Group Blog
 
All Blogs
 
กัวลาลัมเปอร์ เที่ยวใกล้ๆง่ายนิดเดียว # 1 Genting

เปิดศักราชใหม่มา ผมก็มี trip ที่วางแผนไว้คร่าวๆ (ทั้งที่จองตั๋วแล้ว และยังไม่จอง) ก็ประมาณ 3 trip เข้าไปแล้ว ที่จองไว้ก็คือ

กุมภาพันธ์ กัมพูชา เพื่อไปชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง นครวัด (แต่เครื่องไทยแอร์เอเชียกลับไปลงที่พนมเปญ) ด้วยโปร 0 บาท

มีนาคม มาเลเซีย ลงที่กัวลาลัมเปอร์ โดยขึ้นเครื่องที่หาดใหญ่ ด้วยโปรโมชั่นเปิดเส้นทางใหม่ หาดใหญ่-KL เริ่มที่ 49 บาท

เมษายน กะว่าจะไปญี่ปุ่น T_T

แต่แล้วก็อย่างที่เราๆทราบกันดีครับ ว่า เรามีเรื่องกับเขมร ทริปแรกเลยเป็นหมันงดไปซะก่อน แถมญี่ปุ่นก็โดนซึนามิอีก บวกกับผมดันเจองานช้างช่วงเมษายนแทนซะนี่ก็เลยเหลือ trip เดียวที่ได้เดินทางนั่นก็คือ ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่มีความเจริญไม่แพ้เรา (หรือแซงเราไปแล้วหว่า) อย่างมาเลเซีย

ด้วยค่าตั๋วโปรโมชั่น เปิดเส้นทางบินใหม่ของ Air Asia ที่เปิดเส้นทางบิน หาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ วันละ 1 เที่ยวบิน ด้วยราคาที่นั่งละเพียง 49 บาท รวมแล้วค่าตั๋วไป-กลับเพียง 1,173 บาทเท่านั้น เรียกว่า ถูกกว่าตั๋วไป-กลับหาดใหญ่-กรุงเทพ ซะอีก ใครจะไม่อยากบินไปนอนเล่นที่ KL ล่ะครับเนี่ย

แล้วก่อนเดือนทางประมาณ 1 เดือน (ที่ผมมั่นใจแล้วว่า ได้เดินทางไปเที่ยวแน่ๆ) ผมก็เพิ่มความสะดวกสบายให้ตัวเองซะหน่อยด้วยการสั่งอาหารทั้งขาไปและกลับเพื่อลิ้มลองอาหารจากแอร์เอเชียมาเลย์ซะหน่อย (ไฟลท์นี้บินด้วย AK นะครับไม่ใช่ FD ของไทย) เพราะกล้ำกลืนกับรสชาติอาหารบนเครื่อง FD ที่ทำด้วยร้านสีฟ้ามานาน

แถมด้วยการสั่งซิมการ์ดของ TuneTalk เพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร เรียกว่า ใช้บริการของเครือ Air Asia กันเต็มที่เลยล่ะครับ สำหรับทริปนี้ เพราะทั้งบิน ทั้งพัก (Tune Hotel) ทั้งโทร นี่ขาดแต่ไม่ได้ใช้รถบัส (Sky Bus) ที่เดินทางระหว่างสนามบินกับในเมืองเท่านั้นเอง เพราะว่าผมมีแผนจะเลยไป Genting ก่อนน่ะเอง



ว่าแล้วก็มาสู่การเดินทางกันดีกว่าครับ

เดินทางตอนเที่ยงที่สนามบินหาดใหญ่ ที่ปัจจุบันนี้ ช่วงเที่ยงถึงบ่ายนี่เป็นช่วงที่ยุ่งไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ สำหรับสนามบินหาดใหญ่ เพราะมีเครื่อง ทั้งที่มาจากดอนเมือง (นกแอร์ และโอเรียนไทย) สุวรรณภูมิ (แอร์เอเชีย ส่วนการบินไทยเลิกบินไฟลท์เที่ยงไปซะอย่างนั้น) เชียงใหม่ (แอร์เอเชีย) ภูเก็ต (Happy Air) สิงคโปร์ (Tiger Airways) และกัวลาลัมเปอร์ (แอร์เอเชีย) คิดดูละกันครับว่า การมีงวงเทียบท่าอากาศยานแค่ 2 งวง แต่มีประตู (Gate) เพียง 3 gates จะมีการแย่งยิงกันขนาดไหน เพราะฉะนั้น ใครเดินทางช่วงเที่ยงของสนามบินหาดใหญ่ อย่างนิ่งนอนใจครับ เพราะคิวแถวทุกอย่างจะแน่นมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจ scan ก่อนเข้าอาคารท่าอากาศยาน ไปจนถึงการตรวจ scan ก่อนเข้าห้องผู้โดยสาร



เครื่องแอร์เอเชียบินจากมาเลย์วันนี้โดนเครื่องอื่นยึดงวงไปแล้วครับ ผู้โดยเลยต้องเดินผ่าแดดตอนบ่ายขึ้นเครื่องเอา T_T

ไฟลท์ขาไป AK 771 HDY-KUL (LCCT) 12.55-15.05

ใช้เวลาเดินทาง 1ชม.20 นาที (เวลามาเลย์เร็วกว่าบ้านเรา 1 ชม.นะครับ)



บนเครื่องผู้โดยสารเกือบเต็มครับประมาณ 80% ได้ ผมทำ web check in ช้าไปหน่อย เลยได้ที่นั่ง 15B ไปซะ

และแล้วก็มีเรื่องเครียดๆบนเครื่องนิดหน่อยครับ นั่นคือ ด้วยการถูกนั่งขนาบข้าง ทางซ้ายที่นั่ง 15A เป็นคุณลุงเชื้อสายจีนมาเลย์ ที่ไอไปตลอดทาง ไม่ไอ ก็หลับ แล้วไอก็ไม่เคยปิดปาก (กลิ่นปากลุงก็ไม่ใช่เล่นครับ T_T) ทางขวาเป็นที่นั่ง 15C เป็นคุณป้าเชื้อสายจีนมาเลย์ ที่ตัวค่อนข้างอวบใหญ่ นั่งล้นที่นั่ง และที่พิเศษคือ ป้าแกได้นั่งแกะเศษเนื้อที่ลอกบนฝ่ามือเล่นไปตลอดการเดินทาง ทำให้ที่พื้นตรงที่นั่งของแกเต็มไปด้วยเศษเนื้อขาวๆเต็มไปหมด T_T น่าสยองนิดๆนะครับ

พิเศษ ยังมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ปล่อยมาออกให้ชวนสงสัย ว่ามาจากลุงรึป้ากันแน่ด้วยล่ะครับ ก็ตดน่ะแหละประมาณ 3 ครั้ง T_T



ยังไม่หมดครับ ยังมีของแถมอีกนั่นคือ เก้าอี้ที่ผมนั่ง (15B) ปุ่มปรับเอนเบาะมันหายไปไหนก็ไม่รู้ครับ เลยปรับนอนไม่ได้เลย (ถึงแม้ปกติ เก้าอี้บนเครื่องแอร์เอเชียจะปรับนอนได้ไม่เท่าไหร่ก็เถอะครับ)



ผ่านเรื่องแย่ๆมาเยอะ ช่างมันเถอะครับ สิ่งเล็กๆน้อยในการเดินทาง (ปลอบใจตัวเองเต็มที่เลย)



ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงกว่าๆครับ (เวลาในมาเลยเซียจะไวกว่าเมืองไทย 1 ชม.ครับ) ก็บินมาถึงสนามบิน LCCT หรือชื่อเต็มๆก็คือ Low Cost Carrier Terminal หรือ อาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ ที่เราจะเห็นสายการบินแอร์เอเชียแทบจะครองทั้งอาคารเลยล่ะครับ (รวมทั้ง Air Asia X ด้วย) แต่ที่จริงก็ยังมีสายการบินอื่นๆบินมาลงอยู่หลายสายนะครับ สำหรับ LCCT นี้จะเป็นเพียงอาคารผู้โดยสารย่อยที่แยกมาจากตัวอาคารผู้โดยสารหลัก (เรามักจะเข้าใจผิดว่า LCCT กับ KLIA นี่มันคนละสนามบินกัน) ที่จริงกัวลาลัมเปอร์ก็มี 2 สนามบินนะครับ คือ KLIA สนามบินใหม่นี้ (เทียบเท่าสุวรรณภูมิ) กับสนามบิน XXX (เปรียบเสมือนดอนเมืองนั่นเอง)

ชื่อสนามบินจริงๆก็คือ สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur International Airport) หรือชื่อย่อคือ KLIA (อ่านว่า เค-เลีย คนมาเลย์ถึงจะเข้าใจครับ) ตัวอาคารผู้โดยสารหลักก็จะเห็นไกลๆในภาพน่ะครับ โดยมีหอบังคับการบินที่สูง 130 เมตร เป็นรองสุวรรณภูมิของเรานั่นเอง KLIA นั้นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปประมาณ 60 กม. โดยตั้งอยู่กลางป่าปาล์มของเมือง Sepang เลยทีเดียวครับ

สำหรับการเดินทาง ระหว่างอาคารผูโดยสารหลัก กับ LCCT ก็จะมีรถบัสภายในวิ่งวนอยู่ค่าโดยสารเที่ยวละสิบกว่าบาทครับ



LCCT นี่จะพิเศษตรงที่ไม่มีงวงสำหรับเทียบตัวอาคารผูโดยสารนะครับ แต่จะเป็นหลุมจอดรอบอาคารแล้วให้เราเดินลงมาบนพื้นรันเวย์เอง ก่อนจะเดินเข้าสู่ตัวอาคารเองครับ อาจจะลำบากหน่อย เวลาฝนตกครับ



ผมมาถึงตอนบ่าย 3 โมงกว่าๆ ดูปริมาณคนที่มาต่อแถวรอผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองสิครับว่าเยอะขนาดไหน

ผมใช้เวลาผ่าน ตม.อยู่ ครึ่งชม.ได้ครับเพราะโชคดีที่เจ้าหน้าที่เขาเห็นคนเยอะ เลยเปิดช่องทางเพิ่ม แล้วผมได้ไปต่อแถวช่องทางใหม่ในลำดับต้นๆ แต่ถ้าปกติ ผมว่าคงไช้เวลาไม่ต่ำกว่า 45 นาทีแน่ๆ อย่าลืมเผื่อเวลาด้วยนะครับ

ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ พอเขาเห็นเป็นพาสปอร์ตไทย ก็ไม่ได้ซักถามอะไรมากครับ แค่ถามว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง (ผมก็ตอบว่าไปเก็นติ้ง กับเดินเล่นใน KL) ถามว่ามากีวัน (3 วันกว่าๆ) แล้วแกก็ชวนคุยนิดหน่อย ประมาณว่า มาน้อยไปรึเปล่าอะไรทำนองนี้ ซึ่งที่จริง ผมว่าเขาก็ชวนคุยมากกว่าจะเอาคำตอบจริงจังนะครับ



หลังจากผ่าน ตม.มาแล้ว เราจะเดินลงบันไดเลื่อน พอดีวาผมเอาเป้มาใบเดียวเลยเดินตัวปลิว ไม่ต้องไปรอรับกระเป๋าอะไร ก็มาเจอเคาเตอร์ขายตั๋วรถไปยังที่ต่างๆครับ (จะอยู่ก่อนออกประตู) กลุ่มนี้จะเห็นตรงหน้าเราเลย เพราะเป็นกลุ่มราคาแพงกว่าอีกเคาเตอร์นึง (ส่วนใหญ่เป็น Taxi และ ลีมูซีนน่ะเอง)



หากมองมาทางซ้ายมือ (ติดกับประตูทางออก) จะเจออีกกลุ่มเคาเตอร์ครับ ที่เป็นรถบัสราคาย่อมเยาว์กว่า ใครที่จะมาหารถบัสเข้า KL ก็เลือกซื้อตั๋วที่นี่ได้เลยครับ

สำหรับรถบัสเข้า KL จะมี 2 เจ้าก็คือ SKyBus ของแอร์เอเชีย ในราคาเที่ยวละ 9 RM และ AeroBus ที่ถูกกว่าหน่อยในราคา 8 RM ครับ ซื้อตั๋วแล้วเขาจะบอกเวลาขึ้นรถบัสไว้ กับบอก Terminal หรือหมายเลขป้ายที่จอดรถบัสให้เราไปรอด้านนอกครับ (หาไม่ยากเลย) การเดินทางจาก LCCT ไปถึง KL Sentral ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม. 15 นาทีครับ ตรงต่อเวลาค่อนข้างมาก

แต่สำหรับผม ที่ได้จองห้องพักบน Genting เอาไว้แล้ว ก็มี 2 ทางเลือกครับ คือ

1.นั่งรถบัสไป KL Sentral (8 หรือ 9 RM ใช้เวลา 1 ชม.15 นาที) ก่อนแล้วนั่งรถต่อไป Genting อีกทอด (9.3 RM ใช้เวลาอีก 1 ชม.) วิธีนี้ นั่งรถ 2 ต่อ แล้วไปนั่งเคเบิ้ลขึ้น Genting อีกที ทำให้ต้องเสียเวลารอรถอีก 3 ช่วง แถมเย็นนี้เป็นวันศุกร์ ผมก้ไม่แน่ใจว่า คนที่จะไป Genting จะเยอะไหมที่ KL Sentral ผมเลยเลือกวิธีที่ 2 ครับนั่นคือ

2.นั่งรถบัสตรงจาก LCCT ไปยัง Geting เลย โดยใช้เวลา 1 ชม. 40 นาที ค่าโดยสาร 35 RM กับรถบัสของ AeroBus (ช่องขวาสุด)ครับ


ตรงจุดนี้ผมก็เจอเรืองที่ทำให้หงุดหงิดอีกนิดนึงครับ นั่นคือ พอผมเดินมาใกล้ถึงเคาเตอร์ (ทั้ง 2 อันน่ะแหละ) พนักงานที่ประจำแต่ละเคาเตอร์ก็ตะโกนเรียกลูกค้ากันเต็มที่ ผมก็แปลกที่แปลกถิ่น เห็นป้าย Genting ในกลุ่มแรก (ที่เป็นรถ taxi) ก็เลยเข้าไปคุยด้วยราคาที่แพงมาก เลยไม่สู้ครับ เลยไปถามอีกเคาเตอร์ (ที่เป็นกลุ่มรถบัส) น้องแขกมาเลย์ชาย (แต่น้ำเสียงและจริตจะกร้านเป็นสาวประเภทสอง) ของเคาเตอร์ AeroBus ทางขวามือสุด กลับทำเฉยเมย ไม่มองหน้าผม คือ เอาหน้าหนีไปอีกที จนผมต้องบอก sorry ไปหลายครั้ง แล้วถามน้องคนที่อยู่เคาเตอร์ติดกันว่า ต้องการตั๋วไป Genting น้องเขาเลยคุยให้ แล้วเธอ (แขกมาเลย์ชายแต่น้ำเสียงและจริตจะกร้านเป็นสาวประเภทสอง) ก็ตอบกลับมาว่า คุณรู้สึกยังไงบ้างล่ะ เวลาที่มีคนจะคุยกับคุณ แล้วเขาไม่สนใจน่ะ มันเป็นยังไง อ้าว เอ็งตะโกนโหวกเหวกกันตั้งหลายคน คนที่เดินออกมาก็ไม่ใช่มีผมคนเดียว แล้วการที่ผมเดินเข้าไปหาตั๋วนี่ ผมต้องเป็นคนรับผิดเหรอ ที่ไม่สนใจคุยกับคุณเนี่ย ตรูล่ะงง ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจแต่แรกเริ่มเหยียบแผ่นดินมาเลย์เลย



ได้ตั๋วเรียบร้อย พร้อมกับอารมณ์ขุ่นมัวนิดหน่อย ก็ออกมาด้านนอกอาคารผู้โดยสารครับ



ออกมาตามหาซิมโทรศัพท์ Tune Talk ที่ได้ซื้อพร้อมกับตั๋วเครื่องบินกันครับ โดยถ้าเดินตรงออกมาจากประตูผูโดยสารขาเข้าจะเห็นร้าน Mc Donald ไกลๆ ให้มองหาเคาเตอร์ตรงกลางด้านหน้าเลยครับ สามารถรับซิมได้เลย เพียงแค่บอก Booking code 6 หลักแก่พนักงานครับ ก็จะได้ซิมมาแกะใส่เครื่องเขาเราแล้วโรไปเลือกเบอร์ ใช้ได้ใน 5 นาทีครับ

ที่สำคัญราคาซิม 5 RM นี่ เรายังสามารถใช้โทรได้เต็มราคา 5 RM เลยครับ ถือว่าคุ้มมากๆ เพราะโทรกลับไทย (ใส่รหัสประเทศกับเบอร์โทรตามปกติ) คิดค่าโทรแค่นาทีละ 1.40 บาทเองครับ 50 บาทราคาซิมนี่ ก็โทรได้ตั้ง 35 นาทีเลยครับ สำหรับผมถือว่าพอใช้งาน เลยไม่ได้เติมเงินเพิ่มแต่อย่างใดครับ



ขอซักรูปหน้า LCCTนี่ถือว่าเป็นรูปเดียวที่มีคนช่วยถ่ายให้ใน trip นี้เลยนะเนี่ย



ด้านนอกของอาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ LCCT ที่เรียบง่าย



เมื่อเดินออกมาด้านนอกอาคาร โดยเดินทางขวา เราจะเห็นอาคาร Food Gardenของ LCCT อยู่ไกลๆ ระหว่างทางเดินนั้น ก็จะเป็น Terminal หรือ ท่ารถบัสสายต่างๆครับ ทั้งเลขป้าย บอกจุดหมายปลายทางชัดเจน ไม่มีหลงแน่นอนครับ



สำหรับที่จะไป Genting จะขึ้นที่ช่อง 6 อยู่หน้า Food Garden พอดีเลยล่ะครับ ตอนมารอ อาจจะไม่เห็นรถมาจอดรอเรานะครับเพราะมันวิ่งไกลพอสมควร จะมาจอดก็ตอนเอาคนจาก Genting มาส่งน่ะเอง



กว่ารถผมจะออกก็ประมาณ 17.00 ครับ เลยฆ่าเวลาที่ Food Garden ตรงข้ามอาคาร LCCT ซะหน่อย



ด้านในก็จะเหมือน food court ทั่วไปครับราคาอาหารก็ไม่แพง ที่จริงราคาอาหารในตัวอาคาร LCCT ก้ไม่แพงเท่าไหร่นะครับ (แม้แต่ fast food ก็เห็นราคาเดียว เท่ากับร้านปกติด้านนอก) ไม่เหมือนประเทศเรานะครับ ที่อาหารการกินแพงไปหมดที่สนามบิน (สงสัยจะคิดว่ามีแต่คนรวยที่บินได้รึไงเนี่ย)



KFC เลยกลายเป็นอาหารมื้อแรกในมาเลย์ไปซะได้ 55 ก็รองท้องยามบ่ายฆ่าเวลารอรถบัส ด้วยฟิลเลเบอร์เกอร์ (บ้านเราไม่มีขายแล้ว) มันฝรั่งทอดราดซีส (เป็นแบบผ่าซีกไม่เหมือนบ้านเราที่เป็นเส้นขาว) ชามะนาว แล้ว ตบท้ายด้วยไอศรีมมะพร้าว (ที่ไม่อร่อยอย่างแรง) ราคาประมาณ 15 RM ได้ครับ



ตั๋วรถบัสครับ ราคา 35 RM บนตั๋วบอกว่ารถออก 5 pm แต่จริงๆกว่าจะออกก็17.30 แน่ะครับ



ภายในรถก็เหมือนรถบัสปรับอากาศชั้น 1 หรือ VIP บ้านเราโดยทั่วไปครับ เพียงแต่ว่า เปิดแอร์แรงมากๆๆๆ (แทบจะเปิดแอร์แรงอย่างนี้ในทุกรถโดยสารของมาเลย์เลย)



รถขับเลี้ยวออกมาก็จะเจอศูนย์ไปรษณีย์ของสนามบินครับ ตรงมุมขวา จะเห็น Tune Hotel ครับ



Tune hotel ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวอาคาร LCCT เท่าไหร่นะครับ ประมาณ 1 กม.กว่าๆได้ (เป็นข้อมูลไว้เผื่อใครคิดจะเดินครับ) แต่ที่จริงเขาก็มีรถบริการรับส่งนะครับ ราคาสิบบาทได้



นั่งรถบัสประมาณ 1 ชม. ก็เข้า KL ครับ แนะนำว่า ใครอยากเห็นตึกเปโตรนาสให้เลือกนั่งทางขวา นะครับ จะเห็นได้ถนัด (ผมดันเลือกนั่งฝั่งซ้ายไปซะนี่)



เรื่องถนนหนทางของมาเลยเซียนี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความสะดวก และเป็นระเบียบครับ ผมสังเกตุเห็นว่า เขามีช่องทางสำหรับรถมอเตอร์ไซด์และรถจักรยานด้วย โดยเมื่อผ่านด่านจ่ายเงิน ก็จะมีช่องพิเศษให้เลี้ยวผ่านด่านไปเลย (ไม่ต้องเสียเงินใช่ไหมเนี่ย) แต่ที่จริง ค่าธรรมเนียมผ่านทางด่วนของรถยนต์ก็ไม่แพงเท่าไหร่นะครับ



เดินทางมาสักพักก็เริ่มเข้าสู่เขาทางขึ้น genting แล้ว



รถบัสจาก LCCT -> Genting หน้าตั๋วบอกว่าจะออกเวลา 17.00 แต่ออกจริง 17.30 มาถึงเก็นติ้งเวลา 19.10 พอดีครับ

โดยรถบัสจะขับตรงขึ้นเขามาเลยครับไม่ได้ไปจอดที่ท่ารถของเก็นติ้ง ที่ต้องต่อกระเช้า Sky Way ขึ้นมาอีกที (อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีของคนที่กลัวความสูง) ที่สำคัญก็คือ ท่ารถที่รถบัสจะมาจอด จะใกล้กับโรงแรม First World เลยครับ ในขณะที่ถ้าขึ้นมาด้วยกระเช้า จะมายังโรงแรม Highland นั่นเอง (ผมจอง First World ไว้เลยเดินสบายหน่อย)



เดินตามทางเข้าไปเลยครับ ไม่ไกลนักก็จะเข้าสู่ตัวโรงแรม



โมเดลของโรงแรมบนเก็นติ้งครับ โดยจะมี 5 โรงแรมที่ต่างระดับกัน ตั้งแต่ Genting Hotel, Highlands Hotel, Resort Hotel, Theme Park Hotel และ First World Hotel โดย 2 โรงแรมหลังนี่จะมีราคาย่อมเยาว์เหมาะกับการมาพักผ่อนของทั้งครอบครัวมากกว่าครับ (ที่จริงจะมีโรงแรมโดยรอบอีกนะครับ แต่ว่าไกลและราคาแพงเกิน เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ชอบตีกอล์ฟมากกว่า)





เห็นราคา walk in แล้วขนลุกครับ



มาดูราคาโปรโมชั่นกันดีกว่าครับ ที่สำคัญ ถ้าจองมาล่วงหน้า ก็แทบจะได้ราคานี้เกือบทั้งปีนะครับ แต่บนหน้าเวป อาจจะเปลี่ยนชื่อโปรโมชั้นไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง เช่น บางครั้งอาจจะเป็นโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับคนมาเลย์และคนสิงคโปร์ (ที่จริงคนไทยก็จองราคานี้ได้ เข้ามาพักก็ไม่มีปัญหาครับ)

เพียงแต่เราต้องดูปฐิทินเทศกาลของทางโรงแรมนิดหน่อยครับ เพราะเขาแบ่งออกเป็น 3 ช่วงราคานั่นคือ

Low season อันนี้มักจะเป็นคืนวันจันทร์-พฤหัส ที่ไม่ติดเทศกาลใด

Shoulder season เป็นช่วงก่อนเทศกาล หรือ คืนวันศุกร์อย่างที่ผมมาพักนี่

Peak season ช่วงเทศกาล วันหยุดยาวนั่นเอง



นอกจากนี้ โรงแรม First World ยังได้ถูกบันทึกว่าเป็น โรงแรมที่มีห้องพักมากที่สุดในโลก ถึง 6,118 ห้อง จากกินเนสบุ๊คในปี 2005 อีกด้วยครับ เดี๋ยวเราจะไปพิสูจน์กันว่าห้องเป็นยังไงครับ



เนื่องจากห้องพักที่เยอะเป็นพันๆห้อง การมีระบบเช็คอินที่ดี จึงเป็นเรื่องสำคัญครับ ระบบเช็คอิน จึงเหมือนการไปธนาคารยังไงยังงั้นครับ นั่นคือ ขั้นตอนแรก เราต้องไปที่โต๊ะกลางเพื่อกดบัตรคิว ให้เรารอเรียกไปยังหน้าเคาเตอร์เพื่อทำการเช็คอินอีกทีครับ แต่สังเกตุว่าเราไปกดบัตรคิวจากจุดไหน บริเวณเคาเตอร์ที่ให้เราไปทำการเช็คอิน ก็จะอยู่ในรัศมีใกล้ๆ ไม่ได้เดินทางไปอีกซีกแต่อย่างใดครับไม่ต้องห่วง




สำหรับเวลา check in ก็ตั้งแต่ 15.00 ครับ และ check out ในเวลา 12.00

counter check in แถวยาวรองรับกับคนจำนวนมากที่จะมาเช็คอิน

แต่ถ้าใครเป็นสมาชิกของเครือ Genting สามารถเอาบัตรสมาชิกไปทำการเช็คอินที่ตู้ kios ได้เลยครับ (เดี๋ยวผมพาไปทำตอนท้ายละกันครับ)

การเช็คอินก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนะครับ แค่ขอ passport กับหมายเลขที่จองมา ไม่ได้ขอดูบัตรเครดิตที่ใช้จองห้องเลยครับ หลังจากนั้น พนักงานก็จะจัดห้องให้ว่าอยู่ตรงไหน ชั้นที่เท่าไหร่ พอดีว่าน้องเขาจัดห้องให้ผมที่ชั้น 4 ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยตอบตกลงไป หารู้ไม่ว่ามันเป็นชั้นแรกที่เขาพักกันเลยนี่นา

แล้วก็จะได้ key card มา 1 ใบ (ถ้าใครพัก 2 คนก็พอ 2 ใบได้ครับ) กับ slip ที่ใช้เป็นคูปองอาหารเช้ามา สำหรับอาหารเช้า ให้บริการที่ห้องอาหารชั้น 3 ตั้งแต่เวลา 6.30-10.00 นะครับ



เนื่องจากห้องมีจำนวนมาก การทราบแต่หมายเลขห้องไม่พอครับ ถ้ารู้ด้วยว่าอยู่ปีกไหน จะทำให้สะดวกในการเลือกใช้ลิฟท์พอสมควรครับ ห้องของผมได้เป็นตรงกลางๆของโรงแรมพอดี เลยเดินไม่ค่อยไกลเท่าไหร่

เท่าที่เดินหาทางเข้าห้อง เลยทำให้รู้ว่าที่ห้องเขาเยอะนี่ เพราะ ซอยห้องค่อนข้างเยอะครับ ทำให้หน้าต่างห้องชนกันเป็นทบ (แต่มีชองตรงกลางนอกหน้าต่างนะครับ ไม่ใช่เปิดหน้าต่างมา เจอหน้ากันเลย)



เข้ามาดูในห้องกันดีกว่าครับ เป็นเตียงคู่มาตราฐาน เสียดายที่ TV เครื่องเล็กไปนิด 14 นิ้วเอง ห้องไม่ถือว่าเล็กมากนะครับ ก็ปกติของโรงแรมทั่วไป

ถ้ามองที่หน้าต่าง จะเห็นว่ามีหน้าต่างของห้องฝั่งตรงข้ามครับ (เราไม่เห็นวิวซะงั้น ทำใจได้ครับ ก็ราคามันถูกนี่นา )



บริเวณห้องน้ำ จะแยกห้องอาบน้ำ (ส่วนเปียก) กับห้องน้ำ (ส่วนแห้ง) ออกจากกัน มีอ่างล้างหน้าด้านนอก พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ แต่เนื้อบางไปหน่อย 2 ผืน พร้อมกับสบู่ก้อนเล็ก 2 ก้อน



ห้องน้ำก็มีสายฉีดชำระนะครับ สบายใจได้



อีกมุมของเตียง มองไปทางประตูทางเข้า



โต๊ะวางของ และโต๊ะเขียนหนังสือ ผมมามาเลย์ด้วยกระเป๋าใบแค่นี้น่ะแหละครับพอแล้ว สำหรับ 4 วัน 3 คืน ใต้โต๊ะจะมีเหยือกน้ำให้ออกไปกดน้ำได้นะครับ เพราะไม่มีบริการน้ำขวดภายในห้อง



ปลั๊กไฟของมาเลย์ครับ ไฟฟ้าในมาเลเซียก็จะเป็น 220 โวต์เหมือนบ้านเรานะครับ แต่จะมี 3 ขาเท่าน้นเอง ซึ่งที่ชาร์จกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือของผม สามารถต่อได้โดยไม่มีปัญหาอะไรครับ ไม่ต้องใช้ตัวแปลงแต่อย่างใด





ด้านนอกหน้าต่างที่ว่าเห็นไปถึงห้องอีกฝั่งด้วย อ้อ..ที่สำคัญ ภายในห้องไม่มีแอร์นะครับ มีแต่พัดลมเพดาน เพราะอากาศบนเก็นติ้งเย็นวัน กลางคืนออกจะหนาวซะด้วยซ้ำครับ (เก็นติ้งอยู่บนความสูงมากกว่า 1,800เมตรนะครับ)

โดยรวมแล้ว ผมประทับใจความสะอาดของห้องครับ เพราะสะอาดมากๆ หรือเพราะไม่มีคนพักหว่า.. แต่ถ้าไม่มีคนพักจริงๆ ก็น่าจะมีปัญหาฝุ่นหรือห้องอับแทนนะครับ แต่นี่ไม่มีเลย ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา คืนละ 108 RM จริงๆ (แต่ถ้ามานอนคืนวันจันทร์-พฤหัส นี่ยิ่งถูกกว่าคืนละ 48 RM เองนะครับ)



สำหรับการ check out ยิ่งงายกว่าครับ แค่เอา key card มาสอดคืนที่ตู้นี้เท่านั้นเองครับ (ตู้นี้จะอยู่ใกล้ลิฟท์เลยล่ะ) ก็ถือว่าเป็นการเช็คเอาท์แล้ว นั่นแสดงว่า เขาไม่มีแม่บ้านมาคอยเช็คของในห้องเท่าไหร่นะครับ แต่ที่จริงของในห้องก็ไม่เห็นจะมีอะไรให้หยิบนะครับ อย่างมากก็แค่ผ้าเช็ดตัวเท่านั้นเอง



สุดท้าย อย่าลืมมาทำบัตร World Card ที่เคาเตอร์บนชั้น 2 ทางด้านขวามือ (หลังเช็คอินแล้วเดินออกทางขวาสุด ขึ้นบันไดเลื่อมาเลยก็จะเจอครับ)

สำหรับบัตร World Card สามารถใช้สะสมแต้มได้เมื่อเราใช้บริการต่างๆในเครือ Genting ครับ ทั้งยังใช้เช็คอินได้ด้วยตู้ kios แต่ที่สำคัญก็คือ สามารถใช้ซื้อตั๋วเครื่องเล่นและการแสดงบน genting ได้ในราคาพิเศษครับ อันนี้คุ้มสุดเลยล่ะครับ เพราะทำบัตรฟรี แค่เสียเวลาทำบัตรนิดหน่อยเท่านั้นเอง



ใครที่คิดว่าประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างมาเลเซีย คงจะเจอแต่อากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างเพียงเดียว คงคิดผิดแล้วล่ะครับ เพราะมาเลเซียยังมีสถานที่ตากอากาศให้ได้สัมผัสความเย็นฉ่ำ และที่สำคัญอยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปเพียง 50 กว่ากิโลเมตรเท่านั้นเองครับ

นั่นก็คือ Genting Highland ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 1,800 เมตร ทำให้อากาศบนเก็นติ้งเย็น 12-16 องศาอยู่ตลอดทั้งปี ยิ่งกลางคืน ยิ่งอากาศลดลงไปได้อีกครับ นับเป็นแหล่งตากอากาศที่สำคัญแห่งหนึ่งของคนมาเลย์ครับ นอกจากนี้การเดินทางยังสะดวก เพราะห่างจากกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กม. สามารถเดินทางได้ด้วยรถบัส ทั้งจาก KL Sentral และสถานีอื่นๆ ที่สำคัญ (อย่างสนามบิน หรือแม้แต่สิงคโปร์ก็มีรถมาถึงที่นี่เลย)



Genting Higland นอกจากจะเป็นสถานที่ตากอากาศ ยังเป็นจุดที่ผ่อนปรนให้มีการเปิดคาสิโนด้วยครับ ดังนั้น ช่วงสุดสัปดาห์อาจจะเห็นลุงๆป้าๆชาวมาเลย์ (หรือสิงคโปร์) ขึ้นมาแสวงโชคที่นี่ได้ ทำให้รถบัสแน่นขนัดได้ครับ

แต่ก็ไม่ใช่จะมีจุดเด่นอยู่ที่คาสิโนแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ Genting Highland ยังเป็นแหล่งพักผ่อนที่ดีของครอบครัวด้วย เพราะนอกจากจะมีโรงแรมหลากหลายราคาให้พัก ตั้งแต่แพงยันถูกสุด ยังมี shopping plaza หลากหลายแบรนด์ดัง สวนสนุก สวนน้ำ รวมไปถึงเมืองหิมะจำลอง ให้ทุกคนในครอบครัวได้มาเล่น อีกทั้งยังมีโชว์ต่างๆมาแสดงอยู่เรื่อยๆ ไม่ต่างจากลาสเวกัสเลยล่ะครับ

อย่างผมมีเป้าหมายอยู่ที่สวนสนุกของที่นี่น่ะเองครับ เพราะจริงๆแล้วเจ้าของ Genting Highland หรือปัจจุบันจะเรียกรวมเป็นกลุ่ม Resort World (RW) นอกจาก Genting Highland ในมาเลเซีย ยังมี Sentosa ในสิงคโปร์อีกด้วยครับ

สำหรับในส่วนของสวนสนุกหรือ Genting Theme Park จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนั่นคือ Indoor Theme Park และ Outdoor Theme Park ครับ

โดย Outdoor Theme Park จะอยู่ด้านนอกตามชื่อของสวน ระหว่างโรงแรม First World (ที่มีสีสันสะลานตา) กับ Theme Park Hotel โดยประตูทางเข้าหลัก จะอยู่หน้าโรงแรม Theme Park เลยครับ (ประตูทางเข้ารองก็อยู่ใน First World Hotel) แถมนิดครับสำหรับราคาค่าห้องโดยปกติแล้ว First World Hotel จะมีราคาถูกที่สุดบนเก็นติ้งครับ ช่วง Low Season หรือวันธรรมดาจะประมาณ 480 บาท ส่วน Theme Park Hotel ก็จะแพงขึ้นมาหน่อยครับ (ประมาณ 980 บาท) ทั้งสองโรงแรมนี้จัดว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับมาพักกับครอบครัวน่ะเอง

อีกส่วนคือ Indoor Theme Park ที่เป็นสวนสนุกภายในร่ม จะตั้งอยู่ในโรงแรม First World เลยครับ และเป็นสวนสนุกที่ค่อนข้างเหมาะกับเด็กเล็กๆซะมากกว่าครับ นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำ และเมืองหิมะจำลองอยู่ในบริเวณ Indoor Theme Park ด้วย ที่จริง Indoor Theme Park ก็จะประมาณสวนสนุกตามห้างสรรพสินค้าในบ้านเราน่ะครับ แต่ที่นี่ดีตรงที่ เราไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู เพราะนอกจากเครื่องเล่นแล้ว ภายในยังมีร้านค้า และร้านอาหารต่างๆให้เราเลือกใช้บริการด้วยนั่นเองครับ ถ้าคิดจะเล่นเครื่องเล่น ค่อมาซื้อตั๋วอีกทีก็ได้ ที่สำคัญ Indoor Theme Park ยังปิดดึกด้วยล่ะครับ คือกว่าจะปิดก็ร่วมเที่ยงคืนเลย


ค่าตั๋วของ Genting Theme Park

All Park



Outdoor Theme Park



Indoor Theme Park




เวลาเปิด-ปิด

Outdoor Theme Park จันทร์-ศุกร์ 10.00-19.00 เสาร์ 8.00-22.00 อาทิตย์ 8.00-20.00

(สำหรับช่วง peak วันหยุดนัตฤกษ์จะเปิด 8.00-22.00 )

Indoor Theme Park จันทร์-ศุกร์ 9.00-24.00 เสาร์ 8.00-1.00(ตีหนึ่ง) อาทิตย์ 8.00-24.00

(สำหรับช่วง peak วันหยุดนัตฤกษ์จะเปิด 8.00-1.00 )




สำหรับ Indoor Theme Park จะเน้น Theme ตกแต่งโดยนำสถานที่สำคัญของโลกมาใส่ไว้ที่สวนสนุกครับ โดยมีเครื่องเล่นมากกว่า 16 ชนิดให้เลือกสนุก แต่มีเครื่องเล่นที่สามารถซื้อตั๋วรวมเครื่องเล่น ให้ใช้ได้อยู่ 12 ชนิดครับ (ที่สำคัญยังเป็นชนิดเหมาะกับเด็กๆไปซะ) นอกจากนั้นต้องจ่ายเพิ่ม

ถ้าแบ่งกลุ่มเครื่องเล่น จะเป็น

กลุ่ม Signature Attractions (อันนี้เสียเงินเพิ่มเองทุกอย่าง)
- Genting X-pedition Wall เป็นการไต่เขาบนผนังจำลอง
- Genting Sky Venture จำลองการโดดร่มในโดม คนเยอะครับ
- SnowWorld เมืองหิมะ
- Rainforest Splash Pool



กลุ่ม Family Rides
- Ferris Wheel (2 หมายเลขในวงเล็บคือตามแผนที่นะครับ)
- Reindeer Cruiser (3)
- Monorail (4)
- Venice Gondola (5)
- Rio Float (6)
-Mini Train (25)

กลุ่ม Children Rides เหมากับเด็กเล็กจริงๆเพราะจำกัดความสูงของผู้เล่นด้วย
- Carousel (1)
- Ride De Paris (7)
- Junior Bumper Car (8)

กลุ่ม Thrill Rides
- Euro Express (9)
- Adult Bumper Car (10)
- 4D Motion Master (11)


เมืองหิมะ ที่ต้องจ่ายเพิ่ม



สวนน้ำ




สิ่งสำคัญและอยู่กลางสวนสนุกเลยก็คือ หอไอเฟล นั่นเองครับ ที่รอบๆจะเป็นเครื่องเล่นรถรางให้เด็กๆได้นั่งวนรอบตัวหอกัน Ride De Paris (7)





ใกล้กันก็คือ ม้าหมุน (Carousel)



ด้านในก็จะมีร้านอาหาร fast food ที่เราคุ้นเคยหลายยี่ห้อ เปิดให้บริการจนถึงเที่ยงคืนเลยครับ (บางร้านก็เปิด 24 ชม.เลย)




ในส่วนของรถบั๊ม ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ จะอยู่ส่วนเดียวกันครับ ให้เดินขึ้นบันไดไปเลย เพียงแต่แยกชั้นด้านบนเป็น Adult Bumper Car (10) ในขณะที่ด้านล่างคือ Junior Bumper Car (8) สำหรับด้านหน้า ก่อนขึ้นบันไดรถบั๊มจะเป็นโรงหนัง 4 มิติ หรือ 4D Motion Master (11)



บริเวณเวทีลานกิจกรรม จะเห็นเทพีเสรีภาพตั้งเด่นครับ สำหรับกระเช้ารูปมังกร ก็คือเครื่องเล่น Rio Float (6) ที่จะเป็นการนั่งกระเช้าวนไปรอบๆ Indoor Theme Park เพื่อชมบรรยากาศในมุมสูง



บริเวณ plaza ในสวนสนุกครับ ร้านค้า ร้านอาหาร เยอะแยะ เป็นแหล่งดูดเงินในกระเป๋าชั้นดีรองจากคาสิโนเลยล่ะครับ





Rio Float (6) อีกมุม คู่กับคุณลุงออสการ์ครับ



ใครอยากล่องเรือกอนโดล่าก็มีครับ Venice Gondola (5) แต่ที่นี่จะแตกต่างจากเวเนเชียน มาเก๊า ก็ตรงที่ คนพายเรือเป็นหุ่นยนต์น่ะเองครับ โดยจะพายลอดผ่านสะพานสำคัญ หลายๆที่ครับ



อีกมุมของหอไอเฟล จะเห็น Genting Sky Venture ตั้งอยู่ใกล้ๆครับ โดยเจ้า Sky Venture นี่ถ้าใครอยากจะเล่น ต้องมาลงชื่อ ดูคิวก่อนนะครับ เพราะขนาดผมจะเล่นในวันถัดไป คิวยังเต็มเลย ที่จริงพนักงานบอกว่า มีการ booking เต็มตั้งแต่วันศุกร์ โดยส่วนมาก คนที่มาเล่นจะเป็นฝรั่งน่ะครับ สำหรับ Sky Venture ถือเป็นเครื่องเล่นที่เด่นที่สุดใน Indoor Theme Park เลยละครับ ถึงขนาดที่ว่า ตั้งตึกเปโตรนัสจำลองคู่กับเครื่องเล่นเลย ชาตินิยมไม่ใช่เล่นครับ 55

แต่ถ้าใครอยากเล่น Sky Venture ยังมีอีกที่หนึ่งที่มีเครื่องเล่นนี้ ก็คือที่ Sentosa ในสิงคโปร์ครับ (เพราะเจ้าของเดียวกันน่ะเอง)



ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel (2) จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับบริเวณเวนิซ ที่ขุดเป็นลำคลองน่ะครับ สำหรับมุมขวา จะเห็นเหมือนเลื่อนของซานตาครอส นั่นคือ Raindeer Cruiser (2) ที่จะวนอยู่รอบๆบริเวณเวนิซนี้ (เหมือน Rio Float แต่พื้นที่ที่ลอยไปจะแคบกว่านั่นเอง)





บริเวณที่ทำเป็นเวนิซจำลอง นอกจากนี้ยังมีสะพานชื่อดังต่างๆเชื่อมอยู่ด้วยครับ ผมว่าก็แปลกๆดี ทำเป็นเวนิซ แต่บางทีก็มีสะพานจีนเชื่อมเนี่ยนะ 55





อีกมุมมองด้านบนครับ เสาเขียวๆนี่เป็นเสาของเครื่องเล่น Euro Express (9) ที่เป็นรถไฟเหาะที่วิ่งไวขึ้นมานิดนึงครับ ก็ไมได้เสียวมาเท่าไหร่ครับ ยังเน้นว่าเหมาะกับเด็กๆครับ



นอกจากนี้ยังมีส่วนเสริมอีกครับ เช่น Ripley's Believe It or Not (เหมือนที่พัทยาของเราครับ ที่นี่ก็เป็นอีกสาขาหนึ่ง) ใครไม่เคยเข้าในไทย เข้าที่นี่ก็จะไม่เหมือนกันครับ เพราะเขาจะหมุนเวียนสิ่งจัดแสดงของ Ripley อยู่ตามสาขาต่างๆทั่วโลกอยู่แล้วครับ



The Haunted Adventure บ้านผีสิง ที่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ



บริเวณทางขึ้นโรงภาพยนตร์ครับ (Locker จะมีอยู่ที่ใต้บันไดเลื่อนนี้) โรงหนังที่นี่จะมี 4 โรงครับ ก็เหมือนโรงหนังในบ้านเรา แต่ราคาค่าตั๋วจะถูกกว่าครับ วันที่ผมไป พอดีหนัง The Adjustment Bureau เข้าพอดี แล้วผมไปตอนที่หนังจะเข้า เลยตัดสินใจที่จะเข้าดูเลย ราคาค่าตั๋วแค่ 12 RM (120 บาท) ในขณะที่บ้านเรา บ้าไปกันใหญ่ ตั๋วหนัง 180 เข้าไปแล้ว แถมตั้งไปนั่งดูโฆษณาอีก 30กว่านาที แต่ที่นี่หนังตัวอย่าง+โฆษณาไม่ถึง 10 นาทีดีครับ ที่สำคัญ มีแถมถั่วด้วยอีก 1 ถุง (อันนี้น่าจะเป็นนโยบายของ genting มั้งครับที่แถมถั่ว ให้คนใช้บริการโรงหนังของเขา)





สำหรับคนที่ไม่อยากถือกระเป๋าให้หนัก หรืออยากเดินตัวปลิวสบายๆ ก็มี Locker ฝากของครับ ซึ่งจะอยู่ใต้บันไดเลื่อนทางขึ้นไปโรงภาพยนตร์ (บันไดเลื่อนจะอยู่ใกล้ๆกับรูปปั้นออสการ์) โดยมีให้เลือกฝากถึง 2 ขนาดครับ ค่าฝากมี 2 ราคาครับ คือ 5 และ 10 RM ฝากได้ 24ชม.

แต่สำหรับคนที่จะเข้าไปเล่นเครื่องเล่นใน Outdoor Theme Park แนะนำให้ไปใช้ locker ด้านนอกครับ ถูกกว่าที่นี่อีก T_T แค่ 3RM เอง (ผมพลาดมาแล้ว)





อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของโลกครับ



สุดท้ายกลังจากดูหนังจบร่วม 4 ทุ่ม ผมก็มาเติมพลังด้วยอาหารมื้อแรกบนเก็นติ้ง หลังจากเดินสำรวจหลายๆร้านแล้ว ก็มาลงเอยที่ข้าวหน้าไก่คู่กับเกี๊ยว ที่ร้าน Only Mee ครับ set นี้ราคารวม 23.10 RM อิ่มจนตื้อเลยล่ะ แต่รสชาติก็ธรรมดาครับ จืดๆไม่เข้มข้นอย่างรสชาติบ้านเรา





สำหับวันแรกคงหมดเวลาแล้ว ขอตัวไปนอนเอาแรงก่อน ด้วยภาพหอนาฬิกา Big Ben ครับ



สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับวันแรก

- กิน KFC ที่สนามบินรอเวลารถบัส 15 RM
- รถบัสจาก LCCT -> Genting 35 RM
- ดูหนัง 12 RM
- มื้อดึก@only mee 23.10 RM
- ค่าห้องพัก First World 108 RM

รวม 193.10 RM


Create Date : 02 สิงหาคม 2554
Last Update : 2 สิงหาคม 2554 23:33:06 น. 15 comments
Counter : 22213 Pageviews.

 
ตามไปเที่ยวด้วย รีวิว เจ๋ง มากๆๆๆๆๆ เยี่ยมเลย
ถามนิด ที่ kl มีรถเมล์สายไหน วิ่งไปสนามเซปังหรือยังจ๊ะ


โดย: *SUPRA* วันที่: 2 สิงหาคม 2554 เวลา:11:43:16 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ กะจะนั่งรถไฟไปกันปีหน้า แต่ขากลับคงต้องนั่งเครื่อง ไม่งั้นมันจะนานไป เลยมาเก็บข้อมูลไว้ก่อน จะตามมาเที่ยวด้วยเรื่อย ๆ นะคะ


โดย: Maeboon วันที่: 2 สิงหาคม 2554 เวลา:11:44:17 น.  

 
ผมไม่ถนัดเรื่องรถเมล์เลยครับ ใช้แต่รถไฟฟ้า


โดย: prapasawat วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:9:38:02 น.  

 
อยากทราบวิธีการจองโรงแรม firstworld ที่เก็นติ้งครับคือผมจะไปช่วงเดือนกุมภาปีหน้า ลองจองแล้วทางเวบบอกว่าเต็มทุกเวบเลย หรือต้องจองช่วงใกล้ๆก่อนไป ขอบคุนล่วงหน้าครับ


โดย: Aliss IP: 119.154.181.131 วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:21:36:36 น.  

 
คุณAlissจองที่เว็บโรงแรมเลยค่ะ
//www.rwgenting.com/en/promotions/2011/iholiday/index.htm

กำลังเดินทางไปเดือนหน้าค่ะ คิดว่าจะตามรอยคุณprapasawat ไปติดๆเลยค่ะ เดินทางวันศุกร์ว่าจะเลยไปเก็นติ้งเลย เพราะลองจองที่พักวันเสาร์เต็มหมดเลยค่ะ

ตอนนี้กำลังถามพรรคพวกว่าจะไปวิธีไหนจากสนามบิน และคงต้องตามรอยคุณprapasawat ด้วยวิธีที่ 2 ค่ะคือยอมจ่ายแพง แต่ไม่นั่งนานและหลายต่อ แถมอาจโชคร้ายรถไปเก็นติ้งเต็มอีกซะงั้น ต้องไปอีกวัน

ไม่ทราบคุณprapasawat มีเว็บจองตั๋วล่วงหน้าขึ้นรถบัสจากสนามบินไปเก็นติ้งมั้ยคะ


โดย: Noonie IP: 49.229.16.148 วันที่: 28 สิงหาคม 2554 เวลา:0:46:16 น.  

 
อยากทราบว่า โรงแรม firstworld ต้องเอาบัตรเคดิตที่จองไปแสดงในวันเช็คอินด้วยหรือเปล่าครับ


โดย: อริญชย์วิธน์ IP: 101.108.140.46 วันที่: 8 มีนาคม 2555 เวลา:22:12:33 น.  

 
อยากมีบัตร World card จัง จะได้ลดราคาห้องพัก กะลังจะไปเดือนหน้าพอดีเลย


โดย: Chincha IP: 115.67.96.149 วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:15:41:26 น.  

 
เจ้าของกระทู้หล่อจัง :)


โดย: :) IP: 58.181.187.117 วันที่: 10 ตุลาคม 2555 เวลา:14:13:40 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี ละเอียดยิบ
ขอบคุณค่ะ


โดย: forester IP: 61.7.141.155 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:27:12 น.  

 
กำลังเก็บข้อมูลไปมาเลเซียค่ะ ขอบคุนน่ะค่ะ ^^


โดย: traval_girl IP: 171.5.161.11 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:12:33 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
ทำบล็อคดีมาก ๆ ค่ะ


โดย: รู้นะว่าคิดถึง วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:10:50:50 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นประโยชน์และละเอียดมากครับ
ทำให้ผมพาครอบครัวไปผจญภัยปีนี้เรียบร้อยครับ
ราคาเท่าเดิมครับ ล่าสุดป้ายรถเกนติ้งที่สนามบิน เลขหายครับ และเป็นสี่เหลี่ยมแทนวงกลมครับ ใช้วิธีเลยป้าย5 แล้วนั่งรอ และถามคนรอบๆหาเพื่อนไปทางเดียวกันครับ เพราะกลัวพาครอบครัวหลงครับ
ค่าใช้จ่ายเก็นติ้งแพงกว่าเคแอวมากทีเดียว
ควรแลกตังก่อนไปครับ อัตราที่นี่คิด10บาทกว่าครับ
จัดกระเป๋าไม่ควรใหญ่มากครับ สาวๆควรเห็นใจแฟน จะเหนื่อยมากครับ ตอนฝนตก แล้วไปพักทีมปาร์ค เด็กๆสนุกกับสวนสนุกมากครับ โดยเฉพาะที่ยืนในแคปซูล, นั่งเหมือนม้าหมุนแล้วเหวี่ยงขึ้นลง และที่นั่งตกลงมาจากหอ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: thadyai IP: 101.108.252.221 วันที่: 20 เมษายน 2556 เวลา:17:53:08 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ข้อมูลละเอียดยิบเลย


โดย: Patt IP: 203.156.141.195 วันที่: 13 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:44:17 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูล ละเอียดมากๆ เกือบจะได้ไปแล้วกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ติดแค่โดนทีมงานเปลี่ยนทิศทางเที่ยวกระทันหัน เลยอดไปเที่ยวเล่นคาสิโนบาคาร่าออนไลน์ทางฝั่งนู้นเลย >"<


โดย: ปีศาจเว็บ วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:18:27:51 น.  

 
ธรรมกายเค้าขโมยรูปคุณไปโพสในเพจหาความชอบล่ะ บอกว่าผู้ชายในภาพอยู่ในเครื่องบินเที่ยวแอร์เอเชีย QZ8501 ที่ตกหายในข่าว

https://www.facebook.com/nop072/photos/pcb.389737894569162/389737824569169/?type=1&theater

คุณควรจะทำอะไรสักหน่อยนะ อย่าให้เอารูปคุณไปโพสหากินแบบนี้


โดย: 007 IP: 171.96.167.28 วันที่: 28 ธันวาคม 2557 เวลา:23:07:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prapasawat
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




Friends' blogs
[Add prapasawat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.