Invictus (2009): รักบี้ช่วยชาติ
Invictus (2009) : ระยะหลังๆ มานี้ ปู่ Clint Eastwood (Gran Torino [2008]) แกขยันจริงๆ แม้จะอายุปาเข้าไป 79 ขวบแล้ว แต่ก็ยังทำหนังออกมาติดๆ กันถี่ยิบ(ห้าเรื่องในสามปี) ชนิดที่ผกก.หนังรุ่นลูกรุ่นหลานยังต้องอายในความฟิตของแก แถมแต่ละเรื่องเนี่ยยังเป็นที่ต้อนรับจากทั้งนักวิจารณ์และคนดูทั้งนั้น (เรียกว่าได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่องว่างั้นเหอะ) และนี่คือผลงานเรื่องล่าสุดของปู่ ที่ขอเล่าเรื่องราวของ ปธน.Nelson Mandela แห่งแอฟริกาใต้ ในช่วงสมัยเพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ
หนังเรื่องนี้ไม่ได้ซีเรียสอย่างที่ท่านคิดหรอกนะหนังพาย้อนไปในปี 1994 เมื่อ ทั่น Mandela (Morgan Freeman จาก Wanted [2008]) เพิ่งชนะเลือกตั้งและได้เริ่มบริหารประเทศในฐานะ ปธน. ซึ่งใครๆ ก็พากันปรามาสว่าจะไหวเร๊อ เพราะตอนนั้นปัญหาต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การว่างงาน อาชญากรรม ก็รุมเร้าประเทศอยู่ ไหนจะความตึงเครียดระหว่างชาวผิวขาวกับชาวแอฟริกันพื้นเมืองที่อาจเกิดการจราจลได้ทุกเมื่ออีกล่ะ แต่สิ่งที่ทั่น ปธน.เลือกที่จะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ เอิ่ม..."รักบี้" ถูกต้องแล้วครับ ท่านเลือกที่จะให้การสนับสนุนรักบี้ทีมชาติตนที่มีสถิติแพ้กระจายมาตลอด เพราะเล็งเห็นว่ารักบี้นี่ล่ะจะเป็นสิ่งที่สร้างความสมานฉันท์ให้แก่คนทั้งชาติได้ ประจวบเหมาะกับที่ในปี 1995 แอฟริกาใต้ได้เป็นเจ้าภาพรักบี้ชิงแชมป์โลกพอดี อนาคตของชาติจึงขึ้นอยู่กับการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์นี้แล้ว โอ้ว เดิมพันครั้งนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก
สองดาราดังมาเขย่ามือกันกลางสนามรักบี้
ฝีมือการกำกับของปู่ Clint ยังวางใจได้เช่นเดิม ถึงหนังจะยาวกว่า 130 นาทีแต่ปู่ก็เล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหลไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย ป๋า Freeman ก็รับบท ปธน.Mandela ได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งสำเนียง ท่าทาง ที่พยายามถอดแบบตัวจริงมาเต็มที่ (แต่ดูยังไงก็ยังเป็นป๋า Freeman ที่เราคุ้นเคยอยู่นั่นแหล่ะ) ส่วนพี่ Matt Damon (The Departed [2006]) ก็ฟิตหุ่นซะล่ำ(เตี้ย) ในบทกัปตันทีมชาติ ซึ่งก็ไปได้เรื่อยๆ ของพี่เขา ไม่มีอะไรให้ติกัน(ถ้าไม่ติดใจกับสำเนียงแปร่งๆ ที่พยายามจะเป็นแอฟริกาน่าของพี่เขา) ถึงหนังจะเล่าเรื่องราวที่เราๆ ท่านๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าผลจะออกมายังไงในตอนจบ แต่ปู่ก็สามารถร่ายมนต์ทำให้เรารู้สึกลุ้นระทึกและเอาใจช่วยไปกับการแข่งขันรักบี้ในหนังได้ อีกทั้งยังได้งานด้านดนตรีที่ไพเราะของ Kyle Eastwood ลูกชายของปู่ กับเอฟเฟคท์ในการเติมคนดูหลายหมื่นให้เต็มสนามก็สามารถสร้างอารมณ์ร่วมแก่หนังได้เป็นอย่างดี ว่าแต่ว่าพี่ไทยเราจะใช้กีฬาเพื่อสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติอย่างเขาบ้างก็ได้นะ ว่าแล้วก็จัดฟุตบอลประเพณีเหลือง-แดง ไปโลด เหอๆ (แต่สงสัยคงจะหนักกว่าเดิมซะมากกว่านะ)
ป๋าและคณะกำลังขำกิ๊กยังกับกำลังดูตลกโปงลางสะออนอยู่งั้นแหล่ะ
- น่าดูเพราะ: เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความหวัง แฟนปู่และคอหนังคุณภาพไม่ควรพลาดนะจ้ะ
- ไม่น่าดูเพราะ: ประสบปัญหาของหนังที่สร้างจากเรื่องจริงก็คือ คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าหนังจะเป็นยังไงและจะจบลงยังไง
*ช่วงรู้มั้ยเอ่ย (แล้วจะรู้ไปทำไมเนี่ย)*
โฉมหน้า Scott และ Kyle ลูกชายสุดเลิฟของปู่- ปู่ดันลูกชายทั้งสองเต็มที่ โดยให้ Scott (23 ขวบ) เล่นเป็นหนึ่งในนักกีฬาในทีม และ Kyle (41 ขวบ) ก็ทำดนตรีให้พ่อมาหลายเรื่องอยู่แล้ว
- ในยุคนั้นคนพื้นเมืองนิยมกีฬาฟุตบอล แต่คนผิวขาวนิยมรักบี้
- "invictus" เป็นภาษาลาตินที่แปลว่า "invincible" ซึ่งหนังยกมาจากชื่อกลอนสั้นๆ บทหนึ่งของกวีชาวอังกฤษ William Ernest Henley ที่แต่งไว้ตั้งแต่ปี 1875 โน่น
- Nelson Mandela ตัวจริงซึ่งเป็นเพื่อนของ Morgan Freeman มานานแล้ว บอกว่ามีแต่เพียง Freeman เท่านั้นที่เหมาะจะมารับบทเป็นเขา
- ตอนถ่ายทำฉากการแข่งขันหนังมีตัวประกอบเพียง 2,000 กว่าคน แต่ก็ใช้ CGI สร้างคนดูกว่า 62,000 คนให้ล้นสนามในภายหลังได้อย่างสมจริง
- ถ่ายทำไปถ่ายทำมาปู่ Clint ก็กลายเป็นแฟนกีฬารักบี้ไปซะงั้น (ก็นะ)
*แปลแบบปลาๆ งูๆ จาก imdb เด้อ*
Create Date : 29 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 14:22:36 น. |
|
9 comments
|
Counter : 3209 Pageviews. |
|
|
ขอให้โชคดีมีชัย
อยากได้สิ่งใด
ขอให้สมดังใจปอง
สุขภาพแสนดี ไม่มีโรคภัยเกี่ยวข้อง
ความรักให้สมใจปองครองรักกันมั่นคง
ที่เคยคิดจีบใครขอให้ได้ดังใจประสงคื
ที่อยู่ด้วยกันแล้วขอให้มั่นคงยืนยงคู่กันตลอดไป