เรื่องเล่าจากไต้หวัน ที่แสนประทับใจ
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ
ผมได้มีโอกาสไปไต้หวัน ๒ ครั้ง ๆ แรกไปในฐานะนักวิจัยของกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อดูงานเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และการช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม (Victim's rights) เมื่อสองปีก่อน โดยมี รศ.ดร.ศรีสมบัติ โชคประจักษ์ชัด เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยนี้
ไปไต้หวันครั้งนั้น ได้ศึกษาเกี่ยวกับระบบกล้อง CCTV และระบบงานตำรวจของไต้หวัน โดยไปดูงานที่สำนักงานใหญ่ตำรวจ จึงเห็นว่าไต้หวันมีระบบ CCTV ที่ทันสมัย โดยเฉพาะในกรุงไทเป ที่อยู่ตอนเหนือของไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติของการตั้งเมืองหลวงทั่วไป ที่จะต้องอยู่กลางประเทศ ที่กรุงไทเป มีระบบกล้อง CCTV เกือบทุกแยกจราจร กล้องมีประสิทธิภาพสูงมาก ซูมละเอียดถึงรูขุมขน และสามารถแพนได้ทุกมุมด้วยตัวเอง พร้อมกับ ซูมป้ายทะเบียน และมีระบบเตือนทั้งกรณีพบรถยนต์ที่แจ้งหายหรือมีอุบัติเหตุ หรือ ระบบกล้อง CCTV เสีย ก็จะมีสัญญาณไฟและเสียงเตือนไปยังห้องควบคุมทันที ซึ่งจะทำให้การดักจับผู้กระทำผิดได้รวดเร็ว กล้อง CCTV จึงใช้ได้สารพัดประโยชน์ทั้งอำนวยความสะดวกจราจร การสืบสวนสอบสวน และการป้องกันอุบัติภัยต่าง ๆ
ผมยังได้ไปดูงานมูลนิธีในการช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในกรณีที่ถูกฆ่า ทำร้าย หรือได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดอาญาเกิดขึ้น เหยื่อสามารถร้องขอความช่วยเหลือทั้งด้านการเงิน การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา และการช่วยเหลืออื่นที่ไม่เป็นตัวเงินอีกด้วย โดยมีองค์กรอัยการ เป็นประธานคณะกรรมการช่วยเหลือเหยื่อ ในฐานะประธานเกียรติยศที่ไม่มีเงินเดือนพิเศษเพิ่มเติม แต่เป็นการอาสาสมัคร (แบบสมัครใจ และไร้ค่าตอบแทน) ค่าตอบแทนสำหรับเหยื่ออาชญากรรม คือประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ เหรียญไต้หวัน หรือประมาณ ๑ ล้านบาท ตามควรแก่กรณี ซึ่งจะคล้าย ๆ กับ กฎหมายตอบแทนและชดใช้ค่าเสียหาย แก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาของเรานั่นเอง
ผมยังได้มีโอกาสไปดูงาน มูลนิธิฉือจี้ ที่มีแม่ชี เป็นแกนนำ และจุดเริ่มต้นของมูลนิธิ มูลนิธินี้ มีโรงพยาบาล สถานีวิทยุ โรงเรียน และมีโรงคัดแยกขยะ เพื่อช่วยเหลือสังคม โดยแม่ชีผู้ก่อตั้ง ท่านสามารถรวมเอาจิตใจของคนไต้หวัน มาบริจาคทั้งทรัพย์และแรงกาย เพื่อช่วยเหลือคนทั่วโลกเมื่อมีภัยพิบัติ และแน่นอนที่สุด ช่วยเหลือคนไต้หวันเอง โดยประเทศไทย ก็มีมูลนิธินี้ ที่ จว.เชียงใหม่ ด้วย ผมยังได้มีโอกาสไปอีกหลายแห่ง ในการดูงานครัั้งนั้น เช่น สุสานนายพล เจียงไค เช็ค พิพิธภัณฑ์ที่รวมเอาทรัพย์สมบัติของชาติจีนไว้อย่างสมบูรณ์ เส้นทางสายแรกที่นายพลเจียงไคเช็ค สร้างไว้ในไทเป ซึ่งใช้มือและแรงงานคนในการเจาะทางผ่านภูเขาเป็นลูก ๆ เป็นต้น
การไปไต้หวันครั้งที่ ๒ จึงเริ่มต้นเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ และสิ้นสุดลงในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๙ ด้วยประสบการณ์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และการเยี่ยมชมชีวิตธรรมดาของคนไทเป พร้อมกับเรียนรู้วัฒนธรรม "ของผู้ดีจีน" ที่มีวินัย มีระเบียบ เคารพสิทธิของผู้อื่น และการรักษาบ้านเมืองที่สะอาดสุด ๆ พร้อมกับการเข้าคิวอย่างเป็นระเบียบ และการนั่งพับเพียบเรียบร้อยตามถนนรอบ ๆ บริเวณตึก Taipei 101 เพื่อดูการจุดพลุ Count Down ปีใหม่ ที่ Taipei 101 นั้น ผมรู้สึกมันน่าตื้นตันและสนุกสนานอย่างเหลือเชื่อ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง โปรดติดตามใน Blog ต่อไปครับ
Create Date : 12 มกราคม 2559 |
Last Update : 12 มกราคม 2559 18:12:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1214 Pageviews. |
|
|