bloggang.com mainmenu search
เมื่อวานได้เวลาเปิดแผล หลังจากผ่านมาสองสัปดาห์กว่า

ก่อนผ่าตัดเราน่ะจิตตกอยู่แล้ว ไม่กล้าเปิดดูรูปอะไรในกูเกิลเลยเหมือนกับว่าจะรับไม่ได้ และสันนิษฐานไว้ล่วงหน้าว่าต้องเป็นซึมเศร้าแน่ๆ เลยกูถ้าวันหนึ่งนมจะหายไปข้างนึง แทบจะร้องไห้ล่วงหน้าก็ว่าได้

ตอนที่หมอวางแผนว่าจะตัดแค่ก้อนไม่ตัดหมดก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่พอผ่าตัดจริง ไม่เหลืออะไรเลย ตัดพ้อหมอนิดหน่อยตัดหมดแบบนี้แล้วเราจะเอาเนื้อที่ไหนมาโปะ ระหว่างสองสัปดาห์ที่ปิดแผลไว้ด้วยผ้ากอซและพลาสเตอร์ก็ไม่เห็นรอยผ่าหรอก มองดูกระจกก็ใช่ว่าจะทำใจได้นะ รู้สึกอยู่ แต่อธิบายไม่ถูก แต่เมื่อใส่เสื้อชั้นในไป (ไม่ใส่ซิลิโคนที่ซื้อมา เพราะมันหนักเกิน รำคาญ ร้อนด้วย) ก็ไม่เห็นมันละ ใช้ชีวิตปกติจนบางทีก็ลืมไปว่าไม่มีนมข้างนึง

แต่ตอนนอนจะรู้สึกหน่อย โดยเฉพาะเวลาตะแคงซ้ายหรือขวา มันจะหน่วงๆ เสียวๆ แผล ที่รักแร้ก็ตึง เหมือนมีอะไรติดอยู่ใต้รักแร้ เพราะมันชาไปหมด

เมื่อวานหมอศัลย์ทำการเปิดแผล บอกว่าที่รักแร้แห้งแล้ว จึงเปิดแผลได้ ส่วนที่หน้าอกแผลยาว น่าจะประมาณ 15 ซม.ได้ มีน้ำซึมๆ ออกจากรูหัวท้ายที่สอดสายระบาย ถ้าไม่แห้งสักทีก็ไม่ดีเท่าไหร่ จึงให้ล้างแผลเรื่อยๆ ทุกวันจนกว่าจะแห้ง ล้างจนเบื่ออะ

แผลทั้งสองจุดเดี๋ยวนี้ไม่ใช้วิธีเย็บแล้ว แต่ใช้การพลาสเตอร์แปะให้มันติดกันเอง ถ้าคนอ้วนหน่อยอาจจะยากแต่เราผอมเลยติดกันได้ง่าย แต่ไม่แห้งนี่สิ จะซวยซ้ำซ้อนอีกหรือเปล่า ยาจีนที่ช่วยให้แผลแห้งก็กินหมดแล้ว

หลังเปิดแผล เราก็กลับมาดูตัวเองที่บ้าน แว้บแรกก็ใจหายนะ ไม่เหลือจริงๆ ว่ะ ตรงแผลที่ผ่ามันเป็นรอยดำๆ คงรอตกสะเก็ดอีกที แต่ชาไร้ความรู้สึก มีความตึงรั้งที่รักแร้กับต้นแขน ไม่รู้จะหายไหม เวลายกจะเสียวแปล๊บ กดแล้วเจ็บๆ

จากที่คิดว่าเราต้องเป็นซึมเศร้าแน่เลยว่ะเมื่อรู้ว่าไม่เหลืออะไรแล้ว บอกกับหลายๆ คนว่าไม่รู้จะเป็นหรือเปล่า กลัวเป็นซึมเศร้ามากกว่ามะเร็งเสียอีก พี่เราเคยถามว่าเราร้องไหม พี่ก็เป็นห่วงความรู้สึกหลังจากนี้ เราตอบไปตั้งแต่อยู่รพ.แล้วว่ายังไม่ร้องสักที ก็แปลกดีที่ไม่เสียใจขนาดนั้น

ตอนนี้มาถึงจุดที่ต้องยอมรับแล้ว แต่จะไหวแค่ไหน ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่เขียนๆ ทำไมเหมือนจุกๆ ในลำคอ 555
Create Date :17 มิถุนายน 2565 Last Update :17 มิถุนายน 2565 9:59:38 น. Counter : 463 Pageviews. Comments :0