ตุลาคม 2558

 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
EU Trip 7-20 Sep 14 : Chapter 7 Barcelona > Stockholm > BKK (ตอนจบ)
  สวัสดีค่ะ

นี่เป็นบล็อกตอนจบรอบที่สองค่ะ T_T เพราะตอนกำลังอัพรูป ดันกดผิดหน้าต่าง (โฆษณา pop-up โผล่มาจะปิดโฆษณา แม่งงงงงงงงงงงงงง)

กลับเข้าประเด็นแป๊บ...


ขอบคุณที่ทวงตอนจบนะคะ :D

ตอนแรกกะจะแค่แกล้งลืม สุดท้าย ลืมจริงๆ ไปเลยจ้าาาาาาาาาา orz

นานๆ เข้าบล็อกที อัพบล็อกเที่ยวปีละครั้ง บล็อกทั่วไปบางช่วง 

พอดีเมื่อวานเข้ามาอัพบล็อกเรื่อง photo stock (ไม่เข้าใจลองย้อนๆ ดูได้นะคะ) แล้วไปเห็นคอมเมนต์ทวงค่ะ 

ที่สำคัญนี่มันก็ชนปีละ = = กำลังจะไปอีกทริปนึงแล้วด้วยนะ ฮา 

เลยตัดสินใจอัพให้จบไปเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องค้างคากันต่อไป 

ต้องออกตัวก่อนนะคะว่า Barcelona, Stockholm ในนี้รูปจะน้อยกว่าเอนทรี่ก่อนๆ เพราะความอ่อนด๋อยของเราเอง orz

คือเมมกล้องเต็มค่ะ เลยกะจะพึ่งไอโฟน4 ง่อยๆ ปรากฎว่า... แบตหมด!!! ที่ชาร์จแบตสำรองก็ลืมหยิบมาอีก!!! //ไว้อาลัยในความเอ๋อของตัวเองแป๊บ

ดังนั้น รูปบางส่วนจะขอยืมมาจากพี่สาวนะคะ T_T


===============================================

17 Sep 2014 : Barcelona, Spain

มาถึง Barcelona ช่วงสายๆ ของวันเดียวกัน

นี่ในสนามบิน BCN นะคะ แต่ชอบไอ้เครื่องขายกาแฟเนสเปรสโซ่มาก ถ้ามีเวลาอยากวิ่งเข้าไปกดเล่น 555




ร้านค้า Barca แบบ official ในสนามบิน ราคาแพงกว่าที่ Camp Nou แน่นอน



นั่งแท็กซี่พากันออกมา อันนี้คือไรคะ มาแบบงงๆ ประตูชัย??



Barcelona เป็นเมืองท่าสำคัญของ Spain ค่ะ พูดง่ายๆ คือ เป็นเมืองริมทะเลน่ะแหล่ะ คึกคัก สดใส บรรยากาศดี น่าเดินเล่น

อากาศช่วงกลางวัน (ณ ตอนนั้น) อยู่ราวๆ 24-30 องศา แดดเปรี้ยงไม่แพ้บ้านเรา แต่ก็ยังรู้สึกสบายๆ อยู่ดี

งวดนี้เราก็เช่า apartment จาก Airbnb อีกครั้ง ด้วยความที่มาพร้อมกัน 9 คน จึงจำเป็นต้องหาห้องขนาดใหญ่ มีห้องครัวและห้องน้ำเพียงพอ ต้องมี wifi ด้วย

อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ แต่ห้องค่อนข้างใหม่ กลิ่นสียังฉุนอยู่เลย (พี่แกรีบปล่อยเช่าทำไมไม่รู้)

นั่งพักผ่อนกันสักแป๊บ พี่เขยจะพาครอบครัวแกไปเดินเที่ยวริมชายหาดเลยขอแยกตัวออกไป

ส่วนเราสาวๆ ก็กะว่าจะไปช้อปปิ้งแถวๆ กาตาลุนย่า ย่านช้อปปิ้งสำคัญของที่นี่ค่ะ เดินไปจากที่พักราวๆ 1-2 กม.ก็ถึงแล้ว แป๊บเดียวเอง



แดดเปรี้ยงๆ แบบนี้...

ที่นี่คือย่าน กาตาลุนย่า ค่ะ 






วันนี้เรามาฝังตัวกันที่นี่ค่ะ... ห้าง El Carte Ingles 

คือการจะทำ Tax refund นี่สามารถจบที่นี่ได้เลยค่ะ บิลเก็บไว้ได้ 3 เดือน (โดยที่ยังไม่ออกจากกลุ่มเชงเก้นนะ) ช้อปปิ้งเท่าไหร่ก็ได้ รวบรวมแล้วค่อยไปทำ Tax refund ทีเดียวเลย

ประเด็นคือ ถ้าคุณต้องทำเข้าบัตรเครดิต ขอให้จดเลข tax refund ของคุณเอาไว้ เก็บใบเสร็จทุกใบให้ดี (ใบไหนที่ทำ vat refund แล้วจะมีแสตมป์ให้เสร็จสรรพ) หรือจะถ่ายรูปเอาไว้ก็ได้

พอดีเรามีเคสกับงานนี้เพราะช้อปปิ้งที่นี่ค่ะ 

เล่าแล้วยาวนะ...อยากฟังเหรอ? โอเค!! (ตอบเองไรเอง)

เท่าที่ช้อปปิ้งในยุโรปมาจะมีบริษัท tax refund อยู่ 2 ค่ายค่ะ คือ Global blue กับ Premium tax free ซึ่งต้องแยกประสาทให้ถูกนะ แยกบริษัทด้วยเพราะขั้นตอนไม่เหมือนกัน

เราซื้อกระเป๋าจากห้าง El Carte Ingles มาหลายใบเลย แล้วก็ทำ tax refund อย่างดี มั่นใจว่าส่งเอกสารเรียบร้อย ของที่นี่น่าจะทำกับ premium tax free ถ้าจำไม่ผิด

ตอนที่เราไปทำเรื่อง refund นางจะให้เอกสารจำนวนนึงมา เป็นซองจดหมาย เอกสารชี้แจงรายละเอียดเป็นภาษาต่างๆ (แต่ไม่มีไทย) และสลิปเอกสาร tax refund หน้าตาเหมือนใบเสร็จรับเงินแต่มีช่องให้กรอกรายละเอียดเช่น ชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขบัตรเครดิตของเรา(ที่จะเอาเงินคืนเข้าบัตร)

ด้วยความที่เรากลับทาง Stockholm, Sweden เราต้องไปเอาแสตมป์จากตม.มาประทับในใบสลิปที่ว่านี้ก่อน เพราะที่ Arlanda Stockholm Airport มีแต่เค้าเตอร์ของ Global Blue ถ้าจะทำของ premium tax free ต้องหย่อนตู้จดหมายเอาค่ะ (แล้วขอคืนได้ผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น)

เช็คนั่นนี่ให้เรียบร้อย เขียนครบมั้ย แสตมป์หมดทุกแผ่นรึยัง แล้วค่อยใส่ซองที่เค้าให้มาแล้วหย่อนที่ตู้หน้าห้องตม.เลยค่ะ (มีตู้จดหมายอยู่) 

ทีนี้กลับมา 3 เดือน มีแต่อิเซตนี้จากสเปนที่ยังไม่ได้คืน เซตนึงจาก sephora ได้คืนมาแล้ว แต่ห้าง ECI ยังไม่ได้เฟ้ย ทำไมอ่ะ?? หรือเอกสารหายระหว่างทาง??

เราส่งเมลไปทวงกับที่ห้างค่ะ บอกว่าเอกสารหาย ขอเลขเคลม tax หน่อย //ได้มาเสร็จ เอาไปทวงกับ Premium tax free บอกว่าเอกสารหาย เงินไม่ได้คืน ยูคิดดูคิดเป็นเงินไทยแล้วมันหลายพันนะ ช่วยหน่อยเถอะ บลาๆๆๆ

ค่ะ หลังจากนั้นราวๆ เดือนกว่า เราก็ได้เงินคืนเข้าบัตรแต่ในจำนวนเงินที่น้อยลง เพราะตอนที่ซื้อ ยูโรละ 43-44 บาท ตอนได้คืนเหลือ 37 บาท //แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ดังนั้น ถ้าใครสกิลภาษาแก่กล้าหน่อย แนะนำให้ทวงค่ะ อย่าปล่อยผ่านเพราะมันคือเงินของเรา!!! ไปยุโรปค่าเงินแพงอยู่แล้ว เราอย่าซื้อของแพงค่ะ มันเป็นสิทธิ์ที่เราควรมีควรได้ค่ะ :)

อ่ะ จบเรื่องยาวๆ



เข้าเรื่องต่อ...

ช้อปปิ้งจนหอบกิน เดินออกมานอกห้าง เดินไปทางถนนด้านหลังห้าง มันเป็น shopping street ค่ะ



ถนนน่าเดินมากกกกกกก เพลินมากกกกกกกกกกกกกกกกก แบรนด์ดังๆ มากระจุกตัวอยู่ที่นี่

เฉพาะ H&M ก็มี 3-4 ร้านเข้าไปแล้ว (จะเปิดอะไรนักหนาวะ) 



สาขานี้สวยค่ะ แอบถ่ายแล้วรีบเดินออกมา ตกแต่งด้วยไฟสีแดง ดิสโก้มากแกกกกกกก

คือแถวนี้นะ อยากช้อปปิ้งก็ช้อปไปเลยจ้าาาาาาาาาา ห้างปิดสามทุ่ม เอนจอยสุดชีวิตหลังจากเจอประเทศที่ปิดร้านค้าตั้งแต่ทุ่มนึง-ทุ่มครึ่ง อิฉันเครียดค่ะคุณผู้ชม รีบไปไหนนนนนนน ดูละครเหรออออออออ T T

คืนนั้นเราเอาของไปเก็บแล้ว พี่รองอยากพาไปร้านซูชิที่พวกนางเคยมาคราวก่อนค่ะ แต่นางหลงทาง!!! สี่ทุ่มอ่ะกว่าจะเจอร้าน แทบเป็นลมกลางทาง เพราะเดินไกลมากกกกกกกกกก

ไม่ได้ถ่ายรูปมา หิวโซ หน้าโทรม ตาขวางทุกคน จบข่าว = =

======================================================

18 Sep 2014 : Barcelona Tour

วันนี้เราวางแผนจะเที่ยว Barcelona ด้วยกันทั้งบ้านค่ะ (9 คน) 

เราแน่นอนว่าต้องพึ่งพารถนำเที่ยวอย่าง City Sightseeing Tour!!! เจ้าประจำที่มีสาขาอยู่ครึ่งค่อนโลก 

ถ้าเคยนั่งรถเจ้านี้มาก่อนจากประเทศอื่น สามารถนำตั๋วใบนั้นมารับส่วนลดได้นะคะ 

นี่ก็มีตั๋วจากโรม แต่พี่สาวดันลืมเอาออกมาจากห้อง orz สรุปว่าจ่ายไปคนละ 21 ยูโรเน็ตๆ

สำหรับที่นี่จะพิเศษกว่าเมืองอื่นตรงที่ว่า แกแบ่งเป็น 3 routes ค่ะ A B C ตามนี้ค่ะ //www.city-sightseeing.com/documents/tours/1290.pdf

เมืองแกใหญ่และสถานที่เที่ยวเยอะมากกกกกกก พี่ขับวนรอบเมืองเลยค่ะคุณ...

คือตั๋วเรามัน 1 วัน นั่งได้ทุกสาย วันละกี่รอบก็ได้ในวันนั้นๆ เอาจริงๆ แค่รูท A B ก็หมดวันแล้วค่ะ รูท C เน้นริมชายหาด

เราก็จะอยู่กันแค่รูท A กับ B นี่แหล่ะ หนุกหนานทั้งวัน

จุดที่ขายตั๋วรถจะอยู่ที่ข้างห้าง El Carte Igles ตรงกาตาลุนย่านั่นแหล่ะค่ะ ทุกยี่ห้อจะมาจอดรับส่งคนที่นี่เป็นหลัก

เราเริ่มที่รูท A สีแดงค่ะ



ถ่ายจากบนรถ หน้าห้างเลย หัวมุมเป็นร้าน Apple อยากเดินเข้าไปมากแต่ไม่มีเวลาเข้าไป - -"

ขับตรงไปบนถนนนี้ ฝั่งขวาจะเป็น shopping street ยาวๆ พวก LV Chanel ไรพวกนี้จะอยู่ตรงนี้เกือบหมดเลยค่ะ



Casa Batllo นั่งรถผ่านเห็นว่าสวยดีเลยถ่ายรูปไว้ แต่มันสำคัญยังไง ไม่รู้เลยจ้าาาาาาาาา = =

กูเกิ้ลเอานะ



Francesc Macia Diagonal 



ที่ไหนไม่รู้ สวยดีเลยถ่ายมา


ไฮไลท์ของพี่เขยของเราอยู่ที่นี่ค่ะ นั่งรถขึ้นเขามานานมาก



MNAC = Meseu Nacional d'Art de Catalunya หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ เมืองกาตาลุนย่า นั่นเอง...

คือพี่แกภูมิใจนำเสนอเพราะมันสวยค่ะ เราไม่ได้เข้าไปใน museum นะ แต่ไปดื่มดำกับวิวบนเนินเขาแทน เวลามองลงมาที่เมืองแล้วมันสวยมาก



จริงๆ เข้าไปน่าจะสวยนะคะ แต่สเปนเค้าไม่ค่อยมีป้ายภาษาอังกฤษอ่ะ พอๆ กับฝรั่งเศสที่ไม่ค่อยติดป้ายภาษาอังกฤษ ทำเราเงิบๆ ไปเหมือนกัน - -"



มองลงไปแล้วเห็นทั้งเมืองงงงง พี่เขยพูดถูก ต้องขึ้นมาแหล่ะแล้วค่อยเดินลงจะได้ไม่เหนื่อย



แบบพาโนราม่าบ้าง

ลงไปข้างล่างหน่อย ทางซ้ายจะมีร้านขายน้ำ ขายไอติม ด้วยนะ เราไปนั่งพักอยู่ตรงนั้นสักแป๊บเหมือนกัน

มาตรงนี้บ้าง น้ำพุที่เป็น signature ของที่นี่...



สวยร่มรื่น ของจริงยิ่งใหญ่อลังการมาก คนเหลือตัวนิดเดียว :)

เดินต่ออีก..



เป็นลานน้ำพุยักษ์



พอลงมาจะเป็นวงเวียนใหญ่ คือระยะทางมันไกลมากค่ะ เดินจนถึง Placa d'Espanya เพื่อที่จะขึ้นรถบัสไปกันต่อ แต่ตรงนั้นมันเป็นจุดจอดเก่า ไม่มีรถ sightseeing มาจอดนานแล้ว เราก็รอเก้อกันนานเป็นชม.เลย - -"

สุดท้ายเลยเดินเข้า Arenas de Barcelona หน้าตาเหมือนสนามอะไรสักอย่าง แต่ข้างในเป็นห้าง และทำชั้นบนสุดเป็น museum เล็กๆ และจุดชมวิวของเมือง 

ส่วนที่เป็นลิฟท์แก้ว ขึ้นแล้วเสียเงินนะคะ แต่ถ้าเรายอมเสียเวลาใช้บันไดเลื่อนในห้างขึ้นไป มันจะ...ฟรีค่ะ!!! (ตลกว่ะ)




วิวจากด้านบนนะ มองมาเห็นวงเวียนใหญ่ Placa d'Espanya พอดี เห็นเสาคู่ตรงหน้าน้ำพุยักษ์ด้วย

รถบัสจอดอยู่เยื้องๆ Arenas de Barcelona ค่ะ พี่เขยลงความเห็นว่าเราควรไปหาอะไรทานเป็นมื้อเที่ยงสักที

แกเลยจะพาไปร้านซีฟู้ด ร้านที่แกเคยมากินเมื่อหลายปีก่อน

ซึ่งก็ต้องเปลี่ยนสายรถไปรูท C แหล่ะค่ะ



เห็นชายหาดแล้ว :D

จำชื่อร้านไม่ได้ แต่บรรยากาศการตกแต่งร้านดูดีมาก เหมือนที่เคยเห็นในซีรีส์ต่างประเทศ ดูชิลๆ สบายๆ 





มีอีก 1-2 อย่างแต่ไม่ได้เอามาลง ถามว่าทำไมไม่สั่งข้าวผัดสเปนหรือรีซอตโต้ล่ะ??

พี่เขยแกว่ามันไม่อร่อยค่ะ จบข่าว

อันนี้จานเด็ด สั่งมา 2 ชุด กินไม่หมดนะ หม้อใหญ่มากกกกกกกกกกกกกก



มีกุ้ง หอยหลอด (ใช่ป่ะ?) หอยแมลงภู่

บอกเลยว่านาทีนั้นอยากเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดมาด้วย ไอ้น้ำราดของเค้ามันไม่อร่อยอ่ะ แล้วพอไม่มีน้ำจิ้มแบบบ้านเราแล้วมันก็กะเลี่ยน กินได้ไม่เยอะ นึกๆ แล้วก็เสียดายเหมือนกัน

พูดได้คำเดียวว่า "จะอ้วกออกมาเป็นหอยแล้ว!!"


จบมื้อนี้ เรามาคุยกันว่าอยากไปไหน แน่นอนว่าเราจะไป Camp Nou หรือ Barcelona FC ให้ได้ ส่วนหนึ่งเพราะพี่ชายอยากได้เสื้อทีม เราไม่ดูบอลแต่ก็อยากไปนะ

คือว่ารูท B เนี่ย เรานั่งรถอ้อมโลกไปหน่อย แต่มันผ่าน Sagana Familia ด้วย สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สร้างมาหลายร้อยปียังไม่เสร็จ ทำไมจะไม่ล่ะ?



ดูแบบนี้เหมือนจะคิดว่า "อีกนิดเดียว เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว" ใช่มะ จริงๆ เหลืออีกเยอะนะ (ข้างหลังด้วย) ไม่รู้สร้างไรนักหนา - -"





คนเยอะมาก แล้วตอนนั้นก็เย็นมากแล้วด้วย เราเลยตัดสินใจไม่เข้าไป ไปต่อที่ Camp Nou ดีกว่า


พอไปถึงส่วนที่เปิดให้เข้าสนามก็ปิดแล้ว เหลือร้านขายของ official ที่ยังเปิดอยู่ แต่แค่นี้ก็โอเคแล้วนะ



หน้า Ticket booth



ร้านใหญ่มาก มี 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นของที่ระลึกทั่วไป รวมไปถึงเสื้อทีมไซส์เด็กด้วย

ชั้น 1 (ที่มีหุ่นเสื้อ) เป็นเสื้อไซส์ผู้ใหญ่ปกติ เสื้อทีมเหย้า เยือน กางเกง เสื้อวอร์ม มีหมด ถ้าดูดีๆ จะมีตัวที่ลดราคาด้วยนะ

ชั้น 2 ไม่ทราบค่ะ น่าจะขายรองเท้าพวกนี้มั้ง ไม่ได้ขึ้นไป





ชั้นล่างสุดมีภาพตอนได้แชมป์ด้วย 5555




บ๊ายบาย Camp Nou ไว้มีโอกาสจะกลับมาอีกนะ อยากเข้าสนาม :D


จบจากตรงนี้ เราก็กลับห้องพักค่ะ พี่สะใภ้ของพี่เขยอยากช้อปปิ้ง เราเลยต้องพาเธอช้อปปิ้ง พูดง่ายๆ คือต้องแยกทีมกันค่ะ 555 หนุ่มๆ ก็พักผ่อน เราก็ช้อปปิ้งของเราไป


คืนนี้เราต้องเตรียมเก็บของกลับ Stockholm แล้วเพราะเรามีบินเช้า ต้องออกจากห้องพักตั้งแต่ตีห้าเรียกว่าแทบไม่ได้นอนเลยค่ะ 

Taxi ยุโรปค่อนข้างตุกติกนะ แล้วเป็นแทบทุกชาติ (บ้านเราล่ะตัวดี) เราเรียกจาก Taxi center โทรเรียกเลยนะ ตกลงแล้วว่าไม่มีค่ากระเป๋านะ พอเอาเข้าจริง อิคนขับมันฮั้วกัน คนนึงไม่เอา อีกคนนึงจะเก็บค่ากระเป๋า อิคนดีก็แพ้ไป สรุปว่าเราต้องจ่ายค่าหิ้วกระเป๋าให้มันด้วย -*-

============================================

19 Sep 2014

เราบิน Norwegian air กลับ Stockholm เป็นความโชคดีอย่างนึงคือ สายการบินนี้เป็นสาย low cost จะโหลดกระเป๋าต้องเสียค่าโหลดเพิ่ม คนก็เลยไม่ยอมโหลดกัน สตาฟเห็นแบบนี้แกประมาณดูแล้ว overhead bin (ช่องเก็บกระเป๋าเหนือหัว) คงมีที่ไม่พอแน่นอน ยกผลประโยชน์ให้จำเลย ให้ทุกคนโหลดกระเป๋าฟรีเลยละกัน กี่ใบก็ได้!!!

สบายเลยค่ะทีนี้ 55555 ไม่ต้องแบกให้เหนื่อย โหลดให้หมด สบ๊ายยยยยยยยยย

ขึ้นเครื่องมา เหนื่อยนะ อยากนอน แต่ช่วงซัมเมอร์ทุกคนเที่ยวกันหมด เด็กเล็กเต็มเครื่องเลยเธอ แล้วผลัดกันร้องตั้งแต่เครื่องเทคออฟจนแลนดิ้ง ร้องสลับต่อๆ กันไปจนจบไฟลท นอนยังไงบอกที T_T

เลยสั่งขนมมากิน ชุดละ 4 ยูโร



คือโดนัทนี่อร่อยมากอ่ะ เห็นเป็น sugar glaze donut โง่ๆ แต่อย่าดูถูกนะ 5555 โดนัทเคลือบน้ำตาลแค่นี้ก็อร่อยแล้ว เนื้อแป้งนุ่มเนียน อร่อยกว่าไอ้ที่ต่อคิวกันยาวๆ อีก

แอบดูชื่อร้านแล้ว มีขายใน Barcelona นะ ใครอยากลองก็ตามร้านกันดู 555



Stockholm, Sweden

ที่นี่ เราพักบ้านของพี่ใหญ่ค่ะ แกกับพี่เขยมีห้องพักอยู่บนเนินแห่งนึงใน Stockholm (เค้าเรียกว่าอะไรไม่รู้นะ แต่ได้ยินว่าแพงมาก แพงจนคนสวีดิชเอาไปนินทาว่า "อีกหน่อยคุยด้วยไม่ได้แล้ว ซื้อบ้านอยู่แถวนั้น" 555) คือซื้อบ้านก็ไม่ได้แปลว่าจะได้ที่ดินนะ กฎเกณฑ์ของที่นี่เยอะมาก เยอะจนเพลีย จาระไนไม่หมด

พี่เขยกับพี่ใหญ่ได้ยินว่าเรายังไม่ได้เดินเที่ยวใน Stockholm เลย แกเลยพาเดินเที่ยวเมืองค่ะ 

เดินเที่ยวคือเดินจากบ้านเข้าเมืองนะ ไม่ใช่นั่งรถไป 5555

แต่ก่อนอื่นต้องเติมพลังก่อน เป็นร้านอาหารราคานักศึกษาแถวๆ บ้านค่ะ ขอบอกว่า อร่อยทุกอย่าง อร่อยมากเฟ่อ อร่อยชนิดที่ว่า อิตาลีคือต้นตำรับอาหารชนิดนี้แต่อร่อยสู้ที่นี่ไม่ได้ 555







ของเราจานนี้ค่ะ ลาซานญ่าเนื้อ อร่อยวัวตายควายล้ม 5555



เรียบร้อยแล้วเราไปกันต่อ 



Stockholm เป็นเมืองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนะคะ บ้านเค้าจะมีแต่ต้นไม้ร่มรื่นเต็มไปหมด เดินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เพราะมันสวยน่าเดินจริงๆ

นอกจากนี้ แกยังแคร์คนทุกเชื้อชาติด้วยนะ 







เหมือนมีป่าอยู่กลางเมือง มันดีมากอ่ะพวกเธอ 



นี่ห้องน้ำอัตโนมัติแหล่ะ เป็นห้องน้ำสาธารณะ เข้าได้ฟรีและสะอาดมาก ตอนไปเพิ่งมาตั้งใหม่ๆ เลย

เข้าโซนตัวเมืองกันบ้าง



ไอ้เจ้าเห็ดนี่ พี่สาวบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ใครมาก็ต้องถ่ายรูปด้วย 

อย่าถามนะว่าเค้าเรียกว่าอะไร ย่านอะไร คือไม่รู้สักอย่าง สวีดิชไม่กระดิกเลย = =



แกว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงพอสมควรค่ะ 



เข้าสู่ย่านช้อปปิ้งกันเต็มตัว อีกครั้ง...ไม่ต้องถามนะว่าไปยังไง เค้าพามุดห้างนู้น เข้าซอยนี้ มึนค่ะคุณ อิฉันแค่เดินตามเค้าเท่านั้น



ไปสวีเดน ต้องไปช้อปร้าน Zara นะคะ แบรนด์ของแกเอง ราคาถูกกว่าไทยอยู่ละ

อีกเจ้านึงก็ H&M (ที่นี่เรียก โฮเอ่ม) ร้านใหญ่โตมโหฬาร แต่อิฉันไม่ได้อะไรเลย - -"





คือจะไปช้อป LV ค่ะ เพราะได้ยินมาว่าที่นี่ได้ tax refund 13% เยอะกว่าที่อื่นๆ อีก เลยแวะช้อปที่นี่

ปกติของ LV จะมีพนักงานคนไทย หรือ พูดไทยได้อยู่อย่างน้อย 1 คน ซึ่งมันดีมากๆ เลยค่ะ 





ซอยนี้อยู่ด้านหลังร้าน LV ค่ะ ย่านช้อปปิ้งดีงามสามโลกจริงๆ 


จบจากตรงนี้ เราไปทานมื้อค่ำที่ร้านชบา ร้านอาหารไทยชื่อดังของ Stockholm ค่ะ

เป็นร้านของคนไทย ทำอาหารโดยคนไทย เสิร์ฟโดยคนไทย (บางทีก็สวีดิช) 

แต่คนสวีดิชชอบนะ โดยเฉพาะข้าว คือกินข้าวเป็นเว้ย กินกันเป็นโถๆ เลย = =

เราค่อนข้างงงเพราะตอนไปอเมริกา เข้าร้านอาหารไทย คนที่นั่นกินข้าวไม่เป็น คือสั่งพวกแกง ต้มยำเป็นซุป main dish หรืออะไรสักอย่าง แล้วเหลือข้าวพูนถ้วยเลย เห็นแล้วเสียดาย

มาเจอแบบนี้เหมือน culture shock ค่ะ 

นิสัยที่ดีของแกอีกอย่างคือ กินหมดไม่เหลือ ขนาดปลาทอดยังแทะจนถ้าไม่ใช่ก้างปลาแข็งๆ แกไม่ทิ้งนะ กินหมด มากินแบบบ้านเรานี่โดนด่า (เหลือพุง เหลือหัว) ปลาบางชนิดต้องนำเข้าจากบ้านเรา มันแพงอ่ะเนอะ

คืนนั้น เราเดินกลับบ้านกันเอง (อีกละ) คือเดินไกลมาก ตอนกลางวันอากาศ 22-25 องศา พอฟ้ามืดเหลือ 7 องศา พี่บ้าไปแล้วววววววววววววว T T ใส่แค่เสื้อเชิ้ตกะสเวตเตอร์บางๆ มาแค่นั้นเอง ก็ต้องเดินอ่ะค่ะ จะได้ร้อนๆ

กลับถึงบ้าน เก็บของ นอน วันรุ่งขึ้นต้องบินกลับไทยแล้ว :)

============================================

20 Sep 2014

ไม่มีไรมาก เก็บของ บอกลาทุกคน กลับไทยแลนด์ 

พี่เขยอาสานั่งแท็กซี่ไปส่งที่สนามบิน เพราะครอบครัวแกก็จะกลับไทยพร้อมเราด้วย แถมฝากฝังให้เราช่วยดูแลไปอีกทาง

เราก็ต้องทำเรื่อง Tax refund เนอะ อย่างที่บอกไป หลังจาก check-in อะไรเสร็จ ต้องวิ่งไปเค้าเตอร์ Global blue เพื่อทำ refund เข้าบัตร (ที่นี่ทำเข้าบัตรเท่านั้น ไม่มี cash)

ส่วนของ premium tax free ต้องได้ แสตมป์จากตม.ก่อน ซึ่งเราสามารถเดินลงไปชั้นล่าง (ชั้นผู้โดยสารขาเข้าประเทศ) จะมีหน้าต่างนึงปิดอยู่ ให้เคาะกระจกหรือยกหูโทรเอา พี่แกจะเปิดหน้าต่างมาจ๊ะเอ๋กะเราเอง

ย้ำว่า ให้กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน แล้วใส่ซองจดหมายหย่อนที่หน้าตู้นั้นเลย หรือถ้าลืมนะ..เข้าไปข้างในก็จะมีอีกจุดนึงที่สามารถแสตมป์ได้ (ไม่ใช่จุดที่ตรวจพาสปอร์ตเข้าเกทนะเธอ มันมีจุดเฉพาะของเค้า) 

สนามบิน ARN มันเล็กมาก จะ domestic หรือ international พี่ก็ใช้ทางเดียวกันหมด - -" เดินๆ แล้วเหวอเหมือนกัน แบบ "อ้าว! มันคือที่เดียวกันเหรอ ไม่แยก terminal เหรอฟะ" (คือทางเข้าแยกกัน แต่สุดท้ายมาบรรจบกันที่เดิม!!)

สิ่งเดียวที่แยก inter กับ domestic คือบู้ทตรวจ passport ค่ะ คือ inter ต้องเดินเข้าไปอีกนิดนึงแหล่ะ 

เรานี่กว่าจะได้เข้าเกท เกือบตกเครื่องเพราะลืมดูเวลา - -" 



บ๊ายบาย ARN Stockholm, I'll miss you :)



อาหารมื้อแรกบนเครื่อง 

ถ้าเราซื้ออาหาร จะเป็นมื้อหลัก 1 มื้อ กับ small meal อีก 1 มื้อค่ะ



เล่าก่อนๆ บนเครื่องมีเรื่องระทึกค่ะ...

บนเครื่องมักจะมีแอร์คนไทยอยู่เยอะนะ ส่วน pursur (หัวหน้า) เป็นสวีดิช เวลาพวกนางคุยกันเราก็ได้ยินไปด้วยแหล่ะ เวลาโน้ตติดไว้ใน galley เราก็แอบเห็นอยู่

ตอนที่เครื่องขึ้น มีผู้โดยเมาอยู่ 2-3 คน pursur เลยสั่งห้ามเสิร์ฟแอลกอฮอล์ (แอร์ก็ห้ามได้นะถ้ามันดูไม่ดี) ทีนี้มีผู้โดยอยู่คนนึง สภาพน่าเป็นห่วงมาก เหมือนจะหงุดหงิดที่แอร์ไม่ยอมเสิร์ฟแอลกอฮอล์ให้เลยเกิดอาการเกือบอาละวาดจนผู้ชายคนข้างๆ แกกลัว pursur เลยหิ้วไปอบรมที่ galley เลย คิดว่ารอจนแกอาการดีขึ้นหน่อยแล้วก็พากลับไปนั่งที่เดิม แต่ผู้โดยข้างๆ แกไม่โอเคละเลยย้ายมานั่งกะเรา (พี่สาวบินกลับด้วย) เพราะมีที่ว่างอยู่ 

แอร์ก็พยายามไม่เล่าให้ฟังนะ แอร์สาวคนนึงบอกว่า "เอ้อ ผู้โดยปวดฟันเลยอาละวาดน่ะค่ะ" (บ้าแระแก คิดว่าเชื่อมะ)

จบเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรละค่ะ นอนต่อไป...



เช้าแล้ว...



มื้อย่อยตอนเช้า ขนมปังอร่อยดีนะเธอ...

อาหารบนเครื่องไม่แย่นะคะ Norwegian อร่อยใช้ได้เลย ลองดูๆ


กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ


=================================================

รีวิวจบแล้วนะคะสำหรับทริปนี้ ลากยาวมาได้ไงตั้งหนึ่งปี 5555

ไม่ว่าเค้านะตัวเอง :P



ทริปหน้าเอาใหม่นะ ปลายเดือนนี้จะไปยุโรปอีก แต่จะแบ็คแพ็คลุยๆ อีก

คราวนี้จะไม่มีเหตุการณ์เมมเต็ม แบตดับอีกแล้ว เรามีมาตรการสำรองรองรับไว้แล้ว 55555

กล้องดีขึ้น เป็น mirrorless และอาจแบกขาตั้งไปด้วย คอยดูนะพวกเธอ จะ(พยายาม)ไม่ให้เสียชื่อ photostocker นะแจร้ะ 5555



ใครใคร่ติดตาม สามารถกดติดตามบล็อกได้นะคะ จักเป็นพระคุณยิ่ง

ใครผ่านมาอ่านแล้วพบว่ามีประโยชน์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ขอบคุณมากค่ะที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ :)

จะพยายามปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นค่ะ 

แล้วเจอกันทริปหน้า สวัสดีจ้า



Create Date : 06 ตุลาคม 2558
Last Update : 7 ตุลาคม 2558 11:47:02 น.
Counter : 2719 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัลปาก้าจัง
Location :
ราชบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Piyoko-chan !!


เจ้าของบล็อกชื่อ เป้ ค่ะ

แต่งหน้าก็พอไหว แต่งตัวไม่ได้เรื่อง(ในบางที)

ตอนนี้มีหมวดท่องเที่ยวแล้ว ความฝันอีกอย่างคือได้เที่ยวทั่วโลกค่ะ จะพยายามรีวิวให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงทริคและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ชมกันค่ะ


เอาเป็นว่า นั่งอ่านขำๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^

ถูกใจบล็อก donate สมทบทุนค่าเดินทางในทริปต่อๆ ไปได้ที่นี่เลย..
https://www.paypal.me/yanisapae

ขอบคุณล่วงหน้าค่า