<<< a_somjai a_somjai's blog === อ่านเขียนบล็อก อ่านเขียนโลก <<<== a_somjai อ่านเขียนบล็อก a_somjai a_somjai's blog
Group Blog
 
All Blogs
 

ใบไม้เปลี่ยนสี... (2007-10-28) ตอนที่ ๑

From: P_Somjai
To: ice_tinybear, Daddy, MOM
Date: Oct 28, 2007 11:32 PM
Subject:: ใบไม้เปลี่ยนสี...
mailed-by gmail.com


ฮัลโหล ทุก ๆ คน
พ่อ แม่ และน้องไอ๊ซ์ สบายดีกันใช่มั๊ย
แม่กับไอซ์ กลับมาจากกรุงเทพรึยังคะ


วันนี้อ๊อมเพิ่งกลับจากไปเที่ยว เมืองฮิดะ มาแหละ
เมืองฮิดะ เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของ จังหวัดกิฟุ
ไปกับพี่ ๆ คนไทย สี่คน
พี่เค้าเช่ารถและขับไปกัน


พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ
เพราะพี่เค้าอยู่ที่ญี่ปุ่นมาสี่ห้าปีแล้ว
เค้าไปเที่ยวกันมาเกือบทั่วประเทศญี่ปุ่นเลย
แล้วพี่หนุ่มที่เป็นคนขับรถ ก็เคยไปเที่ยวยุโรปมาแล้ว
เขาขับรถเที่ยวที่นั่นด้วย ขับขี่ปลอดภัย ไว้ใจได้
(จริง ๆ พี่เค้าก็อายุจะสามสิบกันละ แต่หน้าตาดูเด็กๆเท่านั้นเอง วันนี้แอบรู้มา)







เราโชคตีมาก ๆ เลยที่ตัดสินใจไปกับพี่ ๆ
เพราะที่จริงวันนี้ที่หออ๊อม ก็มีโปรแกรมพาไปเที่ยว
ไปดูวิวบนยอดเขา คินคะซัง
เป็นภูเขาที่อยู่ในเมืองที่อ๊อมอยู่นี่แหละ

ขออธิบายหน่อย คือจังหวัดกิฟุ อะ มันมีหลายเมือง
เมืองที่อ๊อมอยู่เป็นเมืองชื่อ กิฟุ แล้วมันยังมีเมืองอื่น ๆ อีก
เช่น เกโระ ทาคายามะ อิชิกาวะ อะไรมากมาย

จังหวัดกิฟุ มี ออนเซน เยอะมาก
(ออนเซน) เป็นที่เที่ยวขึ้นชื่อเหมือนกัน
และหน้าหนาวก็จะที่เล่นสกีด้วย คิดว่าคงได้มีโอกาสไปเล่นนะ



เล่าต่อ ๆ …คือตอนแรก
อ๊อมก็ลังเลว่า… จะไปกับเพื่อนที่หอ หรือไปกับพี่ ๆ ดี
สุดท้ายตัดสินใจไปกับพี่ เพราะได้โอกาสไปเมืองอื่น
คินคะวัง เดี๋ยวไปเองวันหลังก็ได้

แล้วก็คิดถูกจริง ๆ
ปกติอ๊อมจะชอบนอนหลับในรถใช่มั๊ย
วันนี้นะ ง่วงแค่ไหนก็หลับไม่ลง ต้องดูวิวข้างทางตลอดเลย
ก็ออกจากมหาลัยตอน หกโมงครึ่ง
ไปหลงทางอีกครึ่งชั่วโมง
กว่าจะถึงที่หมายของเราก็ประมาณใกล้เที่ยง



ถนนที่ญี่ปุ่นสุดยอด โคตรแคบเล็กมาก
ก็เลยรู้แล้วว่า…ทำไมคนญี่ปุ่น(นักศึกษา)เค้าถึงขับแต่รถคันเล็ก ๆ กัน
ขนาดทางออกไปนอกเมือง ถ้าบ้านเราจะเป็นซุปเปอร์ไฮเวย์ใช่มั๊ย?
แต่ที่นี่ก็เป็นทางเลียบภูเขาไปแคบ ๆ สองเลน
แซงกันยังไม่ได้เลย (ไม่รู้ถนนที่เมืองอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่า)
แล้วทางในเมืองก็งงมาก ตัดกันวุ่นวายไปหมด
ดีที่ในรถเรามี เนวิเกเตอร์
(ไอ้จอที่มันคอยแสดงเส้นทางอ่ะ เหมือนในรถลุงอึ๋ง)
(ลุงอึ๋งเป็นพี่ชายของแม่เจ้าของจดหมาย__ a_somjai )

แต่ เนวิเกเตอร์ ของญี่ปุ่นแสดงละเอียดมากเลยนะ
เราก็ใส่รหัสจุดหมายปลายทางไป
แล้วมันจะคอยให้คำแนะว่าไปเส้นไหน
ตอนนี้อยู่ไหน คำนวณให้ด้วยว่าจะถึงกี่โมง
โดยจะคำนวณจากระยะทาง และความเร็วของรถเรา
(ก็ใกล้เคียงอยู่ ใช้ได้ ๆ ) แต่มันก็ไม่ร้อยเปอร์เซนนะ
ยัง ไง ๆเ ราก็ต้องดูแผนที่ช่วยด้วย และบางครั้งต้องใช้เซ้นส์/สามัญสำนึกเอา
ถนนที่ญี่ปุ่นนี่…งงจริง ๆ


พี่ ๆ เค้าตัดสินใจไม่ขึ้นทางด่วน เพราะจะได้ดูวิวข้างทาง



ถ้าเราขึ้นทางด่วน คงไปไหนมาไหนเร็วและสบายกว่านี้
แต่จะไม่เห็นอะไรเลย

ระหว่างทาง เห็นคนญี่ปุ่นออกมาเดินเก็บขยะกันด้วย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
พี่เค้าบอกว่า…สงสัยวันนี้เป็นวันทำความสะอาดหมู่บ้าน
โอ้โห… ถึงว่า…บ้านเมืองเค้าสะอาดมาก










ถึง ลูก
จาก พ่อ

แม่ กะ น้อง กลับมาแล้ว
มารถไฟ ตู้นอน
ถึงเชียงใหม่ ราว เจ็ดโมงครึ่ง เมื่อเช้านี้
พ่อไปรับ

แม่เขาพักร้อนต่อสองวัน
ส่วนน้อง...เพราะเปิดเทอมวันแรก
ให้พ่อไปส่งโรงเรียน ตอนสัก 9 โมงเช้า แล้ว


ปล. อ้อ....
(ยังมีเรื่อเล่าต่อเนื่อง…แต่ด้วยรูปที่ส่งมา
ถ่ายแบบเม็ดภาพมีความละเอีดยสูง

ทำให้ คอมพ์เต่าของพ่อ ดาวน์โหลดได้อืดมาก ช้ามาก
จึงขอเอาไว้โพสต์ต่อพรุ่งนี้ละกัน __
posted by a_somjai on Monday, October 29, 2007 @ 2:19 PM)





 

Create Date : 29 ตุลาคม 2550    
Last Update : 29 ตุลาคม 2550 14:49:34 น.
Counter : 653 Pageviews.  

โออิชี่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แซบ ลำ ดี…อร่อยจังเลย (2007-10-22)

From: P_Somjai
To: ice_tinybear, Daddy, MOM
Date: Oct 22, 2007 7:33 PM
Subject: กินซูชิกันเถอะ
mailed-by gmail.com




มาแล้ว มาแล้ว มาแล้วค่า
ไม่ได้ส่งอีเมลมาหาทุกคน ตั้งสามวัน
พอดีช่วงนี้มีอะไรให้ทำเยอะมาก

วันเสาร์ที่ผ่านมา
ปั่นจักรยานไปจ่ายตลาดประมาณ 15 นาที
ไปซื้อผักที่ JA MARKET



JA MARKET



JA MARKET เป็นซูปเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ ขายผักกับดอกไม้
เปิดเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ เท่านั้น ตั้งแต่ 6:00 - 16:00

ผักที่นี่จะราคาถูกกว่าที่อื่น เพราะผักเกือบทั้งหมดจะแค่ 100 เยน เท่านั้น
(ในร้านเค้าห้ามถ่ายรูปอ่ะ)
100 เยน นี่ ก็คือถูกละนะ
เพราะปกติจะร้อยกว่าเยน (คิดถึงผักบ้านเรากำละห้าบาทสิบบาท)
แล้วผักเค้าไม่ใช่จะมีเยอะ
ที่เป็นใบ ๆ มีสี่ห้าชนิดเอง
นอกนั้นจะเป็นหัว ๆ เช่นมันฝรั่ง หัวไชเท้า แครอท หัวหอมใหญ่ ฯลฯ

บางชนิดอ๊อมไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
(ปกติไม่เคยทำกับข้าวนี่นา กินอย่างเดียว)

ผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองกิฟุ คือลูกพลับ
ไหน ๆ ก็มาอยู่นี่แล้ว เลยตัดใจซื้อมาลองกินดู
เดี๋ยวใครจะหาว่าเรามาแล้วไม่เคยกิน

ลูกพลับก็หวาน และหวาน ๆ ๆ ๆ ๆ มากเลย
คือเป็นลูกพลับเกรด A
ที่จริงมันก็รสชาติแบบลูกพลับนั่นแหละ



ดอกไม้สวย ๆ ...ชาวเมืองมาเลือกซื้อ



คนที่มาซื้อของที่นี่จะมาเข้าแถวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด
อ๊อมก็มาเข้าแถวกับเค้าด้วยล่ะ
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกแม่บ้านวัยกลางคน กับคนสูงอายุ
อ๊อมกับเพื่อนเลยดูแปลก ๆ เพราะเป็นเด็กกันอยู่สี่คน




กลับมาจากตลาด ก็ลองไปห้องสมุดดู
เพราะเพิ่งได้บัตรนักศึกษามา
หนังสือเค้าเยอะมากก ดี ๆ ทั้งนั้น
แต่ห้องสมุดไม่ใหญ่มากนะ
คงเพราะแต่ละคณะจะมีห้องสมุดของตัวเองด้วย

อ๊อมยืมหนังสือมาสองเล่ม
ตอนไปยืมงงเลย เพราะเค้าไม่ต้องให้บรรณารักษ์ มาตรวจปั๊มทำรายการ
แต่มีตู้ …คล้ายตู้เอทีเอ็ม
ให้เราเอาบัตรนักศึกษาวางที่จุดเซนเซอร์(เค้าจะกำหนดไว้)
แล้วเอาหนังสือใส่ในช่อง เซนเซอร์มันจะอ่านเอง
แล้วปริ๊นออกมาเป็นใบเสร็จว่ายืมเมือ่ไหร่ ให้คืนวันไหน
โอ้..โอ้ว ๆ ๆ เด็กไทยเป็นงงมาก อ๊อมต้องให้คนญี่ปุ่นมาช่วยสอนให้

แล้วในห้องสมุดก็มีเครื่องถ่ายเอกสาร ให้นักศึกษาไปถ่ายเอง
ที่จริงเครื่องถ่ายเอกสารจะมีตามโรงอาหารของมหาลัยด้วย
นักศึกษาต้องทำเอง ไม่เหมือนเมืองไทย…บ้านเรามีคนคอยให้บริการ
เครื่องถ่ายเอกสารบริการตนเอง อันนี้ยังไม่เคยไปลองใช้


ส่วนวันอาทิตย์
อ๊อมก็ไม่ได้ทำอะไร ทำความสะอาดห้องอย่างเดียว
ได้ยินใครบอกว่าญี่ปุ่นอากาศดีไม่มีฝุ่นหรอก
ทีแรกก็คิดอย่างนั้น เลยไม่สนใจทำความสะอาด (อิ อิ)
สองอาทิตย์ผ่านไป ฝุ่นเต็มห้องเลย
อยู่ที่ไหนมันก็มีฝุ่นแหละนะ



บรรยากาศของเมืองกิฟุ



วันนี้วันจันทร์ ไปเรียนแต่เช้าจนบ่าย
พอตอนสี่โมงเย็น ก็ลองไปที่ชมรม ริวกักคุเลิฟ (รักนักศึกษาต่างชาติ)ดู
เพราะต้นเดือนหน้าจะมีงานมหาลัย แล้วชมรมเราก็มีกิจกรรมด้วย
ทำโน้นนี่ช่วยเค้าจนถึงหนึ่งทุ่มเลย สนุกมาก แต่ก็เหนื่อย
แล้วจะมาเล่าให้ฟังทีหลัง เพราะวันนี้เพิ่งมาครั้งแรก

หลังจากทำอะไร ๆ ที่ชมรมเสร็จแล้ว
ก็ไปกินข้าวกันกับเพื่อน ๆ ห้าคน
เป็นคนญี่ปุ่นสอง เกาหลีหนึ่ง และจีนอีกหนึ่ง
ไปกินซูชิกัน ร้านก็อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยด้วย


มาหาซูชิกิน

ซูชื...น่ากินไปหมด



คือซูชิที่มันอยู่บนรางหมุน ๆ อ่ะ
เรียกว่า ไคเตนซูชิ จานละ 100 เยน
กินไปสัก...ห้าหกจาน ก็อิ่มแล้ว
มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย
แต่ไม่อยากบอกว่า อ๊อมไม่ชอบกินซูชิซักเท่าไหร่
ลองกินซูชิหน้าปลาดิบไป ก็ไม่เห็นอร่อยเลย
(เพื่อนคนจีนกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ บอกว่าอร่อยมาก)
ความจริงรสมันก็จืด ๆ ไปหมดนั่นแหละ
อ๊อมคิดว่าคงไม่มากินบ่อย ๆ หรอก


อยู่ญี่ปุ่นนี่ ของกินที่อร่อยที่สุดคือขนม อร่อยมากกกกก
ขนาดก่อนมายังคิดว่ามันจะอร่อยแค่ไหนเชียว?
แต่ตอนนี้ต้องกินขนมทุกวันเลย พวกพุดดิ้ง ชูครีม พาเฟ่ ไอติม อร่อย ๆ ๆ ๆ
เวลากินต้องทำหน้าแบบยิ้มสุด ๆ แล้วพูดว่า…
… "โออิชี่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (แซบหลาย ลำแต้ ๆ ๆ อร่อยยยยจังเล้ยยยยย)”
ประมาณนั้น



โออิชี่ ๆ ๆ แซบหลาย ลำแต้ ๆ ๆ อร่อยยยยจังเล้ยยยยย



ถ้ากินกับเพื่อนก็จะยิ้มให้กันอยู่นั่นแหละ
แล้วพูดแต่ โออิชี่ โออิชี่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ถ้าพ่อกับแม่เห็นคงคิดว่า… อาไรมันจะเว่อร์ขนาดนั้น
แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ นะ


พรุ่งนี้ก็จะไปที่ชมรมอีก
อาทิตย์นี้คงทำอะไรเยอะแยะ
พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ
สบายดี …..(แต่ถ้าแม่อยากส่งตังค์มาให้อีก
ลูกก็คงจะสบายขึ้นมากกว่านี้เยอะเลย 55555)

คิดถึงทุกคนจ๊ะ
อ๊อม




From: a_somjai
To: อ๊อม
Date: October 23, 2007

พรุ่่่่ง่นี้ แ่ม่กับน้อง เขาจะไปกรุงเทพฯ
ไปทำบุญหาคุณตา-คุณยาย

ว่าจะเอารถไปกันเอง
แต่พ่อห่วงบ้าน ต้องรดน้ำต้นไม้
อีกอย่างคือ น้ำท่ากำลังไหลลงใต้จะท่วมทางภาคกลาง
คิดว่า ไปไหนมาไหนในกรุงเทพอาจจะไม่สะดวกนัก
เลยว่าจะลงไปเที่ยวกันตอนเดือนมีนา-เมษา ปีหน้า

ดังนั้นพ่อต้องอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว
ถึงสิ้นเดิอน


คิดถึงจ๊ะ
พ่อ

ป.ล. -- จ.ม. นี้ พ่อโพสต์ลงบล็อกแล้วนะ






posted by a_somjai on Tuesday, October 23, 2007 @ 6:50




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2550    
Last Update : 23 ตุลาคม 2550 7:25:19 น.
Counter : 678 Pageviews.  

สุดยอด...พยากรณ์อากาศ (2007-10-19)

From: p_somjai
To: ice_tinybear, Daddy & MOM
Date: Oct 19, 2007 2:05 PM
Subject: สุดยอด...พยากรณ์อากาศ
mailed-by: gmail.com



ฮัลโหล ฮัลโหล ทุกคน สบายดีใช่มั๊ย

อาทิตย์นี้อ๊อมเริ่มแย่แล้ว
หลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาสองอาทิตย์
ที่ว่าแย่ก็คือเรื่องเรียนนี่แหละ….
(พ่อกับแม่…..เกรดอ๊อมออกแล้วนะ
ตกลงฮวบฮาบขอสารภาพว่า...
ก่อนมาญี่ปุ่นนี้ แทบไม่ได้อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบเลย
แม่ก็อย่าเสียใจเลยนะ นิด ๆ หน่อย ๆ เอง
มหาลัยคงส่งผลการเรียนไปให้ที่บ้านแล้วมั๊ง)

กลับมาเรื่องการเรียนที่นี่
ตอนนี้กำลังเรียนยากขึ้นเรื่อย ๆ มีการบ้านให้ทำตลอดเลย
เหนื่อยมาก

เพื่อนคนอื่น ๆ เค้าพูดภาษาญี่ปุ่นกันเก่งมาก
อ๊อมเลยต้องพยายามตามเค้าให้ทัน

วันก่อนเรียนเรื่องการเมืองของญี่ปุ่น
โอ๊ยยยฟังไม่รู้เรื่องเลย
พออาจารย์ถาม...อ๊อมก็จะทำหน้างง
แบบว่า...อะไรนะค่ะ
เพื่อน ๆ ก็ลุ้นว่า…มันจะตอบได้มั๊ย

ตอนเรียนวิชาการพูด ก็เหมือนกัน
เพื่อนคนอื่น ๆ เค้าจะอธิบายกันเป็นประโยคได้
แต่อ๊อมจะพูดออกมาเป็น คำ ๆ ๆ
(แบบมีแต่คำศัพท์ ไม่สามารถทำให้เป็นประโยคได้)
ยากจริง ๆ ภาษาญี่ปุ่นนี่ยากกว่าภาษาอังกฤษอีกอ่ะ
เมื่อไหร่จะพูดได้คล่องซักทีก็ไม่รู้

แต่คนญี่ปุ่นนี่… ภาษาอังกฤษแย่จริง ๆ แหละ
เค้าแทบจะไม่เข้าใจเลย
เรายังดีนะที่พูดได้บ้าง


วันนี้ฝนตกหนัก
ท้องฟ้ามืดครึ้ม อากาศก็เย็นลงเรื่อย ๆ
หนาวมากเลย
อ๊อมใส่เสื้อสองชั้น พันผ้าพันคอไปเรียน
เพื่อนที่เป็นคนสวีเดน หัวเราะเลย...
เพราะเค้าใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียว

สาวญี่ปุ่นก็ใส่กระโปรงสั้น
ใส่ถุงน่องบาง กับเสื้อแขนยาวบาง ๆ
เค้าไม่หนาวกันเหรอไงก็ไม่รู้
นี่มันก็ 15-20 องศาเลยนะ
คงจะชินกันแล้วแหละมั๊ง

พยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นนี่ สุดยอดสมคำร่ำลือจริง ๆ
เพราะมีผิดพลาดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
บอกว่า…ฝนตกหนักตอนเช้า ก็ตกหนักจริง ๆ
บอกว่า…ตกพรำ ๆ ก็ตกพรำ ๆ
วันนี้แดดจะออก วันนี้ครึ้ม
บอกละเอียดมาก

แล้วเค้าแยกทุกจังหวัดด้วย
เวลาดูข่าวตอนกลางคืนจะมีตารางขึ้นให้ดู
แล้วยังมีบอกด้วยนะว่า…วันนี้ควรซักผ้ารึเปล่า
ถ้าซักผ้าจะมีโอกาสแห้งกี่เปอร์เซนต์
บอกละเอียดมาก

แต่อยู่ที่นี่พยากรณ์อากาศก็สำคัญจริง ๆ แหละ
เพราะเดี๋ยววันนี้ฝนตก พรุ่งนี้แดดออก
แล้วการพยากรณ์ก็ช่วยให้เรารู้ว่า…
เวลาออกไปข้างนอก ควรใส่เสื้อผ้าแบบไหน
เพราะถ้าฝนตกอากาศจะเย็น
แต่เวลาแดดออกก็ร้อนนิดหน่อย เป็นต้น

ช่วงนี้กลัวเป็นหวัดมากค่ะ
เพราะเพื่อนคนอื่น ๆ เริ่ม มีอาการกันแล้ว
อ๊อมเลยพยายามทำตัวเองให้อบอุ่น
แต่พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ…
ต้นเดือนหน้า อ๊อมจะไปตรวจสุขภาพ
เป็นบริการตรวจสุขภาพของมหาลัย
ตรวจแบบละเอียดยิบเลย
เมื่อวานเพิ่งกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพของเราไป

ระบบนัดหมอเค้าไฮเทคมาก
คือใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์หมดเลย
เราก็ใส่รหัสนักศึกษา แล้วเลือกวันเวลานัดหมาย
มีบอกด้วยว่าถ้าต้องการหมอผู้หญิง…จะนัดได้กี่โมง ๆ
มีให้ปรึกษาปัญหาสุขภาพด้วยนะ
คลีนิคก็อยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยเลย
ที่สำคัญ…ไม่เสียตังค์ด้วย


คิดถึงทุกคนนะจ๊ะ
อ๊อม





Oct 20, 2007 5:18 AM
TO: อ๊อม

ระวัง รักษาสุขภาพนะลูก
posted ลง a_somjai's blog แล้วจ๊ะ
เข้าไำปอ่านละกัน

ป.ล. ถ้าไม่ลำบากนัก ก็ถ่ายรูปสภาพที่พบเห็นประจำวัน แนบมาด้วยก็จะดี, เอาที่มีความเคลื่อนไหวไปมา การดำเนินชีวิตของผู้คน นักศึกษา ชาวเมือง ..นั่นแหละ ...จะเป็นการเก็บบันทึกด้วยภาพไงจ๊ะ

รัก
พ่อ





posted by a_somjai on Saturday, October 20, 2007 @ 4:33 AM




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2550    
Last Update : 20 ตุลาคม 2550 5:22:38 น.
Counter : 369 Pageviews.  

ของสวย ๆ งาม ๆ (2007-10-16)

Oct 16, 2007 2:19 PM
สวัสดีค่ะทุกคน


วันนี้ไปเรียนวิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมา
ตัวคันจิ(ตัวจีน)เยอะมาก ๆ เปิดพจนานุกรมแทบไม่ทัน

อ็อมซื้อดิกชันนารี่ไฟฟ้าแล้วนะ
มีประโยชน์มาก
ซื้อแบบที่มีช่องให้เขียนตัวอักษรด้วย
ราคา 26,000 เยน




น่ารักมั๊ย ...เพิ่งซื้อมาค่ะ



โชคดีมากเพราะได้ซื้อตอนลดราคาพอดี
ปกติราคาจะอยู่ที่ 31,000 ถึง 40,000 เยน
ยุ้ย(เพื่อน-เรียนอยู่ที่โตเกียว) เขาซื้อรุ่นเดียวกับอ๊อม
แต่ซื้อมาตั้งสามหมื่นกว่า (ฮ่า ๆ ๆ ๆ)

ถึงราคาจะแพง แต่มันสามารถทำอะไรได้เยอะมากกก
มีเครื่องคิดเลขด้วย สามารถคิดได้หลายแบบ
จะคำนวณแบบระดับสูงก็ได้

ที่สำคัญ มันบรรจุพจนานุกรมทั้งหมด 100 เล่ม
จะแปลเป็น อังกฤษ-อังกฤษ
อังกฤษ-ญี่ปุ่น หรือ ญี่ปุ่น-ญี่ปุ่น ก็ได้

มีคำศัพท์เทคนิค เช่น จะไปหาหมอ จะทำโน่นทำนี่ เยอะมาก ๆ
ที่สำคัญมีอธิบายข้อมู๋ลเพิ่มเติมด้วย
เช่น เราหาคำว่า อิเอยาสุ มันก็จะอธิบายด้วยว่าเป็นใคร อยู่ในสมัยอะไร
ดีมาก ๆ เลย (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะ)

บรรยายมาเยอะแยะไม่มีอะไรหรอก
แค่แบบว่าชอบมันมาก เลยตื่นเต้นค่ะ


แม่…จักรยานของอ๊อมอ่ะ ฟรี ไม่ต้องซื้อ
ที่หอเค้าให้เราใช้หนึ่งปีเลย


จักรยานของเรา.


ส่วนเรื่องโทรศัพท์อาจจะซื้อเดือนหน้า
เพราะโปรโมชั่นมันเยอะมาก
ต้องค่อย ๆ ศึกษารายละเอียดไปก่อน
(อีกอย่างเดือนนี้ใช้เงินจะหมดแล้ว ฮือฮือ)


พวกสินค้าที่นี่นะแพกเกจมันสวยมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
น่ารักมาก ๆ ๆ (เราป่าวซื้อนะ แค่ไปยืนดู ๆ เฉย ๆ)
ขนาดแฟ้ม ที่ใส่เอกสารยังน่ารักจนเลือกไม่ถูกเลย

พวกร้านขายของ
เค้าก็จะจัดแบบมีสไตล์ของตัวเอง
จัดร้านสวยมาก ทำให้เราอยากซื้อไปหมด (แต่แพง ๆ ทั้งนั้น)

เสื้อผ้าที่คราวก่อนอ๊อมบอกไปว่าไม่แพง
จริงๆแล้วคงเป็นเพราะอ๊อมอยู่บ้านนอก (คนญี่ปุ่นบอกว่าบ้านนอก)
ยุ้ย(นักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกัน) บอกว่า...
ที่โตเกียว ส่วนใหญ่ก็ 1,900 เยนขึ้นไป
เมืองที่อ๊อมอยู่นี้ 500 เยนก็มี
โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้ไปอยู่โตเกียว


กระเป๋าคู่ชีพ


ตอนนี้อ๊อมกำลังสนใจพวกหนังสืออยู่
ที่นี่มีร้านหนังสือเยอะมาก
แล้วหนังสือญี่ปุ่นนี้ก็เยอะมากจริง ๆ
รูปเล่มก็น่ารัก น่าอ่าน
เห็นแล้วก็อยากอ่าน
กำลังพยายามเริ่มอ่านพวกนิยายง่าย ๆ อยู่

คนญี่ปุ่นก็อ่านหนังสือเยอะจริง ๆ
เห็นเค้าซื้อหนังสือกันทีละสามสี่เล่ม
(หนังสือเค้าเล่มเล็ก ๆ นะ พกพาสะดวก)

หนังสือที่นี่ราคาไม่ถูกเลยนะ
พวกนิยาย พ็อกเก็ตบุ๊ก วรรณกรรม จะประมาณ 380 -900 เยน
ส่วนหนังสือเล่มโต ๆ วิชาการ ก็พันกว่าเยนขึ้นไป

ร้านหนังสือที่หน้ามหาลัย
เป็นร้านขายหนังสือไม่แน่ใจว่ามือสอง
(หรือว่ามันพิมพ์หลายปีแล้ว แบบตกรุ่นรึเปล่า)
แต่หนังสือที่วางขาย รูปเล่มใหม่เอี่ยมมาก
ร้านก็ดูดีเริดหรู ขายหนังสือเล่มละ 105 - 300 เยน
อ๊อมกำลังจะกลายเป็นขาประจำร้านนี้แล้ว

หนังสือการ์ตูนก็มีนะ
ถ้าอ่านการ์ตูนจะได้คำศัพท์ที่วัยรุ่นเค้าพูดกัน

ที่หอพักก็มีหนังสือให้อ่านเยอะมาก
แบบนักเรียนที่เค้าเรียนจบกลับไปแล้ว ทิ้ง ๆ เอาไว้
มีแฮรี่พ็อตเตอร์ภาษาไทยด้วย
อ๊อมเลยยึดมาไว้ที่ห้องเลย เพราะไม่มีใครอ่านได้อยู่แล้ว


ช่วงนี้ก็เริ่มชินกับภาษาญี่ปุ่นแล้ว
ฟังเข้าใจมากขึ้น
กำลังพยายามอ่านหนังสือเยอะ ๆ
จะได้รู้คำศัพท์เยอะ ๆ

น้องไอซ์ก็ตั้งใจเรียนเปียโนนะ เผื่อเก่งเหมือนพี่โต๋ จะได้ออกเทปซะเลย

คิดถึงทุกคนจ๊ะ
อ๊อม






ถึง ลูก
จาก พ่อ
Oct 17, 2007 @ 2:40 PM

ช่วงนี้
ได้คีย์บอร์ดตัวใหม่
(ยามาฮา ราคา หมื่นสามพันกว่าบาท
ใช้บัตรเครดิตแม่เขา พ่อผ่อนใช้ 6 เดือน)

พ่อก็เลยบ้าดนตรีไปใหญ่ ไม่ค่อยว่างเข้าเน็ต
แต่ก็ได้ค้นคว้าทางดนตรีมากขึ้น อย่างเช่น พ่อเพิ่งรู้ว่า…
เสียงคีย์โน๊ตจากสายกีตาร์เรานี้...
มันไม่ชัดเจนเท่าเสียงจากคีย์โน๊ตที่เคาะบนคีย์บอร์ดเลย
แล้วการหัดฟังเสียงและเปล่งเสียงร้องตามคีย์บอร์ด..
มันก็ทำได้เพี้ยนน้อยกว่าการร้องตามเสียงกีตาร์มาก เป็นต้น

(ความจริงที่ซื้อเพราะ เหตุผลที่น้อง-เจ้าไอซ์เอาไว้ซ้อมเรียนดนตรี
แต่กลายเป็นว่า…คุณพ่อตัวดียึดเครื่องดนตรีของคุณลูกเสียแล้ว 555)

จดหมายของลูกและข่าวคราวของพ่อก็เข้าไปดูได้
posted ลงไว้ ที่นี่ ก็แล้วกัน
/ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=esanlanna&group=11 /
(มีคนเข้ามาอ่าน พอสมควร แม้จะเป็นเรื่องในหมวดครอบครัว)

จดหมายฉบับนี้ จะโพสต์ตีพิมพ์ เช้าวันศุกร์ที่ 19 นี้จ๊ะ
(ต้องขยักข้อมูลไว้ก่อน เผื่อเหลือเผื่อขาด ---เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง)

คงสบายดีนะลูกรัก
พ่อ




posted by a_somjai on Friday, October 19, 2007 @ 02:16 AM




 

Create Date : 19 ตุลาคม 2550    
Last Update : 19 ตุลาคม 2550 2:52:11 น.
Counter : 405 Pageviews.  

แม้เหงา เรายังมีเน็ต (2007-10-14)

From: P_Somjai
To: ice_tinybear, DADY, MOM
Date: Oct 14, 2007 8:21 PM
Subject: คิดถึงอีกที


สวัสดี คุณพ่อ คุณแม่ และคุณน้องไอซ์

สามวันที่ผ่านมานี้ได้ทำอะไรเยอะแยะเลย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็มีงานปาร์ตี้เลี้ยงตอนรับนักศึกษาแรกเปลี่ยนที่มาใหม่
จัดโดยชมรม ริวกักคุ เลิฟ (แปลตรง ๆ ว่า รัก นักศึกษาต่างชาติ)
เป็นชมรมที่นักศึกษาญี่ปุ่นมารวมตัวกัน แล้วคอยจัดกิจกรรมทำร่วมกับนักศึกษาต่างชาติ
เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม
อ๊อมก็คิดว่าจะเข้าชมรมนี้เหมือนกัน จะได้มีเพื่อนเยอะ ๆ

งานปาร์ตี้ก็ไม่มีอะไรมาก
เค้าก็แบ่งกลุ่ม แล้วนั่งกินอาหารด้วยกัน



อาหารฟรี


สอนทำ มากิซูชิ (ซูชิแบบโรล)
แล้วก็สอนวิธีกินโซบะ

เค้าสอนอ๊อมจับตะเกียบด้วย บอกว่าเราจับไม่ถูก
แล้วก็มีเล่นเกมส์กัน สนุกสนาน




หัดทำมากิซูชิ





วันเสาร์ตอนเช้าก็ไปขี่จักรานเล่นในเมือง
เพื่อนคนจีนพาไป เค้าก็แนะนำพวกร้านต่าง ๆ ให้
เช่นจะซื้อผักต้องซื้อที่นี่เพราะราคาถูก
ซื้อเสื้อผ้าที่นี่ ซื้อหนังสือที่นี่ อะไรมากมาย

ขี่จักรยานทุกวัน รู้สึกว่าตอนนี้แข็งแรงขึ้นมากเลย

พอตอนเย็นก็ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนต่างชาติ
มีกันประมาณสิบคน มีทั้งคนจีน อเมริกา สวีเดน เกาหลี และญี่ปุ่น
ร้านคาราโอเกะอยู่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย ขี่จักรยานไปประมาณ 20 นาที
คนเยอะมาก ๆ เลย ต้องจองคิว
ห้องคาราโอเกะที่นี่หรูมาก ๆ เพลงก็เยอะมาก
มีเพลงจีน เพลงเกาหลี เพลงฝรั่งเยอะมาก ๆ ด้วย (เสียดายไม่มีเพลงไทย )
อ๊อมก็พยายามร้องเพลงญี่ปุ่นไปเรื่อย เป็นการฝึกอ่านตัวคันจิ (ตัวอักษรจีน)

เพื่อน ๆ มีความอดทนและให้เกียรติกันมากเลย ถึงจะร้องเพลงจีน เพลงเกาหลี เพลงญี่ปุ่น เพลงฝรั่ง
แม้เราจะไม่เข้าใจ แต่ทุกคนก็ไม่มีใครบ่น และสนุกสนานไปด้วย
ขนาดอ๊อมร้องห่วยมากกกกกกกก เพื่อนยังให้กำลังใจ

ขากลับก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่า (ดึกมาก)
แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ไม่รู้สึกว่าอันตรายเลย อาจจะเป็นเพราะไปกันหลายคนก็ได้
ดึก ๆ ขนาดนี้ ยังมีคนขี่จักรยานไปมา
พวกร้านสะดวกซื้อ ร้านหนังสือ ร้านวีดีโอก็มีเปิด มีคนเข้าออกตลอด

ถนนที่นี่จะมีทางให้รถจักรยาน
และรถยนต์ก็มักจะ จอดให้จักรยานไปก่อน
จักรยานของเรามีไฟด้วยนะ เค้ามีกฎว่าขี่จักรยานตอนกลางคืนต้องเปิดไฟทุกครั้ง
อยู่ที่นี่ใคร ๆ ก็ขี่จักรยาน ดีมาก ๆ เลย
แล้วก็อากาศก็ดีกว่าบ้านเราด้วยแหละมั๊ง
เพราะถึงจะปั่นเหนื่อยแค่ไหน เหงื่อก็ไม่ออกเยอะ



สำหรับวันนี้ วันอาทิตย์
อ๊อมก็ได้ไปร่วมงานแข่งกีฬาของโรงเรียนประถม (คงเป็นโรงเรียนประจำเมือง)
เค้าให้นักศึกษาต่างชาติไปเดินขบวน ถือป้ายประเทศตัวเอง แล้วก็พูดทักทายนิดหน่อย
สนุกมาก ๆ ที่สำคัญเลี้ยงข้าวด้วย(ดีใจได้กินของฟรี) อ๊อมเป็นตัวแทนจากประเทศไทยคนเดียวเลย
มีคนญี่ปุ่นที่เคยมาเที่ยวเมืองไทย เข้ามาจับมือแล้วเอาขนมมาให้ด้วย

ระหว่างเดินขบวนก็ต้องโบกมือไปด้วย เหมือนนางสาวไทย
เพราะว่าจะมีเด็ก ๆ และคนแก่ที่นั่งดูโบกมือให้เราตลอดทาง (ตลกมาก)



สาวเกาหลีกับสาวไทย


คู่กับสาวจีน





ตอนเย็น ๆ วันนี้ก็รู้สึกเหงานิดหน่อย
สงสัยคงเป็นเพราะอากาศอึมครึม
ฟ้าก็เริ่มมืดเร็ว
ใบไมกำลังเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว
แสดงว่าหน้าหนาวกำลังใกล้เข้ามา

วันนี้จึงได้โทรไปหายุ้ยด้วย
(ยุ้ยเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนอยู่มหาลัยที่เมืองโตเกียว)
เพื่อนทุกคนก็เรียนหนักเหมือนกัน แต่ของอ๊อมหนักที่สุด (เฮ้อออ)
แม้ว่าจะเหงา…แต่ยังดีที่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ทำให้หายเหงาไปได้เยอะ


เพื่อเป็นการแก้เหงาเลยเขียนอีเมลล์ถึงพ่อ แม่ แล้วก็น้องไอซ์

รักทุกคนนะจ๊ะ
อ๊อม






ถึง ลูก
จาก พ่อ

เชื่อไหม พ่อเพิ่งจะพยามรู้จักเมืองและมหาวิทยาลัยที่ลูกไปเรียน
จากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต … ไม่รู้ว่า..ใช่เมืองนี้ และ มหาวิทยาลัยนี้อะเปล่า
ถ้าผิดฝาผิตตัว ก็บอกมาด้วยนะลูก ๆ …(555)


1. ข้อมูลเมือง GIFU search by Google





2. เว็บไซต์ ของ GIFU University




posted by a_somjai
2007-10-17 @ 01:19 PM






 

Create Date : 17 ตุลาคม 2550    
Last Update : 18 ตุลาคม 2550 3:02:55 น.
Counter : 603 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

a_somjai
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add a_somjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.