Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
18 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
** ขนมปุยฝ้าย **

สวัสดีค่ะ....ทุก ๆ ท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมและช่วยชิม

ขนมปุยฝ้ายสูตรนี้.....ได้ทำกินทำแจกอยู่บ่อย ๆ แต่เนื่องจากเวลา+สุขภาพไม่อำนวย ก็เลยไม่ได้นำเอามาโพส เพื่อเป็นการส่งการบ้านให้เพื่อนสุดเลิฟ (คุณ ว.) ชื่นจายกะเค้าเสียที ขนมสูตรนี้....เป็น สูตรของ UFM ที่เพื่อนเลิฟได้ไปเสียเวลา+กะตังค์ (หมดไปหลายทีเดียวเชียวแระค้า) เพราะลงเรียนเต็มคอร์ส แถมซื้ออุปกรณ์ครบครัน แบบพร้อมเปิดร้านได้ทันที เพราะตอนแรกคุณ ว. ก็คิดว่าจะเปิดร้านเหมือนกัน แต่ทำไปทำมา....ต้องยุบโครงการพันแปดร้อยล้านล้มไปเสียดื้อ ๆ อย่างงั้นแระ ยังเสียดายแทนอยู่ทุกวันนี้เลย รออีกนิ๊ดนะจ้า.....ตอนนี้...ความฝันใกล้เอื้อมเข้ามาแล้ว กัดฟันทนอีกไม่นาน คงได้ไปสอบ สอยใบประกาศเกียรติคุณทำขนมจากญี่ปุ่นกะเค้าเสียที กะว่า....จะไปเปิด รร. + ร้านเล็ก ๆ แล้วคงต้องขอแรงให้คุณ ว. รับหน้าที่แผนกหนมเค้กทั้งหมด....อิอิ เพราะจายอิฉานมานไม่รักดี ไม่ชอบทำเอาเสียจริง ๆ นะจ้า ได้แต่ลินเอิฟกับหนมปัง + อาหารญี่ปุ่นมากกว่า


ตอนที่เต่ากลับไปเมืองไทย (ทุกคราว) ก็ได้รับอภินันทนาการโดยคุณ ว. ทำหนมมาให้ชิมหลายอย่าง ขอบอกว่า.....ทุกอย่างอร่อยมั๊ก ๆ โดยเฉพาะ...." ขนมปุยฝ้าย " เนี่ย.....เป็นที่ติดใจของเจ้าตัวยุ่ง จนต้องขอสูตร ได้สูตรมาแรก ๆ ก็ทดลองทำ...แต่ทำมายมานไม่เหมือนที่คุณ ว. ทำให้กินวุ้ย จนได้กลับไปเมืองไทยอีกรอบ (ผ่านไปปีกว่า ๆ ) ก็ขอให้คุณ ว. ทำใหม่ (สอน) ดูแล้วก็จดเคล็ดขัดยอกทั้งหมด กลับมาญี่ปุ่น....ทำเมื่อไหร่...หน้าคนทำก็ไม่แตกเลยละค้า

ขอขอบคุณ.....คุณ ว. ที่แบ่งปันสูตรดี ๆ +พร้อมทั้งไม่หวงวิชา รวมทั้ง โรงเรียน UFM เจ้าของสูตรไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


ส่วนผสม.....เป็นสูตรต้นตำหรับที่คุณ ว. เขียนส่งเมล์มาให้อีกครั้ง (ตอนแรกก็ได้สูตรมาเลย แต่ความที่เก็บดีมากหาไม่เจอ 5555 ต้องรบกวนให้คุณ ว. เขียนสูตรส่งเป็นเมล์มาให้ใหม่)).....และความที่ขี้เกียจของอิฉานในการเก็บล้างอุปกรณ์หลายชิ้น....อิอิ ทำครั้งแรกก็เลยจัดการแปลงสัดส่วนเป็นกรัมเอาไว้เลย เพื่อความสะดวกในการทำครั้งต่อไป (ที่อยู่ในวงเล็บ)

แป้งเค้กตราบัวแดง.......... 200 กรัม
ผงฟู.........1 ช้อนชา ( 4 กรัม )
ไข่ไก่ (ขนาดกลาง)........ 2 ฟอง ( 104 กรัม )
น้ำตาลทราย ........... 175 กรัม
เอสพี..........10 กรัม
น้ำสะอาด............ 100 กรัม
นมข้นจืด............. 50 กรัม (ถ้าไม่มี....ใช้นมสดที่เราดื่มแทนได้ค่ะ)
น้ำมะนาว............... 1 ช้อนชา (4 กรัม)
กลิ่นมะลิ หรือกลิ่นตามชอบ............. ½ ช้อนชา ( 2 กรัม )
สีผสมอาหารสีต่าง ๆ (ตามชอบ).......นิดหน่อย

เนื่องจาก " แป้งเค้กตราบัวแดง " ตามสูตรนั้น.....ที่ญี่ปุ่นไม่สามารถหาซื้อได้ เต่าก็เลยใช้แป้งเค้กของญี่ปุ่น ที่เรียกว่า ..... ฮะคุริคิโกะ ( Hakuriki ko - 薄力粉) รูปที่ 1 และ 2 ซึ่งทำออกมาแล้วใช้ได้เลยค่ะ แต่เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อเดียวกะที่เต่าใช้หรอกนะค้า ยี่ห้อไหนก็ได้ ขอให้เป็นแป้งเค้กเท่านั้นก็พอ

สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับแป้ง ก็แวะตามไปอ่านได้ที่นี่นะค้า แป้งต่าง ๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบอาหาร+ขนม



รูปที่ 3 .....เอสพี....เป็นสารเสริม Emulsified ซึ่งสูตรขนมของทางเมืองไทย นิยมใช้ใส่เพิ่มลงไปในการทำขนมเค้ก และอาจจะนำไปใช้แทน EC 25 K ได้ (ในกรณีที่เราไม่มี) เพราะมันจะเป็นตัวช่วยทำให้ไข่ที่ตีขึ้นตัวได้เร็วขึ้น และไม่ยุบตัวเมื่อตีเสร็จแล้วด้วย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่หัดทำขนมค่ะ....ถ้าเพื่อน ๆ ได้กลับไปเมืองไทย แนะนำให้ซื้อแบบกระป๋องเล็กสุด (ราคาประมาณ 25-30 บาท) ติดกระเป๋ากลับมาด้วยหน่อยก็ดีนะคะ เพราะถ้าเราไม่ใช้บ่อย ๆ ถึงจะเก็บไว้ในตู้เย็น ก็มีสิทธิ์เสื่อมสภาพได้ เนื่องจากงกนิด ๆ ของอิฉาน เคยซื้อยี่ห้ออื่น (เพราะเห็นว่าราคามันถูกกว่า...อิอิ) พอเอามาใช้มันไม่ค่อยเวิรค์เท่าของยี่ห้อ UFM (ไม่ได้ค่าโฆษณากะเค้าหรอกนะค้า) แต่จากที่ได้ไปเล่าเรียนฝึกปรือวิทยายุทธ์มา....สูตรขนมเค้กของญี่ปุ่นนั้น ส่วนใหญ่มักจะไม่ใส่สารเสริมต่าง ๆ เลยค่ะ เค้าจะเน้นที่วิธีการการตีไข่ให้ขึ้นตั้งยอด แล้วตอนผสมแป้งก็ต้องตล่อมผสมอย่างเบามือ

รูปที่ 4.....นมข้นจืด (ที่เมืองไทยเรา ก็คือ นมคาร์เนชั่น ที่เค้าเอาไว้ราดบนกาแฟเย็น) ที่ญี่ปุ่น....เต่าหาได้แต่ยี่ห้อนี้...ขนาดบรรจุ 170 กรัม ใช้เหลือก็เก็บเข้าตู้เย็นเอาไว้ (แต่ไม่ควรเกิน 2 อาทิตย์) แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้จริง ๆ ก็ใช้นมสดที่เราดื่มแทนได้ค่ะ อาจจะไม่อร่อยเท่า แต่ก็พอทดแทนได้

ส่วนผสมทุกอย่างที่เตรียมไว้



วิธีทำ

นำแป้ง+ผงฟู ผสมให้เข้ากัน แล้วร่อนพักไว้ (เต่าร่อนแค่ครั้งเดียว)



นำไข่ไก่ , เอสพี และน้ำ ใส่ลงโถ (ควรใช้แบบอลูมิเนียม)

*ไข่ + เอสพี (ชั่งน้ำหนักตามปริมาณที่ต้องการใช้) ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็น ควรนำออกมาวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องให้คลายความเย็นก่อน ส่วนน้ำ.....ก็ใช้น้ำจากก๊อกปกติ (ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำอุ่นแบบเราทำขนมปัง)



ใช้หัวตีรูปตะกร้อ ตีด้วย ความเร็วสูง จนเป็นฟองหยาบ ๆ



ค่อย ๆ แบ่งน้ำตาลทรายใส่ลงไป (สำหรับมือใหม่หัดทำแนะนำ....ให้ใช้น้ำตาลที่บดละเอียดแล้ว จะทำได้ตีส่วนผสมได้ง่ายขึ้น) และถ้าใช้เครื่องตีไข่ไฟฟ้าแบบมือ (Hand Mixer) วิธีที่จะตีให้ไข่ตั้งยอดได้เร็วขึ้น ก็คือ ใช้มือข้างหนึ่งจับกะละมังตั้งเอียง ๆ แล้วนำเครื่องตี วางขนานเอียงประมาณ 45 องศา


ตีต่อด้วย ความเร็วสปีดสูง จนข้นขาว ตั้งยอดได้ (ค่อนข้างแข็ง) และอยู่ตัวแบบนี้ค่ะ



ก่อนใส่แป้ง ให้ลดความเร็วของเครื่อง ต่ำที่สุด แล้วค่อย ๆ แบ่งแป้งที่ร่อนเตรียมไว้ ใส่ลงไป



ความเร็วของเครื่องหลังใส่แป้ง ให้ใช้ ต่ำที่สุด......ตีจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน (ลองใช้ไม้พายปาด คนดู อย่าให้มีเศษแป้งเป็นก้อนติดอยู่ก้นอ่าง)



ตามด้วยนมข้นจืด



ใส่กลิ่นมะลิ....บางคนไม่ค่อยชอบกลิ่น ก็สามารถลดปริมาณลงได้ และถ้าไม่มี.....ก็สามารถใช้กลิ่นวานิลา หรือกลิ่นอะไรก็ได้ตามชอบได้ค้า



ตามด้วยน้ำมะนาว (เป็นอันดับสุดท้าย)....ฝากบอกเพื่อน ๆ ไว้ตรงนี้เลยว่า....อย่าขี้เกียจนะค้า แบบจับส่วนผสมน้ำทุกอย่างใส่รวมกัน เพราะเคยทำมาแล้ว เห้อๆๆๆๆๆ..... เสียของต้องทิ้งสถานเดียวจ้า



ระหว่างที่เราใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปนั้น เปิดเครื่องด้วยความเร็ว ต่ำที่สุด......ตลอด ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี จะได้แป้งเหนียวข้นแบบนี้ค่ะ



แบ่งแป้ง....ผสมสีทำอาหารตามชอบ....ถ้าเป็นสีแบบน้ำก็ประมาณ 4-5 หยด ถ้าเป็นสีแบบผง ก็แค่ช้อนเล็ก ๆ (ที่เค้าติดมากับกล่อง) ตอนที่ผสมแป้งอาจจะดูสีจืดก็จริง แต่พอนำไปนึ่งสุกแล้ว สีมันจะเข้มขึ้นจนตกกะจายเชียวละค้า



ตักหยอดลงพิมพ์ที่เตรียมไว้.....แต่วิธีที่ง่ายที่สุด และไม่เลอะเทอะ เต่านำแป้งที่ผสมสีแล้ว....เทใส่ถุงพลาสติก ใช้หนังยางมัดปากถุงให้แน่น



เตรียมพิมพ์อลูมิเนียม ใส่ถ้วยกระดาษรองไว้ (รูปนี้....เป็นพิมพ์ขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 ซม.)



ใช้กรรไกรตัดปลายถุงแป้งที่เตรียมไว้ จิ๊ดเดียวก็พอค่ะ แล้วบีบใส่พิมพ์ (ควรหยอดให้ปริ่มพิมพ์)



ก่อนที่เราเตรียมหยอดแป้งนั้น......ควรต้มน้ำเตรียมไว้ก่อน พอบีบเต็มพิมพ์แล้ว ยกทั้งซึ้ง กระแทกเบา ๆ สัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้แป้งไม่มีช่องโหว่ (อากาศ) และเต็มพิมพ์จริง ๆ



นำไปนึ่งด้วยไฟอ่อนประมาณ 10-15 นาที (ระยะเวลาการนึ่งนั้น....แล้วแต่ขนาดของพิมพ์ด้วยนะคะ) สามารถเช็คดูได้ว่าขนมสุกแล้วหรือยัง? โดยใช้ไม้ปลายแหลม จิ้มลงไปดู ถ้าไม่เศษแป้งเหนียว ๆ ติดขึ้นมาก็แสดงว่าขนมสุก

**เคล็ดไม่ลับ.....ควรต้มน้ำให้เดือดพล่านเสียก่อน นำซึ้งขนมวางลงไป ก็รีบหรี่ไฟให้เป็นไฟอ่อนทันที

นึ่งสุกแล้วจ้า....



พอขนมนึ่งสุก....ให้รีบนำออกจากพิมพ์ วางบนตระแกรง ผึ่งลมให้เย็นตัวทันที พอขนมเย็นตัวลงแล้ว ก็บรรจุใส่ถุง หรือกล่องที่กันลมได้ สามารถเก็บไว้ได้ 1-2 วัน โดยไม่ต้องเข้าตู้เย็น แต่ที่บ้าน...ถ้าไม่เป็นปางห้ามญาติเอาไว้ก่อน เป็นหมดตั้งแต่นึ่งสุกเชียวละค้า รูปนี้....ใช้พิมพ์เล็กสุด สำหรับตัวเอง...ว่ามันกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักดี (ถึงจะเสียเวลาตอนหยอดหน่อย) แต่คนกิน เค้าบอกว่า...พอจับใส่ปาก ยังไม่ทันรู้รสว่าเป็นปุยฝ้าย ก็ละลายหายปายแย้ว



ความที่โดนต่อว่ามา.....ทำครั้งหลัง ๆ จะใช้พิมพ์ขนาดกลางค้า



โคสอัพให้ดูใกล้ ๆ กันหน่อย



จากสูตรที่เขียนไว้ด้านบน.....และทดลองทำมาแล้ว (พอดีที่บ้านมีพิมพ์แค่ 2 ขนาดเท่านั้น) เวลาในการนึ่ง.....ที่เขียนบอกไว้นั้น.....คือเริ่มนับหลังจากวางซึ้ง แล้วหรี่ไฟให้อ่อน ก็หันไปกดเครื่องตั้งเวลาสตาร์ตทันที่ค้า

พิมพ์เล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลาง)...... 3 ซม....จะได้ 48-50 ลูก..... ใช้เวลานึ่ง 7 นาที
พิมพ์กลาง (เส้นผ่าศูนย์กลาง)...... 6 ซม....จะได้ 34-35 ลูก...... ใช้เวลานึ่ง 10 นาที



สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีเอสพี ติดประจำบ้านไว้ .....จะลองสูตรของพี่แดง แห่งเวปแม่เจเจ ทำทานดูก็ได้นะค้า ที่ลิงค์นี้ค้า //www.pantown.com/board.php?id=16288&area=3&name=board3&topic=34&action=view

จบแล้วจ้า......ลากันที่รูปนี้....ขนมปุยฝ้าย....ที่ทำไปให้เพื่อน ๆ ช่วยกันชิมตอนงานมิตติ้งเลี้ยงส่งอ.ปมฯ ขอขอบคุณน้องเอ็ม (Omiya).....ที่ช่วยถ่ายรูปนี้ไว้ให้ด้วยนะจ้า



*ขนมปุ้ยฝ้าย.....เป็นขนมที่ตัวเองมั่นใจมั๊ก ๆ ว่าทำแล้วหน้าตัวเองจะไม่แตกเหมือนหน้าขนม แต่ที่ไหนด้าย ขนมที่นำไปงานเลี้ยงอ.ปมฯ หน้าคนทำแตกยับเยิน เพราะวันที่ทำขนมนั้น....เป็นงานกีฬาสี (อุนโดกัย) ของรร. เจ้าตัวยุ่ง วิ่งวุ่นทั้งวัน ไหนจะแว๊ปไปถ่ายรูป ดูเค้าแข่ง พอมีเวลาก็แว๊ปไปสวนตัดผักเพื่อนำไปแจกเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่จะไปงาน พอเตรียมส่วนผสมเสร็จ ก็ทิ้งเอาไว้ กว่าจะได้กลับมาหยอด นึ่ง นึ่งซึ้งแรก....หน้าแตกสวยแค่ครึ่งเดียว ก็ยังคิดว่าไม่เป็นไร....อ้ายที่ไม่สวยก็เสร็จเจ้าตัวยุ่งปายตามระเบียบ พอนึ่งซึ้งต่อ ๆ มา ก็เป็นอีก....จะลงมือทำใหม่ก็หมดแรง เพราะดึกมากโขแล้ว ต้องจำใจเอาไปทั้งแบบนั้นแระ.....ทำให้จำเป็นบทเรียนเลยว่า.....หลังจากผสมแป้งเสร็จปุ๊ป ควรนึ่งทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ บทเรียนนี้...คงจำปายอีกนานค้า

**มีเพื่อน ๆ น้อง ๆ หลายท่าน.....ได้หลังไมค์ , เมล์ และโทรมาถามกันหลายคนทีเดียว......ว่าทำไมเวลาทำขนมปุ้ยฝ้ายแล้ว พอนึ่งสุก แล้วหน้าขนมไม่แตก ทั้ง ๆ ที่ได้ทำตามทุกขั้นตอนดังที่เขียนไว้ด้านบนแล้ว สาเหตุอาจจะเกิดขึ้นได้จาก

1). ตอนที่เรียงพิมพ์ขนมนั้น...เรียงแน่นเกินไป ควรจัดวางทิ้งระยะให้ห่างหน่อย (อย่าปิดรูจนหมด) เพื่อจะได้มีรูเหลือ ให้ไอน้ำออกมาได้บ้าง

2). หม้อนึ่ง.... ถ้าเป็นแบบฝาแก้ว ควรหาผ้ามาห่อฝาหม้อไว้ชั้นหนึ่ง เพื่อกันไม่ให้มีละอองน้ำเกิดขึ้น แล้วมันจะหยดลงไปในขนม

3). ตอนเปิดฝาหม้อ....ควรต้องรีบหงายฝาทันที เพื่อกันไม่ให้มีน้ำหยดลงไป ถ้าเปิดฝาเช็คแล้วขนมยังไม่สุก จะนึ่งต่อ ก็ควรเช็ดฝาหม้อให้แห้งสนิท


***ขอปิดการให้ Comment ในกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อนนะคะ***

หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีความประสงค์ อยากเพิ่มเติม , ติ ชม หรือมีคำถามใด ๆ กรุณาแวะไปฝากข้อความไว้ได้ที่นี่ค่ะ

♥♥♥ Guestbook .....เล่มที่ 3 ♥♥♥

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และขออภัยในความไม่สะดวก ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ



Create Date : 18 กันยายน 2551
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2552 6:14:18 น. 21 comments
Counter : 23100 Pageviews.

 
แตกสวยทุกอันเลยค่ะพี่เต่า


โดย: ความรักทำให้โลกอ่อนหวาน วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:8:54:23 น.  

 
เย้ๆ สูตรขนมปุยฝ้ายมาแล้ว
อยากรีบลองทำจังเลย แต่โอ๋ไม่มีพิมพ์แบบพี่เต่าเลยค่ะ สงสัยต้องรีบหาซื้อ
ยืนยันด้วยคนค่ะ ว่าขนมปุยฝ้ายของพี่เต่า อร่อยยยยยมากกกกก

ปล. แต่โอ๋ชอบลูกเล็กๆ มากกว่านะคะ ทานพอดีคำดี


โดย: fruitlove วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:9:37:19 น.  

 
สวย ดูนุ่ม น่าตาหน้าหม่ำมากเลยคะ
เคยทำครั้งนึง หน้าไม่แตก ไม่ฟูแบบนี้เลย
กำลังอยากได้สูตรพอดีเลย
ขอบคุณสำหรับสูตรที่แบ่งปันนะคะ


โดย: pumorg วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:11:57:32 น.  

 
แวะมากรี๊ดค่ะพี่เต่า จริงด้วยสีที่ผสมไว้พอนึ่งแล้วเข้มขึ้นเยอะเลย ไม่ได้ทำมานานแล้วเหมือนกัน เคยทำครั้งแรกหน้าก็แตกดีค่ะ พอตอนหลังมัวแต่ทำลายบนขนม ไม่นึ่งทันที ขนมมีแตกไม่กี่ก้อนเอง


โดย: เจซอง วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:12:13:44 น.  

 
เคยทำปุยฝ้ายแล้วใส่สีเขียวผิดเป็นสีเขียวแอ๊ปเปิ้ล อบออกมาสีแป๋นแหล๋นมากค่ะ คราวหน้าต้องแก้ตัวใหม่
ชอบอันเล็ก ๆ แบบนี้จังค่ะ น่ารักแต่ตอนทำนี่ท่าจะเหนื่อย


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:13:20:38 น.  

 
หน้าแตกสวยงามมากเลยจ้า อิอิ


โดย: โกโก้คุง** วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:14:56:57 น.  

 
โอ้โฮ้พี่เต่า เขียนบอกวิธีทำได้ละเอียดมากเลยค่ะ
ลงรูปแป้งและอุปกรณ์ให้ดูด้วย

อยากทำแล้วสิคะ แต่ไม่มีแป้งเอสพีนี่แหล่ะ เฮ้อ

ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่เอาสูตรมาแบ่งน้อง ๆ ด้วย


โดย: Omiya แม่พี่เคนครับ IP: 116.80.49.185 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:19:29:01 น.  

 
ตั้งใจมาดูอย่างแรง มีปัญหาเรื่องเอสพีไม่มีค้ะ
ปุยฝ้ายของโปรดค้ะ อยากทำทานเอง
คุณเต่าทำหน้าแตกสวยเชียว ขอบคุณสำหรับสูตร จะได้ลงมือเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ


โดย: พนอจัน IP: 218.230.58.90 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:19:32:03 น.  

 
สีสวยน่ารักน่าทานมากเลยค่ะ หน้าแตกสวยด้วย


โดย: ก้อย (ฟันคุดน้อยซี่ที่7 ) วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:20:20:58 น.  

 
น่าทานมากๆคะ ...

แต่ต้องไปหาซื้อซึงก่อน... ที่ญี่ปุ่น จะหาซื้อซึงได้ที่ไหนบ้างคะ


โดย: Isapor IP: 59.134.152.131 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:20:25:31 น.  

 
มารอรอบต่อไป อยากกินนนน
เอา 7 สีเลยนะคุณเต่า
จะได้ไม่มีใครเหมือน กร๊าก


โดย: R_may IP: 219.183.43.30 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:22:10:04 น.  

 
หน้าแตกได้อย่างใจเลยนะคะคุณเต่า...เห็นแล้วน่าทานมาก ๆ ค่ะ แถมวิธีทำก็ละเอียดมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ


โดย: Pastel pied วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:14:42:40 น.  

 
โอ๊ววว แตกสวยงามมากเลยคะ
ป้าเรย์ ดันมีความเชื่อว่าต้องไฟแรง ที่แท้เคล็ดลับอยู๋ตรงนี้เหรอคะ
ขอบคุณมากคะ เด่วต้องลองทำดูซะแว้ววววว


โดย: ป้าเรย์ วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:16:30:47 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณเต่า เข้ามาดูเวปคุณอยู่บ่อยๆได้ความรู้เรื่องต่างๆที่คุณเขียนไว้มาเยอะขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย เห็นปุยฝ้ายคุณเต่าแล้วอยากทำดูบ้างแต่ติดที่ตัวสาร เอสพี นี่แหละรบกวนถามคุณเต่าว่าจะใช้อะไรแทนเอสพีตัวนี้ได้บ้างคะอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกันคะ(ชิบะ) กว่าจะได้กลับไปเมืองไทยอีกก็ปีหน้าคะ ...
ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับสูตรอาหาร
และสูตรขนม.


โดย: แม่ยูกิจัง IP: 123.218.160.55 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:12:39:56 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเต่า ขนมหน้าแตกสวยมาก ๆ เมื่อ 2 วันก่อนก็ทำปุยฝ้าย ทำติดกันเลยค่ะ วันแรกหน้าแตกเฉพาะซึ้งแรก พอซึ้ง 2 , 3 ไม่แตกเลยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ม่ายแตกกกกก หรือ วันที่ 2 (มีความพยายามสูงม๊ากก) ยังกล้าทำอีกค่ะ แตกขึ้นดีกว่าเดิมคือบางอันก็มี 3 กลีบ บางอัน 4 กลีบ บางอันแตกนิดหน่อยในซึ่งเดียวกัน ประมาณในรูปของคุณเต่านั้นแหละค่ะ ช่วยแนะนะด้วยนะคะว่าช่วงที่รอนึ่งซึ้งที่ 2 บีบขนมใส่พิมพ์เตรียมรอนึ่งเลยหรือว่าเอาใส่ตู้เย็นก่อนหรือทิ้งไว้ข้างนอก (ถามมากจัง)
อีกนิดส์นึงค่ะที่ต้มน้ำให้เดือดพล่านพอจะนึ่งให้หรี่ไฟให้อ่อน อ่อนแบบว่ายังเดือนอยู่ใช้หรือไม่ค่ะ และซึ้งที่ 2 จะนึ่งต่อให้นึ่งเลยหรือว่าเร่งไฟให้น้ำเดือนพล่าน จะนึ่งค่อยหรี่ไฟ หรือไม่ต้อง นึ่งต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ งงไม่ค่ะเนี้ย ขอบคุณค่ะ


โดย: กุ้ง IP: 61.19.114.70 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:15:22:28 น.  

 
อีกครั้งค่ะ ขอโทษนะคะพิมพ์ผิดค่ะ เดือดพล่าน ค่ะแต่พิมพ์เป็นเดือน ลืมบอกว่าสูตรที่ทำเป็นสูตรของ UFM เหมือนกันค่ะ


โดย: กุ้ง IP: 61.19.114.70 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:15:25:31 น.  

 
ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านที่แวะมาช่วยชิมนะค้า ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้สามารถจะตอบไล่ตามคห.ได้ครบทุกท่าน เอาเป็นว่า....ขอตอบแต่จุดใหญ่ประการสำคัญนะค้า

คุณเจซอง.....อย่างที่พี่เขียนบอกไว้ท้ายสุด (ตัวแดง) เจอกะตัวเองหน้าแตกยับเยินเลยละจ้า

คุณบาบิบูเบะฯ......ใส่สีให้น้อยไว้หน่อยดีกว่า ถ้านึ่งไปแล้วสีอ่อนไป เราค่อยผสมเติมได้ แต่ถ้าเล่นสีแก่....แก้ม่ายด้าย ถ้าใช้วิธีหยอดแป้งแบบเต่า....ถึงลูกเล็กก็ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกค้า ติดที่คนกิน...เค้าติเตียนมา ว่ามานไม่รู้รส (แอบแซว....คนที่อยากกิน 7 สี ว่าแต่คุณนายจะเอาไปเล่นสนุ๊กเหรอจ้า)

คุณIsapor....รังถึง (ซึ้ง) ที่ญี่ปุ่นมีขายทั่วไปตามแผนกเครื่องครัวค่ะ เลือกได้ตามความขนาดและความชอบค่ะ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีเอสพี.....ลองใช้สูตรของป้าแดงที่ให้ลิงค์เอาไว้ทำทานดูนะคะ แต่อันที่จริง....ที่ญี่ปุ่นสารเสริมทุกประเภท หาซื้อค่อนข้างยากมากส์ เพราะสูตรของทางนี้ (จากที่ไปเรียนมา)....เค้าจะเน้นที่วิธีการตีไข่ให้ขึ้นฟู จนตั้งยอดได้ เวลาผสมแป้งก็ตล่อมผสมอย่างเบามือ คุณสมบัติของเอสพี...เป็นตัวช่วยให้ส่วนผสมที่เราตีขึ้นฟูได้เร็วขึ้น รวมทั้งไม่ยุบตัวนะคะ ตอนกลับไปเมืองไทยคราวที่แล้ว.....เต่าก็ขนซื้อเจ้าพวกสารเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เอสพี , อีซี 25 เค , วาโอเล็ต กันเหนียวเอาไว้ เผื่อไปอ่านเจอสูตรของเพื่อน ๆ ทางเมืองไทย เราจะได้มีไว้ใช้นะค้า สนนราคา....ก็ไม่แพง ถึงไม่ได้ใช้ มันหมดอายุไปก่อนก็ทิ้งปาย

สำหรับสูตรนี้....ตอนที่ยังไม่มีเอสพี เต่าก็เคยทำแบบไม่ใส่เหมือนกัน แต่ต้องใช้เวลาในการ "ตีไข่+น้ำ+น้ำตาลทราย" จนขึ้นขาวฟูตั้งยอดได้ ค่อยใส่แป้ง แล้วก็ต้องทำแบบเบามือจริง ๆ

คุณกุ้ง....การนึ่ง...ได้เขียนบอกไว้แล้ว แต่จะบอกรายละเอียดอีกครั้งนะคะ ซึ้งแรกที่เรานึ่งเสร็จ พอยกลงมา ดูน้ำก่อนว่าปริมาณยังมากพอไหม? ถ้ามากพอ ก็หรี่ไฟเตาไฟให้อ่อน ถ้าน้ำน้อยลงก็เติมน้ำเพิ่มลงไป ปิดฝาหม้อเอาไว้ด้วย พอเราเริ่มมาหยอดแป้งในซึ้งต่อ ๆ มาเสร็จ (แป้งที่เหลือ...เต่าก็ไว้ข้างนอก ไม่ได้นำเข้าตู้เย็นหรอกจ้า) ก็ไปเร่งไฟให้น้ำมันเดือดพล่านจริง ๆ อีกครั้ง ก่อนยกนึ่ง...ก็หรี่ไฟลงให้อ่อน น้ำมันจะแค่เดือดปุ๊ด ๆ เท่านั้นเอง

อันที่จริง....ถ้ามีซึ้ง 2 อัน จะสะดวกยิ่งขึ้น เพราะเราสามารถหยอดแป้งรอเอาไว้ก่อนได้เลย พอซึ้งแรกสุก ก็ยกซึ้งที่ 2 ลงนึ่งต่อเลยทันที

คงพอเป็นแนวทางให้ทุกท่านได้บ้างนะค้า ขอให้ได้ปุ้ยฝ้ายหน้าแตกสวยงามทุกท่าน รอชิมผลงานของทุกท่านด้วยนะค้า


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:18:10:53 น.  

 
ขอบคุณค่ะ...คุณเต่า ลิงค์ที่คุณให้ไว้เปิดเข้าไปดูแล้วเป็นภาษาอะไรก็ไม่ทราบ..ที่ซุบเปอร์ฯของญี่ปุ่นเคยเห็นมีแป้งทำขนมปุยฝ้ายสำเร็จรูปนะ..คุณเต่า
เคยใช้แป้งตัวนี้ทำหรือเปล่าคะ..ส่วนสูตรของคุณเต่าคงจะต้องรอสารเอสพี
ละค่ะ.


โดย: แม่ยูกิจัง IP: 123.218.160.55 วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:8:32:17 น.  

 
แม่ยูกิจัง....อ๊าว...ทำไมเปิดลิงค์เข้าไปอ่านไม่ได้ละค้า ลองเปลี่ยนภาษาหรือยังคะ? เอาเป็นว่าก๊อบสูตรมาแปะไว้ให้ตรงนี้ให้เลยดีกว่าเน้อ....เผื่ออยากลองทำทานไปพลาง ๆ ก่อน

ขนมปุยฝ้ายแบบไม่ง้อเอสพี.....ของพี่แดง แห่งเวปบ้านแม่เจเจค่ะ

ส่วนผสม
แป้งอเนกประสงค์...... 300 กรัม
ไข่เป็ด...... 4 ฟอง
น้ำตาลทราย....... 400 กรัม
น้ำ......... 125 กรัม
น้ำมะนาว....... 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำหอมกลิ่นนมแมว....... 1 ช้อนชา หรือกลิ่นตามชอบ
สีผสมอาหารตามชอบ
** ป้าแดงแอบใส่ผงฟูไป 1 ช้อนชา **

วิธีทำ

ร่อนแป้ง ตีไข่จนขึ้นฟูแล้วค่อยใส่น้ำตาลทราย ตีจนส่วนผสมจนขึ้นฟู เติมแป้งสลับกับน้ำและน้ำมะนาว เติมน้ำหอมคนตะล่อมเบา จนส่วนผสมเข้ากัน แบ่งมาผสมสีตามต้องการ หยอดลงพิมพ์ นึ่งในน้ำพล่านพอจะนึ่งใช้ไฟออ่นปานกลาง นานประมาณ 10 นาที

** วิธีการทำเหมือนกับที่เต่านำเสนอไว้ค่ะ

ที่ซุบเปอร์ฯของญี่ปุ่นเต่าไม่เคยเห็นมีแป้งทำขนมปุยฝ้ายสำเร็จรูปของไทยเราเลยค่ะ มีแต่พวกเค้กนึ่ง ที่เรียกกว่า....มูชิเค้ก หรือ มูชิปัง ถ้าเป็นเจ้าพวกนี้....เคยซื้อมาใช้เหมือนกันค่ะ แต่เนื้อมันจะค่อนข้างแน่น ไม่นุ่มเท่าขนมปุ้ยฝ้ายของบ้านเรา

แหม๋....ถ้าอยู่ใกล้ ๆ ก็ดีเน้อ จะได้แบ่งเอสพี ไปให้ช่วยใช้บ้าง


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:6:01:57 น.  

 
หวัดดีค่ะ..ดีใจจังที่อุตส่าห์เขียนสูตรมาแปะให้ ขอบคุณคะเข้าไปดูในเวปแม่เจเจแล้วคะ สูตรต้นๆของเวปดูได้แต่สูตรกลางๆค่อนข้างไปทางปลายเวปจะอ่านไม่ได้(เปลี่ยนภาษาแล้วคะ)ตอนแรกนึกว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นให้สามีดูแกบอกว่าอ่านไม่ได้ จะเป็นแบบนี้ทุกห้องเลยคะลองเปิดดูหลายครั้งแล้วไม่ทราบว่าเพื่อนๆคนอื่นๆเค้าจะเป็นแบบแม่ยูกิจังหรือเปล่า.
ใช้คะคุณเต่าเค้าเรียก "มูชิปัง" แม่ยูกิจังเรียกผิด..จะเก็บสูตรนี้ไว้ลองทำดู..
เน้อ..ถ้าอยู่ใกล้กันก็ดีคุณเต่าอยู่ไกลจากชิบะมากมั้ยคะ..ขอบคุณอีกครั้งสำหรับสูตรขนมคะ...


โดย: แม่ยูกิจัง IP: 123.218.160.55 วันที่: 2 ตุลาคม 2551 เวลา:11:15:20 น.  

 
แม่ยูกิจัง......เต่าอยู่จ.ไซตะมะค่ะ แต่ใกล้ทางโตเกียว ถ้าแม่ยูกิจัง....พอจะสะดวกมาแถบอิเคบุโกะโระ หรือ ชินจูกุ คราวหน้า....ถ้านัดทานข้าวกะเพื่อน ๆ ถ้ามาไหว ก็แว๊ปมาพบกันก็ได้ค้า จะได้แบ่งเอสพี...ไปให้ใช้ค่ะ


โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:7:08:02 น.  

เต่าญี่ปุ่น
Location :
埼玉県 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 234 คน [?]




ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ จุดประสงค์หลักก็คือ... อยากเก็บประสพการณ์ต่าง ๆ ของชีวิตในต่างแดน (ญี่ปุ่น) ซึ่งได้อยู่มาเข้ารอบปีที่ 15 แล้ว เพื่อบันทึกความทรงจำ กันลืม เพราะแกร่แย้วววว ^o^ มีหลายเรื่องที่อยากเขียน....จนตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกเรื่องไหนเป็นหลัก......"รักพี่เสียดายน้อง" ไหน ๆ ก็ตัดใจเลือกไม่ได้ ก็เขียนมันเสียทุกเรื่องจะดีกว่าเนอะ.... บล๊อคนี้...ก็เลยกลายเป็น " บล๊อคจับฉ่าย " อย่างที่เพื่อน ๆ เห็นละนี้แระคร้า
Friends' blogs
[Add เต่าญี่ปุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.