- ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
- ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
- ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
- เรื่องจริง,อุทาหรณ์
- ข่าวกีฬาทั่วไป
- ข่าวอาเซนอล
- ข่าวบาซ่า
- ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
- ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
- ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
- ข่าวสารภาพยนตร์
- ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
- ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
- ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
- ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
- ข่าวสารสุขภาพ
- ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
- สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
- สูตรอาหาร,ขนม
- แนะนำร้านอาหาร
- เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
- เรื่องตลก,ขำขัน
- ข่าวสารแนะนำเกม
- ต้นไม้,ดอกไม้
- ข่าวสารยานยนต์
- ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
- ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
- ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
- กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
- บล็อกส่วนตัวจ้า
|
|
|
|
|
|
เปิดตัว iOS 7 มีอะไรใหม่บ้าง?
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Apple
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญจากงาน WWDC 2013 แอปเปิลได้ประกาศเปิดตัว iOS 7 ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนเวอร์ชั่นล่าสุดอย่างเป็นทางการ แน่นอนมันได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนแอปเปิลทั่วโลก เพราะ iOS 7 มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแอปเปิล ด้วยอินเตอร์เฟซของ iOS 7 ที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เรียกได้ว่าฉีกความเป็น iOS แบบเดิม ๆ ไปทั้งหมด
สำหรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่บน iOS 7 ครั้งนี้ถูกออกแบบโดย Jonathan Ive เป็นคนออกแบบอินเตอร์เฟซใหม่ทั้งหมด มาพร้อมแนวคิด "Flat Design" ที่จะเน้นไปที่ความบาง, ตายตัว, เรียบง่ายและดูดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้หน้าใหม่ iOS 7 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่เพียบ ส่วนจะมีฟีเจอร์ใหม่แกะกล่องมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย
Control Center
Control Center
เชื่อว่าฟีเจอร์นี้น่าจะถูกใจสาวกแอปเปิลหลาย ๆ คนแน่นอน เพราะ iOS 7 แอปเปิลได้เพิ่มControl Center เปรียบเหมือนกับ SB Settings หรือ Toggle Settings ที่ผู้ใช้มือถือ Android หลายคนคุ้นเคย ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าตั้งค่าต่าง ๆ เบื้องต้นได้ วิธีการเรียกใช้ Control Center ก็ง่าย ๆ เพียงลากนิ้วจากหน้าจอข้างล่างขึ้นด้านบน ก็จะมีเมนูตั้งค่าต่าง ๆ แสดงขึ้นมา เช่น เปิด-ปิด Wi-Fi/3G, เปิด Airplane mode, Bluetooth, Do Not Disturb, ปรับแสงหน้าจอ, ควบคุมการฟังเพลง, ไฟฉาย, เครื่องคิดเลข และกล้อง เป็นต้น ถือว่าเป็นอีกฟีเจอร์ที่สะดวกมาก ๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเจลเบรค iOS เพื่อเพิ่มฟีเจอร์แบบนี้เข้ามาอีกต่อไป
Notification Center
Notification Center
Notification Center ศูนย์รวมการแจ้งเตือนบน iOS 7 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มส่วน Today ที่แสดงสิ่งที่ต้องทำวันนี้ โดยดึงข้อมูลจากที่เราบันทึกไว้บนปฏิทิน ส่วน Missed จะรวม การแจ้งเตือนทั้งหมดที่เรายังไม่ได้เปิดดู เช่น ข้อความ, สายที่ไม่ได้รับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Notification Center โดยเลื่อนลงมาดูได้แม้จะล็อกหน้าจออยู่ก็ตาม สำหรับ Notification Center ถือว่าปรับปรุงได้ดีและมีประโยชน์มากกว่าเดิม
Multitasking
Multitasking
ระบบ Multitasking แบบใหม่ที่ดีกว่า เพราะถูกออกแบบมาให้อนุญาตเฉพาะบางแอพพลิเคชั่นเท่านั้นแจ้งเตือนได้ หากแอพฯ ไหนไม่ได้ใช้งานก็จะถูกหยุดการทำงาน ซึ่งทางแอปเปิลได้เปลี่ยนค่าการวัดจากเดิมที่เป็น Active/Non-Active มาเป็นการวัด Priority ให้ความสำคัญกับแอพฯ ที่เรากำลังใช้งานอยู่ ส่วนแอพฯ ที่ไม่ได้ใช้ก็จะหยุดทำงาน ระบบ Multitasking แบบใหม่นี้จะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
Camera
Camera
แอปเปิลได้ปรับปรุงแอพฯ Camera บน iOS 7 ใหม่ โดยเปลี่ยนอินเตอร์เฟซของกล้องและเพิ่มลูกเล่นแต่งภาพใส่ฟิลเตอร์ให้กับรูปภาพได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาแอพฯ แต่งภาพอีกต่อไป ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ของกล้องถ่ายภาพยังเหมือนเดิม
Photo
Photo
ในส่วนของแอพฯ Photo บน iOS 7 เพิ่มตัวเลือกในการแสดงภาพแบบตามสถานที่ หรือเลือกแสดงตามเวลาที่ถ่ายภาพเพื่อง่ายต่อการค้นหา และมี iCloud Photo Sharing ใช้สำหรับแชร์ภาพและวิดีโอ รวมถึงแชร์ภาพผ่าน AirDrop เพื่อส่งรูปภาพให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone, iPad และ iPod touch ได้
AirDrop
AirDrop
AirDrop สำหรับใครที่ใช้ MacBook น่าจะรู้จักกับฟีเจอร์นี้เป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นฟีเจอร์ใหม่ แต่ทางแอปเปิลได้เพิ่มฟีเจอร์ AirDrop เข้ามาอยู่ใน iOS 7 ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ภาพ ส่งภาพผ่าน Wi-Fi หรือ Bluetooth ให้กับเพื่อนที่ใช้ iPhone, iPad หรือ MacBook ได้สะดวกกว่าเดิม
Safari
Safari
เว็บบราวเซอร์อย่าง Safari ก็มีการปรับปรุงใหม่เช่นกันบน iOS 7 มีการปรับอินเตอร์เฟซใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนเมนูแท็บแบบใหม่และแสดงผลแบบ Full screen browsing รวมถึงสามารถซิงก์ข้อมูลได้กับ iCloud Keychain ระบบจัดการรหัสผ่าน และบัตรเครดิตที่จะเก็บไว้บน iCloud พร้อมทั้งซิงก์ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ และ Password Generator ที่ช่วยสร้างรหัสผ่านเมื่อเราสมัครหรือสร้างบัญชีบนเว็บผ่าน Safari
iTunes Radio
iTunes Radio
iTunes Radio บริการวิทยุออนไลน์ผ่านระบบ "สตรีมมิ่ง" (Streaming) ที่มีกว่า 200 สถานี ผู้ใช้สามารถเปิดฟังเพลงได้ทั้งบน iPhone, iPod Touch, iPad, Mac, Apple TV และบน PC โดยมีโฆษณา และสามารถแบ่งสถานีตามหมวดเพลง ส่วนคนที่ใช้ iTunes Match จะไม่มีโฆษณา ฟังแล้วถูกใจคลื่นไหนสามารถกดแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ สำหรับ iTunes Radio จะเริ่มเปิดบริการในอเมริกาก่อนเป็นที่แรก
Siri
Siri
Siri ฟีเจอร์เก่า แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้น่าใช้งานกว่าเดิม โดย Siri บน iOS 7 ได้เพิ่มเสียงเลขาผู้ชายเข้ามา รวมถึงสามารถตอบโต้ในภาษาอื่นได้ และเพิ่มการค้นหาข้อมูลจาก Wikipedia และ Twitter
App Store
App Store
สำหรับ App Store บน iOS 7 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เหมาะกับคนขี้เกียจอัพเดทแอพฯ บ่อย โดยแอปเปิลได้เพิ่มระบบอัพเดทแอพฯ อัตโนมัติโดยไม่ต้องกดเข้าไปอัพเดทเอง และไม่มีการแจ้งเตือนการอัพเดทมารบกวน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Apps Near Me ที่แนะนำแอพฯ ยอดนิยมในประเทศที่เราใช้งาน หรือแสดงแอพฯ ที่เป็นประโยชน์ที่เราอยู่ ณ ตอนนั้น
Find My iPhone
Find My iPhone
Find My iPhone อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญของคนใช้ iOS ที่ใช้สำหรับตามหาหรือดูตำแหน่ง iPhone แอปเปิลได้ปรับปรุง Find My iPhone ใหม่เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นเรียกว่า "Activation Lock" ในกรณีที่ iPhone หายเมื่อเราใช้คำสั่งล็อกเครื่องจาก Find my iPhone ถึงแม้เครื่องจะถูกล้างข้อมูลทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ก็จะไม่สามารถ Activate เครื่องได้ การ Activate เครื่องได้จะต้องใช้ Apple ID ของเจ้าของเครื่องเท่านั้น
iOS 7 รองรับ iPhone, iPad และ iPod touch รุ่นไหนบ้าง ?
iOS 7
เราได้เห็นฟีเจอร์เด่น ๆ ของ iOS 7 ไปแล้ว ซึ่งยังมีฟีเจอร์อีกหลาย ๆ ตัวที่ไม่ได้กล่าวถึงเอาไว้ไปลองกันเองนะครับ ส่วนตอนนี้มาดูกันว่า iOS 7 สามารถใช้งานกับ iPhone, iPad และ iPod touch รุ่นไหนบ้าง ? รุ่นที่สามารถอัพเดทเป็น iOS 7 ได้แก่ iPhone 4, iPhone 4S, iPhone 5, iPad 2, iPad 3 (The New iPad), iPad 4 (iPad with Retina display), iPad Mini และ iPod touch 5th gen เท่านั้น ส่วนคนใช้ iPhone 3GS และ iPod touch 4th gen ไม่สามารถอัพเดทเป็น iOS 7 ได้
สำหรับใครที่เป็นนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลด iOS 7 เวอร์ชั่น Beta ไปทดลองใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนผู้ใช้งานทั่วไปกำหนดการอัพเดท iOS 7 ตัวเต็มน่าจะอยู่ในช่วงเกือบ ๆ ปลายปี หรือประมาณช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เป็นช่วงที่แอปเปิลจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ และวันนั้นเราน่าจะได้อัพเดทเป็น iOS 7 ตัวเต็ม เหมือนครั้งเปิดตัว iPhone 5 และ iOS 6 ที่ผ่านมา
Create Date : 11 มิถุนายน 2556 | | |
Last Update : 11 มิถุนายน 2556 21:14:06 น. |
Counter : 1358 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
วัยรุ่นไทยติดมือถืองอมแงม ทั้งเฟซบุ๊ก-ไลน์ บอกไม่มีอยู่ไม่ได้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เผยผลสำรวจ ชีวิตเด็กไทยใน 1 วัน พบใช้มือถือทั้งช่วงตื่นนอนและก่อนนอน ด้วยการเล่น เฟซบุ๊ก หรือไลน์ ขณะที่ด้านการเรียนก็น่าเป็นห่วง หลังพบเด็กส่วนใหญ่นิยมลอกการบ้านด้วยวิธี คัดลอก-ตัดแปะ
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 ที่โรงแรมปริ้นซ์พาเลซ มหานาค สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดประชุมสัมมนา ทิศทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในอนาคต โดย นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาวิชาการสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) กล่าวว่า สสค. ได้ทำการสำรวจในหัวข้อ 1 วันในชีวิตเด็กไทย เมื่อเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่าง 3,058 คน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สรุปผลได้ดังนี้
วงจรชีวิตของเด็กไทยใน 1 วัน จะเริ่มตื่นนอนตั้งแต่เวลา 06.18 น. และเข้านอนในเวลา 22.21 น. วันหยุดจะนอน 23.39 น. มีเวลานอนเฉลี่ย 7-8 ชั่วโมง ซึ่งถือว่ามีเวลานอนไม่น้อยมาก ที่น่าสนใจ คือ หลังตื่นนอนสิ่งแรกที่เด็กส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.1 ทำคือ การเช็กโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับสิ่งสุดท้ายที่ ร้อยละ 35 ทำก่อนนอน คือ ใช้โทรศัพท์มือถือเล่น เฟซบุ๊ก (Facebook) และ ไลน์ (Line)
จากการสำรวจพบว่า เด็กร้อยละ 75.7 เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กบ่อยจนถึงประจำ ซึ่งนักเรียนหญิงจะเล่นมากกว่านักเรียนชาย โดย ร้อยละ 20.3 ใช้มือถือระหว่างเรียน ขณะที่ ร้อยละ 42.5 รู้สึกทนไม่ได้ถ้าอยู่คนเดียวโดยไม่มีโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังพบว่า ตัวเลขเด็กที่ใช้โทรศัพท์มือถือ พุ่งพรวด 2-3 เท่า ใน 1 ปี เพราะมีทุกสิ่งที่เด็กต้องการทั้งอินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ไลน์ และกล้องถ่ายรูป
นายอมรวิชช์ กล่าวอีกว่า เมื่อดูจากความเป็นจริงจะพบว่า ระบบการศึกษาไทยทำให้ครูมีเวลาแก่เด็กน้อยลง เพราะครูต้องยุ่งอยู่กับภาระงานที่ไม่ใช่เรื่องการสอนค่อนข้างมาก และเน้นแต่การสอนเรื่องวิชาการ จึงทำให้เด็กขาดที่พึ่ง และออกไปเผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งเรื่องเพศ ความรุนแรง อบายมุข และสื่อไม่ดีต่าง ๆ ทั้งที่ยังขาดทักษะชีวิต
โดยจากการสำรวจยังพบว่า เด็กจำนวนมากถึงร้อยละ 45.7 ลอกการบ้านเพื่อนด้วยการ copy/paste โดยเด็กที่เกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.5 ลอกการบ้านมากถึง ร้อยละ 52.9 แต่เด็กที่เกรดเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ลอกการบ้าน ร้อยละ 41.7 ขณะที่ ม.ต้น ลอกการบ้าน ร้อยละ 38.9 แต่นักเรียน ม.ปลาย ลอกการบ้าน ถึงร้อยละ 51.7 ซึ่งการคัดลอกข้อมูลมาแปะเพื่อส่งงานนี้ ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังผลิตคนที่เรียนแบบไม่มีความรู้
หนำซ้ำเด็กที่เกิดปีเดียวกัน 8 แสนคน เรียนจบระดับอุดมศึกษาเพียง 2-3 แสนคน ที่เหลือมีวุฒิแค่ ม.6 ม.3 หรือต่ำกว่านั้น ซึ่งจะเห็นว่า การสอนที่เน้นแต่วิชาการ มันตอบโจทย์เด็กแค่ 3 ใน 10 คน ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้ว ที่โจทย์การศึกษาต้องถูกยกระดับ และเปลี่ยนไปเป็นโจทย์เพื่อการมีชีวิตและการมีงานทำ
นายอมรวิชช์ ได้เน้นย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทั้งภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น คงปล่อยให้กระทรวงศึกษาธิการทำเพียงลำพังไม่ได้ เพราะเวลานี้เรามีอนาคตประเทศชาติเป็นสิ่งเดิมพัน ถ้าเราผลิตคนออกมาทั้งระบบเป็นคนที่ไม่รู้ มีแต่ใบปริญญา ไม่มีปัญญา ประเทศชาติก็จะอยู่ไม่ได้
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ. ถือเป็นองค์กรหลักขนาดใหญ่ที่ดูแลรับผิดชอบเด็กกว่า 7 ล้านคน และบุคลากรครูอีก 4 แสนคน ดังนั้น การขับเคลื่อนการศึกษาจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจถึงวิธีการและเป้าหมาย เพราะหากการทำงานเป็นแบบต่างคนต่างทำการศึกษาคงไม่ประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานต้องมีการพลิกโฉมการศึกษาไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วย โดยในการจัดการศึกษานั้นอยากให้มีการดำเนินการตามนโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ที่ต้องการให้มีการนำรูปแบบการจัดการศึกษาของแต่ละพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จไปขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ เพราะเชื่อว่าจะทำให้การศึกษาไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นได้
ขณะเดียวต้องพยายามทำให้การเรียนการสอนในห้องเรียนลดเนื้อหาลง แต่เพิ่มการคิดวิเคราะห์ของเด็กให้มากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมด้านคุณธรรมและจริยธรรม เนื่องจากมีตัวชี้วัดว่า ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และพฤติกรรมความรุนแรงของเด็กกำลังเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการประชุมคณะกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมยังเสนอว่า ควรมีการกระจายภาระการจัดการศึกษาให้สมดุลมากขึ้น ทั้ง สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังควรมีการปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของ สพฐ. จากหน่วยงานที่จัดการศึกษาเอง เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนาการเป็นต้นแบบของการจัดการศึกษา ควรมีการคิดระบบการพัฒนาสมรรถนะครูควบคู่ไปกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก เพราะจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันครูมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ผลการเรียนของเด็กกลับย่ำอยู่กับที่
//education.kapook.com/view64059.html
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 07 มิถุนายน 2556 | | |
Last Update : 7 มิถุนายน 2556 16:36:59 น. |
Counter : 648 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เฮ! 3 ค่ายมือถือตอบรับ ลดราคา 3จี แพ็กเกจเก่าลงอีก 15%
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้บริโภคเฮ! 3 ค่ายมือถือตอบรับ ยอมลดค่าบริการ 3จี แพ็กเกจเก่าให้ลูกค้าที่เปลี่ยนมาใช้ 3จี ใหม่ ลงอีก 15% โดย AIS เริ่ม 21 พฤษภาคมนี้ ส่วนอีก 2 ค่าย เริ่มต้นเดือนมิถุนายน
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2556 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด, บริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด และบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 3จี ในย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ทั้ง 3 แห่ง ว่า ทางผู้ให้บริการทุกรายพร้อมจะลดค่าบริการ 3จี ในแพ็กเกจเก่าลง 15% ตามเงื่อนไขใบอนุญาตของ กสทช.
ทั้งนี้ เลขาธิการ กสทช. ระบุว่า ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด จะเริ่มทยอยปรับลดราคาค่าบริการ 3จี ให้ลูกค้าที่ใช้งานอยู่ในย่าน 900 เมกะเฮิร์ตซ์เดิม และเปลี่ยนมาใช้ 3จี ใหม่ ผ่านการลงทะเบียนอีก 15% โดยแพ็กเกจ 3 จีเก่าของบริษัท แอดวานซ์ฯ นั้น แบบแพงสุด คือ แบบอันลิมิเต็ด ราคาอยู่ที่ 999 บาท ก็จะลดลงเหลือ 849 บาท
ขณะที่อีก 2 บริษัทนั้น ทางบริษัทเรียลฟิวเจอร์ฯ จะเริ่มปรับราคาแพ็กเกจให้ลูกค้า 3จีเก่า ที่ย้ายมา 3จีใหม่ ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะทำให้แพ็กเกจทรูมูฟเอชโปรฯ 3จี แบบถูกสุด ที่มีราคา 399 บาท จะลดลงเหลือ 340 บาท ส่วนของดีแทคนั้น จะเริ่มเปิดบริการในต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งหากลูกค้าดีแทค 3จี แพ็กเกจเดิมเปลี่ยนมาใช้ไตรเน็ท ก็จะได้ปรับราคาลงเช่นเดียวกัน
//hilight.kapook.com/view/86148
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 18 พฤษภาคม 2556 | | |
Last Update : 18 พฤษภาคม 2556 18:27:36 น. |
Counter : 641 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
กทค. ไฟเขียว 3 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ เปิดให้บริการ 3G พ.ค.นี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ที่ประชุมบอร์ด กทค. มีมติให้ 3 บริษัทค่ายมือถือ ทั้ง เอไอเอส, ดีแทค และทรูมูฟ เอช เปิดให้บริการ 3จี ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เผย AIS-TRUE นัดเปิดตัว 8 พ.ค. DTAC 9 พฤษภาคม
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา พ.อ.เศรษฐพงค์ มะวิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กทค. ว่า ได้มีการพิจารณามาตรฐานสัญญาการให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทั้ง 3 ราย ดังนี้
1. บริษัท แอดวานซ์ ไวเลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส
2. บริษัท ดีแท็ค เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชัน จำกัด(มหาขน) หรือ ดีแทค
3. บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด (มหาขน) ในเครือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทรูมูฟ เอช เพื่อให้ทันต่อการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมบอร์ดยังมีมติให้สำนักงาน กสทช. เร่งรัดจัดทำมาตรฐานสัญญากลางการให้บริการ 3จี ที่เป็นสัญญามาตรฐานใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด รวมทั้งภายในสัปดาห์นี้ ยังได้มีมติให้เชิญผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานสัญญาการให้บริการ 3จี พร้อมปรับแก้เงื่อนไขการคุ้มครองผู้บริโภค แผนการดูแลสังคม (ซีเอสอาร์) รวมทั้งแพ็กเกจการให้บริการ ที่เตรียมเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ เพื่อพิจารณาว่า ตรงตามข้อกำหนดในสัญญาแนบท้ายในใบอนุญาต 3จี ที่ให้ลดถูกลง 15% หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การให้บริการ 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์อย่างเป็นทางการ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ประกอบด้วย เอไอเอส และ ทรูมูฟ เอช จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤษภาคม และ ดีแทค จะเปิดให้บริการในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Create Date : 30 เมษายน 2556 | | |
Last Update : 30 เมษายน 2556 15:51:10 น. |
Counter : 601 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|