Bloody Sunday (2002): วันอาทิตย์แห่งการนองเลือด
Bloody Sunday (2002) :
หลายคนคงจะทราบกันว่าผลงานหนังดราม่าการเมืองที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์เรื่องนี้ ของ ผกก.Paul Greengrass นั้น เปรียบเสมือนใบเบิกทางที่ทำให้เขาได้โกฮอลลีวู้ดไปกำกับ The Bourne Supremacy (2004) และ The Bourne Ultimatum (2007) จนโด่งดังคับซอย ส่งผลให้ในทุกวันนี้ถ้าจะนึกถึงบรรดา ผกก.หนังแอ็คชั่นเนื้อหาหนักแน่นที่มีสไตล์เฉพาะตัวอันแจ่มแจ๋วที่สุดแห่งยุคล่ะก็ คงจะมีชื่อของเขาติดอันดับต้นๆ ด้วยเป็นแน่เชียว
ม็อบไหนม็อบนั้นต้องมีไอ้โม่ง
หนังเสนอเหตุการณ์สุดสลดที่เกิดขึ้นในย่าน Bogside, เมือง Derry ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ณ วันที่ 30 ม.ค.1972 เมื่อกองทัพอังกฤษบุกเข้าสลายการเดินขบวนของ'กลุ่มเรียกร้องสิทธิพลเรือนแห่งไอร์แลนด์เหนือ' ด้วยความรุนแรง ชนิดที่ว่าเห็นใครแหลมมาเป็นโดนยิงใส่ ส่งผลให้มีพลเรือนถูกยิงไป 27 คน ซึ่ง 13 คนในจำนวนนั้นเสียชีวิตทันที(และเสียชีวิตในภายหลังอีก 1 คน)โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ มีพยานมากมายที่ยืนยันว่าเขาเหล่านั้นไม่มีอาวุธติดตัวเลย ในขณะที่เหล่าทหารที่เป็นผู้ลงมือยิงก็ยืนยันเสียงแข็งเช่นกันว่าเห็นผู้ตายเหล่านั้นพกอาวุธปืน, ระเบิดครบมือ ที่น่าชีช้ำก็คือว่าไม่มีทหารคนใดในปฏิบัติการฉาวครั้งนั้นถูกลงโทษเลย แถมผู้บัญชาการในปฏิบัติการยังได้ดิบได้ดีถึงขนาดได้เข้ารับเครื่องราชฯ จากพระราชินีอีกต่างหาก ส่งผลให้ชาวบ้านที่โกรธแค้นพากันเข้าร่วมขบวนการ IRA (ขบวนการปลดแอกไอร์แลนด์เหนือ) จนก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายเรื้อรังในไอร์แลนด์เหนือให้ทางการอังกฤษต้องปวดหัวไปอีกเป็นสิบๆ ปีเลยทีเดียว
ม็อบไหนม็อบนั้นย่อมต้องมีการสูญเสีย
คุณ ผกก.Greengrass นำเทคนิคการถ่ายทำอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาใช้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะการถ่ายทำด้วยกล้อง Hand-held ที่ให้ภาพที่สั่นไหวเหมือนภาพจากข่าวหรือสารคดี และไม่จัดแสงในการถ่ายทำเพื่อให้ภาพออกมาสมจริงที่สุด เรียกได้ว่าถ้าได้ดูหนังเรื่องล่าสุดของแกอย่าง Green Zone (2010) ก็จะพบว่าเทคนิคเหล่านี้ยังคงถูกนำมาใช้อย่างเกิดผลอยู่เลย และที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือการเล่าเรื่อง การตัดต่อ ที่ทั้งชวนสับสนอลหม่าน ตื่นเต้นระทึกขวัญยามเกิดเหตุการณ์จราจล และน่าโศกเศร้ายามเหตุการณ์สิ้นสุดลง แต่ก็นั่นแหล่ะ สำหรับคนที่ไม่ถูกโรคกับหนังที่บทพูดเยอะ มุมกล้องชวนเวียนหัว ก็คงจะไม่สนุกกับหนังเรื่องนี้เท่าไหร่นัก ทว่าสำหรับแฟนๆ หนังของ ผกก.Greengrass แล้ว ก็ต้องขอบอกว่า... สุดยอดจริงๆ นะครับเพ่!
เหล่าทหารพากันแสยะยิ้มที่ได้ข่มเหงประชาชน
ดูเรื่องนี้แล้วช่างเข้ากับบรรยากาศการเมืองบ้านเราในตอนนี้ซะจริง ในหนังจะเห็นได้ว่าจากจุดเริ่มต้นที่ผู้นำการเดินขบวนตั้งใจจะให้เดินกันอย่างสงบ แต่แล้วก็มีปัจจัยต่างๆ มากมายเข้ามา จนทำให้ทางกลุ่มเริ่มคุมคนไม่อยู่ จากเหตุการณ์กระทบกระทั่งเล็กๆ น้อยๆ ก็เริ่มบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ ยังความบาดเจ็บล้มตายแก่ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มากมาย ถึงแม้ยอดผู้เสียชีวิตของเขาจะดูจิ๊บๆ ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของบ้านเรา แต่ไม่ว่าจะตายมากตายน้อยแค่ไหนก็คงไม่ต่างกัน เพราะต่างก็ทิ้งให้ครอบครัวที่สูญเสียผู้ที่ตนรักไป ต้องเศร้าโศกเสียใจอยู่เช่นเดียวกันนั่นเอง
- น่าดูเพราะ: นี่คือผลงานคุณภาพที่ทำให้ ผกก.Greengrass ได้โกฮอลลีวู้ด แฟนๆ ไม่ควรพลาดเลยเชียว
- ไม่น่าดูเพราะ: ทุกวันนี้หลายคนก็คงจะเบื่อเรื่องม็อบๆ กันมากพอแล้ว คงไม่ค่อยอยากจะดูหนังเกี่ยวกับม็อบให้ชีช้ำทรวงขึ้นไปอีกหรอกมั้ง
ภาพจากเหตุการณ์จริงเมื่อ 30 ม.ค.1972
จริงๆ แล้วเหตุการณ์ที่เรียกว่า 'Bloody Sunday' เนี่ยไม่ได้หมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1972 เท่านั้น หากแต่มีมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งสามารถนับย้อนไปตั้งแต่ปี 1887 เลยทีเดียว โดยจะหมายถึงเหตุการณ์นองเลือดครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ Bloody Sunday จะเกิดในไอร์แลนด์เหนือบ่อยกว่าที่อื่น ยังไงก็หวังว่าประเทศไทยเราคงจะไม่มีวันสำคัญนี้กับเขาด้วยหรอกนะ (- -")
U2 อัลบั้ม War (1983)
เพราะเหตุการณ์สุดสลดในปี 1972 ทำให้วงร็อคชื่อดังจากไอร์แลนด์อย่าง U2 ลุกขึ้นมาแต่งเพลงที่ชื่อ 'Sunday Bloody Sunday' ซึ่งบรรจุอยู่ในอัลบั้มคลาสสิคของพวกเขาที่ชื่อ War (1983) ซึ่งเพลงนี้ก็โด่งดังจนทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ทุกวันนี้ในคอนเสิร์ตของพวกเขาก็ยังต้องบรรจุเพลงนี้ไว้ในลิสต์รายชื่อเพลงที่ใช้แสดงอยู่เลย ซึ่งแสดงถึงความคลาสสิคของตัวเพลงได้เป็นอย่างดี
และในช่วง End Credit ของหนัง ผกก.Greengrass ก็นำเวอร์ชั่นแสดงสดของเพลงนี้มาใช้ปิดท้ายได้อย่างเหมาะเหม็งที่สุด ทางบล็อกจึงขอนำวีดีโอ เนื้อร้อง และ MP3 เพลงนี้มาฝากกันเป็นการปิดท้ายจ้า
Yes
I can't believe the news today
Oh, I can't close my eyes and make it go away
How long, how long must we sing this song?
How long? How long?
'Cause tonight we can be as one, tonight
Broken bottles under children's feet
Bodies strewn across the dead end streets
But I won't heed the battle call
It puts my back up, puts my back up against the wall
Sunday, Bloody Sunday
Sunday, Bloody Sunday
Sunday, Bloody Sunday
And the battle's just begun
There's many lost but tell me who has won
The trench is dug within our hearts
And mothers, children, brothers, sisters torn apart
Sunday, Bloody Sunday
Sunday, Bloody Sunday
How long, how long must we sing this song?
How long? How long?
'Cause tonight we can be as one
Tonight, tonight
Sunday, Bloody Sunday
Sunday, Bloody Sunday
Wipe the tears from your eyes
Wipe your tears away
Oh, wipe your tears away
Oh, wipe your tears away
Oh, wipe your blood shot eyes
Sunday, Bloody Sunday
Sunday, Bloody Sunday
And it's true we are immune when fact is fiction and TV reality
And today the millions cry
We eat and drink while tomorrow they die
The real battle just begun to claim the victory Jesus won on
Sunday Bloody Sunday
Sunday Bloody Sunday
| Create Date : 21 มีนาคม 2553 |
| Last Update : 21 มีนาคม 2553 11:08:30 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 2934 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [
