก ต้องผ่าตัดกระดูก แต่หมอไม่รับรองว่าจะหาย - คุณกฐินพามาหาคุณป้าบุญเรือน โตงบุญเติม - คุณป้าหมออธิษฐานจิตให้ปูนเป็นยารักษา - เอาปูนทา --> ปูดออกมาเหมือนเดือยไก่ที่ส้นเท้า - ทาปูนต่อไปทุกวัน เพราะอาการบวมลดลง และเดินได้แต่ไม่ถนัด - คุณป้าบุญเรือนกวนสีผึ้งให้ปิด เพื่อจะได้ดูดกระดูกนั้นออกมา - คืนหนึ่งมีเลือดไหลที่ส้นเท้า คุณแม่บุญเรือน : ปูนตัดกระดูกงอกออกมาได้แล้ว จะหายแล้ว ให้ระวังคอยดู เพราะกระดูกที่ปูนตัด จะออกมา - รุ่งขึ้น เปลี่ยนสีผึ้งปิดแผลให้ลูก กระดูกออกมาที่สีผึ้งเกือบเท่าเม็ดพุทรา - ทาปูนที่แผลให้ลูกเรื่อยๆ จนน่องมีเหนือ และหายเป็นปกติ _____________________________________________________________ น.ส.อำนวย อายุ 18 ปวดตามข้อ แน่นในอก นอนไม่ได้ต้องนั่งพิงตลอดเวลา ทานอาหารไม่ได้อยู่ 5 วัน รักษาหลายหมอ - คุณแม่มาหาคุณหมอบุญเรือน เล่าอาการให้ทราบ แม่จดชื่อและอายุ คุณแม่ขอเอาปูนอธิษฐานมาให้คุณอำนวยทาตามข้อที่ปวด และระหว่างหัวใจ อธิษฐานขอให้คุณหมอบุญเรือนช่วยรักษาโรคให้หาย - คุณอำนวยเอาปูนทา -> ค่อยๆ ยุบไปที่หัวใจ รู้สึกสบาย, ที่ปวดบวมหายไป, แข็งแรงขึ้นทุกวัน, อาการแน่นหายไป ___________________________________________ คุณเพิ่ม ไอเป็นโลหิต 4 ครั้ง คุณหมอบอกเป็นวัณโรค แนะนำให้ฉีดยาสะเตรปโตมัยซิน - คุณเพิ่มไม่ยอมฉีด และกลับบ้านก็ไอเป็นเลือดอีก อ่อนเพลียขึ้น - ไปหาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ท่านได้อธิษฐานปูนให้ไปทาที่หน้าอกและคอ และให้ตั้งน้ำอธิษฐานในวันเสาร์ไว้ทานด้วย - ทำตาม ตั้งแต่วันนั้น เวลาไอก็ไม่มีเลือด ออกมาอีก, อ่อนเพลียหายไป, อ้วนขึ้น สุขกายสบายใจ ______________________________________________________________ คุณบุญส่ง ป่วยเป็นมดลูกพิการ ท้องบวม แพทย์ตรวจว่ามดลูกอักเสบ, เสียวและปวด นอนไม่ได้- ไปหาคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ขอปูนกับน้ำอธิษฐาน 1 ขวด - ทาปูนได้ 2 ครั้งและทาต่อๆมา ก็รู้สึกหายสบายดี, สามารถออกแรงขุดดินทำไร่ได้ทุกอย่าง สุขภาพเรียวแรงดีกว่าเก่ามาก __________________________________________________________ น้องสาวเป็นโรคหัวใจรั่ว อ่อนเพลีย ทำอะไรไม่ไหว จะเดิน,ขึ้นบันไดก็เหนือย - เอาปูนอธิษฐานของคุณอาบุญเรือนทาหน้าอกทุกวัน -> อาการอ่อนเพลียหาย, หัวใจเต้นแรงผิดปกติก็หาย, มีกำลังทำงาน, ซักผ้ารีดผ้าและทำงานอื่นๆได้ แช่มชืนยิ่งกว่าเก่า ________________________________________ นางแปลก ปวดหัวไหล่ ปีกว่า รักษานวดประคบก็ไม่หาย กระดุกกระดิกก็ปวด ยกแขนขึ้นไม่ได้ ไปหาหมอ หมอบอกรักษาไม่หาย - ไปหาคุณแม่บุญเรือน เล่าอาการให้ทราบ คุณแม่บุญเรือน : "ยกแขนขึ้น" นางแปลก : ยกไม่ขึ้น คุณแม่บุญเรือน : "ยกขึ้น! ยกขึ้น!" - นางแปลกยกแขนขึ้นได้จริงๆ คุณแม่บุญเรือน : "ไม่ให้ปวด! ไม่ให้ปวด!" สั่งให้ยกขึ้นยกลงหลายหนก็ไม่ปวด ตั้งแต่วันนั้น ยกขึ้นได้ และทาปูน ตั้งน้ำอธิษฐาน รับประทานต่อมาก็หายเป็นปกติใน 3 วันเท่านั้น __________________________________________________________ มะเร็งเต้านม คุณครู มีไตแข็งก้อนเท่ามะนาวที่เต้านมซ้าย แต่ไม่เจ็บปวด ร้อนวูบ - วันหนึ่งพบศิษย์เก่าเป็นพยาบาลที่ศิริราช จึงเล่าให้ฟัง เขาตกใจมากบอกว่าคุณครูถ้าจะเป็นมะเร็งเสียแล้ว และร้ายแรงมาก จูงมือให้หมอตรวจ - คุณหมอให้กลับไปประคบน้ำร้อน 4 วันก่อน ถ้าไม่หายแข็งต้องเจาะเนื้อไปตรวจ ถ้าเป็นข้างเดียว ต้องตัดนมข้างหนึง ถ้ารากมะเร็งชอนไปถึงนมอีกข้าง ก็ต้องตัดนม 2 ข้าง และรักษาด้วยการฝังเรเดียมและการฉายแสง - ไปประคบน้ำร้อน แต่ไม่ยุบไม่อ่อนลง จึงไปหาคุณแม่บุญเรือนเล่าให้ฟัง - ท่านตรวจดูและบอกเป็นมะเร็ง แต่อาจหาย ท่านสั่งให้มาหาแล้วจะทาปูนอธิษฐานให้ - ท่านทาปูนอธิษฐานให้ทุกวัน และรับประทานน้ำอธิษฐาน 15 วัน -> ไม่มีก้อนมะเร็งที่เต้านมอีก - เป็นโรคหืด พอถึงฤดูหนาวต้องหอบหืดทรมาน - พอได้ปูนอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือนมาทาหน้าอกและทาคอทุกคืน -> โรคหืดหายไป - ผิวหน้าเสียเพราะถูกแดด เพราะต้องฝึกซ้อมกีฬาให้โรงเรียน เป็นครูพลศึกษา ผิวหน้าแห้ง เป็นจุดรอยด่างๆเสมอ -> ดีขึ้นเพราะทาปูน ___________________________________ ยาทิพย์ของแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม1. ปูน - ทาปูนแล้วต้องการให้หายโรค, ป้องกันโรค ให้ทาตัวเราเอง - จะตั้งความปรารถนาให้คนอื่นด้วยก็ได้ ใช้ได้ทุกอย่างตามปรารถนา - น้ำปูนทาหน้าทำให้ผิวสวย, ผสมกับไพลอธิษฐาน แก้โรคท้องร่วงท้องเสีย 2. พริกไทย - ยาทิพย์แก้โรคธรรมดา, โรคปัญญาทึบ ให้เฉลียวฉลาดได้, เป็นวิตามิน บำรุงประสาทอย่างดี, ไปต่างประเทศอากาศหนาว ให้ทานให้ร่างกายอบอุ่น 3. สาคูอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือน - เพิ่มโลหิตแดง, เพิ่มกำลังกายให้แข็งแรง 4. ไพล - ผู้ป่วยวัณโรค, โรคไต, โรคอื่นๆ- ตำไพลคั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำอธิษฐานทาน ได้ผลชะงัด, ถ้าจะให้เป็นยาระบายอ่อนๆ เติมเกลือเม็ดหรือ 2 เม็ด 5. ผลไม้ 6. น้ำอธิษฐาน - กินเข้าไปเถิดให้เนื้อเป็นทิพย์ จะหมดโรคหมดภัย แม้แต่รังสีปรมาณู ก็จะทำอันตรายไม่ได้ ที่มา - หนังสือ "แม่ชีเบอร์1 ตำนานยิ่งใหญ่-พระพุทโธน้อย" วิธีการแก้ไขกรรมต่างๆ -จากหนังสือ ติวเข้มก่อนสิ้นลม - ดร.แม่ชีทศพร
- การนุ่งห่มผ้าเหลือง แล้วไม่ได้ปฏิบัติ -ชีวิตก็อับปาง ทำอะไรก็มีแต่ปัญหา - คนที่บวชหน้าไฟ ส่วนมากจะมีกรรมเรื่องสุขภาพ ไม่มีแรง ขาแข้งไม่มีแรง เหมือนคนแก่ เป็นโรคภัยไข้เจ็บเหมือนคนตาย - คนตายเป็นอย่างไร คนบวชหน้าไฟเป็นอย่างนั้นเลย เพราะคนตายรอที่จะรับบุญจากการบวช เหมือนหลอกว่าจะยกอะไรให้ แล้วไม่ยกให้ - ถ้ามีเจตนา ต้องอย่างน้อย 7 วัน - ซื้อผ้าไตรจีวรถวายพระ ไปถวายผ้าไตรจีวรให้กับพระที่ท่านอยู่พรรษามากๆ นิมนต์ให้ท่านห่มผ้าไตรจีวรผืนนี้ให้กับแม่ได้ไหม ให้กับพ่อได้ไหม - พระท่านจะไม่ปฏิเสธ ท่านจะห่มให้เดี๋ยวนั้นเลย - ถวายผ้าไตรจีวร กล่าวคำถวายเสร็จ ท่านห่มเลย - แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้คิดอะไรกัน ไปถึงถวายท่านแล้ว ท่านจะเอาไปทำอะไร ไม่มีใครเจาะจงกับท่านลงไป - ถ้าเราบอกกับท่านลงไปว่าขอให้ท่านห่มเลย ท่านก็จะหยิบผ้าขึ้นมาห่มเลย - พอเรากรวดน้ำให้ใคร เขาได้เลย คนที่ล่วงลับได้เลย เพราะว่าพระท่านอยู่ในกิจของท่านอยู่แล้ว - แต่ตอนทีท่านอยู่ในพรรษาไม่ได้นะ เพราะท่านครองผ้าของท่านอยู่แล้ว ต้องรอให้ออกพรรษาก่อน _____________________________________________________________________ - กรรมที่ปู่ย่าตายายค้าขายสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย - ส่งผลมาที่โยม เพราะพ่อโยมถูกเลี้ยงมาด้วยเงินที่ขายฝิ่น ทุกคนในครอบครัวโยมมีเงินทองเท่าไหร่ก็หาความสุขไม่ได้ _____________________________________________________ - เป็นแม่ลูกกันมาไม่เคยพูดดีต่อกันเลย ลูกทั้ง 3 พยายามใส่อารมรณ์เกรี้ยวกราด แล้วก็ขาดสติ ทุกคนจะคอยพูดเชือดเฉือน พูดหยาบคายกับแม่ -เหตุมันเริ่มต้นตั้งแต่ที่ลูกเริ่มพูดได้ ตอนที่ลูกเริ่มด่า ก็คิดว่าลูกฉลาด ด่าใครเป็น ก็เลยไม่มีการฝึก ไม่มีการสอนลดโปรแกรมคำหยาบคายลง ปล่อยให้ลูกด่าจนเขาโตขึ้น เขาก็ยังด่าแม่เหมือนเดิม บางครั้งถึงขั้นทุบตี - เรียนจบก็ไม่มีที่ไหนจะรองรับ ไม่มีงานทำ - เพราะว่ากรรมที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้ แม่ร้องไห้กับเราครั้งหนึ่ง น่าจะต้องสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไป 1 ปี - กรรมตรงนี้จะต้องไปถูกคนอื่นทดสอบตลอด คนอื่นก็จะว่าเขา ให้ร้ายเขา เหมือนกับที่เขาตอบโต้กับแม่เหมือนกัน - ถ้าใครที่มีลูกก้าวร้าวมากๆ อย่ารอจนเหลืออด เพราะจะทำให้เขายิ่งตกต่ำลงไป แล้วคนที่เป็นพ่อเป็นแม่อย่าไปร้องไห้กับเขา เพราะถ้ารักลูก แล้วรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เขาทำมัน ยิ่งไปตอกย้ำ กลับทำให้มันเพิ่มมากขึ้น - เมื่อเห็นเขาก้าวร้าว ให้นึกในใจเลยว่ารับกรรมมานานแล้ว ตั้งแต่เขามีชีวิตมานี่ เราไม่ได้หลับไม่ได้นอน ให้นึกไว้ว่า "รับกรรมมานานแล้ว ขอให้สิ้นสุดวันนี้" - การสิ้นสุด = ไม่ต่อล้อต่อเถียง -แล้วคิดในใจว่า รับกรรมมานานแล้ว รู้แล้วว่ากรรมมีจริง สิ่งที่พระพุทธองค์สอนให้เชื่อผลของการกระทำ ตอนนี้รับกรรมอยู่นานมากแล้ว ขอให้กรรมมันสิ้นสุดวันนี้ - ต้องคิดทุกครั้งที่เขาด่าขึ้นมา- ถ้าคิดอย่างนี้ อารมณ์ที่ก้าวร้าวจะค่อยๆลดลง มันอาจจะไม่ลดในวันเดียว แต่จะค่อยๆ ซาลงจนกระทั่งไม่มีปฏิกิริยา - แต่อย่าไปโกรธตอบเขา และห้ามน้ำตาไหลเด็ดขาด - ส่วนลูกคนไหนเคยทำให้เขาร้องไห้ไปแล้ว เคยทำให้เขาเสียใจไปแล้ว ก็หันมาสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติธรรม ให้จิตดวงเดิมที่เคยมีกรรมกับพอแม่ เคยลบหลู่ อย่าเกิดอย่ามีกับเราอีก ขอให้เราใช้ชีวิตอย่างมีปัญญา _____________________________________________________ - การทำแท้ง ส่งผลเห็นเด่นชัด - คนๆหนึ่งเมื่อมีโอกาสเกิดครั้งหนึงจะมีอายุขัย บางคนจะมีอายุ 90 ปีนะถึงจะตาย - พอเขาจะมีโอกาสเกิดแล้วเขาไม่ได้เกิด เขาจะมาอาศัยกายพ่อกายแม่ ถกเถียงตบตีทะเลาะเบาะแว้ง - นั่นเป็นกรรมที่เขาร้องขอ - ถ้าวันไหนกินข้าวร่วมวงกัน วันนั้นจะมีเรื่องมากที่สุด เพราะว่าจิตวิญญาณเหล่านี้มาขอส่วนบุญอยู่ คนที่เป็นแม่เขาก็ระลึกอยู่เสมอว่าเขาเคยผิดตรงนี้ แล้วก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ - แต่ว่าฝ่ายที่ทำให้เกิด คือพ่อนั้นไม่ได้ทำ พอพ่อไม่ได้ทำบุญไปให้ พออยู่ๆ กันไป เวลาที่พ่อเห็นหน้าแม่ ก็รู้สึกเกรี้ยวกราด อยากจะทำร้ายแม่ ทำร้ายด้วยคำพูด - คนที่เป็นแม่ก็รู้สึกเสียใจ ทำไมพูดกันไม่รู้เรื่องสักทีหนึ่ง เดี๋ยวขอเลิกเดี๋ยวขอหย่า ขอไอ้นั่นขอไอ้นี่ คนที่เป็นพ่อจะขอตลอด - ถ้าคิดแก้ไขเรื่องทำแท้ง คนที่เป็นพ่อให้ไปบวชรักษาศีล 227 ข้อ อย่างน้อย 17 วัน เพราะว่าบวช 5-7 วัน คงอุทิศให้เขาไม่ได้ - แม้พ่อไม่ได้เป็นคนสั่งให้ทำก็ตาม -แต่พ่อทำให้เกิดดวงจิต เมื่อจิตดวงนี้เกิดขึ้นแล้วก็ไม่ได้รับผิดชอบ ทำแท้งไปเลย - ผลครอบครัวไม่เป็นครอบครัว ทะเลาะขั้นรุนแรง เหมือนขาดสติ เรียกว่าหาความสุขไม่ได้เลย - ถ้าคนเป็นพ่อไม่อยู่แล้ว คนเป็นแม่ต้องไปวัด ซื้อผ้าไตรจีวรชุดหนึ่ง แล้วสังฆทาน 2 ปิ่นโต ใส่อาหารคาว 1 เถา อาหารหวานอีก 1 แจ้งความประสงค์กับพระว่า จะขอทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่เคยทำแท้ง ด้วยผ้าไตรนี้ขอให้พระท่านช่วยครองจีวรให้ - ท่านก็จะลุกขึ้นมาครองจีวรให้เลย พอท่านครองจีวรเรียบร้อยจะมารับสังฆทานอาหาร -เราก็ถวายท่านทั้งปิ่นโต ยกถวาย 2 มือ - พอท่านกล่าว "ยะถา วาริวะหา ปูรา..." เราก็อธิษฐานเลย "ขอบุญที่ทำวันนี้จงส่งผลให้คนที่เคยจะเกิดมาเป็นลูกได้รับบุญนี้ด้วย เมื่อรับแล้ว อย่าจองเวร ขอให้ไปในภพภูมิที่ดี ขอให้ไปเกิดกับคนที่เขาต้องการจะมีลูก ขอให้ไปเกิดในครอบครัวที่พร้อมมูลไปด้วยทรัพย์ทั้งทางโลกและทางธรรม" _____________________________________________________ - เงินที่ได้มาไม่บริสุทธิ์ ไปทีหลังกลับก่อน ปลอมลายเซ็น หรือทำงานให้เขาไม่เต็มที่ แต่เราได้เงินมาเต็มเดือน - เมื่อวันหนึ่งเราอยากทำกิจการของตัวเอง มีเงินเท่าไหร่ เราก็ทุ่มลงไป กรรมที่ทำส่งผลเลย - บริวารที่เราได้มาก็เป็นแบบเราเลย ทำทุกอย่างเหมือนที่เราทำ และไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ไม่ช้า บริษัทก็ล้มเหลว - พร้อมแต่เงิน ถ้าบุญยังไม่พอ เงินก็ละลายได้ - เราจะรู้ว่าเราพร้อมเมื่อไหร่ - ถ้าเราทำงานสม่ำเสมอ ทำงานแบบไม่เอาเปรียบเจ้านาย เราทำงานแบบว่าทำให้บริษัทอยู่ได้ - ถ้าเรายักยอก, เบิกเงินเกิน, ยังมัวแต่งหน้า ,เล่นเกม, คุยโทรศัพท์ที่ไม่ใช่เรื่องงาน ยังไง เงินที่สะสมมามันก็จะละลายไป - เมื่อรู้ว่าตัวเอง มีความกตัญญูดูแลบุพารี กตัญญูต่อหน้าที่ มีความรับผิดชอบ นั่งแหละออกไปทำได้ - แต่บางคนก็บอกกตัญญู แต่เถียงพ่อเถียงแม่ทุกวัน สอนอีกอย่าใช้เงินมาก - อันนี้ไม่ใช่กตัญญู _____________________________________________________ - ถึงเจ้าหนี้จะตามเราไม่เจอ แต่เราก็หนีกรรมไปไม่พ้น ไปทำอะไรที่ไหน ก็ไม่ก้าวหน้า - เริ่มต้นจากการหนีเสียแล้วนี่ มันไม่ได้สู้ความจริง เพราะว่าคุณหนีในสิ่งที่คุณทำไว้ คุณก็ต้องไปเจอในสิ่งทีคุณทำไว้เหมือนกัน ยังไงก็ต้องใช้อยู่ดี - อาจจะป่วยไข้ อยากจะกินอะไรก็ไม่ได้กิน ชีวิตไม่มีวันงอกเงยขึ้นมาได้เลย - เราต้องไปบอกเขาเลยว่าเราไม่สามารถจ่ายได้ เราเอาอะไรให้เขายึดไว้ ถ้าไม่มีสมบัติเลย ก็ต้องไปตามกระบวนความของกฎหมาย แล้วก็ทำผ่อนกันไป - อย่าใช้วิธีหนี เดี๋ยวนี้มันมีกฎหมายประนอมหนี้ คือใช้วิธีบอกเขาไปเลย ถ้ามีทรัพย์สินก็ให้เขา - เราผิดจริง เราก็ต้องให้เขาจับ กรรมมันติดสินบนไม่ได้ กรรมมันไม่มีอะไรมาลบล้างได้ นอกจากไม่ทำมันอีก - สำหรับคนที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์นี้ อย่าไปกู้หนี้ยืมสินใคร - มีคนมาบอกแม่ชีว่า แม่จับขโมยได้แล้ว แม่ชีถามวา หนูเห็นเหรอว่า เขาขโมย หนูไม่เห็นแต่เขาบอกกันมา อย่าไปพูดเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา ถ้าหนูพูดเรื่องของเขา วันหนึ่งหนูก็ต้องเป็นขโมย _____________________________________________________ - ในโลกของผู้ล่วงลับ เฝ้ารออาหารทิพย์จากลูกหลานในวันโกนวันพระ เมื่อมีโอกาสที่จะมารับ แต่ไม่มีผู้ใดทำบุญใส่บาตร วิญญาณเหล่านั้นก็จะสื่อสารด้วยเวทนาในแบบต่างๆ - เช่น ทำไมพวกเราหรือญาติต้องป่วยวันพระวันโกน แต่ถ้าทำบุญใส่บาตร ก็จะไม่ต้องเจอเรื่องป่วยอีก - ต้องพยายามหาเวลาไหว้พระสวดมนต์เจริญภาวนา ทำจิตใจให้ผ่องใส - อย่าแตะต้องหรือจาบจ้วงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ - เพราะความคิด คำพูด หรือการกระทำของเราที่จาบจ้วง จะทำให้เราตกต่ำ จนหานรกไม่เจอ _____________________________________________________ - ถ้าท่านไปรักษาศีลที่ไหน เมื่อระฆังดังขึ้น อย่าเอื้อมมือไปปลุกใครนะคะ กรรมจะทำให้ถูกปลุกขณะหลับสนิท หรือเป็นโรคนอนไม่หลับไปเลยก็ได้ - ไปรักษาศีล8 ทุกคนมีศีลเสมอกัน ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน - แต่เมื่อไหร่ที่คิดแทนเขา กลัวเขาจะตื่นไม่ทัน ก็รับกรรมไปเต็มๆ - เขาไม่ตื่นมาทำความดีก็เรื่องของเขา อย่าปลุก _____________________________________________________ - คนที่เขาทำแท้ง เขาจะทำบุญอุทิศให้ๆๆๆ จนบุญสูงขึ้นมา- แล้ววันหนึ่งเขาเกิดทุกข์มากเรื่องครอบครัว แล้วเขาพูดคำว่า "ทำดีไม่ได้ดี" -พอพูดคำนี้ปุ๊ป บุญที่เขาได้ทำไว้ มันจะแห้งลงไปถึงกรรมที่เขาทำเลย - แค่คำพูดเพียงคำเดียว ความดีที่ทำมาทั้งหมด มันจะไม่ได้ดีเพราะปากเขาเลย แล้วกรรมที่เคยทำไว้จะกระโดดขึ้นมา _____________________________________________________ - ช่วยทำผิดให้เป็นถูก ส่วนคนที่เขาทำถูก เขาก็กลายเป็นคนผิด - แต่คนที่รับผลกรรมคือตัวเขาเอง กลับเข้าบ้านลูกก็เขวี้ยงแก้วใส่ เมียก็เดินขึ้นเดินลง ตายทั้งเป็นไหมล่ะ ต้องปิดบ้านไว้ เหมือนอยู่คุกเลย - เพราะว่าแก้ให้คนผิด กลายเป็นคนถูก, แล้วทำให้คนที่ถูกต้องมาติดคุก - เมื่อแก้ให้เขาแล้ว ก็ต้องมาอยู่ในคุกที่บ้านแทน ไม่สามารถให้ใครเห็นลูกเห็นเมียได้ต้องจับขังเอาไว้ - ทำให้คนไม่ผิดติดคุก แล้วตัวเองต้องอยู่ในคุกเดียวกันกับครอบครัวที่ทุกคนวิกลจริตหมด _____________________________________________________ - เราถวายอาหารพระ เราใส่บาตรให้พระ เราก็หวังบุญ แต่บุญตรงนั้นไปอยู่ที่เด็กวัด เด็กวัดก็ต้องรับผิดชอบบุญนั้น - ใครก็แล้วแต่ที่ทำงานใกล้กับพระสงฆ์ ต้องให้เกียรติและให้ความเคารพ หลวงตาท่านถามว่า น้อยหน่าที่เขาใส่บาตรมาอยู่ไหน แต่เด็กวัดไม่ได้บอก - ท่านก็รู้แล้วล่ะว่าเด็กวัดกิน ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร พระไม่ได้จองเวรนะ แต่กรรมทำหน้าที่ กินน้อยหน่าเข้าไปแล้ว จุกแน่นหน้าอก , ถ้าปาท่องโก๋นี่หายใจไม่ออกเลย - เป็นทั้งชีวิตเลยนะ 50 กว่าปี - อยากจะบอกเลยว่า จะเป็นพระสงฆ์รูปใดก็แล้วแต่ ห้ามไปแตะต้องท่าน อย่าไปล่วงเกินท่าน ยิ่งไปล่วงเกินท่านเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกต่ำมากเท่านั้น _____________________________________________________ - ถ้าเราเป็นคนแจกซอง หน้าซองเขียนว่าทอดกฐินวันนี้ แต่ซองไปไม่ถึง เราใส่อยูในลิ้นชัก - ส่งผลให้เราทุกข์ไม่เลิกเลย จะกินอะไร ก็รู้สึกคลื่นเหียนอาเจียน กินไม่ได้ นอนไม่ได้ -เพราะว่าแรงบุญที่เขาจะถวายกฐิน มันตกค้างอยู่ที่เรา - เรามีเงิน 100 บาท อยากทำ 10 บาท -ก็ขอแลกเอาเงินในซองไป เอาแบงค์ 100 ใส่ไป แล้วหยิบเงินในซองทอนมา 90 - คนที่แลกไปจะทุกข์ไม่เลิกเลย- แล้วคนที่เอาซองไปบอกบุญ รับผิดชอบด้วย ทำงานจะมีปัญหาตลอด ก็เงินที่เป็นบุญในส่วนที่แลก มันไปอยู่กับเขา - ถ้าซองถึงวัด แลกในวัดได้ เพราะเป็นเขตอภัยทาน - แล้วทางวัดเอาเข้าธนาคารไปหมุนเวียนในธนาคารดีไหม - ดีค่ะ เพราะเงินนั้นผ่านการทำบุญมาแล้ว ผ่านจากเขตอภัยทานแล้ว และพระรับแล้ว ธนาคารเจริญค่ะ - เผลอคิดในใจว่าซองนี่จะถึงวัดไหม หรือว่าจะเป็นพระจริงไหม คิดออกไปแล้ว เป็นกรรมไปแล้ว มารู้ตัวว่าไม่ควรคิดอย่างนั้น แล้วจะแก้ไขอย่างไร - แม่ชีว่าถ้าคิดไปแล้ว ก็ขออโหสิกรรมเลย จิตมันก็พาดพิงเรานิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับเสียหาย _____________________________________________________ - เงินที่แม่ชีได้มา คือเงินที่โยมทำบุญกับแม่ชี - ถวายน้ำเยอะแยะเลย วันหนึ่งลุกขึ้นมา น้ำในตู้เย็นไม่มีเลยสักขวด ต้องเอามือรองน้ำในก๊อก กินน้ำในก๊อก - เราทำบุญทุกอาทิตย์เลย ทำไมเราไม่มีส่วนในบุญนั้น - ก็มานั่ง อ๋อ เราเป็นแค่สะพานบุญ เงินที่เราได้มาแล้วเราทำบุญ มันเป็นบุญของเขาที่จะได้ แต่แม่ชีไม่เคยอุทิศบุญให้ตัวเองเลยว่า "ขอให้บุญนี้สำเร็จแก่ข้าพเจ้า" ไม่เคยเลย - ก็เลยเปลี่ยนใหม่ - พอพระท่านยถา แม่ชีก็อุทิศให้ผู้ล่วงลับ "ใครที่เป็นเจ้าของทรัพย์ขอให้มีส่วนในบุญนี้ ใครที่เป็นปู่ย่าตายายของคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์ขอให้ได้รับบุญนี้" - แล้วพอพระสัพพีติโย "ขอให้บุญนี้จงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า" - นั่นแหละถึงได้มีภาชนะขึ้นมา ถึงเราจะเป็นสะพานบุญ แต่เราไม่สามารถหยิบจับได้นะ เพราะเงินของเขา ไม่ใช่เงินของเรา - ภัยพิบัติทางธรรมชาติลงโทษคนที่ปัญหา เรียกว่าลักทรัพย์ก็ได้นะ - บางคนบอกที่เกิดภัยพิบัติ เพราะโลกมันร้อน มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่ทีโลกมันร้อนเพราะว่ามันโลภ _____________________________________________________ - ลูกบางคนเมื่อพ่อแม่ป่วย ก็ขอต่ออายุให้พ่อแม่ได้ ต่อได้จริงๆ มันเป็นความกตัญญูที่มี มันเป็นแรงบุญที่มี แต่เราต้องขอต่ออายุในลักษณะที่ว่า "เรามีอายุขัยแค่ไหน ขอให้อายุขัยที่เรามีอยู่ ส่งผลให้พ่อแม่เราที่กำลังป่วย หายวันหายคืนแล้วเป็นปรกติ ไม่ได้วนเวียนอยู่ในความทุกข์" - การต่ออายุที่ดีที่สุดตรงนี้ แม่ชีว่า อย่าตะคอกเขา, อย่าเถียงเขา, อย่าทำให้เขาเสียใจดีกว่า แค่นั้นก็ถือว่าต่ออายุให้เขาแล้ว และพี่น้องอย่าทะเลาะกัน - ทุกคนบอกว่าฉันกตัญญู ฉันดูแล อยากไปเที่ยวก็ไป แต่ว่าดุแม่ตลอดเลย เถียงกับแม่ตลอดเลย เขาคิดว่าเขาดูแล เขาแสดงความกตัญญูแล้ว - คนกตัญญูต้องไม่จาบจ้วงผู้มีพระคุณ - ถ้าใครอยากจะกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่ต้องรอตอนที่เขาป่วย - เริ่มจากวันนี้เลย ดูแลเขาให้ดีกว่าที่เขาได้ดูแลเรา _____________________________________________________ - การรู้เห็นอดีตหรืออนาคตนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการบอก การรู้ที่จะบอก ต้องไม่เจือปนด้วยความโอ้อวด - ผู้ที่จะรู้อย่างแม่ชีก็ทำได้ คือ ไม่เบื่อ, ไม่บ่น, ไม่โกรธ, ไม่โลภ, ไม่หลง แต่เมื่อได้มาแล้ว เราจะรักษาสิ่งที่ได้มาอย่างไรให้เสมอต้นเสมอปลาย - หลวงพ่อปรีชาท่านจะสอนเสมอว่า ให้รีบเร่งในหน้าที่ที่รับผิดชอบ คนไหนสอนได้ก็สอน สอนไม่ได้ก็เอาคนที่สอนได้ - ไม่ต้องเสียเวลาสอนควายตาบอด และอย่าเสียเวลากับคนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ - ปัจจุบันท่านสอนว่า จะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ อยู่ยากจะอยู่เย็น ถ้าอยู่เย็นจะอยู่ยาก = อยู่ที่ไหน ก็อย่านิ่งดูดาย ทำประโยชน์ให้มาก - อยู่เย็นหมายถึง ไม่ใส่ใจที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เมื่อบุญเก่าหมด ก็อยู่อย่างยากลำบากและเสียเวลา - อยู่ๆ ท่านก็ด่าขึ้นมาอย่างนี้ - ถ้าเราโกรธ เราก็ไม่ผ่าน -มึงจะนั่งหลับตากันทำไม นั่งแล้วก็คิดกันแต่เรื่องเลว _____________________________________________________ - คุณเขียนอะไรไว้ คุณก็ต้องรับผิดชอบ คุณทำอะไรไว้ คุณก็ต้องรับผิดชอบ คุณคิดอะไรไว้ คุณก็ต้องรับผิดชอบ คือกรรมมันไม่หยุด - แม้จะนอนอยู่เฉยๆ ก็ยังต้องรับกรรม - ต้องเริ่มต้นด้วยการสมาทานศีล 5 - อานิสงส์ของศีล5 มันจะเป็นเกราะแก้วคุ้มกายคุณ แล้วทำไปเรื่อยๆ เทวดาจะรักษา ไม่ต้องไปเจอกับสิ่งที่เป็นความทุกข์ ชั่วร้าย ที่มา -หนังสือติวเข้มก่อนสิ้นลม โดยดร.แม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม เปิดกรรม 2 - แม่ชีทศพร
- โดดเรียนเท่าไร - เวลาสมัครงานก็ 2 เท่า
- หน่วยกิตละ 15 บาท แต่ขอพ่อแม่ 4,000 --> โยมจะมีภาระหนัก - แม่ที่ทำให้ลูกทุกอย่าง -> ลูกจะทำงานเหนื่อยกว่าคนอื่น หนักกว่าคนอื่น - อาราธนาศีล5 ก่อนสวดมนต์ - 3 เดือนดูว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปยังไง - กรรมที่ลูกไม่พูด - เพราะโยมทำกับพ่อแม่ ไม่พูดกับพ่อแม่ 20 วัน - ให้สวดมนต์ไหว้พระ ลูกจะพูด - อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าที่เจ้าทาง - กรรมพูดเพ้อเจ้อ ต้องรับผิดชอบ ______________________________________________________________ - คุณพ่อตัวลอก ฉีดยาตลอด -> อาชีพทำเบาะรถยนต์ - คนทำรู้ หนังแท้ หนังเทียม - คนจ้างไม่รู้ - พ่อตีหนังเกรด A เจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง - แต่ต้องรับผิดชอบ บอกเกรด A แต่ไม่ใช่ ทำเสร็จคิดตังค์ตามเกรด A --> เงินที่ได้ต้องมาฉีดยาตลอด - ทำเบาะแบบนี้ไม่ได้ เอาเบาะแบบนี้ให้ -> หนังลอกทั้งตัว สะเก็ดเงิน - แม่ชีอยากได้ที่นั่งสำหรับพระ ไปปูให้พระนั่งกรรมฐาน -> จะหายเร็วขึ้น ดีขึ้น _________________________________________________ - เป็นครูมา 20 ปี กรรมกับนักเรียนเยอะมาก - อยากให้นักเรียนเป็นระเบียบ แต่โยมไม่เป็นระเบียบ -> เด็กผวา - ดึงหู หยิกแก้ม หยิกก้น -> ย้อนกลับหมด ส่งผลที่กรรมฐาน - อาการที่แสดงต่อเขา ต้องรับผิดชอบ - ลูกดื้อ - มีกรรมการแต่งงาน เพราะแม่โยมไม่รับค่าสินสอด- ต้องให้แม่เขาไป - ถ้ารับแล้ว เงิน 40,000 ทอง 4 บาท แม่ต้องเก็บ - ต้องคืนค่าน้ำนมให้แม่ ชีวิตการงานจะดีขึ้น - ทำงานหนัก เพราะแม่ไม่รับค่าน้ำนม - ไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน - ไม่พร้อมมีลูก คิดว่าไม่น่าเกิดตอนนี้เลยลูก - มีกรรมกับลูก กรรมกับนักเรียน ชอบดึงหู - ครูตีได้ ไม่ใช่มือดึงหู - "ได้ยินมั้ย ชั้นพูดอะไร" --> สะสมเป็นแต้ม-> เสียงดับไปเลยไม่มีสาเหตุ - วิธีแก้ - ไปเคาะระฆังที่นครปฐม อธิษฐาน "ข้าพเจ้าเคยประกอบอาชีพครูสอนนักเรียน ข้าพเจ้ามีกรรม.........ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม" และตีระฆังให้รอบพระปฐมเจดีย์ - ครูดึงหูกับนักเรียนไม่ได้ - ต้องไม้เรียว - โยมถูกดึงหู เสียใจไหม - เสียใจ ความเสียใจสะสมเป็นแต้ม - ไม่ได้แผ่เมตตาให้สัมมาอาชีพ ทำให้เขาโกรธ - ต้องแผ่เมตตาให้สัมมาอาชีพด้วย ___________________________________________________ - คำพูดต้องรับผิดชอบทุกคำพูด - อย่าสัญญาว่าจะรักใครจนตาย - กรรมว่าคนขาเสีย ขายล็อตเตอรี่มาจีบ - หน้าอย่างแกนี้นะ ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ว่าเขาไม่เจียมตัว - อย่าไปพูดอะไรกับคน --> ต้องเจอคนขาเสีย 5 คน - - ถ้าคิดว่าลูกไม่ดี -> ลูกก็จะไม่ดีเลย - ปวดขา-->เพราะไม่ได้แผ่เมตตา ชอบว่าพระ - สิ่งที่แตะต้องไม่ได้ คือ 1. พ่อแม่ 2. ครูอุปัชฌาย์ 3. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 4. พระมหากษัตริย์ ห้ามแตะต้อง __________________________________________ - พาคนไปทำแท้ง 3 คน เอาตังค์ไปให้-> รับกรรม 95% - ไปไหนถูกปฏิเสธตลอด - บอกว่าตรงนั้นทำแท้ง -> รับกรรม 90% - ให้ถวายสังฆทาน อาหารเป็นวุ้นน้ำตาล วุ้นน้ำเชื่อม ไข่พะโล้ กล้วยสุก กล้วย,ไข่ อธิษฐาน "หนูมีกรรมทำคนแท้ง ขอบุญใส่บาตร ให้คนถูกทำแท้งได้รับบุญ แล้วอย่าจองเวร.." ให้ทำเรื่อยๆ ไม่งั้นไม่ได้ผล - วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะคนนี้ คนอื่นใช้ไม่ได้ - ให้ไปล้างหม้อล้างชามวันที่พระมาเข้ากรรมฐาน - ล้างจานไม่ให้ใครช่วย __________________________________________________________ - ตามองไม่เห็น - มีกรรมกับปลวกเยอะ - แม่โยมฆ่า โยมไม่ได้ห้าม - ปลวกกินตา - รอคนที่เขาบริจาคตา - อย่าคิดว่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยไม่สำคัญ - ทำมากๆ = มหกรรม โดนกินไปหมดแล้ว _____________________________________________________________ - ส่งออกน้ำยาพารา 20 ปี - ไม่เคยแผ่เมตตาให้น้ำยา -> เป็นโรคกระดูกหมด พ่อเจ็บขา แม่ปวดสะโพก มีปัญหาครอบครัว - เพราะอาชีพทำน้ำยางพารา ไม่เคยแผ่เมตตา - "ขอนำส่งให้สัมมาอาชีพ" - ถ้าไม่บอกบั้นปลายชีวิตจะมีปัญหา ________________________________________________________ - ชีวิตไม่ดี -โยมมีกรรมกับแม่ชีรูปหนึ่ง - เคยไปปฏิบัติธรรมวัดอัมพวัน หัวหน้าแม่ชีดุ เพราะโยมแอบกิน - โยมพูดว่า "แม่ชีบวชแล้วทำไมโทสะขนาดนี้" - ชอบไม่ชอบก็ไม่ได้ - ต้องเคารพสถานที่ ท่านบอกโยม -> ให้โยมเอาธูปเทียนแพไปขอขมาท่าน _______________________________________________________ ที่มา - VCD แม่ชีทศพร เปิดกรรม- แม่ชีทศพร
สวัสดีค่ะ
วันนี้ได้รับ VCD แม่ชีทศพรให้ฟังเป็นธรรมทานจากท่านผู้ใจบุญท่านหนึ่งใน net นะคะ ซึ่งมีเรื่องกฎแห่งกรรมที่น่าสนใจหลายเรื่อง ก็อยากสรุปให้ฟังค่ะ กรรมเป็นเรื่องละเอียด แม้กระทั่งสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราเคยทำและลืมไปแล้ว ก็สามารถส่งผลต่อชีวิตเราได้ เคยไปฟังท่านแสดงกรรมที่วัดพิชัยญาติเหมือนกัน และได้จดคำสอนของท่านไว้ หากมีโอกาส อาจจะมาเล่าให้ฟังนะคะ - กรรมที่เคยว่าพ่อไม่รับผิดชอบชีวิตเรา - เจอสามีเตะ ใช้เท้าทำร้ายร่างกาย รักเค้ามากเท่าไร - เรายิ่งต้องใช้กรรมมากเท่านั้น - ให้มารักษาศีล นั่งปฏิบัติธรรม - พ่อเสียชีวิตไปแล้ว พ่อก็มีกรรม ชอบพูดว่า "พระหรือเปล่าวะ" - ดังนั้นใส่บาตรไม่ถึง - ให้ปฏิบัติธรรม และพ่อจะอาศัยกายหนูปฏิบัติธรรมด้วย - พ่อเสียเพราะมะเร็งตับ - เราปฏิบัติ พ่อเจ็บเราจะเจ็บด้วย แน่นซีโครง - อธิษฐาน "ถ้าหนูเคยมีกรรมอะไรกับพ่อ กายวาจาใจ ขอให้พ่ออโหสิกรรมกับเราด้วย" -1. รักษาศีล8 2. สวดมนต์เช้า 2 ชั่วโมง,เย็น 2 ชั่วโมง 3. นั่งสมาธิ - แผ่เมตตา ถ้านั่งไม่นิ่ง ให้แผ่เมตตา ระลึกถึงผู้มีพระคุณ _____________________________________________________________________ - แม่ชีเคยทำอาหารดิบๆสุกๆ ถวายพระ- ปลาหมึกลวก ราดน้ำจิ้ม - พระสู้กับกามกิเลสอย่างไร - แม่ชีก็จะสู้กับกามกิเลสเต็มๆ แบบเดียวกับพระ - ฉะนั้น อย่าทำอาหารสุกๆดิบๆถวายพระ _____________________________________________________________________ - ปู่เป็นสัปเหร่อ ได้เงินจากคนตาย ปู่เก็บเงินที่เค้าโยนให้ศพ -> โยมเกิดมาอัปลักษณ์ ไม่มีใครสนใจ- ทาครีมหน้าขาว ก็ไม่เคยขาวเลย - ปู่มีนาฬิกาคนตาย 3 เรือน รูดออกก่อนเผา- โยมปวดมือมาก ปวดแขน ปวดขา ปวดคอ - เพราะทำตราสังข์โดยไม่ใช้วิชาอาคม - ได้เงินจากปากศพ - โยมเหงือกบวม ฟันปวด - วิธีแก้-ให้แต่งหน้าศพ ทาแป้งศพ - โยมโตมาเพราะเงินปู่สัปเหร่อ - ก่อนทาแป้งศพ อธิษฐาน- "ขอบุญที่โยมมี ส่งผลให้ปู่ได้รับส่วนกุศลจากโยมด้วยเถิด" -> หน้าโยมจะเปลี่ยนเลย - แต่ตอนจะแก้กรรม จะไม่มีใครตายให้แก้ - เป็นฝีช่วงล่าง- เพราะศพที่ตาย คนตายมีน้ำเหลืองพุพอง- ต้องเจริญกรรมฐาน ให้ปู่รับบุญ- ต้องนั่งให้ตายไปเลย นั่งนิ่งๆ ไม่เปลี่ยน - พ่อก็ตามองไม่เห็น - เพราะปู่เอาเงินซุก พ่อเอาเงินไปหมด - ปู่ถามเห็นเงินไหม พ่อบอกไม่เห็น - ตาจึงมองไม่เห็น - หน้าโยมเหมือนคนตาย 3 วัน ได้ออกโทรทัศน์เป็นธรรมทาน - จะหาย ___________________________________________________ - โยมผิดเวลาตลอด - บอกพ่อแม่จะกลับ 4 โมง แต่จริงๆกลับ 6 โมง ทำให้พ่อแม่รอ - ฉะนั้น เราจะผิดหวังตลอด - แกล้งบอกไม่สบาย ไม่ไปโรงเรียน --> ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก - ไม่ได้ทำการบ้าน เลยไม่ไปโรงเรียน --> คนที่เข้ามา จะทำให้เราผิดหวังตลอด - ให้สมาทานศีล 5 _____________________________________________________________________ - เถียงพ่อเถียงแม่ -จะพูดลิ้นคับปาก - ยิ่งพ่อแม่สวดมนต์ ลูกยิ่งก้าวร้าว - เพราะพ่อแม่ไม่สมาทานศีล5 ก่อน ศีล5 ไม่บริสุทธิ์ - อสุรกายสิง ทดสอบว่าจะทำความดีจริงไหม - เราตระหนี่ไว้ทำไม - ถ้าไปอยู่กับเค้า เค้าก็หมดทุกข์ เราเคยเอาของเขาไว้ เขาก็จองเวรเราอยู่ - พ่อแม่ที่ล้างถ้วยชามให้ลูก และลูกอายุเกิน 7 ขวบ -> จะทำให้ลูกเรียนไม่ทันเพื่อน, ถูกเอาเปรียบจากเพื่อนๆที่โรงเรียน, ลูกต้องเข้าเวร ทำงานไม่พอใช้ ไม่พอกิน - เถียงแม่คำต่อคำ -> จะถูกแย่งของ, ลิ้นหดไป อาการไม่ครบ 32 - พ่อแม่ไปเลี้ยงหลานให้ลูก -- ลูกรับกรรมอีก - พ่อแม่อดนอนเลี้ยงหลานยังไง - เราก็ต้องไปอดนอนอย่างนั้น - เถียงพ่อแม่ -> ลูกจะถูกทำร้ายจากเพื่อน, ถ้าเป็นผู้หญิงจะถูกล่วงเกินทางเพศ บอกใครก็ไม่ได้ - ไปเที่ยว ไม่ยอมกลับ ให้พ่อแม่ตามหา -> ตัวเองก็ต้องไปตามหาสามี เพราะหึงหวง - แม่ทำกับข้าวให้ลูก ไม่ผิด - แต่ให้ช่วยกันทำ - แม่ชินกับการทำให้ลูก --> ผล ลูกต้องถูกเอาเปรียบทุกวัน ลูกต้องไปแบกภาระให้คนอื่น ___________________________________________________________ - เวลาสนทนากับพระสงฆ์ -ให้พนมมือไว้ อย่าเอามือลง, ท่านพูดมา รอให้ท่านพูดจบก่อน อย่าพูดสวนกับท่าน - ไม่งั้นจะมีปัญหาการเจรจา และเป็นการโอ้อวด ตีเสมอ เป็น 1 ใน 9 มลทิน - กราบครั้งที่ 1 - พุทธัง วันทามิ กราบครั้งที่ 2- ธัมมัง วันทามิ กราบครั้งที่3- สังฆังวันทามิ ที่มา -VCD แม่ชีทศพร |
Kat_kine
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?] |