เที่ยวสุราษฎร์ 5
รถตู้มาส่งที่โรงแรมราชธานี ใจกลางเมืองสุราษฎร์ อยู่ใกล้ห้างใหญ่และโรงหนังด้วย ราคา 360 บาท ห้องแอร์ แต่ไม่มีตู้เย็นกับน้ำอุ่นเพราะห้องเต็มเลยได้ราคานี้ ทางเดิน เพิ่งเคยเห็นฝาชักโครกเป็นสีเขียว จากนี้เราจะไปหากินข้างแถวตลาดโต้รุ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเดินประมาณ 100 ถึงเลย กำลังตั้งร้านกัน ไปกินขนมจีนแบบใต้ๆ กัน ผักเยอะมาก แกงไตปลา กินไปเผ็ดไป น้ำยาป่า ไปเรื่อย ๆ ขนมเบื้องโบราณ น่ากินซะ ทำจากใบเตย กินกี่หลอดถึงจะอิ่ม เริ่มมืดแล้วของยิ่งเยอะเลือกไม่ถูก ขนมโค ถามเจ้าของร้านทำไมชื่อขนมโคแกก็ไม่ตอบ เลยถอยเดี๋ยวโดนต่อย ผัดไทย ร้านขนมจีนคนเริ่มเยอะแล้ว ผัดไทยอีกร้านนึงผักเยอะมาก เดินไปมาหลายรอบตกลงกินข้างแกงใต้ดีกว่า ผักเยอะเช่นเคย แถมมีน้ำพริกกะปิให้ทุกโต๊ะ อีกอย่างบะหมี่ทำเองอร่อยดี เส้นใหญ่เหมือนเส้นอูด้ง ต่อด้วยของหวาน บวชข้าวโพด แล้วก็แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน ลูกชิ้นจิ๋ว เล็กจัดเท่าเหรียญสลึงมั้ง......อิอิ เสร็จแล้วไปเดินเล่นแถวริมแม่น้ำตาปีแล้วก็กลับไปนอน เช้าตื่นมาก็ไปหาข้าวเช้ากินกัน แถวโรงแรมอีกเหมือนเดิม เมื่อคืนเดินไปทางซ้ายมือ ตอนเช้าลองเดินไปทางขวาไม่ไกลเหมือนกันเจอโจ๊กเจ้าอร่อยด้วย อยู่หน้าศาลเจ้า อร่อยจัดหมดทุกอย่าง ถนนบางเส้นก็เงียบเหงา ข้างทางยามเช้า เดินตรงไปเป็นตลาดสด ขายของเยอะแยะ ส่วนใหญ่พวกของทะเล ได้ข้าวเหนียวหมูร้านนี้มาด้วย 10 บาทอร่อยดี ไปเดินเล่นแถวท่าเรือ กลับไปนอนเล่นที่โรงแรมเตรียมเช็คเอ้าท์ตอนเที่ยงออกมาจากโรงแรมก็ไปหาข้าวกินก่อนขึ้นรถไปสนามบิน ก็เป็นอาหารใต้ ๆ อีกแล้ว ใช้บริการรถของบริษัทพันทิพย์เป็นรถตู้ลีมูซีนคนละ 100 บาทส่งถึงสนามบินสุราษฎร์ มีแค่ 2 คนอีกแล้ว รอเครื่องออก เครื่องบินเข้ามาคนกำลังลงจากเครื่องแล้วเราก็จะไปคันนี้ ได้เวลาเดินทาง ถึงแล้วกรุงเทพฯ จบแล้วสำหรับทริปนี้ 2 คืน 3 วันหมดไปคนละ 3,300 บาท ใครสนใจไปเที่ยวอยากได้ข้อมูลติดต่อมาได้เลยจ้าจะแนะนำแบบถูก บริการดีที่สุด
เที่ยวสุราษฎร์ 4
ได้เวลา 11 โมงจะกลับก็มาเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อนกลับ คือตามปกติแล้วได้ก็ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยถ้าไม่สั่งของเพิ่ม แต่ของเราสั่งน้ำอัดลม 2 กระป๋องเพิ่มจ่ายอีก 50 บาท ระหว่างรอก็ถ่ายรูปไป พร้อมลงเรือ คนที่แพก็มาส่งขึ้นเรือ เป็นที่น่าสังเกตุหน้าตาแต่ละคนเป็นเยี่ยงนี้ แต่นิสัยดี พูดจาดีสุดยอด แล้วดูทรงผมพี่เสื้อเขียวอยากถามว่ามันเป็นเองตามธรรมชาติหรือแกไปทำมาพร้อมออกเรือ เราจะไปดูกุ้ยหลินเมืองไทยกัน แต่ระหว่างทางก็จะผ่านภูเขาหินปูนไปเรื่อย ๆ ใน VDO ก็มีเขาหินปูน 3 ลูกเหมือนกันแต่ยังไม่ใช่นะ น้ำสีเขียวมรกต ถึงแล้วกุ้ยหลินเมืองไทย หรือว่าเขาสามเกลอ แต่พี่เค้าพาขับเรืออ้อมมาถ่ายภาพด้านหลังซึ่งจะสวยกว่าด้านที่ผ่านมา อีกด้านซึ่งแดดร่มลมตกกำลังดี เหมาะแก่การถ่ายภาพ ตั้งกล้องถ่ายเอง เลยเป็นเยี่ยงนี้ พี่คนขับมาช่วยถ่ายเลยเป็นเยี่ยงนี้ กดกันไม่ยั้ง บรรยากาศรอบ ๆ เป็นที่พึงพอใจแล้วก็ไปต่อเพื่อขึ้นฝั่งจ้า เห็นสันเขื่อนแล้ว ใกล้ท่าเรือ ก่อนจากกันซักภาพเป็นที่ระทึกแลกนามบัตรกับเป็นที่เรียบร้อย มองจากข้างบนท่าเรือ แล้วโทรหารถมารับเข้าไปตัวเมืองกัน เป็นรถตู้ราคา 150 บาทส่งถึงโรงแรม ใช้เวลา 1.20 นาที เป็นรถตู้หลังคาสูงทั้งคันมีแค่ 2 คนนี้ตอนต่อไปค่ะ คลิ๊กเลย
เที่ยวสุราษฎร์ 3
ออกมาจากถ้ำก็เดินกลับเหมือนเดิม อีกซักภาพเป็นที่ระทึก ขากลับฟ้าครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะตก แต่ไม่ตก มาถึงก็มานั่งเล่นรอทานข้าวเย็น บรรยากาศช่วงเย็น ๆ ทางขึ้นไปห้องน้ำ ดูทุลักทุเล แต่ห้องน้ำก็สะอาดดี ใครไม่อยากใช้ห้องน้ำนี้ก็จะมีห้องน้ำตรงบ้านหลังใหม่อีกที่นึง ไปใช้บริการได้ 1 ทุ่มก็เป็นเวลาอาหารเย็น วันที่เราไปมีแขกอยู่ 2-3 กลุ่ม คนไม่เยอะสงบดี เค้าจัดจานไว้เรียบร้อย อาหารก็เริ่มมา มื้อนี้ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพราะรวมอยู่ในแพ็คเก็จแล้ว ปลาแรดทอด ตัวใหญ่มาก ดูขนาดความยาว 1 ศอก ตอนที่มานั่งเราก็ขอสั่งเพิ่มเพราะอยากกินอะไรเผ็ด ๆ หรือแบบใต้ๆ เค้าก็จัดให้ 1 จาน เป็นปลากดผัดเผ็ด เผ็ดมากอร่อยมาก ผัดผัก ไข่เจียว อร่อยดี ข้าวก็เติมได้ไม่อั้น ลุย! Before อิ่ม....After มีผลไม้ให้ด้วย อิ่มแล้วก็เข้านอนเลยจ้า....เพราะไม่มีทีวี วิทยุในห้องนอนกันตั้งแต่ 2 ทุ่มเลย ตี 5 ตื่นแล้วแต่ยังไม่สว่างเลย หมดอาลัยตายอยากในชีวิต ......ไม่ใช่ตื่นมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรอากาศก็เย็น บรรยากาศตอนเช้า ๆ หมอกลอย บนยอดเขา สายหน่อยไปอาบน้ำ แล้วไปหามุมถ่ายรูปกันที่ แพอีกฝั่ง บ้านแบบเป็นไม้ แต่ไม่มีใครมาพักเลย แต่พี่เค้าบอกว่าถ้าเป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์เต็มทุกห้องเลย เราโชคดีจริง ๆ แดดมาแล้ว ห้องอาหารของบ้านพักที่เป็นไม้ แต่คนส่วนใหญ่ไปทานกันตรงโน้นมากกว่า เพราะครัวเค้าอยู่ที่นั่น ฉากเสี่ยงตาย ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้ว ที่นี่กาแฟฟรีตลอดวัน-คืน สำหรับคนไทยที่แพทำข้าวต้มให้ทาน เป็นข้าวต้มกุ้ง อร่อยดี ไม่เสียเงินเพิ่มนะราคารวมในแพ็คเกจ ไม่พอขอต่อด้วยชุดแพนเค้ก อร่อยมาก ฟรีด้วยไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้ อิ่มมาก............ ไปนอนอีกรอบเพื่อรอเวลากลับ 11 โมงจะออกเดินทางออกจากเขื่อนและไปดูกุ้ยหลินเมืองไทยกัน ตอนต่อไปค่ะ คลิ๊กเลย
เที่ยวสุราษฎร์ 2
ได้เวลาบ่าย 3 โมงที่นัดไว้ ก็จะไปเที่ยวถ้ำกันแล้ว ซึ่งถ้ำนี้เป็นถ้ำที่อยู่ในบริเวณ ทะเลใน 500 ไร่ ที่เรียกแบบนี้เพราะเป็นทะเลที่มีน้ำอยู่ตรงกลางภูเขา น้ำซึมผ่านใต้ดินจนเกิดเป็นแอ่งน้ำมีภูเขาล้อมรอบ มองกลับไปที่แพ นั่งเรือมาไม่นานก็ถึง แต่ยังไม่ถึงถ้ำนะต้องเดินขึ้นเขาไป 2 กิโลเมตรก็จะถึง ใครสนใจมาก็ติดต่อแพนำทางประมาณราคาลำละ 300 บาท เดินทางได้ประมาณ 10 ท่าน ต่อ 1 ลำ แต่เรามา 2 คน ก็ 300 บาท มาหลายคนยิ่งคุ้ม ตรงนี้มีคนขายน้ำ ขนม พี่แกก็แวะไปคุยกับเขา เราเดินนำไปก่อน มองย้อนกลับไป ชันมากนะเนี่ย ทางที่เดินไปอากาศเย็นสบาย ระหว่างทางได้กลิ่นอะไรแปลก ๆ พี่เค้าบอกว่าเป็นกลิ่นอึของหมูป่าที่มันมาหาอาหารที่กอไผ่ ขุดซะเยิน เหม็นแค่นี้ไม่มีปัญหา ปลาร้าบ้านเราเหม็นกว่า เดินต่อไป ต้นอะไรไม่รู้ออกลูกตามลำต้น แปลกดี คล้าย ๆ มะเดื่อ ที่เห็นนี่ไม่ใช่ไม้ไผ่นะฮ้า.........หวายจ้า เค้าบอกว่ามันทนกว่าไม้ไผ่ ต้นนึงก็ยาว 20-30 เมตรเลยนะ เอามาทำราวไม้ให้คนไว้เกาะเวลาหน้าฝน เพราะทางเป็นดินเหนียวลื่นมาก รังอะไรไม่รู้ สละหรือระกำ ต้นตะเคียน ใหญ่มาก เห็นแม่น้ำแล้วแต่ยังไม่ถึงถ้ำ ต้องนั่งเรือไม้ไผ่เพื่อต่อไปอีก พี่เค้าบอกให้พักเหนื่อย 5 นาที ก่อนออกเรือไปอีก เราก็เลย แชะ แชะ แชะ บริเวณนี้เรียกว่าทะเลใน มีเจ้าหน้าที่ของเขื่อนดูแลอยู่ น้ำแถวนี้นิ่งมากเพราะมีภูเขาบัง เค้าเลี้ยงปลาด้วย แต่เลี้ยงแบบปล่อย ๆ แต่ให้อาหารทุกวัน แฟชั่นรีวิว .....อิอิ พี่แกเท่ห์จริง ๆ ตาชั่งนึกว่าเอามาชั่งปลา เอามานั่งนี่เองมันคงเด้งดึ๋ง ๆ ดีเนอะ แพพักของเจ้าหน้าที่ ได้เวลาเรือออกแล้ว ใกล้ถึงแล้ว สภาพของแพ 500 ไร่ ตอนนี้ปิดตัวไปแล้ว เหลือแต่ซาก มาถึงแล้วของจริง น้ำใสปิ้ง ปีนอีกแล้ววววว มองลงไป คนคงมาเยอะ จับจนหินมันเชียว ตรงปากถ้ำ พี่มีหลอดนีออนพานำไปเลย ข้างในถ้ำประการังเป็นลักษณะแบบเดียวกับถ้ำน้ำลอดหรือถ้ำทะลุ สาเหตุที่เรียกถ้ำปะการังก็เพราะ หินงอกหินย้อยที่นี่ไม่เหมือนที่ถ้ำอื่น ๆ หินงอกหินย้อยที่ถ้ำปะการังนี้จะแตกหน่อเล็กๆ คล้ายๆ ปะการังในทะเล ดูแล้วสวยงาม และมีลักษณะคล้ายปะการังเขากวางที่เกิดขึ้นในทะเล จากการสำรวจเบื้องต้น หินงอก หินย้อยดังกล่าวไม่ได้เป็นปะการังเหมือนในทะเล ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต แต่เกิดจากการตกตะกอนของน้ำหินปูน ที่เข้มข้นผสมกับความพิเศษของอากาศ ทำให้เกิดหินย้อยรูปประหลาดเหมือนปะการัง และได้พบฟอสซิลสัตว์ทะเลเซลล์เดียว อายุประมาณ 250 ถึง 400 ล้านปีในหินปูน คาดว่าเคยเป็นทะเลดึกดำบรรพ์ของโลก โอ้สาระเหลือเกิน อันนี้เป็นประกายเชียว อันนี้คล้าย ๆ ผ้าม่าน ถ้าอันที่เกิดใหม่เวลาเอาไฟส่องแสงไฟจะผ่านได้ พี่เค้าทำให้ดู เออแปลกดี อันนี้คล้าย ๆ ฝาหอยมือเสือ อันนี้พี่เค้าบอกว่ามีพวกฝรั่งชอบมาทำกัน เอาหินมาซ้อน ๆ กัน อันนี้คล้าย ๆ เกล็ดน้ำแข็ง ได้เวลากลับแล้ว พี่แกเอาไฟนีออนไปแอบไว้ ทางลง ขึ้นแพกลับเหมือนเดิม ดูท่วงท่าลีลาของพี่แกก่อน.... โอ้ .....เท่ห์มาก ใกล้ถึงแล้ว บรรยากาศดีมาก ไม่มีแดด มีแต่ลมเย็น ๆ น้ำใสปิ้งอีกเช่นกัน เห็ดที่พี่เค้าเลี้ยงไว้ คอยหยอดน้ำทุกวันก่อนกลับอีกซักภาพ มี VDO ตอนล่องแพไม้ไผ่ขากลับตอนต่อไปค่ะ คลิ๊กเลย
สุราษฎร์ 1
ได้อานิสงโปรแอร์เอเชีย 0 บาท จัดไปสุราษฎร์ 2 ที่ ไป กลับ 2 คน 428 บาท จ่ายเฉพาะค่าภาษีสนามบิน จัดไป นั่งรถจากพัทยามาลงที่บางพลีคนละ 124 ต่อTaxi เข้าสนามบินอีก 120 บาท รถที่ขับมา อิอิ......ล้อเล่น แต่อยากได้ ไม่ค่อยมีคนเยอะเท่าไหร่ เครื่องออก 7 โมง มา 5 ทุ่ม มารอเพราะรถเช้ามาสนามบินไม่มี ก็เลยเป็นเช่นนี้ แชะ นั่ง นอน แล้วก็ดูชาวบ้าน คนนี้หน้าคุ้นมาก........ พี่อินเดชมาทำอะไรที่นี่ ลูกเมียอยู่ที่ไหน ได้เวลาเดินทางแล้ว ไม่ได้มีงวงมาเทียบนะต้องนั่งรถไปอีก อยู่บนเครื่องแล้ว จองไม่ได้ระบุที่นั่ง ก็เลยไม่ได้นั่งด้วยกัน ถ้าเลือกที่นั่งก็ต้องเสียอีกคนละ 50 บาท เราไม่สนแค่ 1 ชั่วโมงเอง ไวเหมือนโกหกถึงแล้ว ซื้อแพจเกจทัวร์ไปเขื่อนรัชประภา หรือกุ้ยหลินเมืองไทย ราคาไม่แพง 1,590 บาท ค่อคน 1 วัน 1 คืน จากเวปนี้ใครสนใจติดต่อได้เลย บริการดี www.chiewlarn.com สามารถซื้อตั๋วรถจากบริษัทพันทิพย์ที่สนามบินสุราษฎร์ได้เลยราคาประมาณ 300 บาท แต่ถ้าเข้ามาในเมืองก็มาซื้อตั๋วขึ้นรถที่ตลาดเกษตร ก็เป็นของบริษัทพันทิพย์อีกเช่นกันในราคา 200 บาท เป็นรถตู้หลังคาสูงส่งถึงท่าเรือเลยใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมงระยะทาง 85 กิโลเมตร สำหรับเรานั้นมาขึ้นรถที่ตลาดเกษตร เพราะมีอาจารย์มารับจากสนามบินไปส่งที่ท่ารถ ประหยัดไปอีก 100 บาท ก่อนไปแวะกินข้าวแถวตลาด อาหารใต้อร่อยมาก ออกเดินทางกันเลย ก่อนถึงทางเข้าเขื่อน สันเขื่อนแต่ไม่ได้แวะถ่ายรูป มาถึงท่าเรือ ได้ถ่ายมาแค่นี้เพราะเรามาสาย รถตู้และส่งชาวบ้าน จะมาถ่ายตอนขากลับ ต้องเสียค่าธรรมเนียมของเขื่อนด้วย คนละ 100 บาท เราซื้อแพ็คเกจแล้วไม่ต้องจ่ายลงเรือได้เลย ไปกับพี่คนนี้ ชื่อกร คนขับเรือใครสนใจใช้บริการเรือเหมาก็โทรเลย 081-7885795 / 087-8939514 คุณโสพิธเป็นพี่ชายของคุณกรอาจจะได้ราคาถูกกว่าซื้อแพ็คเกจ ครั้งหน้าเจอกันแน่นอน ลงเรือแล้วก็ชิว ๆ แบบนี้.............. เหมือนอยู่ในทะเลเลย น้ำสีเขียวเหมือนทะเล จัดไปซักภาพ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงแพที่พัก อันไม่ใช่แพเรา แม่ย่านาง.....อิอิ ใกล้ถึงแพของเราแล้ว ภูมิใจนำเสนอ มี 2 แพให้เลือกคือ เชี่ยวหลานกับแพสายชล เราเลือกอันหลังเพราะจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า มาถึงไปที่ห้องพักก่อนเลย ได้ห้องเบอร์ 8 พร้อมเสื้อชูชีพไว้เล่นน้ำ และเรือคายัคฟรี ในห้องมีแค่ที่นอน 6 ฟุต หมอน ผ้าห่ม หอมน้ำยาปรับผ้านุ่ม น่านอนมาก วิวที่มองจากหน้าต่าง ไปทานข้าวกลางวันที่แพจัดให้อันนี้อยู่ในแพ็คเกจ อร่อยมากเติมได้ไม่อั้น แต่เรากินไม่หมด มีผลไม้ด้วย ดูดีมาก มองออกไปนอกแพ กินข้าวเสร็จแล้วก็ไปสำรวจแพกัน เลี้ยงปลาในกระชังข้าง ๆ แพ มานั่ง ๆ นอน ๆ เล่น นัดเรือให้พาไปเที่ยวถ้ำประการังตอน บ่าย 3 โมง ตอนต่อไปค่ะ คลิ๊กเลย
......ไม่ใช่ตื่นมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรอากาศก็เย็น 
เดินต่อไป 
มารอเพราะรถเช้ามาสนามบินไม่มี ก็เลยเป็นเช่นนี้ แชะ นั่ง นอน แล้วก็ดูชาวบ้าน 
พี่อินเดชมาทำอะไรที่นี่ ลูกเมียอยู่ที่ไหน 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
