Kung Fu Panda 3 เข้าฉายประจวบเหมาะกับที่นิทรรศการ 1600 แพนด้าเวิลด์ทัวร์ กำลังจัดแสดงในเมืองไทยพอดี ทั้งสองน่าจะทำให้คนทั่วโลกหันมาให้ความสนใจ แพนด้า มากขึ้น กลับมาที่ภาค 3 ของอนิเมชั่นกังฟูแพนด้า พร้อมทีมพากย์ชุดเดิมนำโดย แจ็ค แบล็ค ,แองเจลีน่า โจลี่, ดัสติน ฮอฟฟ์แมน, แจ็คกี้ ชาน, เซธ โรเกน, ลูซี่ หลิว หนังกำกับโดย เจนนิเฟอร์ ยู เนลสัน จาก ภาค 2 ที่คราวนี้ได้ อเลสซานโดร คาร์โลนี่ มาเป็นผู้กำกับร่วม

ตัวหนังเล่าถึงการฟื้นคืนชีพของ ไค จอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติ มันไล่กวาดล้างจ้าวแห่งกังฟูทั่วยุทธจักร โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การล้ม โป จอมยุทธมังกร ส่วน โป เองก็กำลังพบจุดเปลี่ยนอันท้าทายมากมายเมื่อ ชิฟุ ต้องการผลักดันให้เขาขยับสถานะจากศิษย์ขึ้นมาเป็นปรมาจารย์กังฟู ขณะเดียวกันจู่ๆพ่อแพนด้าของโปที่พลัดพรากกันไปนานกลับปรากฏตัวขึ้น

โป กับ พ่อ เดินทางกลับไปหมู่บ้านแพนด้าบ้านเกิดเพื่อฝึกวิชาลับ โดยมี ปิง เป็ดพ่อบุญธรรมแอบตามไปด้วย ที่นั่น โป ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบแพนด้า เมื่อเขาปรับตัวได้ทุกอย่างก็ล้วนเต็มไปด้วยความสุข กระทั่ง ไค จัดการกับจอมยุทธทุกคนแล้ว และกำลังเดินทางมาถึงหุบเขาลับแลแห่งนั้น โป จึงต้องกลายเป็นครูฝึกกังฟูให้กับ แพนด้า ทุกตัวเพื่อปกป้องหมู่บ้านของพวกเขา

Kung Fu Panda 3 เป็นอนิเมชั่นสายฮาแบบกวนๆ ผสมผสานความเป็นตะวันออกกับตะวันตกได้ดี ติดตรงพล็อตภาคนี้ค่อนข้าสูตรสำเร็จไปหน่อย หลายอย่างซํ้าเดิมกับ 2 ภาคก่อนหน้า แต่ความน่ารักของหมู่บ้านแพนด้า และคาแร็กเตอร์แพนด้ามากมายที่เพิ่มเขามาก็ช่วยสร้างสีสันทำให้หนังยังดูสนุกอยู่(โดยเฉพาะแก๊งค์แพนด้าน้อย)

พาร์ทตลกของหนังได้เสียงพากย์ของ แจ็ค แบล็ค ช่วยไว้ เขาทำให้ โป เป็นแพนด้าอารมณ์ดี มีชีวิตชีวา จึงครองใจผู้ชมได้ไม่ยาก น่าเสียดายพาร์ทดราม่าระหว่าง พ่อแท้ๆ กับ พ่อบุญธรรม ไม่ถูกเอามาขยี้เท่าไหร่ ส่วนพาร์ทแอ็คชั่นภาคนี้ดร็อปสุด ฮาเฮจนกลายเป็นการละเล่นไปซะ

สำหรับประเด็นแฝงเรื่องการตามหาสุดยอดพลังอย่าง ชิ กับการตามหาตัวตน การเป็นตัวของตัวเอง นำสิ่งที่ถนัดมาต่อยอด นำเสนอออกมาได้น่าสนใจพอสมควร ด้านงานภาพสวยสดใสด้วยสีสันจัดจ้าน พื้นหลังงดงามเป็นธรรมชาติ เพลง Kung Fu Fighting เวอร์ชั่น The Vamps แม้ไม่ได้ต่างจากเวอร์ชั่นก่อนๆเท่าไหร่ แต่ก็ฟังดูสดใหม่ดี ดนตรีมีความทันสมัย จนหลายคนอยากลุกขึ้นมาวาดลวดลายตามจังหวะ

โดยรวม Kung Fu Panda 3 คือภาพยนตร์อนิเมชั่นฟีลกู้ดเบาสมองแนวครอบครัวที่ดูเพลินๆได้ทั้งบ้าน ให้แง่คิดเกี่ยวกับการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรค เชื่อในพลังของสายสัมพันธ์และมิตรภาพอันแน่นแฟ้น ถึงจะไม่ใช่ภาคที่น่าประทับใจที่สุดในแฟรนไชส์กังฟูแฟนด้า แต่ก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้