เที่ยวปักกิ่ง ตอนที่ 6 ชมสนามกีฬารังนก วันที่ 26
สนามกีฬาแห่งชาติกรุงปักกิ่ง (อักษรจีนตัวเต็ม: 北京國家體育場, เป่ย์จิงกั๋วเจียถี่ยู่ฉาง) เป็นสนามกีฬาหลักที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่จะถูกจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนธันวาคม 2546 มีกำหนดการสร้างเสร็จในปี 2550 นี้ ได้รับการออกแบบโดย Herzog & DeMeuron (สวิสเซอร์แลนด์) และสถาบันออกแบบสถาปัตยกรรมจีน (China Architecture Design Institute) ครอบคลุมพื้นที่ 258,000 ตร. ม. และมีขนาดความจุ 1 แสนที่นั่ง ใช้งบประมาณถึง 3.5 พันล้านหยวน โดยสนามกีฬาแห่งนี้จะถูกใช้เป็นสนามแข่งขันกรีฑาและฟุตบอล สนามกีฬาดังกล่าวตั้งอยู่ทิศใต้ของสวนโอลิมปิกในปักกิ่ง โดยเป็นสเตเดียมแบบเปิด รวมพื้นที่ 23.7 เฮกเตอร์ เพื่อใช้ในพิธีเปิด ปิด และการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่และลานของกีฬาโอลิมปิก 2008 โดยสามารถจุผู้ชมได้มากถึง 100,000 คน แบ่งเป็นที่นั่งแบบถาวร 80,000 ที่ และที่นั่งเสริม 20,000 ที่(รื้อออกเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน) ทั้งนี้ ภายหลักการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 แล้ว สนามแห่งนี้จะใช้เป็นสนามแข่งขันระหว่างประเทศ หรือกิจกรรมทางกีฬาอื่น ๆ
ออกเดินทางกันเลย ถนนเส้นนี้แหละที่จะพาเราไปสนามกีฬา
มาถึงแล้ว เรามาดูตอนกลางวันนะ ช่วงบ่ายแดดร้อนมาก แต่ก็มีลมพัดมาตลอด ลมแรงด้วย เค้าจัดดอกไม้สวยมากตระการตา
อันนี้เป็นแผนผังของที่นี่ ดูไปก็ไม่รู้เรื่อง
อันนี้เค้าให้เดินอย่างสบายใจ 2 ชั่วโมง
มองมาที่ถนนอีกฝั่ง ดอกไม้ก็สวย
อันนี้ใกล้เข้ามาอีก เดินไกลเหมือนกันนะ
อันนี้ถนนทางเดินเข้าไป มีโคมไฟริมทางด้วย แต่เตี้ย ๆ
ดูกันใกล้ ๆ เป็นไงล่ะสวยมั้ย เป็นรูปรังนกน้อย ๆ
อันเดินมาถึงใกล้มากแล้วนะ แต่เข้าไม่ได้เพราะต้องซื้อบัตร ต้องซูมเอา
ตึกรูปทรงมังกร ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของนักกีฬาโอลิมปิคปี 2008 แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโรงแรมแล้ว
อันนี้ซูมเอา ไม่ได้เข้าไป
สนามกีฬาแห่งนี้ มีรูปทรงรังนกที่มีโครงตาข่ายเหล็กสีเทาๆเหมือนกิ่งไม้ ห่อหุ้มเพดานและผนังอาคารที่ทำด้วยวัสดุโปร่งใส อัฒจันทร์มีลักษณะรูปทรงชามสีแดง ซึ่งดูคล้ายกับพระราชวังโบราณ กู้กง ของจีน ภาพโครงสร้างของสนามกีฬาแห่งนี้ จึงดูคล้ายพระราชวังสีแดง ที่อยู่ภายในรั้วกำแพงสีเทาเขียว ซึ่งให้กลิ่นอายงดงามแบบตะวันออก สำหรับบันไดภายในสนามกีฬาถูกสร้างให้กลมกลืนกับโครงตาข่าย ซึ่งให้ภาพลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือเอกภาพ มีกำหนดเริ่มก่อสร้างในวันที่ 24 ธันวาคม 2003 ตอน 10 โมงเช้า เป็นยังไงละเอียดมั้ย
อันนี้เดินออกมาแล้ว เดินไปได้ครึ่งนึงของสนามก็แยกออกมาเพระเดินไม่ไหว เดินไปเล่นที่ตึกที่อยู่ข้าง ๆ กันดีกว่า แต่ก็ไกลมากอีกเหมือนกัน
เสาที่เห็นนี้ตอนกลางคืนเค้าเปิดไฟด้วยนะสวยเหมือนกัน
ไปหาที่นั่งรับลมเย็น ก็มีคนมาเก็บกระป๋อง ขวดน้ำ แก่แล้วน่าสงสาร แต่คงทำเงินเยอะอยู่นะเนี่ยเพราะเห็นมีคนมาเที่ยวเยอะ ขวดคงเยอะ
เสาไฟที่อยู่ใกล้ ๆ สูงมากออกแบบแปลกดี
เราจะเดินไปดูอันนี้แหละแต่อีกไกลมากเดินไม่ไหวอีกแล้ว ซูมเอา ถ่ายได้แค่รูปเดียว อันนี้ตอนกลางวันก็เป็นสีอย่างนี้ ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็จะมีไฟด้วยนะ แบบว่าเจ็ดสีเจ็ดแสงเลย
ดูประวัติกันซักเล็กน้อยนะ อย่าเพิ่งเบื่อ "วอเตอร์คิวบ์" เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ภายนอกมีลักษณะคล้ายกับรวงผึ้งใส ที่นี่จะเป็นสถานที่ใช้แข่งขันทั้งว่ายน้ำ กระโดดน้ำ โปโลน้ำ และระบำใต้น้ำ มีที่นั่งถาวร 6,000 ที่นั่ง ที่นั่งชั่วคราว 11,000 ที่นั่ง รวม 17,000 ที่นั่ง ใช้เงินลงทุนไปทั้งสิ้น 1,030 ล้านหยวน หรือ 4,700 ล้านบาท
บางคนก็เรียกสระแห่งนี้ว่า ยิมเนเซียมฟองน้ำ PTW & Ove Arum จินตนาการให้ออกมาคล้าย "ก้อนน้ำสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่" ออกแบบโดยใช้วัสดุเทปลอนเป็นโครงร่าง เน้นใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยจะนำมาใช้เดินเครื่องกรองน้ำเสียของสระน้ำ เพื่อให้ดูเหมือนน้ำที่สุด สถาปนิกยังใช้เทคโนโลยีจากการวิจัยของนักฟิสิกส์จาก Dublin's Trinity College ที่สามารถทำให้กำแพงอาคารดูเหมือนฟองน้ำที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอจากจะทำให้สระน้ำจากแดนมังกรแห่งนี้ ดูดีเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังสามารถต้านทานกับแรงสะเทือนอัเกิดจากแผ่นดินไหวได้ด้วย....
สระว่ายน้ำที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 โดยสระมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "เนชันแนล อะควาติกส์ เซ็นเตอร์" ส่วนชื่อเล่นที่ใช้เรียกกันทั่วไปคือ "วอเตอร์คิวบ์"
ยามค่ำคืน "วอเตอร์คิวบ์" ยังมีสีสันสวยงามตระการตา เมื่อระบบ "แอลอีดี" เปลี่ยนสีอาคารทั้งในและนอก
พื้นที่โดยส่วนใหญ่ของวอเตอร์คิวบ์เป็นน้ำ สีที่ใช้ในอาคารจึงเป็นสีของน้ำ ส่วนที่ยากที่สุดของอาคารก็คือการทำความสะอาดภายใน ต้องใช้พนักงานทำความสะอาดขึ้นนั่งร้านเคเบิลไปเช็ดถูปีละ 1 ถึง 2 ครั้ง ส่วนภายนอกอาคารนั้น ถ้าฝนตก ฝนก็จะชะล้างอาคารให้ สำหรับปัญหาเรื่องขี้นกนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะนกจะไม่เกาะบนพื้นผิวใส เมื่อมันไม่เกาะ มันจึงไม่ถ่ายลงมา
นั่งลมเย็นเกือบหลับ เลยเดินกลับมาทางเดิม
ดูเอาว่ามันไกลกันมากขนาดไหนแล้วอากาศร้อน ๆ อย่างนี้
เจอดอกไม้อีกสวยดี ตอนนี้เราเดินอ้อมมาอีกด้านของสนาม
เจ้าหน้าที่ของสนาม ตรงจุดที่เค้าขายบัตรให้เข้าชมด้านใน แต่เราไม่ได้เข้าไป เพราะแพงมาก
ซูมเอาไม่ได้เข้าไปก็ได้แค่นี้
มีสนามเครื่องเล่นอยู่ใกล้ๆ กันด้วย
อันนี้เป็นสระน้ำอยู่ติดถนนข้างสนาม อากาศดีนะฝั่งนี้เพราะเป็นช่วงบ่าย สนามมันบังแดด เสร็จจากนี้ก็ไปขึ้นรถกลับ
อันนี้มาอีกครั้งตอนกลางคืน ไกด์อยากพามาดูเค้าเปิดไฟรังนก ได้บรรยากาศอีกแบบนึง ไม่ได้เข้าไปใกล้มากนะเพราะเมื่อย
บรรยากาศถนนรอบ ๆ สนามกีฬา ไม่มีรถผ่าน มีแต่คนเดิน
ขดลวดสีขาวนั้นเป็นที่จอดรถจักรยาน เมื่อยไม่มีที่นั่ง ก็เลยขอนั่งหน่อย
เจอแล้วหนึ่งคัน อ้อแล้วก็ที่ปักกิ่งนี่ไม่มีมอเตอร์ไซด์นะ ผิดกฏหมายเพราะอันตราย จะมีแต่คนขี่จักรยานกัน มีถนนสำหรับจักรยานทุกที่
จบแล้วสำหรับวันนี้ เหนื่อยมากเดินทั้งวัน จะไปกินข้าว แล้วก็เข้าโรงแรมแล้ว ตามมานะ.....
ตอนต่อไปค่ะ คลิ๊กเลย
Create Date : 01 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 10 มิถุนายน 2553 16:54:52 น. |
Counter : 2549 Pageviews. |
| |
|
|
|