### พระราชบัญญัติการทวงหนี้ พ.ศ. 2558 ###
พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558
..................
นับตั้งแต่วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๘ ไปอีก ๑๘๐ วัน .....
ไม่ว่าหนี้จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่.....
บรรดานักทวงหนี้มีสิทธิเดินเข้าคุกกันถ้วนหน้านะครับ.....
ว่าแต่ว่าค่าตัวนักทวงหนี้ก็คงจะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว.....
ฎหมายว่าด้วยการทวงหนี้คือ
พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. ๒๕๕๘
มีผลใช้บังคับตั้งแต่ครบ ๑๘๐ วัน
โดยนับแต่วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เป็นต้นไป
(ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๘
โดยมาตรา ๒ บอกว่าพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับ
เมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป)
และไม่ว่าหนี้ดังกล่าวจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม
.....(๑)ถ้าที่ลูกหนี้หรือบุคคลอื่นได้รับการปฏิบัติจาก .....
ผู้ทวงถามหนี้ .....
ที่เป็นการขัดต่อพระราชบัญญัตินี้
ก็ให้ลูกหนี้หรือบุคคลอื่นนั้นมีสิทธิร้องเรียน
ต่อคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้
ประจำจังหวัดหรือประจำกรุงเทพมหานคร
เพื่อวินิจฉัยสั่งการได้
.....(๒) ผู้ทวงถามหนี้ หมายความว่า
.....(๒.๑)เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ให้สินเชื่อ
.....(๒.๒)ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค
เช่นบริษัทรถยนต์ เครื่องใช้ฟ้า และอีกสารพัดบรรดามี
.....(๒.๓)ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเป็นปกติธุระ
ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน
.....(๒.๔)และเจ้าหนี้อื่นซึ่งมีสิทธิรับชำระหนี้อันเกิดจาก
การกระทำที่เป็น ทางการค้าปกติหรือเป็นปกติธุระของเจ้าหนี้
....(๒.๕)ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ดังกล่าว
.....(๒.๖)ผู้รับมอบอำนาจช่วงในการทวงถามหนี้
.....(๒.๗)ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้
.....(๒.๘)และผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ด้วย
..... (๓) ธุรกิจทวงถามหนี้ หมายความว่า.....
การรับจ้างทวงถามหนี้ .....
ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมเป็นปกติธุระ
(คุณตำรวจ คุณทหาร คุณนักเลง ที่รับจ้างทวงหนี้
แบบลับๆอ้อมๆก็อยู่ในข่ายนี้นะครับท่านผู้มีเกียรติครับ)
.....(๔) ธุรกิจทวงถามหนี้ ไม่รวมถึงการทวงถามหนี้
ของทนายความซึ่งกระทำแทนลูกความของตน
*****ทนายความที่ทวงหนี้แทนลูกความและซื่อสัตย์สุจริตอ
ยู่ในกรอบวิชาชีพก็ไม่มีโอกาสตกเป็นผู้กระทำความผิด
ตามพระราชบัญญัตินี้ แหกกรอบเมื่อไหร่ก็โดนแหละครับ
.....(๕) ห้ามผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้
ในลักษณะดังต่อไปนี้
.....(๕.๑) ห้ามข่มขู่ ห้ามใช้ความรุนแรง ห้ามกระทำการ
ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย,ชื่อเสียง,
หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
.....(๕.๒) ห้ามใช้วาจาหรือภาษาที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้หรือผู้อื่น
.....(๕.๓) ห้ามแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้
ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้
***** เว้นแต่ เว้นแต่ สามี ภริยา บุพการี หรือผู้สืบสันดานของลูกหนี้
และบุคคลเหล่านี้ได้สอบถาม ผู้ทวงถามหนี้
ถึงสาเหตุของการติดต่อให้ ผู้ทวงถามหนี้ ชี้แจงข้อมูล
เกี่ยวกับหนี้ได้เท่าที่จำเป็นและตามความเหมาะสม
.....(๕.๔) ห้ามติดต่อลูกหนี้โดยไปรษณียบัตร,เอกสารเปิดผนึก,
โทรสาร,หรือสิ่งอื่นใดที่สื่อให้ทราบว่าเป็นการทวงถามหนี้อย่างชัดเจน
เว้นแต่กรณีการบอกกล่าวบังคับจำนอง
ด้วยวิธีการประกาศหนังสือพิมพ์ซึ่ง
เจ้าหนี้ไม่สามารถติดต่อลูกหนี้โดยวิธีการอื่น
หรือกรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
.....(๕.๕) ห้ามใช้ข้อความ เครื่องหมาย สัญลักษณ์
หรือชื่อทางธุรกิจของผู้ทวงถามหนี้บนซองจดหมาย
ในการติดต่อลูกหนี้ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า
เป็นการติดต่อเพื่อการทวงถามหนี้
เว้นแต่ชื่อทางธุรกิจของ ผู้ทวงถามหนี้
ไม่ได้สื่อให้ทราบได้ว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้
.....(๕.๖) ห้ามทำการทวงถามหนี้ที่ไม่เหมาะสม
ในลักษณะอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
*****ความใน (๕.๖) มิให้นำมาใช้บังคับกับการทวงถามหนี้
เป็นหนังสือเพื่อจะใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาล
.....(๖) มีคุกรออยู่นะครับท่าน ผู้ใดฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้
ก็มีโทษทางอาญาคือจำคุกและมีโทษทางปกครองคือปรับ
และ/หรือสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนของผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็เท่านี้แหละครับ
นับว่าผมนี่เก่งมากที่สามารถย่อ พ.ร.บ.ทั้งฉบับมาได้ขนาดนี้
แถมท่านทั้งหลายอ่านแล้วก็เข้าใจเสียด้วยสิครับ.....
ปรบมือให้ผมหน่อยนะครับ
Cr:ทีนิวส์
ขอบคุณที่มา fb.Ampaipan Wachaporn