กัปตันลูกชุบ
กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 3 - พาเที่ยวชมนาขั้นบันไดที่เมืองหยวนหยาง มณฑลหยุนหนาน

สวัสดีครับ

รีวิวครั้งนี้ต่อจากรีวิวครั้งก่อนนะครับ เพราะทริปนี้รีวิวผมยังไปไม่ถึงไหนเลย ในรีวิวผมครั้งนี้ผมจะพาเที่ยว 1 วัน ในเมืองหยวนหยาง (Yuanyang County, Yunnan, China) โดยผมได้อธิบายและเกริ่นในรีวิวครั้งที่แล้ว แล้วว่าผมเหมารถเที่ยวราคา 300 หยวน โดยไปตามที่ผมแพลนไว้ ผมเลือกไปประมาณ 4 ที่ รถจะมารับเราตั้งแต่ 05:00 น. ที่โรงแรม

การเดินทางในวันนี้เป็นดังนี้ครับ Yunti Hotel --> Duoyishu scenic area --> Bada scenic area --> แวะจุดชมวิวตามทางและแวะหมู่บ้านชาวเขาที่หนึ่งคนขับบอกจะคล้ายๆ หมู่บ้าน Qingkou (เก็บเงินค่าเข้า) แต่ที่เขาพาแวะจะไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า --> Yunti Hotel รับประทานอาหารกลางวัน--> แวะจุดชมวิวระหว่างทาง --> Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area --> Yunti Hotel ก็เป็นอันจบทริปของวันนี้ครับ จริงๆที่หยวนหยางยังมีอีกหลายจุดชมวิวให้ได้ชมกันเยอะแยะเลย แต่ครั้งนี้ผมแพลนไว้ว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่แค่วันเดียวเลยมีเวลาเที่ยวชมวิวได้เท่านี้ ผมว่าถ้าไม่ให้เหนื่อยเกินไปจริงๆน่าจะค้างที่นี่สักสามคืนกำลังดีครับ ^ ^

ภูมิอากาศ: เนื่องจาก Yuanyang อยู่บนที่สูง อากาศเลยค่อนข้างสบายตลอดปี โดยอากาศจะเย็นช่วงเช้าและช่วงเย็นครับ ควรเอาเสื้อหนาวติดไปด้วยซักตัวนะครับ ส่วนกลางวันแดดจะค่อนข้างแรง ช่วงที่ควรไปถ่ายรูปมากที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนครับ เพราะช่วงนั้นน้ำจะเต็มทุ่งนาทำให้เกิดเป็นภาพเกล็ดมังกรตามที่คนเค้าร่ำลือกันครับ แต่ถ้าไปช่วงหน้า low อย่างผมก็จะเจอกับทุ่งหญ้าเขียวๆแทนครับ

การแลกเงิน: ผมใช้วิธีแลกเงิน CNY ไปจากเมืองไทยเลยครับ เพราะเคยอ่านเจอว่าไม่มีที่แลกเงินที่ Yuanyang ครับ แต่พอไปถึงก็เห็นมีธนาคารนะครับ แต่ถ้าจะให้สะดวกแลกไปก่อนจากไทยก็ดีครับ อ้อ จริงๆก็จะมีพวกตามชายแดนเวลาเรารอข้ามด่านเข้ามาคุยแล้วก็มาถามว่าเราจะแลกเงินมั้ยด้วยนะครับ ผมเคยแกล้งถามดูเรทแพงมากๆครับ กับเคยอ่านเจอว่าให้ระวังธนบัตรปลอม เลยไม่กล้าใช้บริการ ใครจะไปต้องระวังด้วยนะครับ

เอาล่ะครับคุยซะเยอะเลย ผมว่าไปชมรีวิวครั้งนี้ในแบบฉบับของ กัปตันลูกชุบ กันเลยดีกว่าครับ ^_______^ (เวลาข้ามมาประเทศจีนปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ในรีวิวผมปรับเวลาเรียบร้อยแล้วนะครับ)

ทริปการเดินทางในครั้งนี้ของผมต้องขอขอบคุณ คุณmumoo 2148 เรื่องที่พัก Hanoi Charmimg Hotel รวมถึงแผนเที่ยวฮานอยที่ช่วยส่งข้อมูลมาให้อ่านเพื่อเป็นแนวทาง และคุณ Yutphuket (ล็อกอิน phuketport) สำหรับ แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากเดินทางไปเมืองหยวนหยางและข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงแนวความคิดที่ผมนำมาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ในการเดินทาง นอกจากนี้คงต้องขอขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนๆ พี่ๆ ในห้อง BP และเว็บ Bloggang ด้วยนะครับ ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ของผมมากๆ ขอบคุณอีกครั้งครับผม ^________^

ขอเสริมอีกเรื่องใครมี Facebook แวะมาทักทายพูดคุยกันได้นะครับที่ Facebook- กัปตันลูกชุบ (captain lookchoob) ขอบคุณครับ ^________^

รีวิวคราวที่แล้ว กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 1

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=29-05-2012&group=15&gblog=1

กัปตันลูกชุบชวนเที่ยวเวียดนามเหนือ ตอนที่ 2

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=captainchoob&month=05-06-2012&group=15&gblog=2

แวะชม Review ใน Pantip ของผมได้ที่นี่ครับ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12390483/E12390483.html

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมตื่นนอนประมาณ 04:00 น. ทำนู่นทำนี่ ลงมาก็มองหารถเพราะที่โรงแรมได้แจ้งเบอร์รถไว้ให้ผมเรียบร้อยแล้ว ออกรถประมาณ 05:30 ลงมาคนขับก็รอผมอยู่ด้านล่างแล้ว คนขับรถผมไปผู้หญิงครับ ใจดีและน่ารักทีเดียว ส่วนภาพนี้เป็นแผนที่เที่ยวชมนาขั้นบันไดตามจุดต่างๆครับ

คนขับรถพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่เค้าก็พยายามสื่อสารกับผมอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะใช้ท่าทางหรือเขียน และเราก็พอเข้าใจกันได้ครับไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยสำหรับทริปของวันนี้ อย่างที่ผมเกริ่นไว้แผนผมมีดังนี้ Yunti Hotel --> Duoyishu scenic area --> Bada scenic area --> แวะจุดชมวิวตามทางและแวะหมู่บ้านชาวเขาที่หนึ่งคนขับบอกจะคล้ายๆ หมู่บ้าน Qingkou (เก็บเงินค่าเข้า) แต่ที่เขาพาแวะจะไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า --> Yunti Hotel --> แวะจุดชมวิวระหว่างทาง --> Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area --> Yunti Hotel

 Duoyishu scenic area เป็นจุดชมวิวที่ดีทีเดียว ผมมาถึงประมาณ 6:00 น. เพื่อตั้งใจจะมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแต่ดูแล้ววันนี้น่าจะผิดหวังครับ เพราะฝนตกและหมอกลงเยอะมาก เข้ามาตอนแรกยังไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ตอนออกประมาณ 07:00 น. เจ้าหน้าที่มาแล้วเลยต้องจ่ายค่าเข้าคนละ 60 หยวน ใช้เข้าได้ 2 ที่ อีกที่คือ Bada scenic area ซึ่งเป็นที่ที่ผมจะไปต่อ

อย่างที่ผมบอกว่าช่วงที่ผมมาไม่ใช่ไฮซีซั่น ผมเลยได้เห็นแค่ทุ่งนาสีเขียวๆ แต่ไม่ใช่วิวทุ่งหน้าที่มีน้ำขังและเป็นกระจกสะท้อนกับผืนฟ้าซึ่งจะมีในหน้าไฮของที่นี่

Yuanyang นั้นได้รับการฟื้นฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของประเทศจีน โดยสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งมีการก่อสร้างอาคารชมวิวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตามคนท้องถิ่นก็ยังพูดภาษาอังกฤษกันได้น้อยมาก โดยจุดชมวิวนาขั้นบันไดที่สำคัญของ Yuanyang มี 3 ที่หลักๆ คือ Duoyishu scenic area, Bada scenic area, และ Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area ในภาพเป็นจุดชมวิวที่ Duoyishu scenic area

หมู่บ้านที่มองจากจุดชมวิวไปเห็น มีความสูง 1900 m.

ซูมหมู่บ้านอีกสักรูป

เราจะยืนชมวิวกันบนนี้ครับ

ผืนนาขั้นบันไดแม้ไม่ใช่ช่วงหน้าไฮแต่ผมว่าทุ่งนาสีเขียวแบบนี้ก็มีความสวยงามชวนให้หลงใหลได้ง่ายๆทีเดียวครับ

พอฟ้าเริ่มสว่างก็แน่ชัดแล้วครับว่าการมาหยวนหยางครั้งนี้ผมคงพลาดการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Duoyishu scenic area อย่างแน่นอน

ช่างสวยงามเหลือเกินครับ ผมถ่ายภาพมาได้เท่านี้เทียบกับบรรยากาศของจริงไม่ได้เลย

ตอนที่ยืนถ่ายรูปชมวิวอยู่รู้สึกหนาวมากครับ และฝนก็ตั้งท่าจะตกอยู่ตลอดเวลา

วิวทุ่งนาอีกสักรูปครับ

พื้นที่ที่ให้เราได้ยืนชมวิวมีเยอะทีเดียว ผมว่าหากเป็นช่วงหน้าไฮซีซั่นนักท่องเที่ยวคงเยอะพอสมควรเลยทีเดียว

ผมคงต้องอธิบายก่อนครับว่าทำไมมาหยวนหยางแล้วต้องมาชมนาขั้นบันได คือ Yuanyang นั้นตั้งอยู่ที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลหยุนหนาน (Yunnan Province) และมีชื่อเสียงเรื่องนาขั้นบันไดซึ่งเป็นของชนเผ่าฮานิ (Hani rice terraces) ซึ่งยิ่งใหญ่มาก รู้สึกว่าจะเป็น natural man-made ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของโลก โดยนักท่องเที่ยวส่วนมากต้องการมาดูภาพผืนนาซึ่งสะท้อนกับแสงแดด หรือที่เรียกว่าเกล็ดมังกรนั่นเอง ซึ่งเกล็ดมังกรที่เค้าว่ากันนั้นจะหาชมได้ช่วงไฮซีซั่นครับ

ผมรออยู่สักพักฝนก็ตก

หลบฝนสักพักก็เดินออกมาด้านบน ตอนแรกก็ว่าจะกลับแล้วแต่อดใจไม่ไหวขอถ่ายวิวจากด้านบนต่ออีกหน่อย

ซูมไปยังหมู่บ้านอีกรอบ หมู่บ้านจะตั้งอยู่แบบนี้ครับมีเยอะแยะหลายหมู่บ้านเลยทีเดียว หากชมวิวยังจุดต่างๆก็จะพบเห็นตลอดครับ

มาอธิบายเข้าเรื่องกันต่อ ชนเผ่าฮานิเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของที่นี่ตั้งแต่เมื่อ 2,500 ปีก่อน เนื่องจากพื้นที่แถบนี้เต็มไปด้วยเทือกเขา ทำให้ชาวฮานิปรับตัวโดยการปลูกนาขั้นบันไดเป็นการหาเลี้ยงชีพ ซึ่งนาขั้นบันไดนี้ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ว่าเป็น World Cultural and Natural Heritage Site จริงๆแล้วนาขั้นบันไดของชนเผ่าฮานินี้ครอบคลุมหลายเมืองที่อยู่ริมแม่น้ำแดง ทั้ง Yuanyang, Luchun, Jinping และเมืองอื่นๆ แต่ Yuanyang เป็นพื้นที่เกษตรกรรมหลักของชาวฮานิ โดยมีพื้นที่กว่า 28,005 เอเคอร์เลยทีเดียว

เก็บภาพวิวต่อก่อนกลับ

ร่องรอยฝนบนพื้น ^ ^

เก็บภาพหมู่บ้านมาอีกรอบ

จุดนี้ถ่ายมาเยอะเลย

หมอกปกคลุมเป็นบรรยากาศชมวิวทุ่งนาที่ผมประทับใจมากๆเลยทีเดียวครับ

ความยิ่งใหญ่ของการทำนา ผมคิดไม่ออกเลยครับว่าเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะทำได้ขนาดนี้ สมกับที่ได้รับการยกย่องจริงๆ

Duoyishu scenic area ถือเป็นจุดชมวิวที่เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด นาขั้นบันไดตรงจุดนี้จะครอบคลุมหมู่บ้าน Duoyishu, Aichun และ Dawazhe พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,648 เอเคอร์

ได้แก่เวลาแล้วครับ ยังไงก็ต้องออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป ใจจริงยังอยากอยู่ต่อ ^ ^

ก่อนเดินทางออกพอดีเจ้าหน้าที่มาทำงานแล้วประมาณ 07:00 น. ผมเลยต้องจ่ายค่าเข้าคนละ 60 หยวน ใช้เข้าได้ 2 ที่ อีกที่คือ Bada scenic area ซึ่งเป็นที่ที่ผมจะไปต่อ อ้อ ลืมบอกอีกอย่าง ที่นี่ถ้าเค้าถามว่ามาจากไหนแล้วเราบอกไปว่า ไทยแลนด์ เค้าจะงงๆ ไม่รู้จัก พาลไปนึกว่าเป็นคนไต้หวันครับ ต้องบอกว่า Taiguo (คำนี้เขียนไว้ใกล้เคียงแต่ไม่ถูกต้องตามภาษาจริงๆนะครับ) ซึ่งแปลว่าไทยในภาษาจีน เค้าจึงจะรู้ครับ

ออกจากที่ Duoyishu scenic area ก็จะผ่านวิวต่างๆ และเข้าสู่หมู่บ้านหนึ่งซึ่งผมจำชื่อไม่ได้แล้ว

บรรยากาศยามเช้า

นั่งในรถก็ถ่ายไปเรื่อยๆครับ

ผักสดๆทีเดียว

นั่งชมบรรยากาศบนรถไปเรื่อยๆ

ไม่นานก็มาถึง Sheng Village เป็นที่ตั้งที่อาเจ๊คนขับพาผมมาหม่ำมื้อเช้า อาเจ๊คนขับบอกร้านนี้อร่อย เป็นบะหมี่น้ำครับ อร่อยดี มีราคา 5 หยวน กับ 10 หยวน ส่วนจานนี้ของผม 5 หยวนครับ เยอะทีเดียว

อิ่มแล้วได้เวลาเดินทางต่อครับ

ออกจากหมู่บ้านมาไม่นานก็เดินทางมาถึง Bada scenic area

ค่าเข้าเนื่องจากผมจ่ายค่าเข้าที่ Duoyishu scenic area แล้ว คนละ 60 หยวน สามารถเข้าที่ Bada scenic area ได้ด้วยครับ เลยไม่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม

จากด้านหน้าที่ซื้อตัวจะต้องเดินเข้ามาอีกหน่อยครับ

แล้วเราก็จะเดินมาถึงจุดชมวิวจุดแรกของ Bada scenic area

Bada scenic area เป็นจุดชมวิวนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุด และเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุด โดยจะครอบคลุมหมู่บ้าน Qingkou, Quanfuzhuang, Malizhai, Zhulu และหมู่บ้านอื่นๆ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,306 เอเคอร์

จากจุดชมวิวจุดแรก มองไปยังอีกฝั่งก็เป็นจุดชมวิวอีกจุดเดี๋ยวเราค่อยเดินไปกันครับ

นาขั้นบันไดใหญ่จริงๆครับ

จากจุดที่ผมยืนมองเห็นหมู่บ้านนี้ได้ชัดที่สุดครับ

หมอกยังคงมีให้ชมกันอยู่

เคลื่อนตัวหมุนเวียนปกคลุมผืนนาเรื่อยๆ

ตอนที่ผมยืนชมวิวอยู่นั้นรู้สึกประทับใจกับบรรยากาศตรงหน้าเหลือเกินครับ

หันไปชมหมู่บ้านที่กำลังโดนหมอกเข้าปกคลุม

บรรยากาศตอนนั้นสวยงามมากจริงๆ

อีกสักรูป

ชมจุดแรกสักพัก ผมก็เดินต่อไปยังจุดที่สองดูบ้าง

ผ่านทุ่งนาขั้นบันไดเล็กๆ

ไม่ไกลมากก็จะถึงจุดชมวิวส่วนนี้ซึ่งเป็นอีกที่ที่ทำอาคารชมวิวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างค่อนข้างดีทีเดียวครับ

วิวจากบริเวณจุดชมวิวด้านนี้

มองไปไกลๆจะเห็นอีกหลายหมู่บ้านที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ

หากช่วงที่เป็นเกล็ดมังกรคงสวยงามไม่แพ้กัน

เนื้อที่ทั้งเขากลายมาเป็นนาข้าวทั้งสิ้นครับ

ซูมไปหมู่บ้านที่เห็นใกล้ๆอีกสักภาพ

ส่วนภาพนี้พยายามซูมไปยังเมืองหยวนหยางที่โรงแรมครับ เห็นไกลๆ

ชัดๆอีกสักรูป

กลับมาชมวิวกันต่อ

หมอกเริ่มจางหายไปแล้วครับ แสงแดดเข้ามาแทนที่

นาขั้นบันไดเต็มพื้นที่จริงๆ

อีกสักรูปก่อนกลับ

จากนั้นก็เดินกลับออกมาขึ้นรถครับ

ระหว่างนั่งรถไปยังสถานที่ต่อไปเมื่อผ่านจุดชมวิวเมื่อไหร่ อาเจ๊คนขับก็จะแวะจอดให้ทุกที่ครับ พร้อมกับเอาแผนที่มาชี้บอกว่าตอนนี้เราอยู่ตำแหน่งไหนบนแผนที่

ระหว่างทางถ่ายเก็บมาเรื่อยๆ

ชมกันต่อครับ

ส่วนชื่อจุดชมวิวต่างๆ ผมลืมไปแล้วจำตำแหน่งที่เค้าบอกไม่ได้แล้วล่ะครับ ต้องขอโทษด้วย

ส่วนนี่ก็เป็นจุดชมวิวอีกจุดที่อาเจ๊แกแวะให้

เป็นจุดชมวิวข้างทางเล็กๆ แต่ก็ได้วิวที่สวยงามทีเดียว

ได้สัมผัสทุ่งนาใกล้ๆ

จากนั้นผมก็เดินทางกันต่อ

จริงๆแล้วที่ผมแพลนไว้คือผมจะเดินทางไปยังหมู่บ้านฮานิที่ใหญ่ที่สุดคือ Qingkou Village ซึ่งที่นี่เป็นหมู่บ้านเดียวที่ต้องจ่ายค่าเข้าชมครับ โดยด้านในจะมีโชว์ และนิทรรศการด้วย แต่ผมไม่ได้เข้าไปครับเพราะอาเจ๊คนขับรถบอกว่าอย่าไปเลย ต้องจ่ายเงิน แต่ผมว่าถ้าใครไป Yuanyang แล้วและพอมีเวลาน่าจะแวะเข้าไปชมนะครับ โดยเจ๊แกพาไปชมอีกที่หนึ่งซึ่งบ้านจะเป็นรูปทรงคล้ายเห็ดเหมือนกัน ชื่อผมจำไม่ได้แล้ว แต่หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตอนที่ผมไป ไม่ค่อยมีคนอยู่บ้านกันครับ น่าจะออกไปทำงานกันหมด เห็นก็แต่เด็กๆเล่นกันอยู่บ้างครับ

บรรยากาศภายในหมู่บ้าน

เราสามารถเดินชมได้เลยครับ

ชมกันต่อ

เดินชมกันเรื่อยๆครับ

เงียบมากทีเดียว

บรรยากาศของทางเดินภายในหมู่บ้าน

เมื่อชมจนเต็มอิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อครับ จุดหมายต่อไปคือกลับเข้าที่พักก่อนแล้วประมาณ16:30 คนขับจะมารับเพื่อพาไปเที่ยวอีกที่ครับ

และเหมือนเคยระหว่างทางมีจุดให้แวะชมวิว คนขับจะแวะให้ตลอด

วิวที่เห็นจากจุดนี้ครับ

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดจากจุดชมวิวนี้อาเจ๊เค้าชี้ไปว่านี่คือหมู่บ้านฮานิที่ใหญ่ที่สุดคือ Qingkou Village ซึ่งที่นี่เป็นหมู่บ้านเดียวที่ต้องจ่ายค่าเข้าชมครับ ที่ผมแพลนไว้ตอนแรกและไม่ได้ไปครับ

ไม่นานนักก็กลับเข้ามาถึงเมืองประมาณ 10:30 น. เข้าที่พักพักผ่อน อาบน้ำ เตรียมความพร้อมสักหน่อย

ผมออกจากโรงแรมประมาณ 14:30 น. เดินไปสอบถามเวลากลับ สรุปตั๋วกลับไปแค่คนละ 71 หยวน เท่านั้นครับ และผมเลือกกลับไว้เวลา 07:30 น. เพื่อจะไปถึงด่านเหอโขว่ (Hekou) ประเทศจีนให้เร็วที่สุด

เมื่อทำธุระเรื่องตั๋วเสร็จก็ได้เวลาหาอะไรทาน ผมเดินดูตามร้านอีกครั้งสุดท้ายเลยเลือกร้านนี้ครับ Lao Si Chuan Restaurant ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงโรงแรม Yunti Shun Jie

มื้อนี้ไม่ผิดหวังครับ เจ้าของร้านใจดี พูดไทยได้นิดหน่อยและอาหารใช้ได้เลยทีเดียวออกมันนิดหน่อยตามสไตล์อาหารจีน อีกอย่างคือร้านนี้มีเมนูภษษาอังกฤษให้ด้วย ผมน่าจะเจอร้านนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ^ ^

สั่งข้าวผัดมา ดูในรูปเหมือนน้อยแต่จริงๆเยอะมากครับ

หมูผัดเห็ดหอมใส่พริกหยวก อร่อยทีเดียวครับ จำชื่อไม่ได้

ผัดผักบุ้งเยอะมาก และราคาถูกมากครับ ผมทานโค๊ก 3 กระป๋องด้วย มื้อนี้จ่ายไปทั้งหมด 30 หยวน

จากนั้นมีเวลาเหลือเลยเดินเที่ยวชมเมืองต่ออีกหน่อย

เดินลงมาด้านล่างค้าขายกันเยอะแยะครับ

เก็บรูปมาสักหน่อย

บันไดที่ใช้เดินลงไล่ระดับลงมาครับ

ไปกันต่อ

จากนั้นเมื่อได้เวลา 16:30 อาเจ๊คนขับก็มารับที่โรงแรมและออกเดินทางกันต่อเพื่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของวันนี้

เก็บภาพระหว่างทางมาหน่อย

บ้านที่ตั้งอยู่ตามทางอีกสักรูป

เห็นภาพนี้แล้วสลดใจผมมากๆ

ก่อนจะไปถึงจุดหมายต่อไปจะผ่านจุดชมวิวจุดนี้ อาเจ๊แกก็แวะให้ถ่ายภาพ

ชมวิวที่ถ่ายได้จากจุดนี้กันครับ

จุดไหนๆก็สวยไม่แพ้กันเลย

สวยมากทีเดียวครับ ของจริงสวยกว่าในภาพมากๆ

ชมกันต่อ

คัดภาพออกได้ยากจริงๆครับ

ถ่ายไปยังทุ่งนาด้านล่างบ้าง

อีกสักรูปก่อนออกจากจุดนี้

ไม่ไกลมากก็เดินทางมาถึง Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area

ก่อนเข้าชมซื้อตั๋วกันก่อน คนละ 30 หยวน

ที่ Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area จะมีจุดชมวิวให้เดินทั้งด้านบนและด้านล่าง ผมพาเดินชมด้านบนกันก่อนครับ

จากด้านบนจะมองเห็นจุดชมวิวด้านล่างอยู่

Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area เป็นจุดชมวิวอีกจุดที่ยิงใหญ่ไม่แพ้กัน โดยจะมีจุดชมวิวด้านบน และด้านล่างไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ผมกะมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ แต่ไม่แนะนำครับ ผมว่าที่ Bada น่าจะสวยกว่า ส่วนที่นี่ชมตอนกลางวันน่าจะดีกว่าครับ เพราะภูเขาจะบังพระอาทิตย์ครับ ความคิดผมนะ ^ ^

ชมกันต่อ

เดินไปสุดทางกันครับ

ระหว่างทางก็เก็บภาพไปเรื่อย

ด้วยความที่ผมเองหลงใหลในทุ่งนา ^ ^

สุดทางมีร้านค้าให้บริการอยู่แต่ตอนที่ผมไปปิดอยู่ครับ

ส่องต่ออีกหน่อย

หมู่บ้านที่เห็นอยู่ไกลๆ

เดี๋ยวเดินกลับไปชมวิวด้านล่างกันต่อครับ

ย้อนกลับมาที่เดิมเพื่อลงไปยังจุดชมวิวด้านล่าง

ตามป้ายบอกครับ ต้องขอโทษที่ถ่ายติดไม้ถูพื้นมาด้วย ^ ^

เดินลงบันไดไปยังจุดชมวิวอีกที่ครับ

ต่อด้วยทางเดินแบบนี้

และเมื่อเข้าถึงเขตจุดชมวิวก็จะเป็นลักษณะนี้ครับ

ส่วนนี้เข้าเขตจุดชมวิวแล้วครับ จะมีร้านขายของและลักษณะที่พักของผู้ดูแลที่นี่อยู่ด้วย

ตรงส่วนนี้จะมีห้องน้ำให้บริการอยู่ด้วย จากที่ผมสังเกตุที่ไหนมีจุดชมวิวมาตราฐานตั้งอยู่ที่นั้นก็จะมีห้องน้ำบริการทั้งสิ้นครับ

ลักษณะของจุดชมวิวจะลดหลั่นกันไปครับ

วิวทุ่งนาของจุดนี้สวยจนมือสั่นเลยทีเดียว ^ ^

สำหรับผมแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อลังการมากทีเดียว

ชมอีกฝั่งครับ มองไปทางไหนก็มีแต่นาข้าว

เห็นแบบนี้จริงๆเย็นมากแล้วนะครับ แต่ที่หยวนหยางมืดช้ามากกว่าฟ้าจะมืดก็ปาเข้าไปทุ่มสองทุ่มนู้นครับ

ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกก็นั่งชมวิวไปเรื่อยๆเลยครับ

เก็บภาพไปเรื่อยครับ

ซูมไปด้านล่างสักหน่อย

วันที่ไปมีนักท่องเที่ยวน้อยครับ เลยนั่งสบายๆ ^ ^

ภาพนี้มีเกล็ดมังกรอยู่ 1 เส้น ^ ^

อีกสักรูป

นั่งเพลินๆก็แอบส่องหมู่บ้านนี้สักหน่อย

สวยงามไม่แพ้อีกสองที่ใหญ่ๆที่ไปชมมาเมื่อนเช้าเลยครับ

นาขั้นบันไดที่ต้องยกนิ้วให้จริงๆครับ

ชมต่อครับ

ระหว่างรอพระอาทิตย์ตก

ฝั่งนี้ไม่เห็นพระอาทิตย์ครับ พระอาทิตย์จะตกฝั่งเขาอีกด้าน

ชมกันต่อ รูปเยอะไปนิดครับ

แสงอาทิตย์กระทบทุ่งนาสวยไปอีกแบบนะครับ

นักท่องเที่ยวชาวจีนอีกกลุ่ม นอกนั้นก็มีฝรั่งแต่ไม่เยอะเลยครับช่วงนี้ แต่มีบ้างก็ดีจะได้ไม่เหงามาก

อย่างที่ผมบอกครับ พระอาทิตย์ตกลงเขาพอดี

หันไปชมอีกฝั่ง

ผมนั่งชมบรรยากาศอยู่สักพักใหญ่ๆเลยทีเดียว

เก็บภาพต่อไปเรื่อยๆ

นานพอสมควรครับกว่าจะตัดใจเดินกลับขึ้นไปได้ ตอนเดินขึ้นไปเหนื่อยพอสมควรเลยทีเดียว

วันนั้นผมออกจาก Laohuzui (the Tiger Mouth) scenic area ขึ้นรถกลับที่พักประมาณ 20:00 น. หลังจากนั้นอาเจ๊คนขับก็พาผมมาส่งที่พักโดยสวัสดิภาพครับ แกน่ารักจริงๆ หลังจากเข้าที่พักผมก็เก็บของทำธุระนิดหน่อยแล้วเข้านอนเพื่อเตรียมออกเดินทางออกจากหยวนหยางเช้าวันถัดไปครับ ทำให้รีวิวในคราวนี้คงต้องจบกันไว้ก่อนที่ภาพนี้นะครับ ขอบคุณที่ตามชมแล้วพบกันใหม่รีวิวครั้งหน้านะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม ^___________^




Create Date : 12 สิงหาคม 2555
Last Update : 12 สิงหาคม 2555 9:11:42 น. 11 comments
Counter : 5625 Pageviews.

 
เหมือนเกล็ดมังกร จริงๆค่ะ สวยงามมากๆเลยค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 12 สิงหาคม 2555 เวลา:9:36:00 น.  

 
ยังคงเป็นบล๊อกภาพถ่ายที่หนึ่งในใจฉัตรเลยค่ะคุณกัปตัน
สวยงามสุดยอดจริงๆ
ขอแชร์ไปประดับเพจ และกลุ่มเราหน่อยนะคะ
สุขสันต์วันแม่ค่ะ ^ ^


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 12 สิงหาคม 2555 เวลา:11:37:19 น.  

 
เมืองสวยมาก ธรมชาติสวยคะ^^


โดย: kikujungna_Minkky9 วันที่: 12 สิงหาคม 2555 เวลา:14:02:27 น.  

 
เป็นนาที่อลังการณ์มาก ๆ ค่ะ

สงสารหมาเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:20:55:26 น.  

 
สวยมากกก และบวกหิวเลยค่ะคุณกัปตัน


โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:16:16:02 น.  

 
นี่เราเข้าใจผิดไปเองรึนี่
นึกว่า เมืองซาปา ที่มีนาขั้นบันได้แบบอลังการยิ่งใหญ่
ที่แท้เป็น..เมืองหยวนหยาง .. .

สวยมาก ..สวยจริงๆ ค่ะ โอย..ยิ่งเห็นยิ่งอยากไปซะตอนนี้..
ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาว เราจะได้เห็นนาขั้นบันไดประมาณไหนคะ จะมีสีเขียว
ของนาข้าว หรือสีเหลืองของเมล็ดข้าวรึป่าวคะคุณกัปตัน





โดย: mie_family วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:23:48:57 น.  

 
คุณ mie_family เป็นเมืองหยวนหยาง ประเทศจีนครับ ในรีวิวนี้ ถ้าหน้าหนาวที่นี่จะไม่ทำนาครับ แต่ถือเป็นหน้าไฮเพราะจะได้ชมเกล็ดมังกร ท้องฟ้าสะท้อนในทุ่งนาครับ สวยงามกว่านี้มากๆเลยครับ


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:9:13:39 น.  

 
คลิ๊กตามมาเพราะแอบคิดว่าเป็นซาปา อ่านไปอ่านมาไม่เจอภาษาเวียตนามสักตัวเลยค่ะ อ้าวจีนนี่นา สวยมากนะคะ อยากไปค่ะสวยจริง ๆ


โดย: mariabamboo วันที่: 15 ตุลาคม 2555 เวลา:20:18:23 น.  

 
เป็นนาขั้นบันไดที่ยิ่งใหญ่อลังการมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาค่ะ


โดย: BooM_W วันที่: 19 ตุลาคม 2555 เวลา:23:10:32 น.  

 
ขออนุญาตเซฟรูปไปอวดเพื่อนในเฟสหน่อยนะคะ


โดย: BooM_W วันที่: 19 ตุลาคม 2555 เวลา:23:13:31 น.  

 
สวยมากค่ะ พี่ก็บ่นเหมือนเดิมเลย ไม่ได้เข้ามาบ้านคุณกัปตันนานมาก...ชอบบล็อกตรงนี้ค่ะ เราเข้ามาเมื่อไหร่ก็ยังตามหาเจอ ถ้าเป็นกระทู้ในพันทิป มีกระทู้หล่นด้วยเนาะ

ละลายใจกับนาขั้นบันได กว้างใหญ่มาก ของจริงสวยกว่าในภาพมาก...คิดภาพตามแล้วค่ะ


เวียดนาม ลาว พม่า มีโอกาสก็อยากไปนะคะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:09:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กัปตันลูกชุบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กัปตันลูกชุบ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.