อัมพวาพาเพลิน ตอนที่ 2 ตลาดน้ำยามเย็น
จับตุ๊กๆมาถึงตลาดน้ำอัมพวาก็ตรงไปเช็คอินที่พักที่จองไว้ก่อน ที่นี้คือ บ้านเรือนสบาย บ้านสองชั้นสีชมพูตั้งอยู่ในตลาดน้ำอัมพวาเลย
เช็คอินเก็บสำภาระเสร็จ ก็ออกเดินตลาดอัมพวาให้ฉ่ำไปเลย
เริ่มจากการหามุมถ่ายรูปก่อนที่แสงจะหมด
แล้วก็มองหาของกิน ตลาดอัมพวามีของกินไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งอาหารที่คุ้นเคย ขนมไทยโบราณที่หากินยาก และก็อาหารที่ชาวอัมพวาดัดแปลงให้แปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ข้าวเกรียบปลาทู กรอบอย่างข้าวเกรียบกุ้งแต่มีกลิ่นปลาทูอ่อนๆพอให้รับรสชาติปลาทู แต่ไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพราะฟาดเรียบไปซะก่อน
ใส้กรอกโบราณ คล้ายหอยจ้อดูน่าอร่อยดีแต่ไม่ได้ลองกลัวหนักท้องเกิน คราวหน้าต้องลองซะหน่อย
ปลาทูแม่กลองของแท้ต้อง หน้างอ คอหัก (ที่หน้างคอหักเพราะแม่ค้าที่ต้ม(ต้องเรียว่าต้มเพราะใช้วิธีต้มลงไปในน้ำไม่ใช่นิ่งจากไอน้ำ)ปลาทูขายเห็นว่า ปลาทูตัวยาวต้องใช้เข่งใหญ่แล้วเหลือที่ข้างๆมองดูโล่งๆไม่สวยก็เลยจับปลาทูมาหักคอแล้วใส่เข่งที่เล็กลงมาปลาก็จะเรียงสวยอยู่ในเข่งไม่เหลือที่มาก ถ้าเป็นสองตัวต่อเข่งมองดูคล้ายรูปหัวใจ)
ที่ปลาทูแม่กลองอร่อยไม่ใช่เพราะหน้างอคอหัก แต่เพราะบริเวณใกล้ชายฝั่งสมุทรสาคร สมทรสงคราม สมุทรปราการ เป็นแหล่งอาหารของปลาทูเช่นแพลงตอนเพราะเป็นชายฝั่งแบบขี้เลนไม่มีหาดทราย ปลาทูที่หากินบริเวณนี้จึงสุขภาพดีเนื้ออร่อย
สมัยก่อนปลาทูที่นี้มีแต่ปลาทูโป๊ะ คือ ชาวประมงจะเอาโป๊ะ(คล้ายกระชังแต่ใหญ่และลึกกว่า)ออกทะเลไปไม่ไกลดัดปลาไว้ถึงกำหนดก็ไปยกโป๊ะวิดปลาขึ้นมา ปลาทูโป๊ะนี้เมื่อมาถึงตลาดจึงสดมากเพราะขึ้นจากทะเลก็มาถึงตลาดภายในไม่กี่ชั่วโมง สมัยก่อนกิจการโป๊ะปลาทูรุ่งเรืองมากมีไม่ต่ำกว่าร้อยโป๊ะ แต่เดี้ยวนี้ปลาทูในทะเลบริเวณใกล้ฝั่งลดลงไปมากจากร้อยกว่าโป๊ะก็เหลือไม่ถึงสิบโป๊ะ ปัจจุบัน ปลาทูที่ขายอยู่จึงต้องอาศัยปลาที่ได้มาจากทะเลไกลๆแช่แข็งมาความสดก็ลดหลั่นลงไปเพราะปลาทูโป๊ะหายากเต็มที
ของกินที่ขาดไม่ได้ของอัมพวาก็คือ ซีฟู้ดปิ้งเผาพร้อมน้ำจิ้มรสแจ่มจรัส เพราะที่นี้ไม่ไกลจากมหาชัยสามารถรับของทะเลสดมาทำขายได้ทุกวัน
ยำสารพัดผักกรอบ น้ำยำรสสนิทลิ้นกระทงละ20บาทกุ้งตัวโต จนกระทงเดียวไม่พอ
น้ำดอกไม้และสมุนไพรกับไอติมรสผลไม้และดอกไม้ไทยจากร้านศรีมาลา
เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย
อัมพวาเป็นเมืองศิลปิน เดินไปทางไหนก็จะได้ยินเสียงดนตรีคลอตลอดเวลา มีทั้งเพลงลูกกรุงคลาสสิค เพลงฝรั่งคันทรี เพลงลูกทุ่งไทย เพลงวัยรุ่น ไปจนถึงคาราบาว
บ้านครูเอื้อ บุคคลอันเป็นที่ภูมิใจของชาวอัมพวา
ร้านของฝาก ของที่ระลึก ก็มีให้เลือกซื้อมากมาย
โดยเฉพาะสารพัดเสื้ออัมพวา แบบไหน สีไหน สไตล์ไหน มีให้เลือกจุใจ
หิ่งห้อย สัญญลักษณ์อีกอย่างของอัมพวา
เดินมาถึงริมแม่น้ำแม่กลองก็พักชมแม้น้ำรับลมเย็นซะหน่อย
เดินกันจนขาเปลี้ย ก็เลยเลือกนั่งเรือแจวของคุณลุงกลับที่พัก นั่งเรือที่ค่อยๆแล่นผ่านตลาดน้ำชมแสงสียามค่ำ กอนโดล่าจากเวนิสก็สู้ไม่ได้
ดินเนอร์ซีฟู้ดที่เรือนสบายที่พักของเราจัดไว้ให้ นั่งห้อยขาลงคลองอัมพวากับกุ้งตัวโต
สีสันของตลาดน้ำยามค่ำ
จินจุ้งกันเสร็จก็เตรียมตัวลงเรือไปชมหิ่งห้อย ช่วงนี้ฝนตกหิ่งห้อยออกมาให้ชมมาก เกาะบนต้นลำภูนับไม่ถ้วนแข่งกับพริบแสง วิบวับ ราวไฟกระพริบบนต้นคริสต์มาส แต่เก็บรูปมาฝากไม่ได้ฝีมือมีไม่พอ ชมหิ่งห้อยเสร็จกลับที่พักนอนหลับเป็นตายเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป
Create Date : 23 กันยายน 2553 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 17:46:45 น. |
|
8 comments
|
Counter : 2540 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nootikky วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:21:01:27 น. |
|
|
|
โดย: iamorange วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:21:14:35 น. |
|
|
|
โดย: พี่ฟูโกะ IP: 125.26.15.180 วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:21:50:14 น. |
|
|
|
โดย: nokkatua วันที่: 23 กันยายน 2553 เวลา:22:01:05 น. |
|
|
|
โดย: noinanai วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:10:34:33 น. |
|
|
|
| |
|
|
เคยไปมาครั้งนึงค่ะ ชอบค่ะ ของกินเยอะดี ตอนเช้าได้ใส่บาตรพระที่พายเรือมารับบาตรด้วยค่ะ
แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ..ฝันดีนะคะ