และในครั้งนี้ผมมีอุปกรณ์ตัวนึงมาเสนอจะว่าเป็นสมาร์ทโฟนก็ไม่ใช่ แท็บเล็ตก็ไม่เชิงเพราะว่ามันเป็นลูกผสมระหว่างทั้งคู่นั่นเอง ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่าที่จะนำมาเสนอนั่นก็คือ Lenovo PHAB Plus นั่นเอง จะเป็นยังไงนั้นลองไปดูกันเลยครับ

สเปคทั่วไปของ Lenovo PHAB Plus ก็มีดังนี้

– หน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080 พิกเซล)
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ทีมีการปรับแต่งด้วย Vibe UI
– CPU Qualcomm Snapdragon 615 (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53)
– GPU Adreno 405
– RAM 2 GB
– หน่วยความจำภายใน 32 GB (เพิ่มเมมได้สูงสุด 64 GB )
– กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual-LED
– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
– ความจุแบตเตอรี่ 3,500 mAh
– รองรับ 2 ซิม (แชร์ช่องซิมกับ microSD)
– รองรับ 3G/4G LTE ทุกเครือข่าย

รูปร่างของตัวเครื่อง

อันดับแรกที่จะพูดถึงก็คือหน้าตากัน ก่อนเลย…ต้องขอชมอย่างนึงนะครับว่าครั้งนี้ Lenovo ทำการบ้านมาค่อนข้างดีเลยในเรื่องของการออกแบบ ทำออกมาเป็น Unibody เรียบหรูดูดี เท่ มีสไตล์มากๆ เลยทีเดียว ผู้หญิงถือได้ ผู้ชายถือดีอีกทั้งขนาดที่ไม่ใหญ่มาก จับถือสะดวกเหมาะกับการใช้งานในหลายๆ ด้าน ซึ่งจะอธิบายอีกทีละกันเนอะ…

ด้านหน้าของตัวเครื่องก็จะมีลำโพงสนทนา กล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ของเครื่อง หน้าจอแสดงผลขนาด 6.8″ แบบ Full HD ที่มาพร้อม เทคโนโลยี IPS ความละเอียด 326 ppi สามารถแสดงผลสำหรับการดูหนัง เล่นเกม ดูยูทูปหรืออื่นๆ ได้อย่างคมชัด สีสันสดใส

ด้านหลังของตัวเครื่องก็จะมีกล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซล (ใหญ่แต่ขนาดอ่านะ คุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาสีจืดไปหน่อยตรงนี้แอบขัดใจผมอยู่มากเลยทีเดียว…) พร้อมแฟลชคู่ LED และลำโพงซึ่งในส่วนของลำโพงจะมีเทคโนโลยี Dolby Atmos® เข้า มาช่วยขับดันในเรื่องของเสียงให้ดัง กังวาล ชัดเจน รวมถึงทิศทางของเสียง

นอกจากนี้ยังใส่ 1CC sound chamber ไว้ที่ด้านหลังทำให้เสียงดังยิ่งขึ้นโดยที่เสียงไม่แตกพล่า จากการทดลองดูหนัง ฟังเพลงแล้วก็เป็นไปตามคำรำ่ลือจริงๆ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องก็จะมีช่องใส่ซิมได้ 2 ซิม แต่ถ้าอยากจะใส่ Micro SD Card ก็จะใส่ได้ซิมเดียวนะจ๊ะ เพราะช่องมันแชร์กันอยู่ (เดี๋ยวนี้ทำไมต้องทำแชร์ก็ไม่รู้เนอะ!! อยากจะประหยัดพื้นที่ล่ะมั้ง…)

ด้านขวาก็ จะมีปุ่มเพิ่ม ลดเสียง ถัดลงมาหน่อยก็จะเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่องนั่นเอง (แต่แอบสังเกตมือนางแบบเกร็งมากเลยนะเนี่ย สงสัยจะกลัวทำหล่นแน่ๆ เลย อิอิ)

ภาพถ่ายด้านหลังของตัวเครื่อง Lenovo PHAB Plus แบบเต็มๆ

ด้วย ขนาดหน้าจอ 6.8 นิ้วนี่ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมองหน้าจอไม่ชัด สามารถเล่นได้แบบเต็มจอสะใจกันไปเลย การจับถือมือเดียวอาจจะลำบากไปสักหน่อยละสำหรับคนมือเล็ก แต่ถ้าจับสองมือล่ะก็ถนัดกำลังดีเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ด้วยนิ้วโป้งของทั้งสองมือ การถือเครื่องด้วยมือข้างหนึ่งและพิมพ์ด้วยมืออีกข้างหนึ่งก็ทำได้ดีไม่ แพ้กัน

ส่วนนี่เลยเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือการอ่านนิยายออนไลน์จากเว็บ Dek-D หรืออ่าน ebook ต่างๆ ก็ทำได้ดีมากแสดงผลของบรรทัดตัวอักษรกำลังดีไม่น้อยเกินไป (ขออนุญาตอ้างอิงนิยายเรื่องนึงที่ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษมาใช้เป็นภาพ ประกอบการรีวิวในครั้งนี้นะครับ _/_ กราบงามๆ)

และจุดเด่นของเจ้า Lenovo PHAB Plus เครื่องนี้ก็จะอยู่ที่โหมดการใช้งานขณะถือมือเดียวนี่ล่ะ ซึ่งคุณสามารถ

• แตะสองครั้งเพื่อเรียกใช้งาน
• วาดนิ้วเป็นรูปตัว “C” เพื่อเข้าสู่โหมด Micro Screen
• แตะปุ่มลัดแบบสัมผัสเพื่อกลับไปยังหน้าโฮมหรือเปิดแอพพลิเคชั่นที่ต้องการ
• เขย่าเพื่อทำการล็อคหน้าจอ

แต่อันนี้ผมขอค้านนิดนึงนะครับคือเวลาที่เราลากนิ้วไปมาบนหน้าจอนั้น ไอ้จอเล็กๆ ที่มันย่อมาให้เราจะเลื่อนตามด้วยตลอดเลย หรือตอนที่เราเล่นเกมที่ต้องใช้นิ้วลากไปมาจากที่เต็มจออยู่ดีๆ มันก็จะหดเล็กเองตลอดเลย สร้างความรำคาญขณะเล่นเกมเป็นอย่างมาก แต่ก็แก้ปัญหาโดยการไปปิดระบบการใช้งานมือเดียวซะ…

ว่าด้วยเรื่องของกล้อง

เมื่อพูดถึงเรื่องกล้องแล้วล่ะก็ต้องขอบอกเลยว่า Lenovo PHAB Plus ตัวนี้มีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจหลากหลายเลยทีเดียวแต่อาจจะต้องใช้ฝีมือมากกว่า ปกติสักหน่อยนะครับ เนื่องจากสีของภาพที่ถ่ายออกมาผมว่ามันดูจืดไปสักหน่อย ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่ถ้าเข้าใจในเรื่องของแสง การปรับค่า ISO ค่าชดเชยแสง ก็จะได้รูปที่สว่างสดใสขึ้นมา

แต่ก็ติดตรงที่การเก็บรายละเอียดภาพยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการถ่ายภาพที่เก็บรายละเอียดเล็กๆ หรือถ่ายรูปตัวอักษรในหน้าหนังสือ (เรื่องกล้องนี่ผมว่าผมไม่ให้ผ่านนะฮะ…)

โหมดของการถ่ายภาพที่มีอยู่อย่างหลากหลายก็สามารถช่วยให้เราสามารถบันทึก เหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างสนุกสนานเลยล่ะ ผมหมายถึงการถ่ายภาพเล่นๆ ทั่วไปที่ไม่เน้นความละเอียดอ่านะ ก็ยังพอโอเคอยู่ การบันทึกวีดีโอไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ภาพมันมัวๆ ทึบๆ แปลกๆ อ่ะ…แต่ถ้าถ่ายกลางแดดก็โอเคอยู่

สามารถเลือกโฟกัสจุดที่เราต้องการได้ โดยการใช้นิ้วแตะไปยังตำแหน่งที่ต้องการกล้องก็จะจับโฟกัสไปที่ตรงนั้น พร้อมทั้งเพิ่มแสงตรงจุดดังกล่าวให้สว่างขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่าย

ประสิทธิภาพการใช้งานของ Lenovo PHAB Plus

สรุปประสิทธิภาพโดยรวมแล้วผมว่าโอเคในระดับนึงนะครับสามารถใช้งานได้นาน ต่อเนื่องแบบสบายๆ ทั้งวันได้เลยยกเว้นเสียแต่ว่าจะเล่นเกมหนักๆ ที่ต้องอาศัยทรัพยากรเยอะนะครับอาจจะอยู่ได้ประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานทั่วๆ ไปอย่างเล่น Social อ่านนิยาย แชท ดูหนังบ้างก็สามารถอยู่ได้ถึง 7 – 8 ชั่วโมง และด้วยคะแนน Antutu ที่ 35,686 คะแนน NenaMark2 ที่ 59.4 fps สามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมที่ไม่ใช้กราฟฟิกหนักๆ ได้สบายไม่มีสะดุด แต่ก็อาจมีสะดุดบ้างเล็กน้อยกับเกมที่กราฟฟิกสูงๆ

หน้าจอการใช้งานต่างๆ

หน้าตาภายในเป็นการนำ Android 5.0.2 Lollipop มาผสมผสานกับอินเตอร์เฟซของ Lenovo ดูโดยรวมแล้วก็ดูดีไปอีกแบบนะครับ

ถึงแม้ว่าการนำ App ที่ต้องการใช้ออกมาข้างนอกก็ต้องเสียเวลาเข้าไปกดเลือกออกมาคือมันจะยุ่งยาก นิดนึงอ่านะ แต่ปกติตอนที่ติดตั้งแอปฯใหม่ๆ ไอคอนก็จะออกมาอยู่ที่หน้าจออัตโนมัติอยู่แล้ว

Floating Shortcut เป็นฟีเจอร์สำหรับเรียกใช้งานปุ่มลอยที่มีชื่อว่า “Wide Touch” ปุ่มที่เสมือนหน้าจอเล็กๆ ที่ให้เราเรียกใช้เมนูที่จำเป็นได้ง่ายๆ (คล้ายๆ กับที่มีใน iPhone นั่นแหละ!!)

และเมื่อเปิดฟีเจอร์ Screen Shick จะสามารถใช้นิ้ววาดบนหน้าจอเป็นรูปตัว “C” หน้าจอจะหดลงมาด้านขวา หากวาด “ตัวซีกลับด้าน” หน้าจอก็จะหดลงมาด้านซ้าย ซึ่งการสลับด้านกันแบบนี้ก็เพื่อรองรับความถนัดของมือผู้ใช้แต่ละคนตามที่ บอกไว้ในด้านบน (เวลาเล่นเกมส์จะรำคาญมาก ฟันธง!!)

อีกฟีเจอร์นึงที่ทาง Lenovo ใส่มาให้ และทำให้มันน่าสนใจขึ้นเยอะคือระบบเสียง Dolby Atmos มีรูปแบบการแสดงเสียงสำเร็จรูปมาให้ได้ใช้ 4 แบบ และยังกำหนดเองได้อีก 2 แบบ ซึ่งข้อดีของ Dolby Atmos เป็นระบบเสียงที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ ช่วยแจกแจงรายละเอียดตำแหน่งทิศทางเสียงที่ชัดเจน ให้ความรู้สึกเสมือนจริงและเป็นธรรมชาติ

จะอ่านนิยาย เช็คตารางงานในปฏิทิน หรือใช้เครื่องคิดเลขก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยขนาดจอที่หญ่ของเจ้า Lenovo PHAB Plus นี่แหละ…

การเล่นเกมส์

ตามที่เคยบอกไว้ข้างต้นว่าเจ้าเครื่องนี้สามารถเล่นเกมทั่วๆไปได้อย่าง ไม่มีปัญหา สมูท ลื่นไหลดี แสดงผลภาพ สี เสียงคมชัดแต่ก็ตามสเปคอ่ะครับ เกมส์ที่ต้องใช้กราฟฟิกสูงก็ยังมีอาการกระตุก หรือหน่วงๆ ให้เห็นบ้างเป็นระยะๆ เหมือนกัน

สรุปภาพรวมหลังจากที่ได้ลองสัมผัสการใช้งานจริง

ชอบดีไซน์การออกแบบที่ทำออกมาได้อย่างสวยงาม หยิบถือง่าย ใส่กระเป๋าถือของคุณผู้หญิงได้สบายๆ โทรได้ ใช้งานได้สองซิม รองรับ 4G ตอบโจทย์การแชท LINE, Facebook, ส่อง IG ได้ไม่ติดขัด แถมเรื่องการดูหนังจากทั้ง YouTube หรือจะโหลดหนังมาดูก็ให้ทั้งภาพและเสียงที่ดีโดนใจมากๆ เลยล่ะ แต่ดูแล้วจะไม่ค่อยเหมาะกับการเอามาแนบหูโทรสักเท่าไหร่อ่านะ

แอบติอย่างเดียวเลยเรื่องกล้องทั้งหน้าและหลังเลยจริงๆ เอาเรื่องกล้องหน้าก่อนที่เวลาใช้ถ่ายเซลฟี่สามารถทำหน้าเนียน หน้าสวยได้จริงแต่สีที่ได้ยังจืดๆ อยู่ดีนั่นแหละ สีจะอมฟ้าไปหน่อย ส่วนกล้องหลังนี่ลูกเล่นเยอะดี น่าสนใจ สามารถทำให้คุณตื่นเต้นได้ในตอนระหว่างการใช้งาน แต่พอกดดูภาพถ่ายเท่านั้นแหละ…ดูในจอก็ยังพอโอเคอยู่นะ แต่พอเอามาดูในคอมฯนี่ไม่ไหวจะเคลียจริงๆ เลย ซึ่งถ้า Lenovo ทำกล้องออกมาให้ดีกว่านี้ผมว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่น่าซื้อมาใช้มากในลำดับต้นๆ ตัวนึงเลยทีเดียว

บทความโดย: Mr. บอมบ์

ขอบคุณภาพประกอบจาก: Lenovo

//hitech.sanook.com/1399701/

Create Date : 07 ตุลาคม 2558
Last Update : 7 ตุลาคม 2558 8:30:40 น.		0 comments
Counter : 1381 Pageviews.
Share Tweet