กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
สาวน้อยวัยเพียง 11 ปี ผู้ต่อสู้กับภาวะโลกร้อนอย่างกล้าหาญ



บทความ โดย Hannah Malus

คาเซีย (Acacia Edeluchel) ก็เหมือนกับเด็กวัย 11 ปีทั่วๆไปที่ชอบออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านท่ามกลางธรรมชาติ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม

อคาเซีย เด็กสาวที่เกิดในแคลิฟอร์เนีย เติบโตมาทั้งในยูทาห์และอลาสกา เริ่มตกหลุมรักธรรมชาติจากการเดินท่องทะเลทรายและการพายเรือแคนูในป่า

“การได้เติบโตมาในอลาสกาทำให้ฉันได้รู้ว่าโลกของเรานั้นบอบบางแค่ไหน” อคาเซียอธิบายผ่านหน้าเพจ GoFundMe ของเธอ “ถ้าพวกเราไม่ลงมือทำอะไรซักอย่าง โลกของเราคงไม่เหลืออะไรให้คนรุ่นหลังเชยชม”

ดังนั้น เมื่อตอนที่เธอเรียนอยู่เกรดห้า คุณครูบอกว่าเด็ก ๆ ในห้องจะทำโปรเจคท้ายปีในหัวข้ออะไรก็ได้ที่ตนเองสนใจ อคาเซียจึงคว้าโอกาสนี้สร้างความตระหนักให้กับผู้คนถึงเรื่องของ “ภาวะโลกร้อน” ซึ่งเป็นภัยคุกคามธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด

“เป้าหมายของฉันคือเพื่อให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน เพื่อให้ความรู้ผู้คนว่าจะช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และระดมทุนเพื่อนำเงินเข้าองค์กรกรีนพีซ” อคาเซียกล่าวผ่านคลิปวิดิโอที่เธออัดขึ้นเพื่อโปรโมทแคมเปญ

เมื่อตอนที่พวกเราที่กรีนพีซได้เห็นแคมเปญ GoFundMe ของอคาเซีย เราได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากความมุ่งมั่นและความต้องการจะปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อมของเธอ (และรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่เธอเลือกมอบเงินบริจาคที่มาจากความพยายามของเธอให้กับกรีนพีซ) สิ่งที่เธอทำย้ำเตือนพวกเราว่าหากไม่มีผู้สนับสนุนเหล่านี้งานของเราคงดำเนินไปไม่ได้ และคนอย่างเธอนี่แหละที่เป็นแกนหลักของกรีนพีซ


อคาเซียใช้ความมุ่งมั่นของเธอในการปกป้องโลกใบนี้และความรักที่จะผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ

“มาฟังคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์กันก่อน” อคาเซียเกริ่นบนเพจ GoFundMe ของเธอก่อนจะเริ่มอธิบายที่มาที่ไปของการที่มลภาวะในชั้นบรรยากาศโลกดักจับความร้อนและทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ “นี่ไม่ใช่เรื่องน่าสนุก” เธอกล่าวและอธิบายต่อถึงการที่อุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้ส่งผลให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือละลายในอัตราที่น่ากังวล การที่สภาพภูมิอากาศรุนแรงขึ้นและคาดเดาได้ยากขึ้นทุกวัน รวมไปถึงการที่มหาสมุทรอาจมีภาวะเป็นกรดและมีระดับสูงขึ้นจนท่วมชุมชนชายฝั่ง

อย่างก็ไรตาม อคาเซียกล่าวว่ามันยังไม่สายเกินไปที่จะลงมือทำอะไรซักอย่าง “และนี่คือเวลาที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการช่วยหยุดภาวะโลกร้อน... แต่เราคนเดียวจะไปทำอะไรได้” เธอถามก่อนจะตอบคำถามของตนเองด้วยการไล่รายชื่อสิ่งที่คนหนึ่งคนพอจะทำได้มาหลายวิธี ซึ่งรวมไปถึงการให้ความรู้คนใกล้ตัวถึงภัยของภาวะโลกร้อน การแสดงสิทธิและเสียงทางการเมืองตามที่ตนพึงมี และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษอื่น ๆ ที่ตนเองสร้างขึ้นในแต่ละวัน

อคาเซียเชื่อว่าคุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้เช่นกัน!

กรีนพีซได้ติดต่ออคาเซียไปเพื่อศึกษาเรื่องราวของเธอเพิ่มเติม และพบว่าเธอนั้นอยากเป็นทั้งนักชีววิทยาด้านสัตว์ป่า นักอนุรักษ์ และนักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปความมุ่งมั่นตั้งใจ อคาเซียได้รับแรงบันดาลใจจากแม่ของเธอเป็นหลัก ผู้ซึ่งเป็นคนสอนเธอเกี่ยวกับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนรวมไปถึงความสำคัญของการรีไซเคิลและการรักธรรมชาติ

เมื่อพวกเราถามเธอว่าเธอจะแนะนำคนที่อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ว่าอย่างไร อคาเซียตอบว่า

“ไม่มีใครในโลกมีความเชื่อ ความคิด ที่เหมือนกันทุกอย่าง และบางคนอาจไม่เห็นด้วยหรือไม่เชื่อในสิ่งที่คุณอยากจะเปลี่ยน พวกเขาจะบอกว่าคุณคิดผิดและพยายามทำให้คุณหมดกำลังใจ ... คุณต้องเข้มแข็ง ยืนหยัด และแสดงความคิดของคุณออกมา ทุกสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณทำจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เอง”

อคาเซียปิดเพจ GoFundMe ของเธอลง โดยอธิบายว่าเธอเลือกที่จะระดมทุนให้กับทางกรีนพีซ “เพื่อให้กรีนพีซสามารถดำเนินงานอันแสนยอดเยี่ยมของพวกเขาต่อไปได้ ทั้งด้วยการให้ความรู้ การสนับสนุน และการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ”

หากคุณอยากจะเป็นอย่างอคาเซียและร่วมต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมกับกรีนพีซ สามารถศึกษาสิ่งที่คุณสามารถทำได้ที่นี

เราขอขอบคุณอคาเซียสำหรับความพยายามของเธอ และที่เธอช่วยย้ำว่าพวกเราทุกคนต่างก็มีพลังที่จะลุกขึ้นทำอะไรซักอย่างเพื่อสิ่งที่เราเชื่อมั่น

Hannah Malus ผู้จัดกิจกรรมเสริมสร้างการขับเคลื่อนพลังมวลชนของกรีนพีซ

บทความแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ สามารถอ่านต้นฉบับได้ที่นี่

แปลและเรียบเรียงโดย สรรพร อุไรกุล อาสาสมัครกรีนพีซ

ที่มา : www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/11/blog/59751


ติดตามกรีนพีซเพิ่มเติมที่




Create Date : 24 กรกฎาคม 2560
Last Update : 18 ตุลาคม 2560 15:25:44 น. 0 comments
Counter : 7878 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com