ร ว ม มิ ต ร

Me and you are friends.

You fight, I fight... You hurt, I hurt... You cry, I cry.

You jump off a bridge..........

I'm gonna miss you!

Group Blog
 
All blogs
 

ชีวิตกับ 'ความหมาย'

ผมเชื่อว่า
สิ่งต่างๆที่เราเลือกทำล้วนแล้วแต่มี 'ความหมาย' อย่างใดอย่างหนึ่งกับเราเสมอ 
แม้แต่การเลือกที่จะ "ไม่ทำอะไร" ก็ยังมี 'ความหมาย'

ถ้าเราไม่ได้กำหนด 'ความหมาย' ของแต่ละการกระทำของเราให้ดีๆ เราจะสับสน
ถ้าเราไม่ได้คำนึงถึง 'ความหมาย' ของแต่ละทางที่เราจะเลือกเดิน เราจะหลงทาง
และถ้าเราไม่สามารถยอมรับ 'ความหมาย' ของทางที่เราเลือกเดินมาแล้ว เราจะเจ็บปวด

ผมจึงคิดว่า
เราควรพยายามให้ 'ความหมาย' กับแต่ละสิ่งที่จะทำ แต่ละคำที่จะพูด แต่ละก้าวที่จะเดิน
นำ 'ความหมาย'  เหล่านั้นมาใช้ในการตัดสินใจเลือกทางเดินในแต่ละก้าว
เราจะมีชีวิตทีีมี 'ความหมาย' ในแบบที่เราต้องการ

'ความหมาย' ที่ช่วยให้เรา ไม่สับสน ไม่หลงทาง และไม่เจ็บปวด
'ความหมาย' ที่อาจจะไม่มีใครเข้าใจ
'ความหมาย' ที่ใครต่อใครอาจจะไม่เห็นด้วย

แต่จะยังไง 'ความหมาย' เหล่านี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับใครต่อใครอยู่แล้ว มิใช่หรือ?




 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2565    
Last Update : 6 พฤษภาคม 2565 16:04:14 น.
Counter : 460 Pageviews.  

ตัดสินด้วยหัวใจ

หลายวันก่อน ผมได้รับข่าวคราวว่าเพื่อนผมคนนึงกำลังลังเล ในการเลือกทางเดินครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในชีวิต

.....


ผมเชื่อว่าเราทุกคน ต่างก็ต้องเลือกอะไรต่อมิอะไร กันแทบทุกวัน

บางทีก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อย จนเราเลือกโดยแทบจะไม่รู้สึกตัว
อย่างเช่น วันนี้จะใส่เสื้อตัวไหน? เที่ยงนี้จะกินอะไร? ฯลฯ

แต่บางทีก็เป็นเรื่องทำให้เราคิดไม่ตก ว่าจะเอายังไงดีกับชีวิต
จะเลือกเรียนคณะอะไร?
จะทำงานที่ไหน?
จะแต่งงานกับคนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา?
จะเลือกให้เวลากับงานหรือว่าครอบครัว?
ฯลฯ

ผมเข้าใจว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้เราคิดไม่ตก เลือกไม่ถูกเนี่ย
คือความไม่แน่ใจครับ

ไม่แน่ใจว่าเราต้องการอะไรกันแน่
ไม่แน่ใจว่ามีความสามารถพอที่จะทำสิ่งต่างๆ จนเราได้รับสิ่งที่ต้องการตามที่คาดหวังไว้หรือไม่
ไม่แน่ใจว่าหากได้รับสิ่งที่เราวาดหวังตั้งใจแล้ว เราจะมีความสุขกับมันจริงๆหรือเปล่า
ฯลฯ


ความไม่แน่ใจ บางส่วนอาจจะบรรเทาเบาบางลงได้ ด้วยการหาข้อมูลและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน
แต่โลกที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ใบนี้ ต่อให้ใครจะพยายามถึงที่สุดยังไงก็ย่อมจะต้องมีความไม่แน่ใจเหลืออยู่

ผมเชื่อว่าการเอาชนะความไม่แน่ใจที่ยังเหลืออยู่ในขั้นสุดท้ายนี้
ต้องใช้หัวใจครับ

หัวใจที่ เชื่อมั่น
หัวใจที่ ศรัทธา
และหัวใจที่ กล้าหาญ

เชื่อมั่น ในความคิดความต้องการของตนเอง แม้ว่าบางทีอาจจะสวนทางกับความคิดของใครต่อใครรอบๆตัว
ศรัทธา ในศักยภาพและความสามารถของตัวเอง และพร้อมที่จะเผชิญอุปสรรคขวากหนามต่างๆนานา
และกล้าหาญ พอที่จะยอมรับผลของการตัดสินใจของเราเอง ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย

การเลือกครั้งสำคัญๆในชีวิต หรือการเลือกระหว่างสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันมากกว่าหนึ่งอย่างขึ้นไป
จึงมิใช่เป็นเพียงแค่การเลือก
แต่เป็นการ 'ตัดสินใจ'

ตัดสินด้วย 'หัวใจ'

.....


เพื่อนผมคนนั้น ได้ตัดสินใจแล้ว
ผมยิ้ม
: )




 

Create Date : 15 มกราคม 2552    
Last Update : 16 มกราคม 2552 9:40:17 น.
Counter : 1024 Pageviews.  

มาละเลง 'สีสัน' ให้ชีวิตกันเถอะ

ผมเชื่อว่า ชีวิตที่ไม่ว่างเปล่า
คือชีวิตที่มีคุณค่าและ 'ความหมาย'

และ 'ความหมาย' นี้ ไม่อาจจะได้มาด้วยการแสวงหา หรือฉกฉวยแย่งชิง
เราต้องสร้าง และรักษามันไว้ด้วย 'หัวใจ'


ผมเข้าใจว่า ‘ความหมาย’ ทำให้ชีวิตมีสีสัน และน่าจดจำ
ทำให้สิ่งของไร้ราคา กลายเป็นสิ่งที่มีค่า
ทำให้วันธรรมดา กลายเป็นวันที่น่าจดจำ
และทำให้คนธรรมดาคนหนึ่ง กลายเป็น ‘คนพิเศษ’

คนที่เรารักมากที่สุด อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง ไม่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุด ไม่ได้นิสัยดีที่สุด และไม่ได้หน้าตาดีที่สุด
แต่เป็นคนที่มี ‘ความหมาย’ กับเรามากที่สุด



.....

ผมคิดว่า บางทีชีวิตอาจจะเป็นชั่วโมงศิลปะ
ไม่ใช่ชั่วโมงสอบ
ไม่ใช่ชั่วโมงวิ่งแข่ง

เพียงแต่ตอนนี้นักเรียนส่วนใหญ่ก็มัวแต่วิ่งแข่งกัน
เพื่อแย่งสมุดวาดเขียนเล่มที่สวยที่สุด
แย่งดินสอสีแ่ท่งที่ใหญ่ที่สุด
พู่กันอันที่แพงทีุ่สุด

ไม่ยอมลงมือระบายสีกันซะที


หากเรารู้สึกว่า "ชีวิตนี้มันมันช่างน่าเบื่อ และไร้สีสัน"

บางที อาจจะถึงเวลาลงมือ ‘ระบายสี’ ให้ชีวิต
ด้วยการเรียนรู้ที่จะ เติม 'ความหมาย' ให้กับสิ่งต่างๆรอบๆตัวเรา
สิ่งต่างๆที่เรามีี
สิ่งต่างๆที่เราเป็น


.....

อยากจะวาด อะำไร วาดไปเถิด
ภาพก่อเกิด กล่อมเกลาใจ คลายเศร้าหมอง
แต้มสีสัน เติมความหมาย ตามใจปอง
ด้วยมือสอง คู่น้อยๆ ค่อยๆทา

ชีวิตที่ ดูเวิ้งว้าง ว่างเปล่านี้
อาจบางที เป็นกระดาษ เป็นผืนผ้า
ไว้้แต่งแต้ม เติมสีสัน ผันเวลา
ให้ชีวา ใสสด หมดจดพลัน



.....

มาเถอะครับ
พับแขนเสื้อ หยิบดินสอสี พู่กัน…
แล้วละเลงสีสันให้ชีวิต ตามที่ใจคิดฝันกันเถอะครับ
: )




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 23 พฤษภาคม 2551 5:10:29 น.
Counter : 1600 Pageviews.  

เราถูกพิพากษาให้จองจำอยู่ในความเหงา จนกว่า...

ผมคิดว่า แทบทุกคนรู้จักความเหงา
บางครั้งก็เหงามาก จนทรมานแสนสาหัส
บางคราวก็เหงาน้อย จนแทบจะลืมไปเลยว่าความเหงามันเป็นยังไง
แต่ก็ยังไม่เคยหนีออกไปจากกรงขังของความเหงานี้ได้เสียที


ผมเข้าใจว่า เรารู้สึกเหงา
เวลาที่ 'คุณค่า' ในชีวิตมันขาดหาย
เวลาที่ 'ความหมาย' ของการมีชีวิตมันขาดไป
เวลาที่ 'ความรักความเข้าใจ' มันขาดแคลน
และเราก็เฝ้ารอ ให้ 'ใครบางคน' มา 'เติม' มัน

รอไป...
เหงาไป...

หลายคนไม่เคยได้พบ 'ใครคนนั้น' เลยชั่วชีวิต
บางคนอาจจะโชคดี ได้พบ 'ใครคนหนึ่ง' ที่ยินดีจะ 'เติม' สิ่งเหล่านี้ให้
แต่ผมเชื่อว่า 'ใครคนนี้' ก็ไม่สามารถที่จะปลดปล่อยเราจากกรงขังของความเหงาได้

เหมือนกับที่เพื่อนหรือญาติของผู้ต้องขัง ที่แวะเวียนมาเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ อาจจะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมาน จากการถูกจองจำลงได้บ้าง
แต่ก็ไม่มีอำนาจที่จะปล่อยตัวใครต่อใคร ออกจากเรือนจำ


ใครบางคนเคยบอกผมว่า 'ผู้พิพากษาใจร้าย' ที่จองจำเราไว้ในความเหงานั้น
อาจจะไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เป็น 'ตัวเราเอง'

เป็น 'ตัวเราเอง' ที่ตัดสินว่า
เราไม่มี 'คุณค่า'
เราไม่มี 'ความหมาย'
เราไม่คู่ควรกับ 'ความรักความเข้าใจ'
แม้กระทั่ง 'ความรักความเข้าใจ' จากตัวเราเอง


แต่บางที เราอาจจะยังพอมีทางเลือก

เลือกว่าจะก้มหน้ายอมรับคำพิพากษานั้น
จองจำตัวเองอยู่ในความเหงาต่อไป
แล้วเฝ้ารอให้มี 'ใครบางคน' แวะเวียนมาเยี่ยม

หรือเลือกที่จะเปลี่ยนคำพิพากษา
ยกโทษให้ตัวเอง
แล้วปลดปล่อยตัวเองจากความเหงา

เรียนรู้ที่จะให้ 'คุณค่าและความหมาย' กับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น ด้วยตัวเราเอง
เรียนรู้ที่จะ 'รัก เข้าใจ และยอมรับ' มนุษย์คนหนึ่งที่อาจจะไม่ดีพร้อม แต่ก็ดีพอ
มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา
นั่นคือ 'ตัวเราเอง'


เราทุกคนรับโทษมามากเกินไปแล้ว ในความผิดที่เราไม่ได้ก่อ
บางทีอาจจะถึงเวลาลงมือทำอะไรสักอย่าง
เพราะว่า
เราถูกพิพากษาให้จองจำอยู่ในความเหงา จนกว่า...




 

Create Date : 22 มกราคม 2551    
Last Update : 22 มกราคม 2551 20:54:27 น.
Counter : 516 Pageviews.  

วิธี 'งมงาย' อย่างฉลาด

คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า 'ความงมงาย' เป็นเรื่องไร้สาระ
เป็นแค่เรื่อง 'โง่ๆ' ของคนโง่ๆ
แต่ผมคิดว่าอาจจะไม่นะครับ


หากเีราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เราสามารถรับรู้ 'ความจริง' ทุกอย่างได้ก่อนจะลงมือทำอะไร ความงมงายก็คงไม่จำเป็นจริงๆนั่นแหละ

แต่ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว เราต่างก็อยู่ในโลกที่เราไม่อาจจะรู้ได้อย่างแน่ชัดว่า อะไรคือ 'ความจริง'
เราต้องทำอะไรต่อมิอะไร ไปบน 'ความเชื่อ' ของเรา

เราเลือกซื้ออาหาร จากร้านอาหารที่เรา 'เชื่อ' ว่า อาหารน่าจะอร่อยเหมือนคำร่ำลือ หรือเหมือนครั้งก่อนที่เราเคยกิน
เราเลือกซื้อรถ คันที่เรา 'เชื่อ' ว่า น่าจะใช้ได้ดี ไม่มีปัญหาเหมือน รถรุ่นเดียวกันคันอื่นๆ
เราตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับ คนที่เรา 'เชื่อ' ว่าจะทำให้เรามีความสุข
...
ฯลฯ

ผมเชื่อว่าในโลกใบที่มันหมุนไป โดย 'ความเชื่อ' ใบนี้นี่แหละ ที่ 'ความงมงาย' มีพลังอันยิ่งใหญ่
บางทีอาจจะใหญ่พอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้เลยด้วยซ้ำ

เพราะผมเข้าใจว่า...
ความงมงาย = ความเชื่อ + ความทุ่มเทอย่างหมดหัวใจ

ความงมงายจึงนำมาซึ่งการอุทิศตัวให้กับ 'ความเชื่อ' ที่คนๆนั้นเห็นว่าเหมาะสม ถูกต้อง

หากนักกีฬา ไม่งมงายในชัยชนะแล้ว จะทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตายไปทำไม?
หากนักวิทยาศาสตร์ ไม่งมงายในทฤษฎีแล้ว จะทุ่มเทเวลา และแรงกายมากมาย เพื่อทำการทดลองอันยากลำบากไปเพื่ออะไร?
และหากมหาตมะคานธี ไม่งมงายในหลัก 'การไม่เบียดเบียน' แล้ว จะสามารถยืนหยัดต่อสู้ โดยไม่ใช้ความรุนแรงจนสำเร็จได้หรือ?
...

แถวบ้านผมเรียกความงมงายแบบนี้ว่า 'ศรัทธา'
และเรียก 'ความเชื่อ' นั้นๆว่า 'อุดมการณ์'

แต่เมื่อใดก็ตามที่ 'ความงมงาย' เกิดจาก ความเชื่อที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง
แถวบ้านผมก็จะเรียกมันว่า 'ความหลง'
และเรียก 'ความเชื่อ' นั้นๆว่า 'คำโกหก'


วิธี'งมงาย' อย่างฉลาด
จึงน่าจะอยู่ที่การหมั่นตรวจสอบความเชื่อของตนเอง ว่าขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหรือไม่
หากขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ก็ละความเชื่อนั้นไปเสีย (falsification)


เราต่างต้องดำเนินชีวิตไปบนความเชื่อต่างๆนานาของเรา
ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก หากเราจะ 'งมงาย' ในบางเรื่อง บางอย่าง
ตราบใดที่เรา'งมงาย' อย่างฉลาด


ไม่รู้ว่า ท่านอื่นๆ งมงายเรื่องอะไรกันบ้างหรือเปล่า?

แต่ตอนนี้ผมเองก็งมงาย...

งมงายในรักครับ
: )





 

Create Date : 22 ธันวาคม 2550    
Last Update : 22 ธันวาคม 2550 8:22:50 น.
Counter : 466 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  

Amygdala
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับนะครับ

เชิญมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ ปรัชญา วิทยาศาสตร์ หนังสือ รวมถึงเรื่องจิปาถะอื่นๆกันนะครับ
: )


-------------------------------



มีอะไรใหม่?

ชีวิต กับ 'ความหมาย' 6/5/2565





New Comments
Friends' blogs
[Add Amygdala's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.