Group Blog
 
All blogs
 
Skyline (2010): มันมาเพื่อ...ดูด

Skyline (2010) :
ผลงานล่าสุดของสองพี่น้อง Strause (Colin และ Greg Strause)นักทำเอฟเฟกต์มือฉมังที่เคยร่วมกันกำกับ Aliens vs Predator - Requiem (2007) จนเละได้ใจมาทีแล้ว(แต่หนังก็ยังทำเงินไปได้ 150 กว่าล้านเชียวนะ) โดยมาคราวนี้พี่น้องสองศรีเราขอคิดการใหญ่โดยการหากู้หนี้ยืมสินกว่า 20 ล้านเหรียญมาทำหนังไซไฟทริลเล่อร์เรื่องนี้เองโดยไม่ต้องพึ่งสตูดิโอยักษ์ใหญ่แม้แต่น้อย(แต่ก็ต้องให้ Universal จัดจำหน่ายให้อยู่ดี) และก็ทำออกมาได้ดีซะด้วยสิครับพี่น้อง

อยู่ๆ พวกมันก็ลงมาเยี่ยมแอลเอ
ด้วยพล็อตที่เหมือนกับหยิบเอาไอเดียของหนังดังๆ เรื่องโน้นเรื่องนี้มาผสมกันไม่ว่าจะเป็น ID4, Cloverfield, War of the Worlds และแม้กระทั่ง The Matrix จนได้ออกมาเป็นเรื่องราวการหนีตายของหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในแอลเอขณะที่กำลังเจอการรุกรานจากพวกต่างดาวซึ่งมาเพื่อดูดมนุษย์ทุกคนขึ้นไปบนยานของมันเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ซึ่งก็แน่นอนว่างานนี้คงจะไม่มีใครที่ไหนเขาอยากขึ้นไปทัวร์บนยานอวกาศยักษ์ของพวกมันแน่ๆ

งานเอฟเฟกต์ระดับมือโปร
และก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าหนังหยิบยืมไอเดียมาจากหนังเรื่องต่างๆ ดังนั้นคงไม่มีอะไรเจ๋งๆ มาทำให้ต้องตาค้างอ้าปากหวอจนยุงเข้าแน่ๆ แต่กระนั้นสองพี่น้องเขาก็ยังทำหนังออกมาได้ดูสนุกตื่นเต้นดีพอสมควร โดยหนังจะโดดเด่นทางด้านเอฟเฟกต์เอามากๆ ในขณะที่บรรดานักแสดงผู้สร้างก็เลือกแต่คนที่ไม่ดังมา เพื่อจะได้ประหยัดเงินไปทุ่มด้านเอฟเฟกต์ได้เยอะๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับหนังแนวนี้อยู่แล้ว

พระเอกเราหน้ายาวได้ใจ
นอกจากการที่หนังมีหลายอย่างที่ทำให้เราพลอยนึกไปถึงหนังเรื่องต่างๆ ในอดีตแล้ว หนังก็ยังประสบปัญหาเดิมๆ ประเภทที่ยังมีตัวละครชอบตัดสินใจทำอะไรๆ พิลึกๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากจนน่าเกลียดอะไร กับช่วงตอนจบที่ออกแนว'จบแบบไม่จบ'ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนพาลไม่ชอบเอาได้ง่ายๆ แต่เรากลับรู้สึกชื่นชมที่พวกเขามีความกล้าที่จะจบแบบขัดใจคนดูและกล้าคิดการใหญ่ที่วางแผนจะให้เป็นหนังหลายภาคแบบนี้(ภาคสองมีกำหนดฉายปี 2012) ยังไงเสียก็ต้องขอเอาใจช่วยให้หนังประสบความสำเร็จก็แล้วกันเน้อ

สภาพของคนที่กำลังจะโดนดูด
  • + เป็นหนังไซไฟระทึกขวัญที่ดูสนุก เอฟเฟกต์ดี ใครชอบดูหนังเน้นเอฟเฟกต์คงจะไม่ผิดหวังกัน
  • - เหมือนลอกไอเดียมาจากเรื่องโน้นเรื่องนี้ ไม่มีอะไรใหม่ๆ และจบแบบ 'อ่ะนะ' ที่อาจจะทำให้หลายคนผิดหวังเอาได้ง่ายๆ อีกเช่นกัน
ภาพนี้ไม่ได้มาจากหนัง ID4 เน้อ



*ช่วงเพลงในหนัง*
30 Seconds to Mars
สกอร์ของหนังที่เป็นผลงานของ Matthew Margeson ก็ไม่ถึงกับโดดเด้งโดดเด่นขึ้นมานัก ในขณะที่เพลงร้องของศิลปินต่างๆ ก็มีแทรกมาเป็นระยะๆ ในช่วงแรก(แหงล่ะ เอเลี่ยนบุกโลกแล้วใครจะยังมีอารมณ์ฟังเพลงอยู่เนอะ) ส่วนเพลงที่โดดเด่นที่สุดในช่วงแรกสำหรับเรานั้นก็คงไม่พ้นเพลง Kings and Queens ของ 30 Seconds to Mars ที่เปิดแว๊บหนึ่งในช่วงที่พระเอกนางเอกเพิ่งมาถึงแอลเอใหม่ๆ ว่าแล้วเราก็มีมาให้ฟังหลังดูหนังกันจ้า

MP3: 30 Seconds to Mars - Kings and Queens


*รีวิวหนังเอเลี่ยนบุกโลกเรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*



Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 31 มีนาคม 2555 14:15:54 น. 8 comments
Counter : 2796 Pageviews.

 
เป็นหนังที่ห่วยสุด เท่าที่เคยดูมาเลยค่ะ


โดย: ดิฉัน IP: 61.19.213.158 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:56:17 น.  

 
คิดว่าจะไปดูเอฟเฟค หาไอเดีย..สรุปได้ว่าเหมือนเม้นท์ข้างบนเด๊ะๆเลย

แต่ไม่ได้บอกว่าเอฟเฟคไม่สวยนะ แต่โทษที มาดูหนัง ไม่ได้มาดูเอฟเฟค


โดย: ฟักสกายไลน์ IP: 27.55.201.23 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:15:05 น.  

 
ตัวหนัง:พอถูไถ

เอฟเฟ็ค:อยู่ในขั้นดี ไม่เป็นรองใครในฮอลลีวู้ด

ดารา:ไม่เป็นที่รู้จักหน้าตาเท่าไหร่ แต่พอผ่านไม่เกิดอาการเฟลนัก

บท:นี่จ้างใครมาเขียนวะ ด๋อยเอ๊ย... อะไรหัวหางนางก้อยสะเปะสะปะไปหมด

ตอนจบ: SPOILED
.
.
.
.
.
.
.

บัดซบ!!! กะให้ดิชั้นรอไปลุ้นต่อภาคหน้าเหรอยะ???

ตอนแรกจะให้ซัก 7/10

เห็นตอนจบเอ็งเอา -2/10
ไปเลยป่ะ


โดย: กุลสตรีดีแตก วันที่: 14 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:20:36 น.  

 
รอดูหนังเรื่องนี้เหมือนกัน...ไม่ว่ามันอาจจะไม่โดนใจ
เหมือนกับคอมเมนท์ข้างบน...แต่ก็ขอไปสัมผัสและตัดสินเองดีกว่า
อาจจะ..."ด๋อยเอ๊ย" เหมือนคนข้างบนก็ได้...ชอบคำนี้จริงๆ

บางทีนักทำเอ็ฟเฟ็ค ก็อยากโชว์บางอย่างที่ตัวเองถนัดมากเกินไป
พอมาทำหนังมันก็เลยขาดองค์ประกอบหลายๆอย่าง..ที่ควรจะเป็นหนัง
แต่ใครจะรู้เนอะ...ว่าเค้าอาจจะอยากได้คำติชม อะไรบางอย่าง
จากคนประเภทเดียวกันกับเค้าก็ได้...ขอเพียงอย่างเดียวคือ
อย่าเจ๊งเป็นพอ...

คงเหมือนกับความฝันของคนคนนึง...มันคือความฝันที่อยากทำ
เรื่องบางเรื่องให้สำเร็จ ตามใจตัวเอง...วันนึง มันอาจจะดีพอ
ที่จะให้คนได้พูดชม มากกว่าติก็ได้..."ด๋อยเอ๊ย"
(ชอบคอมเมนท์ข้างบนอย่างมาก)


โดย: greenvases วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:1:18:25 น.  

 
แอบหลับในโรงหลายตอน


โดย: ศล วันที่: 15 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:36:56 น.  

 
ไปขี้ดีก่า


โดย: zapgames IP: 192.168.1.100, 125.26.245.133 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:17:18 น.  

 
โปสเตอร์ เหมือน Badboy เห็น UFO ครับ อิอิอิ


โดย: zapgames IP: 192.168.1.100, 125.26.245.133 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:07:41 น.  

 


ถึงกับให้สามกะโหลก
เลยทีเดียว

จริงๆหนังออกจะสนุกอยู่

ทำไมคนบ่นกันอุบ เลย

มันคงเป็นเหมือน เส้นบางๆ
ระหว่างอาหารถูกปาก
กับอาหารอร่อย

ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนชิมสินะคะ



โดย: Alex Dino วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:1:12:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.