|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
ชวนไปท่องเมืองกาญจนบุรีกันค่ะ (ตอนที่ 2) |
|
ลีลาหลายท่าหลายทาง ตามที่ ตากล้องสั่งให้ทำ ค่ะ อิอิ ประมาณ 10 โมงได้ พวกเราก็ออกเดินทางไปที่ บ้าน ช.ช้างชรา เพื่อทำกิกรรม CSR ซึ่งนัดไว้ 11 โมง ค่ะ
ก่อนอื่น เรามาทราบเรื่องราวของ CSR คือ อะไร ก่อน นะคะ CSR ย่อมาจาก Corporate Social Responsibility ความหมาย คือ ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร ซึ่งก็คือ การดำเนินกิจการภายใต้หลักจริยธรรมและการจัดการที่ดี โดย รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูงสุด คือ การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการทำ CSR เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารทางการตลาด อีกคำจำกัดความหนึ่ง อธิบายว่า CSR คือ การที่บริษัท ส่งเสริมการ พัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยทำงานร่วมกับ ลูกจ้างและครอบครัวของเขา ชุมชน และสังคมโดยกว้าง เพื่อจะ พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของสังคมโดยรวม
จากความหมาย ดังกล่าว การที่กลุ่มธาตุทอง 2 ส มาทำกิจกรรมที่บ้าน ช.ช้างชรา จึงเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ ที่ทำเพื่อเสริมให้ บ้าน ช.ช้างชราได้พัฒนาคุณภาพชีวิตของช้างให้ดีขึ้น เป็นกิจกรรม ส่งเสริมให้ ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี (บ้าน ช.ช้างชรา) ได้พัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน แม้กิจกรรมของเราจะมีเพียงน้อยนิด ไม่ได้ มากมายอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นการริเริ่มที่ดีต่อไป ประวัติความเป็นมาของ บ้าน ช.ช้างชรา หรือมีชื่อในทางการว่า "ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี" ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 บ้านหนองหอย ต. วังด้ง อ.เมือง จ. กาญจนบุรี เนื้อที่ 130 ไร่ ห่างจากตัวเมือง 32 กิโลเมตร เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2551 ผู้ก่อตั้ง คือ นายสัตวแพทย์ สามารถ ประสิทธิผล ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงาน ปศุสัตว์ จ. กาญจนบุรี ผู้ซึ่งคลุกคลีอยู่กับช้างตลอดชีวิตการทำงานที่ กรมปศุสัตว์ คุณสามารถ ประสิทธิผล จึงเห็นปัญหาของช้างด้อย โอกาส ช้างชรา ช้างที่บาดเจ็บ ขาดการดูแลสุขภาพ ช้างที่ไม่ สามารถทำงานตามปางช้างต่าง ๆ ได้ ช้างเร่ร่อนในกรุงเทพฯ เป็นต้น คุณหมอ สามารถ จึงได้มองหาสถานที่สำหรับแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดังกล่าวมาข้างต้นนั้น ซึ่งต้องเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมในการเลี้ยงดู ช้าง มีความเป็นธรรมชาติ มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับช้างได้ได้ใกล้ชิด และการเรียนรู้ในการใช้ชีวิตซึ่งกันและกันท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ เป็นธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยวและอาสาสมัครผู้รักช้างและ ต้องการให้ช้างไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและเป็นสุข
กิจกรรมที่ทำร่วมกัน มีการปลูกพืชที่เป็นอาหารของช้าง เช่น กล้วย อ้อย สับปะรด ฟักทอง หญ้าบานา เลี้ยงช้าง กิจกรรมเลี้ยงอาหาร ช้าง อาบน้ำร่วมกับช้าง การดูแลสุขภาพช้าง เป็นต้น
ประวัติ นายสัตวแพทย์ สามารถ ประสิทธิผล ผู้ก่อตั้ง ศูนย์อนุรักษ์ ช้าง แห่งนี้ เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี เรียนถึง ม.5 สอบเทียบได้ มีความตั้งใจ ต้องการเป็นแพทย์รักษาคน แต่ก็ติดเป็นแพทย์รักษาสัตว์ แทน ที่ ม.เกษตร ปีแรก เป็นเซลล์ 1 ปี ปีต่อมา สอบทำงานที่กรม ปศุสัตว์ที่เป็นสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จ. สุรินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาได้สัผัสกับช้าง ได้รักษาช้าง ได้รู้จักชีวิตชาวส่วย หรือชาวกุ๋ยเลี้ยงช้าง และได้พบคู่ชีวิต คือ คุณน้ำฝน มีบุตรสาว 1 คน
ต่อมาเนื่องจากเจ็บป่วยหนัก ด้วยถุงน้ำรั่วในสมอง ได้รับการรักษา จาก โรงพยาบาล ศิริราช หลังจากหายแล้วได้ย้ายมารับราชการที่ เมืองกาญจนบุรี ถึงปัจจุบันนี้
จากประสบการณ์ที่คลุกคลีกับช้างโดยตลอดชีวิตการรับราชการ จึงรู้ เรื่องปัญหาเกี่ยวกับช้างไทย ในความเป็นหมอรักษาสัตว์ อยาก ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของช้างดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น จึงคิดตั้ง ศูนย์อนุรักษ์ช้าง กาญจนบุรี หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ้าน ช.ช้าง ชรา โดยได้รวบรวมเงินส่วนตัว บางส่วนหยิบยืมจากครอบครัว เพื่อนฝูงที่มีอุดมการเกี่ยวกับความรักช้าง การก่อตั้งสำเร็จได้ตาม เราเห็นในปัจจุบันนี้ ค่ะ โครงการต่าง ๆ ที่ ศูนย์ได้จัดทำ คือ 1.โครงการช่วยเหลือช้างเร่ร่อนในกรุงเทพฯ 2. โครงการอุปการะช้าง 3. โครงการไถ่ชีวิตช้าง 4.โครงการปลูกพืชอาหารช้าง หนทางที่เราสามารถช่วยเหลือทางศูนย์ฯ ได้ เช่น 1. ร่วมเป็นอาสาสมัครตามโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ 2.ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ เพื่อช่วยเป็นค่าอาหารและกิจกรรมของศูนย์ฯ โดยโอนเข้าธนาคารดรุงเทพ สาขา กาญจนบุรี บัญชี มูลนิธิ บ้าน ช.ช้างชรา เลขบัญชี 327-4-27954-0 3. เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี โทร.034-514806 หรือ 086-335-5332
ฉันขอเชิญชวน เพื่อนชาวบล็อกและผู้ที่ได้เข้ามาอ่านงานกิจกรรมครั้ง นี้ มีโอกาสก็ขอเชิญชวนไปร่วมบริจาค ไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับ ช้าง เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของช้างดีขึ้น ศูนย์อนุรักษ์ช้างฯ ได้ อยู่ช่วยเหลือช้างต่อไปอย่างมั่นคง ถาวรตลอดไป ค่ะ
พวกเราเดินทางมาถึงที่ศูนย์ฯ น่าจะประมาณ 11 โมงเศษ ๆ รถของ หนึ่ง เดช ลอ มาถึงแล้ว ส่วนรถซิงค์มาหลังสุด เพราะหลงทาง ต้องถามชาวบ้านที่ขี่มอเตอร์ไซด์มา ลุงคนนั้น ก็ใจดีมาก บอกให้ รถของเราขับตามมอเตอร์ไซด์ของเขา ซึ่งจะขับนำหน้าเราไป ในที่สุด รถซิงค์ซึ่งมีฉัน มีเดือนอยู่ด้วย ก็มาถึงที่ศูนย์
นี่เป็นสถานที่ส่วนหนึ่งของศูนย์อนุรักษ์ช้าง ฯ ค่ะ
ฟัง คุณเอ็ม เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่มาต้อนรับอธิบายเกี่ยวกับเรื่องช้าง
ขณะที่รอ ผันและใบหม่อน ซึ่งจะตามมาร่วมกิจกรรม เราก็นั่งคุยกันไป
นี่เป็นทางเดินไปเมื่อจะทำกิจกรรม เกี่ยวกับช้างและทานข้างเที่ยง
ทางศูนย์ ฯ มีแจกน้ำและใส่ไว้ในถุงผ้าที่เป็นชิ้นงานของคนในศูนย์ สวยงาม สามารถสะพายได้ มีกุ้งเป็นพรีเซ็นต์เตอร์ ค่ะ
ฟังการเล่าเรื่องความเป็นมาของศูนย์อนุรักษ์ช้าง ฯ จาก สัตวแพทย์ สามารถ ประสิทธิผล ค่ะ เมื่อทุกคนมาครบแล้ว
หลังฟังคำบรรยายของ คุณสามารถแล้ว มีการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก
นี่เป็นสติ๊กเกอร์ ช่วยประชาสัมพันธ์ของศูนย์อนุรักษ์ช้าง ค่ะ
ก่อนที่เริ่มกิจกรรมต่าง ๆ ตามกำหนดการของที่ศูนย์อนุรักษ์ฯคุณเอ็ม ก็พาพวกเราไปที่ที่สำหรับทานอาหารมื้อเที่ยง ซึ่งเป็นอาหารบุฟเฟ่ วันนี้นอกจากกลุ่มเราประมาณ 14 คนแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วม ทำกิจกรรมที่ศูนย์อีกกลุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบ ทั้งหมดเลย ค่ะ ทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเราก็มอบเงินซึ่ง เก๋เดิน เก็บจากสมาชิกที่มาร่วมกิจกรรม ส่วนใหญ่คงให้กันคนละร้อยบาท รวมทั้งฉันด้วย หรือใครจะให้มากหรือน้อยกว่านี้ ฉันก็ไม่ทราบ เด็ก ๆ ให้ฉันเป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคนี้ให้กับ นายสัตวแพทย์ สามารถ ประสิทธิผล มาชมภาพ ค่ะ
ฉันมอบเงินที่พวกเราบริจาค และอวยพรให้คุณสามารถ ผู้เสียสละมา ช่วยช้างที่มีปัญหาดังกล่าว ขอให้เขามีความสุข ความเจริญ สมกับความดีงามของเขาที่จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้าง ฯ
กล่าวมอบเงินบริจาคและอวยพร ค่ะ
ถ่ายรูปหมู่กัน ตอนมอบเงินบริจาค ค่ะ
หลังจากมอบเงินเสร็จ ก็ไปถ่ายรูปกับช้างก่อนที่จะไปทำกิจกรรมที่ทาง ศูนย์ ฯเตรียมไว้ ก่อนที่เสื้อเหลืองทีมของเราจะเลอะเทอะ ค่ะ
ช้างแต่ละเชือก มีชื่อทุกเชือก วิทยากรบอกชื่อ แต่จำไม่ได้เลย อิอิ ช้างมีความเชื่องมาก ยอมให้พวกเราอยู่ใกล้ ๆ แต่ถ้านานไปแล้ว แถมไม่มีอาหารให้กิน มันก็เดินจากไป นะเนี่ย อิอิ
หลังจากถ่ายรูปกับช้างสองเชือกที่เห็นแล้ว คุณเอ็มก็พาพวกเราไปทำ กิจกรรมแรก นั่นคือ การทำอาหารให้ช้างกิน ค่ะ ช่วงนั้น ฝนตกหนัก ทีเดียว แต่พวกเราบางส่วน รวมทั้งฉันด้วย ก็วิ่งฝ่าสายฝนไปยัง ที่จะทำอาหารให้ช้างกิน สังเกตได้ว่า คนที่วิ่งฝ่าสายฝนมา ผมเผ้า จะเปียกแฉะ ๆ อยู่
อาหารที่คุณเอ็มให้พวกเราทำ ก็คือ เขานำกล้วยน้ำว้าหลายหวี มาให้เราปอกเปลือกใส่ถาด ที่เตรียมให้พวกเรา เสร็จแล้วให้ขยำกล้วยที่ปอดนั้นให้เละ ๆ จากนั้น คุณเอ็มก็นำหญ้า (ชื่อ หญ้าบานา) เป็น หญ้าที่มีประโยชน์บำรุงสุขภาพของช้าง นำหญ้านั้น มาผสมลงใน กล้วยที่เราขยำ แล้วนำมาปั้นเป็นก้อน ๆ เพื่อป้อนให้ช้าง 3 เชือก ซึ่งมารออยู่บริเวณนั้น พวกมันคงหิวมากแล้ว คงเห็นเราทำไม ปั้นช้านัก มันเลยเดินเข้ามายังที่เราปั้นอาหารช้างอยู่ ทุกคนก็คง ตกใจแหละนะ เดินหนีกัน หลบกันไป ควาญช้างและคุณเอ็ม ออก เสียงไล่ บอกให้รอก่อน แล้วกวาดเปลือกกล้วยให้ไปกินก่อน พอ เปลือกกล้วยหมดแล้ว มันก็เดินเข้ามาหาอีก ตอนนี้ พวกเราปั้นกัน เสร็จแล้ว ก็นำไปป้อนให้ กล้า ๆ กลัว ๆ ในเวลาป้อน แต่ในที่สุด พวกเราก็ป้อนพวกมันจนหมด แต่คิดว่า คงไม่อิ่มหรอก เพราะมี อาหารไม่มากนัก เดี๋ยวพวกควาญช้างคงพาไปกินอาหารอย่างอื่น ต่อไป น่ะนะ ฉันเดาเอา
ปอกกล้วยเสร็จ ก็มีการขยำกล้วยให้เละๆ เพื่อผสมกับหญ้า บานา ค่ะ
ภาพบน ช้างมารอกินอาหารที่พวกเรากำลังทำ ค่ะ ภาพล่าง คุณเอ็ม กำลังอธิบายการทำอาหารช้าง ค่ะ
โชว์อาหารช้างที่ทำเสร็จแล้ว และป้อนให้ช้างกิน ค่ะ
กิจกรรมที่สอง ก็คือ การไปที่ห้องเก็บผลไม้ เพื่อเตรียมผลไม้ เช่น แตงโม กล้วย ฟักทอง ฯลฯ ผลไม้เหล่านี้ ต้องมีการล้างทำความ สะอาดด้วยการแช่ด่างทับทิมก่อนที่จะนำไปเลี้ยงช้างด้วย ค่ะ
ทำความสะอาดผลไม้ก่อนที่จะนำไปเลี้ยงช้างในกิจกรรมที่สอง ค่ะ
นี่เป็นช้างแม่ลูก ซึ่งมีอยู่สองคอก มีลูกช้างอยู่กับแม่ช้างด้วย ทั้งสอง คอก มีชื่อทั้งเชือกแม่ และ เชือกลูก แต่ฉันจำชื่อไม่ได้ ค่ะ อิอิ
ท่าของกุ้งตอนป้อนช้าง ดูกลัวช้าง เนาะ จากกิจกรรมนี้แล้ว ก็เป็นกิจกรรมที่ 3 คือ กิจกรรมเล่นโคลน ทาโคลน ให้ช้าง ค่ะ คือ ช้างจะอยู่ใน โคลน แล้วพวกเรา ก็ควักโคลนจากที่ ช้างยืนอยู่นั้น ช่วยทาให้ช้าง ซึ่งต้องเลอะเทอะแน่นอน ตอนต้น ว่าจะไม่ลง แต่คิด ๆ อีกที มาแล้ว ก็ต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้ครบ ก็เลยตามสมาชิกลงไปสนุกด้วย แต่ ผัน ไม่ลงด้วย คนเดียว ทุกคนลงไป ทาโคลนให้ช้าง ช้างก็น่ารัก ยืนให้ นักท่องเที่ยวทา โคลน อย่างเรียบร้อย เหมือนได้รับการฝึกมาให้ร่วมกิจกรรมกับ นักท่องเที่ยวด้วย แทนที่จะแช่ และเล่นโคลนเพียงลำพังค่ะ มี นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ค่ะ มาชมภาพ ค่ะ
พวกเราต้องนั่งรถสองแถวของทางศูนย์ฯ ไปยังบ่อโคลนที่มีช้างรอ อยู่ ค่ะ
บ่อโคลนที่ช้างมารอแช่โคลนและเล่นโคลนกับนักท่องเที่ยว ค่ะ
นักท่องเที่ยวรวมทั้งพวกเรา เตรียมลงเล่นโคลนกับช้าง ค่ะ
ช่วงนี้ จะมี ชลอและหนึ่ง เป็น ตากล้องถ่ายรูปการร่วมกิจกรรมให้ พวกเรา ค่ะ
ทุกคนร่วมกิจกรรมทาโคลนให้ช้างอย่างสนุกสนาน ค่ะ
กิจกรรมที่ 4 เป็นกิจกรรมอาบน้ำให้ช้าง กิจกรรมที่ 4 นี้ เป็นกิจกรรม ที่สนุกที่สุด ช้างเองก็ชอบมาก ลูกช้างตัวเล็ก สนุกสุดเหวี่ยง มัน นอนตะแคงกับน้ำ ใช้ขาถีบน้ำ ใช้จมูกพ่นน้ำ อย่างสนุกสนาน เล่นกับ นักท่องเที่ยว ก่อนลงไปอาบน้ำให้ช้าง คุณเอ็มก็แจกเครื่องมือให้ เช่น ขันน้ำ ไม้ขัดพื้น เพื่อไปตักน้ำอาบน้ำให้ช้าง ส่วนแปรง ก็นำ ไปขัดตัวให้ช้าง ค่ะ ตอนนี้แหละ ทุกคนต้องเปียกแน่นอน เพราะว่า เราต้องเดินลุยน้ำไปหาช้าง ซึ่งช้างเดินลงแม่น้ำเตรียมให้พวกเรา อาบน้ำและเล่นน้ำกับมัน ช้างเป็นสัตว์ที่ฉลาด พวกมันรู้เวลา เดิน มาทำกิจกรรมตรงเวลาของมัน โดยมีควาญช้าง เป็นผู้ควบคุมและ ป้องกัน เผื่อมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้น ค่ะ มาชมภาพที่แสนจะสนุนสนาน ในการทำกิจกรรมอาบน้ำให้ช้าง ครั้งนี้ ค่ะ
ครั้งนี้ หมอซิงค์รู้สึกจะสนุกสนานกว่าเพื่อน เลยค่ะ
เจ้าตัวเล็ก นอนลงตะแคงให้ซิงค์ขัดหนังอย่างสบายอารมณ์เลยทีเดียว
ตอนนี้ เริ่มเล่นควักน้ำ สาดน้ำ กันและกันของพวกเรา อย่าง สนุกสนาน จนมีการเล่นผลักกันจนหงายหลังตกน้ำ เคือง ๆ กันไป
เจ้าตัวเล็ก นอนแช่น้ำให้พวกเราขัดสีฉวีวรรณอย่างสบายอารมณ์
สมควรแก่เวลาแล้ว พวกเราก็ขึ้นจากน้ำ เพื่อเตรียมไปอาบน้ำเปลี่ยน เสื้อผ้า พวกเราก็ต้องขึ้นรถสองแถวกลับมาสู่ที่เดิม (ที่กินข้าว)
ขึ้นจากน้ำแล้ว ช้างหลายเชือกก็ลงไปคลุกกับทรายในบริเวณแหล่ง น้ำ ฉันถามคุณเอ็มว่า มันทำอะไร อาบน้ำสะอาดแล้ว ทำไมจึง ไปคลุกดินคลุกทรายให้สกปรกอีกล่ะ คุณเอ็มตอบว่า นั่นคือ เหมือน การทาแปังของช้าง ค่ะ เออ ! แปลกดีเนาะ ขึ้นจากน้ำแล้ว ฉันกับเดือนก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้ว ทางศูนย์ ก็มีอาหารว่างคือ ขนมคุกกี้ และน้ำผลไม้เย็น ๆ ให้ นักท่องเที่ยวได้ทานกันด้วย ค่ะ กิจกรรมที่ 5 ของวันนี้ คือ เลี้ยงหญ้าช้าง เลี้ยง ข้าวโพดช้างอีก กิจกรรมหนึ่ง ด้วยค่ะ
เลี้ยงช้าง ด้วยหญ้าและข้าวโพด เป็นกิจกรรม สุดท้ายของวันนี้ ค่ะ น่าจะประมาณ ห้าโมงเย็นแล้ว พวกเราก็อำลาเจ้าหน้าที่ของ ศูนย์ฯ เพื่อกลับที่พัก ส่วน ซิงค์และกุ้ง ต้องกลับกรุงเทพฯ เพราะมี งานที่จะต้องทำต่อไปในวันจันทร์ ค่ะ
อาหารมื้อเย็นวันนี้ เป็นส้มตำไทย ส้มตำปลาร้า แล้วแต่เลือกกิน แล้ว แต่คนชอบ นอกจากนี้ ก็มีไก่แช่น้ำปลาทอด ไก่ชุบแป้งทอด ไก่แช่น้ำปลาทอดของเขารสชาติกลมกล่อมดี ไม่เค็ม กำลังดี ยิ่ง ทอดมาร้อน ๆ อาหารดูเหมือนมีต้มยำด้วย มีการเปิดคาราโอเกะ ร้องเพลงกัน ดื่มเบียร์ สุรากัน เหมือนเมื่อคืน ค่ะ
สนุกสนานกันเต็มที่ สุดเหวี่ยงกันไปเลย่ ค่ะ
รายการอาหารเย็นวันที่ 2 ค่ะ อร่อยทุกอย่าง ค่ะ
เซลฟี่กันสักรูป ค่ะ
นักร้องเดือนและเจี๊ยบ สนุกสนานกับการร้องเพลง ค่ะ
ฉันอยู่สนุกสนานกับพวกเด็ก ๆ ถึงประมาณ 3 ทุ่ม ก็ขอตัวไปอาบน้ำ ดูละครในห้องแล้ว วันนี้ก็เหนื่อยกับกิจกรรม CSR พอประมาณ ปล่อยพวกผู้ชายสนุกสนานกันไป
กิจกรรมวันที่ 13 วันนี้ ก็จบลงอีกวันหนึ่ง วันดี ๆ วันที่ตรงกับวัน สวรรคตของพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยและเป็นวันที่เราได้ ทำกิจกรรมดี ๆ ในวันนี้ ฉันและพวกลูกศิษย์ ทำกิจกรรมดี ๆนี้ ขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน ขอให้พระองค์ท่าน สถิตอยู่บนสรวงสวรรค์และคอยปกป้องประเทศไทย ประชาชน ชาวไทยให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป ค่ะ
โปรดติดตามตอนที่ 3 ต่อไป นะคะ
Create Date : 30 ตุลาคม 2562 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2562 21:03:12 น. |
|
28 comments
|
Counter : 1381 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณชีริว, คุณtoor36, คุณRananrin, คุณ**mp5**, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณเพรางาย, คุณNior Heavens Five, คุณThe Kop Civil |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:14:37 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา:11:39:26 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา:21:36:54 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา:23:15:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:05:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2562 เวลา:11:13:16 น. |
|
|
|
โดย: Rananrin วันที่: 6 พฤศจิกายน 2562 เวลา:13:58:12 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 6 พฤศจิกายน 2562 เวลา:17:27:07 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2562 เวลา:23:34:28 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา:3:16:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:02:25 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา:14:43:36 น. |
|
|
|
โดย: เพรางาย วันที่: 7 พฤศจิกายน 2562 เวลา:17:32:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:35:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 พฤศจิกายน 2562 เวลา:12:23:19 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:34:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา:19:43:45 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา:23:36:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤศจิกายน 2562 เวลา:4:21:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 พฤศจิกายน 2562 เวลา:20:42:48 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 10 พฤศจิกายน 2562 เวลา:21:16:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤศจิกายน 2562 เวลา:6:14:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤศจิกายน 2562 เวลา:10:45:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์ |
|
Rss Feed |
| Smember | | ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]
|
เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ
http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif |
|
|
|
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์
นอกจากจะได้ท่องเที่ยวแล้ว
ยังมีกิจกรรมดีดีให้ทำด้วย
เป็นทั้งการเที่ยวพักผ่อน
และทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นไปด้วย
ยอดเยี่ยมมากเลยครับ
โหวตครับ