สมุทรปราการ ตอน พญาช้างเอราวัณ


พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ อาคารซึ่งเป็นงานประติมากรรมรูปช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ริมถนนสุขุมวิท ตำบลบางเมืองใหม่ จ.สมุทรปราการ (จากกรุงเทพฯเลยสำโรงมาเล็กน้อยเท่านั้น) พิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรก ชั้นบาดาลเป็นที่เก็บโบราณวัตถุของสะสมของคุณเล็ก เจ้าของผู้ริเริ่มสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ส่วนที่สองอาคารซึ่งเป็นฐานรองตัวช้าง เป็นชั้นโลกมนุษย์ เป็นสิ่งก่อสร้างศิลปะปูนปั้นอันวิจิตรตระการตา ชั้นที่สาม ภายใสตัวช้างเป็นชั้นที่สูงที่สุดซึ่งคือ ชั้นสวรรค์ ประดิษฐสถานพระพุทธรูปให้ผู้มาเยี่ยมชมได้สักการะบูชา







ช้างเอราวัณ ในเรื่องรามายณะ และ ความเชื่อของศาสนาฮินดู กล่าวถึงพระอินทร์มีร่างสีเขียว มีพาหนะเป็นช้าง 3 เชือก เชือกหนึ่งพระศิวะเป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า เอราวัณ เชือกหนึ่งพระพรหมป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า คีรีเมขล์ไตรดายุค และอีกเชือกหนึ่งพระวิษณุเป็นผู้ ประทานให้ชื่อว่า เอกทันต์ ช้างเอราวัณเป็นช้างที่มีพละกำลังมากที่สุดในหมู่ ช้างทั้ง 3 เชือก และเป็นที่โปรดปรานมากที่สุด ของพระอินทร์ เชื่อกันว่าช้างเชือกนี้เป็นเทพบุตรองค์หนึ่ง เมื่อพระอินทร์ต้องการจะเสด็จ ไปไหนเอราวัณเทพบุตร ก็จะแปลงกายเป็นช้างเผือก ขนาดสูงกว่าภูเขาเอเวอร์เรสต์ มี 33 เศียร แต่ละเศียรมีงา 7 งา งาแต่ละงายาวถึง 4 ล้านวา

งาแต่ละงามีสระบัว 7 สระ แต่ละสระมีดอกบัว 7 ดอก แต่ละดอกมีกลีบ 7 กลีบ มี 7 เกสร แต่ละเกสรมีปราสาทอยู่ 7 หลัง ปราสาทแต่ละหลังมี 7 ชั้น แต่ละชั้นมี 7 ห้อง แต่ละห้องมี 7 บัลลังค์ แต่ละบัลลังค์มีเทพธิดาสถิต 7 องค์ เทพธิดาแต่ละองค์มีบริวาร องค์ละ 7 นาง เทพธิดาบริวารแต่ ละนางมีนางทาสีนางละ 7 ทาสี รวมทั้งนางเทพอัปสรทั้งหมดประ มาณ 190,248,433 นาง เทพธิดา บริวารรวมกันทั้งหมดประมาณ 13,331,669,031 นาง เศียรทั้ง 33 ของช้างเอราวัณมีอุเปนทเทพยดา สถิตเศียรละ 1 องค์ โดยปกติศิลปินไทยมักจะทำช้าง เอราวัณ เป็นช้าง 3 เศียร







มีผู้สันนิษฐานว่า คำว่า elephant ในภาษาอังกฤษ มาจากคำว่า "เอราวณ"ในภาษาบาลี หรือคำว่า "ไอราวณ" ในภาษาสันสกฤต ซึ่งก็หมายความว่า elephant ก็คือ เอราวัณ เป็นคำคำเดียวกันที่เมื่อผ่านระบบสัทศาสตร์ทำให้ออกเสียงเพี้ยนกันไป ก็เช่นเดียวกับที่ Avatar ก็คือ อวตาร (เหอะๆเกี่ยวกันมั้ย)














ชั้นโลกมนุษย์ ประติมากรรมปูนปั้น ซึ่งเป็นเรื่องรางความเชื่อเรื่องเทพเจ้าและศาสนาแบบตะวันออกทั้งสิ้น

































ปลาอานนท์ ตามพุทธตำนาน ปลาใหญ่ซึ่งอาศัยอยู่ในมหานทีสีทันดร ซึ่งเป็นมหานทีที่สลับกันไปกับภูเขาทั้งเจ็ดที่ล้อมรอบ เขาพระสุเมรซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เมื่อปลาอานนท์พลิกตัวจะเกิดแรงหมุนองมหานีเป็นผลให้โลกมนุษย์หมุนวนไปด้วย

ปลาอานนท์จึงทำหน้าที่หนุนโลกมนุษย์ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้และทอดตัวเป็นบันไดให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เดินชมโลกมนุษย์แห่งนี้




















เมื่อมองลอดหน้าต่างออกมาจากข้างในตัวช้าง







ชั้นสวรรค์ ประดิษฐสถาน พระพุทธรูป รอยพระพุทธบาทจำลองให้สักการะบูชา













พระพุทธรูปปางลีลา ด้านหลังเป็นวิมานมีนาคเป็นบันได เป็นการจำลองภาพเหตุการณ์ตอนที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เมื่อเสร็จจากการโปรดพระมารดา







บรรยากาศภายนอกรอบๆอาคารช้าง























































พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณนี้เป็นที่รวมกันของประติมากรรมที่เกี่ยวด้วยกับศาสนาและความเชื่อนอกเหนือจากความสวยงามด้วยฝีมืออันวิจิตรบรรจงแล้ว ที่นี้จึงคล้ายกับเป็นศาสนสถานมากกว่าที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา

เมื่อมาถึงทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู๋ทางซ้ายมิใช่ด้านหน้าที่ติดกับถนนสุขุมวิท เพราะที่นั้นเป็นบริเวณที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดไว้ให้สักการะบูชาได้ฟรีโดยไม่ต้องเข้าไปข้างใน ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าขายพวกมาลัย เครื่องไหว้ต่างๆมาชักชวนให้เราไปไหว้ที่ด้านหน้านั้นและก็ขายพวงมาลัย ธูปเทียนให้เรา

ซึ้งพรานอักษรขอแนะนำว่าหากนักท่องเที่ยวต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชมข้างในพิพิธภัณฑ์อยู่แล้วก็เข้าไปไหว้ข้างในก็ได้ ซึ่งภายในก็มีที่จัดให้ไหว้บูชากัน โดยไม่ต้องซื้อพวงมาลัยจากด้านนอก แต่หากต้องการไหว้บูชาที่ลานด้านนอกนด้วยโดยซื้อพวงมาลัย ธูปเทียน และของไหว้ต่างๆจากพ่อค้าแม่ค้าก็สามารถทำได้แล้วแต่ความต้องการ






Create Date : 29 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 19:46:44 น. 10 comments
Counter : 2145 Pageviews.

 
ทักทายตอนเย็นๆ จ้า ทานข้าวให้อร่อยนะคะ ^_^


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:50:23 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: moonfleet วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:51:50 น.  

 
ถ่ายภาพสวยจังค่ะ เราไปบ่อยค่ะที่นี่ ไม่ได้ไปขอหวยนะ อิๆๆ


พอดีว่าญาติมาเยี่ยมบ่อย เลยพาไปเที่ยว


พรุ่งนี้ก็ว่าจะไปค่ะ เพราะว่าวันเกิดลูกชาย 1 ขวบ เคยขอพรท่านให้ได้ลูกน่ารัก ๆ สักคน ก็ได้ค่ะ เป็นคนท้องยาก


พรุ่งนี้เลยจะพาลูกชายไปไหว้สักหน่อย


โดย: designbox108 วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:06:59 น.  

 
ชอบตรงที่ลอยดอกบัวค่ะ...ไปมาสองสามครั้ง


โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 29 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:43:39 น.  

 
Blog สวย ดูมีพลังดีค่ะ


โดย: bettygirl วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:35:18 น.  

 
เพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้เอง แต่มิได้แวะ เพราะรีบไปทานข้าวที่บางปู ว่างๆลองตามไปบ้างนะคะ สวยเชียว


โดย: chava วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:40:46 น.  

 
อ่านตำนานแล้วดูภาพประกอบ
ขลัง ออกน่ากลัว แต่ก็อยากไปเที่ยวได้อีก


โดย: pragoong วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:25:35 น.  

 


ไปบล็อคกะก๋ามา ก็เห็นช้างนี่

ไปด้วยกันมาป่าวเนี้ย อิอิ


โดย: tiensongsang วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:13:05:22 น.  

 
สวยจังน่าไปเที่ยวด้วย....


โดย: Calla Lily วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:7:50:02 น.  

 
สวัสดีตอนค่ำค่ะ...

มาชวนไปเล่นทายภาพกันค่ะ...แต่ไม่มีรางวัลนะคะ..อิอิ


โดย: nootikky วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:22:03:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กฤษณกุล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กฤษณกุล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.