Boogeyman 1-3: เจาะไตรภาคผีตู้เสื้อผ้า
ป๋า Sam Raimi ผกก.หนังชุด Spider-Man เป็นผู้ที่ชื่นชอบในหนังสยองขวัญมากๆ และที่ป๋ามีทุกวันนี้ก็เพราะดังมาจากหนังไตรภาคสยองขวัญอย่าง Evil Dead (ผีอมตะ)นั่นเอง ถึงแม้ระยะหลังจะไม่ค่อยมีโอกาสทำหนังผีเท่าไหร่ (ก็ยังอุตสาห์หาโอกาสทำ Drag Me to Hell [2009]มาจนได้) แต่ด้วยใจรักเลยเปิดบริษัท Ghost House Pictures ที่เน้นสร้างหนังสยองโดยเฉพาะ และไตรภาค Boogeyman นี้ก็มาจากผลผลิตของบริษัทนี้ด้วยเช่นกัน เรามาดูกันว่าแต่ละภาคจะมีดียังไงกันเถอะ
 Boogeyman (2005) : แม้จะเป็นหนังผีเล็กๆ ทุนสร้างแค่ 20 ล้านเหรียญ แต่ด้วยความที่มีหน้าหนังและเทรลเลอร์ที่ดึงดูดความสนใจเลยกวาดเงินไปตั้ง 60 กว่าล้านเหรียญเลยทีเดียว ส่วนตัวหนังนั้นก็จับเอาความกลัวผี "บูกี้แมน" ของฝรั่งมาเล่นได้อย่างน่าสนใจ เสียแต่ว่าไอ้ส่วนที่ดีๆ ดันไปอยู่ในเทรลเลอร์หนังหมดซะแล้ว ส่วนที่เหลือให้ดูคือ ความซ้ำซากของมุกหลอกคน ตัวบูกี้แมนถูกทำขึ้นโดยเทคนิคซีจีแสนห่วย แต่เอาน่า เป็นการริเริ่มที่สดพอจะไปได้อยู่ ว่าแล้วก็ทำภาคสองหาเงินเข้ากระเป๋าต่อดีกว่า พระเอกแทบจะฉายเดี่ยวทั้งเรื่องเลยทีเดียว
- เหตุที่น่าดู: เป็นจุดเริ่มต้น มีไอเดียบางอย่างที่สดใหม่น่าสนใจอยู่บ้าง
- เหตุที่ไม่น่าดู: ซ้ำซาก ตัวบูกี้แมนซีจีแสนก๋องแก๋ง ดูแล้วเสียเซล์ฟไปแยะเลย
 Boogeyman 2 (2007) : ภาคนี้สร้างลงตลาดดีวีดีโดยเฉพาะ แต่หนังยังได้ป๋า Tobin Bell แห่งหนังชุด Saw มาร่วมแจม เลยดูดีมีภาษีขึ้นมาแยะ แต่เนื่องจากการที่ภาคแรกมีคนติเรื่องตัวบูกี้แมนที่สร้างด้วยซีจีได้ห่วยเข้าขั้น ภาคนี้เลยขอหักดิบ เปลี่ยนแนวหนังไปเป็นหนังแนวฆาตกรใส่หน้ากากไล่เชือดชาวบ้านแบบหนัง Scream แทน ซึ่งเล่นเอาคนที่หวังจะดูหนังผีมึนไปตามๆ กัน ยังดีนะที่หนังไม่งี่เง่าเท่าไหร่ แถมฉากฆ่ากันก็สยองใช้ได้ แต่พับเผื่อยเหอะ เจ้าตัวฆาตกรเนี่ย เหมือนมันขโมยชุดมาจากสมาชิกของวง Slipknot เลยวุ้ย?!   บูกี้แมนภาคนี้มาในคราบสมาชิกวง Slipknot
- เหตุที่น่าดู: กลายสภาพเป็นหนัง เชือดๆๆ ที่ใช้ได้ทีเดียว
- เหตุที่ไม่น่าดู: ถ้านึกว่านี่เป็นหนังผีล่ะ ผิดหวังแน่
 Boogeyman 3 (2008) : มาคราวนี้ยังเป็นหนังดีวีดีเช่นเดิม และกลับไปเป็นหนังผีเหมือนภาคแรกก่อนที่ไปกันใหญ่ โดยคราวนี้บูกี้แมนจะบุกมหาวิทยาลัยไปจัดการเหล่านิสิตถึงหอพักเลยทีเดียว แต่อนิจจา ตัวผีถึงจะใช้คนมาแต่งหน้าเอาแต่ก็ยังออกมาดูตลกมากกว่าน่ากลัว นักแสดงก็ล้วนแต่แสดงแบบมือสมัครเล่นกันทั้งนั้น มุกสยองก็ไม่ได้มีความสยองสักนิดแต่ออกมาเดิมๆ เฉยๆ เรียกได้ว่าภาคนี้ห่วยที่สุดในสามภาคก็ว่าได้   บูกี้แมนภาคนี้ได้หลอกสาวๆ มากกว่าครั้งก่อนๆ
- เหตุที่น่าดู: สาวๆ น่ารักตรึม (คิดออกแค่นี้แหล่ะ อิอิ)
- เหตุที่ไม่น่าดู: ห่วยในทุกๆส่วน ห่วยที่สุดในสามภาคเลย
*ช่วงอันเนื่องจากหนัง*
 เชื่อกันว่าบูกี้แมนจะมาจับเด็กดื้อไปบูกี้แมนเป็นผีในตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา (ที่สก็อตแลนด์เป็นที่แรกๆ ที่เรียกมันแบบนี้) โดยไม่มีการระบุรูปพรรณสัณฐานที่แน่ชัดของบูกี้แมน ว่ากันว่ามันสามารถไปมาจากบ้านหลังหนึ่งไปยังอีกหลังหนึ่งในละแวกเดียวกันได้อย่างง่ายดาย แถมยังเป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย ฟันไม่เข้า(ไม่ใช่ฟันเหยินนะจ้ะ) เพราะมันเกิดขึ้นมาจากความกลัวของผู้คน ตราบใดที่ผู้คนยังกลัวในมัน มันก็ยังคงเฉิดฉายหลอกเด็กๆ ได้ต่อไป บรรดาพ่อแม่จึงนิยมนำบูกี้แมนมาขู่ลูกๆ ว่าถ้าทำตัวดื้อบูกี้แมนจะมาเอาตัวไป ทั่วโลกต่างมีตำนานเกี่ยวกับบูกี้แมน แต่ก็เรียกขานชื่อของมันแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น ส่วนเมืองไทยบ้านเรา ผู้ใหญ่สมัยก่อนมักขู่เด็กๆว่า "ถ้าดื้อเดี๋ยวปอบจะมากินตับ" แต่เดี๋ยวนี้เด็กๆ คงไม่กลัวแล้ว ผู้ใหญ่ยิ่งไม่กลัวเลยแต่กลับชอบซะอีก โดยเฉพาะผีผ้าห่ม มาเล๊ยย กึ๋ยยย...
| Create Date : 29 สิงหาคม 2552 |
| Last Update : 27 มกราคม 2553 6:25:19 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 7970 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [
