***การอ่านหนังสือ คือ การเปิดโลกทัศน์ให้กับตัวเอง*** Open Your Mind by Reading***
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
เข้าผิดเวลา

สมัยที่ยังเป็นครูเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ฉันรับนิตยสารรายสัปดาห์หลายเล่ม มีหนังสือพิมพ์อยู่ฉบับเดียวคือ กรุงเทพธุรกิจ เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ (เพราะไม่มีเวลาอ่านในวันปกติ) เพราะมีฉบับแทรก ซึ่งมี Section เกี่ยวกับหุ้นอยู่ด้วย ได้อ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องหุ้นและเห็นตัวเลขราคาหุ้นทุกสัปดาห์ แต่ฉันไม่เคยเข้าใจ จึงดูผ่าน ๆ ไป เพราะสนใจเรื่องเกี่ยวกับวรรณกรรมมากกว่า

แต่ด้วยความที่ชอบฟังรายการวิทยุที่เกี่ยวกับธุรกิจ การลงทุนด้วย มันคงซึมซับเข้าไปทีละน้อย เวลานั้น เมื่อพูดถึงเรื่องหุ้น มักเป็นไปในทำนองที่ว่า ตลาดหลักทรัพย์คือบ่อนการพนัน ทั้งทีเป็นแหล่งรวมบริษัทที่ทำธุรกิจแท้ ๆ ตอนนั้น ฉันยังคิดง่าย ๆ ว่า ถ้าการซื้อหุ้นในบริษัทที่มีกิจการค่อนข้างมั่นคงแล้ว ทิ้งไว้รอกินปันผลในแต่ละปี น่าจะเป็นหนทางสร้างรายได้ที่แน่นอนทางหนึ่ง เวลานั้น ฉันยังไม่มีความรุ้หรือความคิดถึงส่วนต่างราคาหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

มันจึงทำให้ฉันค่อนข้างจะงุนุงงกับคำพูดที่ว่า ตลาดหลักทรัพย์คือบ่อนการพนัน

ฉันอยากมีรายได้อีกทาง นอกเหนือจากเงินเดือนครูเอกชนที่มีเพียงน้อยนิด คิดว่าการซื้อหุ้นทิ้งไว้กินปันผล น่าจะเป็นหนทางที่ดี เลยโทรฯไปถามโบรกเกอร์ คำตอบที่ได้คือ ต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่ต่ำสองแสนบาท ได้ยินดังนั้น ความคิดเรื่องการลงทุนในหุ้นของฉัน จึงยุติลง ฉันคิดว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีไว้สำหรับคนที่มีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำเท่านั้น ชาตินี้ ฉันคงไม่มีทางได้เป็นนักลงทุนหุ้นเป็นแน่

ต่อมา ได้ยินสปอต์โฆษณาทางวิทยุว่า "ให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม" ฉันเลยสนใจ ไปลงทุนในกองทุนรวมของธนาคารทหารไทย ซึ่งใช้เงินไม่มากในแต่ละเดือน ทั้งที่ไม่รู้แน่ชัดว่ากองทุนรวมคืออะไร (เพิ่งมารู้เมื่อมาลงทุนหุ้นนี่เอง) แต่อย่างน้อย ก็เป็นการดำเนินงานของธนาคารแหละ ไม่ถูกหลอกแน่ คิดแค่นี้แหละ

โชคชะตาเล่นตลกกับฉัน เพราะฉันมีเหตุให้ต้องถอนเงินจากกองทุนรวมออกมาทั้งหมด ทั้งที่เพิ่งเปิดบัญชีได้ไม่นาน จนกระทั่ง เมื่อกลางปีก่อน ฉันหันมาสนใจเรื่องหุ้นอีกครั้ง จากการอ่านกระทู้ในห้องสินธร ฉันจึงรู้ว่า เดี๋ยวนี้ การลงทุนหุ้นไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากการันตีอีกแล้ว หากลงทุนด้วยเงินสด และไม่จำเป็นว่าต้องมีเงินเยอะ ๆ ด้วย

ตัดสินใจเปิดบัญชีกับ บลจ.บัวหลวง เพราะไม่กำหนดขั้นต่ำเรื่องการค่าใช้จ่ายในการลงทุน หลังจากนั้น ซื้อหุ้นที่เล็งไว้สองตัว วันถัดมาเปิดพอร์ตดู กำไร 14% ดีใจค่ะ แต่ไม่ขาย เพราะตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะถือยาว แม้จะได้ยินว่า อายุมากแล้ว การลงทุนในระยะยาวอาจไม่ทันการ แต่ฉันมั่นใจว่า ฉันจะแข็งแรงและมีอายุยาวนานไปจนได้เห็นการเติบโตของหุ้นที่ถืออยู่แ่น่นอน นั่นหมายความว่า ฉันจะไม่ลำบากในตอนแก่ตัวอีกต่อไป

ลงทุนเพิ่มเข้าไปอีก เพื่อความมั่นใจ ซื้อหุ้นในบริษัทที่ยังขาดทุนอยู่ เพราะดูแล้วว่า มีอนาคตแน่ อนิจจา! หลังจากนั้น ราคาหุ้นก็ตกลงมาเรื่อย ๆ ยิ่งดุคลิปสัมนาหุ้น อ่านกระทู้ก็อดหวั่นไหวไม่ได้ พอหวั่นไหวก็ขาดสติ ไปซื้อห้นุตัวที่กำลังจะจ่ายปันผลดี แต่พอซื้อแล้ว ราคาก็ดิ่งลงเหว เงินปันผลที่อาจได้มาเพียงน้อยนิด ยังชดเชยการขาดทุนไม่ได้เลย ได้แต่หวังว่า ราคามันจะขึ้นไปในวันข้างหน้า หากไม่ขายทิ้งเสียก่อน

เวลานี้ มีหุ้นในพอร์ตอยู่ 6 ตัว เขียวตัวเดียว นอกนั้นแดงเถือกเป็นที่น่าเวทนา อยากตะโกนดัง ๆ ว่า "ฉันเกลียดสีแดง ฉันเกลียดสีแดง" ไหนใครบอกว่าสีแดงเป็นสีมงคล ไม่ใช่เลย ไม่ใช่เลย





Create Date : 04 พฤษภาคม 2558
Last Update : 4 พฤษภาคม 2558 22:51:44 น. 0 comments
Counter : 647 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wanalee
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




คนธรรมดาที่กำลังพยายามละกิเลส เพื่อลดความอยากและไม่อยากให้มากที่สุด (ยากนะ แต่จะพยายาม)
New Comments
Friends' blogs
[Add wanalee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.