Bloggang.com : กัปตันลูกชุบ : กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 7 - เที่ยวน้ำตกSilver หมู่บ้านTa Phin กับTa Van- Sapa

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 7 - เที่ยวน้ำตกSilver หมู่บ้านTa Phin กับTa Van- Sapa

สวัสดีปีใหม่นะครับ (ปีใหม่แล้วรีวิวดองเค็มยังไม่จบซะที)

มาต่อกันจากรีวิวคราวที่แล้วนะครับ รีวิวนี้ยังคงเที่ยวอยู่ที่เมืองซาปา แต่สำหรับครั้งนี้ผมขอพาออกไปเที่ยวนอกเมืองกันสักหน่อย ซึ่งวันนี้ออกเที่ยวหลักๆประมาณ 3 ที่ครับ คือ 1. น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall) 2. หมู่บ้านTa Phin (Ta Phin Village) 3. หมู่บ้านTa Van (Ta Van Village) สำหรับที่หมู่บ้านTa Van นี้ไม่ได้เข้าไปถึงด้านในหมู่บ้านครับ

การเดินทางในวันนี้ผมใช้วิธีการเช่ารถมอเตอร์ไซด์ ขี่ไปยังที่ต่างๆเองครับ (สำหรับที่เวียดนามขับรถชิดขวานะครับ จะต่างจากประเทศไทยเรา) เพื่อไปยังสถานที่หลักๆทั้ง 3 ที่ครับ ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซด์สำหรับวันนี้ ค่ารถ 80,000 VND (เกียร์ธรรมดา) ค่าน้ำมัน 60,000 VND หน่อยๆ แต่เขาลดให้เป็น 60,000 (ค่าน้ำมันถ้าเติมที่ร้านตอนที่ไปจะอยู่ที่ 25,000 VND/Liter) เอาเป็นว่าไปชมรีวิวครั้งนี้ในแบบฉบับของ กัปตันลูกชุบ กันเลยดีกว่าครับ ^_______^ (เวลาประเทศเวียดนามเท่ากับเวลาในประเทศไทยนะครับ อีกเรื่องคือการเดินทางในครั้งนี้ของผมคือเมื่อเดือนมิถุนายน 2011 รีวิวดองเค็มไปหน่อย ข้อมูลบ้างอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงตรวจสอบอีกครั้งก่อนการเดินทางนะครับ ^___^ )

ขอเสริมอีกเรื่องใครมี Facebook แวะมาทักทายพูดคุยกันได้นะครับที่ Facebook- กัปตันลูกชุบ (captain lookchoob) ขอบคุณครับ^________^

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รีวิวคราวที่แล้ว

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 1 - เดินเที่ยวฮานอย ชมพิพิธภัณฑ์ แล้วต่อรถไฟไปลาวไค

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=29-05-2012&group=15&gblog=1

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 2 - เดินทางไปหยวนหยาง มณฑลหยุนหนาน พักที่ Yunti Hotel

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=05-06-2012&group=15&gblog=2

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 3 - พาเที่ยวชมนาขั้นบันไดที่เมืองหยวนหยาง มณฑลหยุนหนาน

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=12-08-2012&group=15&gblog=5

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 4 - เดินทางกลับจากหยวนหยาง เข้าซาปา

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=06-10-2012&group=15&gblog=6

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 5 - พาชม Cat Cat View Hotel - Sapa, Vietnam

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=28-10-2012&group=15&gblog=7
รีวิวคราวที่แล้ว

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 1 - เดินเที่ยวฮานอย ชมพิพิธภัณฑ์ แล้วต่อรถไฟไปลาวไค

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 6 - เดินเที่ยวหมู่บ้าน Cat Cat - Sapa, Vietnam

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&group=15&month=03-01-2013&gblog=8

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รูปนี้เป็นแผนที่ของหมู่บ้านและที่เที่ยวต่างๆรอบๆซาปา ส่วนตัวเลขคือที่ผมไปในวันนี้เริ่มจาก 1. น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall) 2. หมู่บ้านTa Phin (Ta Phin Village) 3. หมู่บ้านTa Van (Ta Van Village) สำหรับที่หมู่บ้านTa Van มีนอกทางมาอีกนิดหน่อยแต่หลักๆแล้วประมาณนี้ครับ

วันนี้ก็ฝนตกช่วงเช้าเหมือนเมื่อวานผมตื่นแต่เช้าทานอาหารเช้าที่โรงแรมพอฝนเริ่มหยุด ผมก็ออกมาเช่ารถมอเตอร์ไซด์ด้านหน้าโรงแรม พอเรียบร้อยก็ออกเดินทางจุดหมายปลายทางที่แรกคือ น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall)

ขาไปผมเลือกออกจากเมืองไปทางโรงแรม Sapa Summit ทางนี้ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ช่วงแรกๆที่ออกจากเมือง ฝนตกลื่นพอสมควรเลยครับต้องระวังกันนิด ขับไปเรื่อยๆจะเจอทางแยก(ถนนหลัก)ให้เราเลี้ยวซ้ายครับ แต่ทางนี้ผมรู้สึกจะใกล้กว่าอีกทาง จริงๆแล้วไม่แนะนำครับ ไปอีกทางถึงไกลกว่าแต่เป็นถนนลาดยาง สบายกว่า อีกทางจากตำแหน่งนี้เลี้ยวขวาวิ่งตามถนนหลักไปซึ่งเป็นอีกทางผมใช้เป็นขากลับทางนี้จะไม่ขรุขระสามารถตรงเข้าเมืองได้เช่นกันจะพาไปโผล่ตรงสนามฟุตบอลด้านหลัง Sapa Lake ครับ ทางนี้ดีเป็นถนนหลักแต่อาจจะอ้อมไปหน่อย ส่วนป้ายทางไปน้ำตกซิลเวอร์ให้สังเกตจากป้ายหลักกิโลที่อยู่ในภาพครับ จะเขียนว่า T- Bac ตามป้ายหลักกิโลไปเรื่อยๆ

ขาไปตามทางเรื่อยๆจนถึงน้ำตกซิลเวอร์ครับ

หาที่จอดรถกัน

ก่อนถึงทางเข้าน้ำตกก็จะมีร้านขายของระหว่างทาง

หลายร้านทีเดียว

เผอิญผมจอดรถฝั่งตรงข้ามเลยข้ามถนนมายังฝั่งน้ำตกจากด้านหน้าก็มองเห็นน้ำตกแล้วล่ะครับ

ทางขึ้นน้ำตกจะมีสองทางหากเรายืนหันหน้าเข้าน้ำตกทางขึ้นคือทางขวามือครับ ทางลงคือทางซ้ายมือ สังเกตจะมีป้อมตั้งอยู่ให้เราเดินไปที่ป้อมเพื่อติดต่อซื้อบัตรเข้าชม ตอนผมไปราคาอยู่ที่คนละ 10,000 VND ครับ

รายละเอียดและแผนที่

น้ำตกซิลเวอร์สูงประมาณ 100 เมตร ภาพนี้เป็นช่วงปลายๆน้ำตกตรงทางขึ้นครับ

ไปกันครับ

ระวังลื่นกันนิด ทางเดินจะเป็นบันไดแบบนี้ครับ

ช่วงไปเป็นช่วงหน้าฝน น้ำแรงพอสมควรเลยครับ

น้ำไหลแรงครับ หากเหนื่อยก็จะมีศาลาเป็นจุดให้ได้พักเหนื่อยกันครับ

บันไดตรงกลางใช้เดินข้ามไปยังบันไดทางลงทางซ้ายมือครับ

ถึงด้านบนจะมีร้านขายของอยู่ครับ

มาถึงสะพานข้ามไปยังทางลงแล้วครับ

ถ่ายตรงจุดนี้หน่อย

ระหว่างลงถ่ายไปยังทางขึ้น มีที่ให้พักเหนื่อยเป็นระยะครับ

บันไดทางลง

ระหว่างลงก็แวะเก็บภาพเรื่อยๆครับ

น้ำแรงพอสมควร ละอองน้ำเยอะทีเดียวครับ

อีกรูป

นี่ครับรวมๆ ว่ากันว่าสูงประมาณ 100 เมตร

ลงมาเรียบร้อยผมก็เดินไปเอามอเตอร์ไซด์แล้วไปต่ออีกหน่อยเพื่อจะไปหา จุดชมวิวที่ชื่อ Tram Ton Pass 1995 m ซึ่งบริเวณนี้เป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดไลโจวกับจังหวัดลาวไค และเป็นจุดที่สูงที่สุดในเวียดนาม

ตอนแรกพอผมขับออกมาจากน้ำตกซิลเวอร์ไม่ไกล ผมเห็นเพิงขายของทางซ้ายมือเยอะๆหน่อย ดูเงียบๆและไม่มีนักท่องเที่ยวผมจึงขับเลยไป (ไม่กล้าเข้ากลัวโดนรุม ^ ^) แต่พอขับไปเรื่อยๆ จะรู้เลยครับว่าเริ่มลงเขาแล้ว ผมเลยเลี้ยวกลับรถมาทางเดิม และมั้นใจว่าตรงเพิงขายของนั้นแหละคือ Tram Ton Pass 1995 m ที่เค้าว่ากันว่าสามารถมองเห็นวิวยอดเขา Fansipan แต่วันนั้นผมไม่ได้เข้าไปนะครับ ได้แค่ลงไปถ่ายภาพชมวิวบริเวณถนนแถวนั้นเท่านั้นเอง

และรู้สึกตัวว่าเริ่มไกลเกินเลยเลี้ยวกลับมา

ถนนหนทางมีแต่หมอกครับ อยู่บนนี้อากาศเย็นสบายมากๆ

ผมวกกลับมายังน้ำตกซิลเวอร์อีกครั้ง

ผมจอดมอเตอร์ไซด์บริเวณนี้ล่ะครับ แต่ไม่ได้ทานร้านนี้นะครับ มื้อนี้อยากได้บรรยากาศทานอาหารที่เพิงดูสักหน่อย

ร้านแบบนี้มีหลายร้านมากๆครับ แต่จากที่เดินดูแล้วเลือกร้านแม่ค้าคนนี้อยู่ใกล้ๆที่จอดรถนั่นแหละครับ

จำได้ว่ามื้อนี้เลือกทานหมูย่างหมัก 4 ไม้ ไข่ปิ้ง 2 ฟอง Bambu Pipe เป็นข้าวอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ รสชาติใช้ได้ครับ มีชาร้อนให้ทาน (ทั้งหมดทาน 2 คน)

รูปนี้หน้าตา Bamboo Pipe มื้อนี้จ่ายไป 60,000 VND

พออิ่มท้องแล้วก็เดินทางต่อครับ

ระหว่างทางก็จะเจอชาวบ้านเดินแบกตระกร้าขึ้นเขาลงเขาแบบนี้ตลอดเลย

ขับช้าๆนะครับ ระวังเด็กกันด้วย ^ ^

บนนี้บรรยากาศเย็นสบายมากจริงๆ

เก็บบรรยากาศข้างทางมาฝากครับ

ขี่ไปเรื่อยๆ บางช่วงก็จะมีบ้านคนอยู่ระหว่างทาง

ลงเขาขากลับผมใช้ทางถนนหลักเข้าเมือง จะมาโผล่สนามฟุตบอลแถวๆด้านหลัง Sapa Lake แล้วออกจากเมืองอีกทางเผื่อขี่ไปยังหมู่บ้าน Ta Phin (Ta Phin Village)

ผมขับออกมาทางถนนหลักที่เดินทางกลับลาวไค สังเกตป้ายบอกทางครับ จากนั้นจะมีทางเข้าไปยังหมู่บ้านอีกห่างพอสมควรจากถนนหลักขี่มอเตอร์ไซด์เข้าไปได้สบายๆครับ

ระหว่างนั้นเราจะได้ชมนาขั้นบันไดไปเรื่อยๆ

บรรยากาศนาขั้นบันไดก่อนเดินทางไปถึงหมูบ้าน

ถนนหนทางประมาณนี้ครับ

ไปกันต่อ

หยุดถ่ายบ้างให้คนซ้อนถ่ายให้บ้าง

เจอสองสาวน่ารัก อารมณ์ดี โบกไม้โบกมือทักทาย

นาขั้นบันไดเยอะจริงๆ

สองคนนี้ก็น่ารัก แวะทักทายเด็กตลอดทาง ^ ____ ^

นาสวยมากทีเดียวครับ

อีกสักรูป

เข้ามาสักพักก็จะเจอที่เก็บเงินค่าเข้า คนละ 20,000 VND ครับ

ขี่ต่อไปไม่นานก็จะเจอหมูบ้านแล้ว

เห็นแบบนี้ด้านหน้าเป็นหมูบ้าน Ta Phin แล้วครับ

มาถึงก็จอดมอเตอร์ไซด์เสียค่าจอดไป 2,000 VND

บรรยากาศนักท่องเที่ยวที่โดนรุมให้ช่วยซื้อของครับ ส่วนตัวผมเองวันนั้นก็เจอไปหลายคนเหมือนกันแต่ที่ตื้อไม่ปล่อยเลยก็ 8 คน

หมู่บ้านนี้เป็นเผ่า Red Dao People ผมว่าพวกเค้าตื้อมากเลยครับ พวกเค้าคุยเก่งชวนเราคุยจนเพลินเล่านู้นเล่านี่และชักชวนเข้าไปในบ้านของเค้า แต่ผมไม่ได้เข้านะครับ จริงๆหมู่บ้านนี้มีถ้ำให้เข้าด้วยแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้เข้าเช่นกัน และพวกเค้าจะพยายามขายของที่พวกเค้าทำเอง แถมถ้าเราอุดหนุนแล้วคนเดียวไม่ได้ด้วยตื้อให้ซื้อทุกคนที่เดินตามเราอยู่เลยล่ะครับ แต่ของก็ราคาไม่แพงเท่าไหร่ วันนั้นก็โดนซื้อไปทั้งหมดเลย ทนแรงตื้อไม่ไหวจริงๆ สำหรับหมู่บ้านนี้

เดินไปเรื่อยๆ จะเจอนาและทางไปถ้ำ Ta Phin ผมอ่านมาหลายๆที่เค้าบอกว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ด้านในเป็นหินงอกหินย้อย แต่วันนั้นผมก็ไม่ได้ลองเข้าไปหลังจากคุยกับชาวบ้านที่เดินตื้อแล้วเลยขอถอนตัว ^ ^

ระหว่างเดินคุยมาสักระยะพวกเค้าจะเริ่มชวนเข้าบ้านครับ แต่ผมไม่ไปเพราะเท่าที่อ่านมาทั้งในหนังสือและในเว็บไซด์ ว่ากันว่าถ้าหลงเข้าไปคงโดนตื้อซื้อของเยอะแน่ๆ ^ ^ แต่จริงๆแล้วขนาดวันนั้นผมไม่ได้เข้ายังโดนซื้อเลยรู้งี้น่าจะเข้าไปสักหน่อยเนอะ ^ ^

บรรยากาศทุ่งนาภายในหมู่บ้าน

จากนั้นผมก็เดินกลับออกมา ตรงจุดนี้จะเป็นร้านขายงานฝีมือของชาวบ้าน

ภายในจะมีสินค้าวางขายอยู่ ภายในร้านจะไม่มีคนคอยตามตื้อครับ ^ ^

บรรยากาศด้านหน้าร้านอีกรูป

เดินกลับไปยังที่จอดรถ

ส่วนรถมินิบัสคันนี้เพิ่งเข้ามาครับ ดูบรรยากาศการรุมขายของ

ขนาดนี้กันเลยทีเดียว

จากนั้นได้เวลากลับเข้าเมืองกันแล้วครับ

แวะถ่ายระหว่างทางไปเรื่อยเปื่อย

อดใจถ่ายมุมนี้อีกตอนขากลับ ^ ^

จากนั้นผมก็กลับออกมา

ลืมบอกไปครับว่าจากถนนหลักจะมีป้ายลักษณะแบบนี้บอกทางไปหมู่บ้านอยู่

จากนั้นผมก็เดินทางกลับเข้าเมืองซาปากลับไปยังที่พักแล้วเดินทางต่อโดยมุ่งไปทางถนน Cau May Street ที่มีร้านอาหารเยอะๆ ตรงไปเรื่อยๆเพื่อจะไปยังหมู่บ้าน Ta Van ระหว่างเดินทางออกไปเรื่อยๆจะเจอด่านเก็บเงินค่าเข้าหมู่บ้าน คนละ 40,000 VND แต่ยังไม่ถึงหมู่บ้านนะครับต้องไปต่อ

ถนนหนทางเป็นลักษณะนี้ บางช่วงมีน้ำตกเล็กๆไหลลงมาบนถนนตามในภาพ

บรรยากาศของฝั่งนี้ก็ดีไม่แพ้กันเลย

ถนนหนทางขับขี่ได้สบายๆครับ

เจอชาวบ้านกำลังเดินกลับบ้าน

เห็นแบบนี้แล้วอยากพักจังครับ แต่อยู่ห่างเมืองออกมาพอสมควรเลย

บางช่วงอดใจไม่ถ่ายภาพมาไม่ได้จริงๆครับ

บรรยากาศชมวิวข้างทาง

ระหว่างที่ขับมาเรื่อยๆให้สังเกตป้ายหมู่บ้านด้วยนะครับ ไม่งั้นจะเลยไป

ประมาณป้ายแบบนี้ แล้วลงไปด้านล่างจะเป็นหมู่บ้าน Ta Van ส่วนตอนนี้ผมขอเลยไปก่อน

ผมขับเลยไปเรื่อยๆ ส่วนที่มองเห็นด้านล่าง คือ หมู่บ้าน Ta Van

ทั้งนาขั้นบันได ทั้งลำธารที่พาดผ่าน สวยงามมากจริงๆครับ

ผมขับต่อมาเลยๆ ไกลพอสมควรเลย

จนมาถึงหินก้อนใหญ่ มีป้ายบอกลักษณะแบบนี้ เรียกกันว่า Old Stone

ด้านนี้จะมีรอยแกะสลักปริศนาอยู่ หลังจากได้ชมแล้วผมก็เลี้ยวกลับไปทางเดิม

ขับย้อนกลับมาไกลพอสมควรก็ถึงบริเวณหมู่บ้าน Ta Van แต่ถ้าจะลงไปต้องลงไปด้านล่างครับ

สังเกตป้ายแบบนี้ไว้ครับ ถ้าตรงไปตอนแรกแบบผมก็จะเจอ Old Stone แต่ถ้าลงไปด้านล่างจากจุดนี้ก็จะเจอหมู่บ้าน Ta Van แล้วล่ะครับ

ด้วยความที่เย็นมากแล้ว บวกกับความขี้เกียจเลยทำให้ครั้งนี้ได้แต่ยืนชมหมู่บ้าน Ta Van อยู่แค่ด้านบนครับ

ได้แต่ยืนชมวิวอยู่ด้านบน

ที่หมู่บ้าน Ta Van ชาวบ้านเป็นเผ่า Glay People

ที่หมู่บ้านนี้ก็มีนาขั้นบันไดให้ได้ชมกันแบบเต็มอิ่มเลย

บรรยากาศภายในหมู่บ้าน Ta Van ใช้กล้องซูมลงไปครับ

ทุ่งนาและลำธารเข้ากันได้ดีทีเดียว

มองไปอีกฝั่ง

บรรยากาศนาข้าวสีเขียว

ยืนชมกันอยู่พักใหญ่ๆ ก็ตัดสินใจจบทริปวันนี้แล้วตรงดิ่งเข้าเมืองไปหาอะไรทานในเมืองกันครับ

ผมเอามอเตอร์ไซด์ไปคืนก่อนแล้วจึงเดินมายังถนน Cau May Street เพื่อหามื้อเย็นทาน ทุกวันที่อยู่ซาปา ถนน Cau May Street เป็นถนนที่ทำให้อิ่มท้องทุกวันครับ ^ ^ สำหรับวันนี้เลือกเข้าร้านนี้ครับ Viet Emotion บรรยากาศหน้าร้านมืดไปหน่อยถ่ายตอนทานอิ่มแล้ว ^_____^

บรรยากาศส่วนนึงภายในร้าน

บรรยากาศด้านในอีกมุม ร้านนี้เป็นร้านนั่งสบายๆตกแต่งน่ารักๆ

มุมตกแต่งภายในร้านอีกมุม นั่งถ่ายระหว่างรออาหาร

เครื่องดื่มมื้อนี้เป็น ชาเชียวร้อนเวียดนามและมิลค์เชคช็อคโกแลต

ส่วนจานนี้เป็นข้าวราดผัดผงกะหรี่ไก่เม็ดมะม่วงหิมพานต์

ส่วนอีกอย่างเป็น hot pot หมู ครับ มื้อนี้จ่ายไปทั้งหมด 579,000 VND (ทานสองคน) หลังจากนั้นผมเดินเที่ยวต่อในเมืองอีกหน่อยแล้วเดินกลับที่พัก งั้นวันนี้ผมคงต้องขอจบรีวิวที่ภาพนี้แล้วล่ะครับ ขอบคุณที่ตามชมแล้วพบกันใหม่รีวิวครั้งหน้านะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม ^___________^