Ketamine hydrochloride
Ketamine hydrochloride injection ข้อบ่งใช้ - นำ สลบ - เสริมฤทธิ์ยาสลบ ขนาด / วิธีการบริหารยา - 1 - 2 mg / kg IV - 4 - 6 mg / kg IM - 0.5 - 1 mg / kg IV เป็นครั้ง ๆ ตามความจำ เป็น - 0. - 0.8 mg /kg IV เป็นครั้ง(ควรให้ร่วมกับยากลุ่ม antisialogue เป็น Atropine)
ข้อควรระวัง: Ketamine จะทำ ปฎิกริยาโดยตรงกับ Barbiturates เพราะฉะนั้นไม่ควรให้ยาทั้งสองโดย ใช้ Syringe ร่วมกัน
การเก็บยา: เก็บกันแสง และที่อุณหภูมิ ไม่เกิน 8 - 15 OC
การออกฤทธิ์ ระบบประสาท มีข้อห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะความดันในกะโหลกศีรษะ เพราะจะส่ง เสริมให้เพิ่มความดันในกะโหลกศีรษะมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยายังกระตุ้นการทำ งานของ สมองร่วมกับเพิ่มจำ นวนเลือดไปเลี้ยงสมอง อย่างไรก็ดีจะสามารถบรรเทาปัญหานี้ได้ถ้า บริหารยากลุ่ม benzodiazepines ก่อนให้ ketamine และร่วมกับทำ hyperventilation สำ หรับฤทธิ์ต่อจิตประสาทของยานี้ทำ ให้ฝันร้าย หรือมีอาการ กระสับกระส่ายเมื่อเริ่มฟื้นจากการสลบ ปรากฏการณ์นี้พบได้น้อยในเด็กหรือให้ยากลุ่ม benzodiazepines, barbiturates หรือ propofol ร่วมด้วย ระบบหายใจ ฤทธิ์ขยายหลอดลมของ ketamine ทำ ให้สามารถใช้ยานี้นำ สลบในโรคหืด และถุงลมโป่งพอง แม้ว่ารีเฟลกซ์ของการปกป้องทางเดินหายใจยังคงอยู่หลังจากผู้ป่วย ได้รับยานี้ แต่ไม่ปลอดภัยในภาวะที่มีอาหารเต็มกระเพาะถ้าต้องได้รับยาสลบก็สมควรใส่ ท่อหายใจ ketamine กดการหายใจเพียงเล็กน้อย แต่จะกระตุ้นการหลั่งสารคัดหลั่งใน ช่องปากที่ก่อให้เกิดหลอดลมบีบเกร็งเมื่อดมยาสลบตื้น ระบบไหลเวียนเลือด เนื่องจาก ketamine มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท sympathetic ขนาดยาที่ใช้นำ สลบจะมีผลทำ ให้หัวใจเต้นเร็งร่วมกับความดันเลือดสูง จึงควรหลีกเลี่ยง ในรายที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่ถ้าบริหารยาขนาดน้อยร่วมกับ barbiturate หรือ propofol จะบรรเทาฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนเลือดลงได้ สำ หรับฤทธิ์โดยตรงต่อ กล้ามเนื้อหัวใจนั้นพบว่า ketamine กดการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ เมื่อร่วมกับฤทธิ์ เพิ่มควาดันในหลอดเลือด pulmonary ของปอด จึงมีข้อห้ามใช้ในรายที่หัวใจห้องขวาล้มเหลว
อาการข้างเคียง ฝันร้าย,เห็นภาพหลอน, hyportension, tachycardia, respiratory depression(ในขนาดสูง), กระตุ้นให้มีการหลั่งนํ้าลายมาก โดยเฉพาะในเด็กอาจเกิด largngospasm upper airway obstruction, increase intracranail pressure, Increase intraoccularl pressure
Note ข้อห้ามใช้ 1. ผู้ป่วยที่มีความดันในกระโหลกศีรษะสูง 2. ผู้ป่วย Myocardial islahemia 3. ผู้ป่วย open eye injury 4. ผู้ป่วย rascular anewrgsm
การติดตาม : Cardiovascular effects, heart rate, blood pressure, respiratory rate, transcutaneous O2 saturation รายงานแพทย์เมื่อ(critical point) - BP > 170 / 110 mmHg HR > 120 BPM RR < 10 ครั้ง / min - O2 saturation < 92 % - หายใจมีเสียง Stridor แสดงถึง upper airway obstruction
Create Date : 20 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 15 ตุลาคม 2553 20:56:33 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2058 Pageviews. |
|
|