bloggang.com mainmenu search
  



ผ่านมา 2 เดือนแล้วที่ได้เวลา Slow life travelling อีกครั้ง

ครั้งนี้ตั้งใจมุ่งตรงไปลำปาง 

หลังจากไปแล้วพบว่า น่าน ลำปาง เป็นอีก 2 จังหวัดที่ประทับใจ และคิดว่าถ้ามีโอกาสไปเยือนอีกก็จะไป

ทริปนี้วางแผนบินตรงไปเชียงใหม่ เช่ารถขับไปลำปางซึ่งเป็นจังหวัดเป้าหมาย แต่ไหน ๆ ผ่านลำพูนแล้วก็แวะลำพูนสัก 3 ที่

คราวนี้บินไปเชียงใหม่ด้วยสายการบิน Bangkok Airways เลยได้เข้าใช้บริการ Bangkok Airways Lounge ทานของว่างสักเล็กน้อย ที่นี่บริเวณที่นั่ง  เก้าอี้นี่เหมาะกับนั่งนาน ๆ มาก เลยทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วจัง  อาหารว่างก็มีกาแฟ ชา  แซนวิส มัฟฟิน ข้าวต้มมัด (เท่าที่นึกออก)

ความจริงแล้วการบันทึกผ่าน FB ณ เวลาช่วงนั้นก็ดีเหมือนกันนะ เพราะบางทีเราก็ลืม Timeline ไปบ้าง

 

 

ถึงสนามบินเชียงใหม่ เราเช่ารถให้เรียบร้อย

ก่อนเข้าที่พักแวะทานอาหารที่ร้านเฮือนเพ็ญ ร้านอาหารพื้นเมืองก่อน 

 เราพักกันที่เชียงใหม่ก่อน 1 คืนแล้วรุ่งเช้าค่อยออกเดินทางมุ่งสู่ลำปางโดยมีลำพูนเป็นทางผ่าน

เช้าวันถัดมาเราแวะตลาดวโรรสช่วงเช้าเพื่อซื้อพวงมาลัยไว้ไหว้พระ  แล้วจึงแวะร้านกาแฟอาข่า อ่ามา ร้านกาแฟแนว CSV (Create Share Value)  ร้านน่ารักดีออกแนวติสต์ มีเมนูซิกเนเจอร์ชื่อ "มานีมานะ"  เราเจอชาวต่างชาตินั่งทำงานกับ

โน้ตบุ๊คเงียบ ๆ

 

จากนั้นไปทานมื้อเช้าข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม  เป็นการทานข้าวซอยเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต คราวก่อนไปร้านนี้เหมือนกันแต่อีกสาขาหนึ่ง 

คราวนี้ก็ได้เวลาออกจากเชียงใหม่แล้ว  จากเชียงใหม่ไปลำพูนไม่ไกล  ได้แวะสักการะอนุสาวรีย์จามเทวี  ท่านต้องเป็นผู้หญิงเก่งมาก ๆ ในยุคนั้นแน่เลย ที่นี่เราได้ CD เพลงล้านนาเป็นเพลงบรรเลงกลับมาฟังที่บ้าน 1 แผ่น

 

 ที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า  มีตำนานว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่นี่ ลูกศิษย์ซักผ้าและตากผ้า  มีกุฎิพระคูบาช่วงที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่  บรรยากาศสงบดีมากเลย

 

เจอป้ายหนึ่งสะกิดใจมาก

"จิตเรานี้เป็นใหญ่อยู่ในตัวของเราเป็นสิ่งสำคัญ  เป็นหัวหน้า คนเรานี้ถ้าใจดี กายวาจาก็จะพลอยดีไปตามกัน ถ้าจิตใจไม่ดี กายวาจาก็พลอยไม่ดีไปด้วย จงจำไว้ว่าใจเป็นสิ่งสำคัญ ศีล สมาธิ ปัญญาจะตั้งมั่นอยู่ได้ก็ต้องอาศัยมูลฐานอันสำคัญคือจิต"

แวะวัดพระธาตุหริภุญชัย

 

 

กว่าจะเสร็จจากวัดนี้ก็ถือว่าเย็นมากเหมือนกัน เดิมคิดว่าการแวะ 3 สถานที่ของ จ.ลำพูนจะใช้เวลาราวครึ่งวัน  แต่ slow life ของเรานานเกินกว่าที่คิด

มาถึงลำปางพักที่เกสท์เฮาส์ "บ้านอาลัมภางค์" ติดริมน้ำวัง ได้บ้านพักสบาย ๆ ตรงระเบียงมีเก้าอี้ 2 ตัวนั่งชิลชมวิวได้เลย   จนอยากจะสร้างบ้านสี ๆ สักหลัง

 

เป็นบ้านสี ๆ แนวฟ้้า เหลือง เขียวนี่แหละ ให้อารมณ์วินเทจ

 

 

 

ตรงนี้เป็นบ้านหลังที่เราพัก ติดริมแม่น้ำวังเลย เปิดประตูออกมานั่งตรงระเบียงได้เลย

 

เก็บของเข้าที่พักแล้วไปเดินถนนสายวัฒนธรรม  รู้สึกว่าที่ลำปางนะถ้าตั้งใจ

โปรโมทการท่องเที่ยวดี ๆ ละก็จะรุ่งแน่  เราถือว่างานที่จัดที่ถนนคนเดินเขาทำได้ดีนะ

 

 

ค่ำคืนแรกที่ลำปาง ไปทานที่ร้าน"ของกิ๋นบ้านเฮา" ร้านที่คุณชมพู่ สาวลำปางเพื่อนบล็อกแนะนำ  เพิ่งได้ลองทานแกงเห็ดถอบ (ใส่ใบเม่า) รสชาติน้ำอร่อยดี

เช้าวันแรกในลำปาง ไปทาน"ป้อก๋วยจั๊บ" ร้านอาหารแนะนำอีกเหมือนกัน อยู่หน้าสถานีรถไฟลำปาง  ได้อุดหนุนหมูย่างและปาท่องโก๋ร้านข้าง ๆ

 

 

 เดินชมความสวยงามของสถานีรถไฟสักหน่อย

 

 

 แวะร้าน"โก๋กาแฟ" เป็นแฟนเพจร้านนี้มานานแล้ว เพิ่งได้มีโอกาสเห็นร้าน  ร้านออกแนวติสท์อีกเช่นกัน  ไม่มีแอร์แต่บรรยากาศร่มรื่นนะ  มีที่นั่งหลายโต๊ะเลย นอกจากขายกาแฟแล้วมีอาหารเช้าด้วยเหมือนกัน เช่น สปาเก็ตตี้ สลัด

 

 

 

 

 

ท้องอิ่มแล้วไปต่อที่วัดพระธาตุลำปางหลวง  อยู่วัดนี้นานเหมือนกัน งดงามอลังการยิ่งใหญ่กว่าภาพที่เคยเห็นในหนังสือ ในเน็ต หรือสวยกว่าภาพที่ถ่ายเอง เป็นวัดที่ควรได้มาเห็นด้วยตาตัวเองมากกว่า 

วัดนี้เป็นวัดไม้ สร้างสมัยพระนางจามเทวีปลายพุทธศตวรรษที่ 20 เลียนแบบโครงสร้างจักรวาลวิทยาในพุทธศาสนา มีพระบรมธาตุลำปางหลวงเป็นตัวแทนเขาพระสุเมรุ  ทรายที่รายรอบเปรียบดังทะเลสีทันดร เจดีย์เป็นทรงกลมแบบล้านนา

 

 

 

ลืมไปว่ามีมุมที่สามารถดูการหักเหของแสง เป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ พอดีเดินออกมาจากวัดแล้ว 

 

 

งวดนี้มีของเล่นจากน้อง"ป้อง"พกไปด้วยคือกล้องโพลารอยด์ เลยได้รูปนิดหน่อยมาแปะในสมุดบันทึกที่จดบันทึกการเดินทาง

โอกาสหน้ามีวาสนามาอีก ค่อยกลับมาดูใหม่นะ มาวัดนี้แล้วเห็นบางมุมนึกถึงวัดเชียงทองที่หลวงพระบางเหมือนกัน

 วัดพระธาตุจอมปิง  เลยได้มาสอบซ่อมที่นี่ดูการหักเหของแสง เห็นรอยกลับหัวของพระธาตุ งดงามมากเป็นบุญตาอย่างยิ่ง ขอบคุณคุณลุงท่านหนึ่งที่อธิบายตั้งแต่ต้นจนจบ

 

วัดพระธาตุดอนเต้าสุชาดาราม  เคยเป็นแห่งกำเนิดและประดิษฐานพระแก้วมรกดช่วงเวลาหนึ่งถึง 32  ปี  วิหารลายคำฝีมือข่างเชียงแสน วัดนี้มีตำนานว่านางสุชาดาได้นำแก้วมรกตที่พบในผลแตงโมมาถวายเจ้าอาวาส เพื่อแกะสลักเป็นพระแก้วดอนเต้า

 

 

เหมือนเป็นการรวมกันของ 2 วัดคือเอ่ยถึงนางสุชาดาด้วย  นางสุชาดาได้รับโทษประหารชีวิตด้วยความเข้้าใจผิดว่าเป็นชู้กับพระเถระ 

แต่ด้วยการอธิษฐานของนางก่อนตาย ทำให้พบความจริงว่านางไม่ผิด ซึ่งเจ้าเมืองก็เสียใจที่สั่งประหาร

ชอบ 2 ป้ายที่วัดนี้

 

วัดเจดีย์ซาวหลัง เป็นเจดีย์ศิลปะพม่าผสมล้านนา มีเจดีย์ 20 องค์

 

เปลี่ยนบรรยากาศจากวัดมาช็อปปิ้งเล็กน้อยที่อินทราเอาท์เล็ต  เจอชามตราไก่หลายรุ่นทั้งรุ่นแรก ๆ รุ่นใหม่ ๆ ก็สวยดี สรุปแล้วได้ถ้วยกาแฟมา 1 ใบ อยากได้ชามตราไก่รุ่นใหม่แต่ดูแล้วจะลำบากขนของขึ้นเครื่องบินอีกเลยต้องตัดใจ

 

ชอบลวดลายตรงนี้มากเลย 

สวนพฤกษชาติ เหมืองแม่เมาะ ได้เห็นหลุมเหมืองเป็นครั้งแรก  และเห็นรถที่ขับตรงเหมืองคันใหญ่มาก  ยางรถเส้นใหญ่มากไปยืนถ่ายรูปด้วยสูงกว่าตัวเราอีก

 

 

ภาพล่างเป็นภาพโพลารอยด์ที่แสดงความสูงของรถ โดยเฉพาะยางรถ

ค่ำคืนที่ 2 เดินไม่ไกลจากบ้านอาลัมภางค์ไปร้าน"อร่อยบาทเดียว" อิ่มอร่อยกับยำหมูกรอบ ยำเห็ด ผัดกุ้ยช่ายขาวน้ำมันหอย  ดูแล้วคนส่วนใหญ่ที่มาในร้านน่าจะเป็น

นักท่องเที่ยว 

 

 

เดินถนนคนเดิน"กาดกองต้า" เป็นถนนเส้นเดียวกับบ้านพักเลย พอเดินแล้วถึงรู้มุมแผนที่ลำปางชัดเจนขึ้น  สุดทางถนนคือสะพานรัษฏาภิเศก ถนนเส้นนี้มีบ้านเก่าหลายหลังที่สวยงามมากโดยเฉพาะบ้านศิลปะแนว"ขนมปังขิง"

 

 

ด้านในอาคารดังกล่าว มีศิลปะต่าง ๆ ให้ดู เราชอบรูปปั้นนี้

 

เรือนเก่านี้ classic มาก

 

เช้าวัดสุดท้ายในลำปาง นั่งรถม้าชมย่านถนนเก่าของลำปางครึ่งชั่วโมงในราคา 300 บาท ผ่านบ้านสมัยก่อนหลายจุด คนขับบอกว่าส่วนใหญ่บ้านเก่าก็ยังมีคนใช้ชีวิตอยู่   คนขับถามว่าจะไปบ้านหลุยส์ไหม  ก็ยังงงว่าหลุยส์ไหน  แต่ก็บอกไปซี สรุปคือบ้านหลุยส์ แอลที เลียวโนเวนส์ (คือลูกชายของแหม่มแอนนานี่เอง)  เป็นบ้านไม้โบราณ ครึ่งล่างเป็นตึก  ในอดีตคงสวยงามมาก 

ปัจจุบันอยู่ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือบน

บ้านหลุยส์

เสานัก

ผ่าน"เสานัก" เรือนโบราณอีกเช่นกัน จริง ๆ เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวชมนะ แต่เราไปถึงเช้าเกิน  ได้แต่ยืนมองไกล ๆ ริมรั้วและไปอ่านประวัติของบ้านที่หน้าบ้าน  ผู้สืบทอดรุ่นปัจจุบันคือเจ้าของโรงเรียนกัลยาณี

สรุปการท่องเที่ยวทริปนี้ชอบมาก  มีโอกาสก็จะกลับมาลำปางอีกนะ 

 สุดท้ายเราว่าลำปางเป็นเมืองติสท์นะ  เจอสะพานสวย ๆ

โดยเฉพาะสะพานสีขาวแห่งนี้ สะพานรัษฎาภิเศก

 

 

 ...รัชชี่...

 

 

 

 



  
Create Date :02 สิงหาคม 2558 Last Update :2 สิงหาคม 2558 21:57:28 น. Counter : 5749 Pageviews. Comments :6