bloggang.com mainmenu search
Gelato เจลาโต้ ไอศครีมนั่นเองค่ะ

ประวัติไอศกรีม จุดเริ่มต้นของไอศครีมในระดับสากล นายโทมัส อาร์ควินนี่ เล่าว่า การรับประทานไอศครีมน่าจะเริ่มต้น กันมาตั้งแต่ยุคสมัยต้นๆโดยชาวอาหรับ ไปยังจักรพรรดิ เนโร คลาดิโอ ซีซาร์ แห่งอนาจักรโรมันที่ได้พระราชทานเลี้ยงหิมะมาผสมเข้ากับน้ำผึ้งและผลไม้ แก่เหล่าทหารหาญที่อยู่ในกองทัพของพระองค์ ต่อมาเรียกไอศครีมประเภทนี้ว่า เชอร์เบ็ท (Sherbet) หรือ Sorbetto นั่นเอง แต่ตำนานนี้ก็หาได้เป็นแค่ตำนานเดียวที่เล่าสืบต่อกันมาถึงต้นกำเนิดของไอศครีมไม่ บางตำนาน กล่าวว่า ไอแซค ได้ให้อับบราฮัม ด้วย นมแพะ กับหิมะ หากแต่บางกระแสก็ระบุว่าบรรพชนของคนจีนค้นพบไอศครีมเป็นครั้งแรกแต่ตำนานนี้ก็หาได้เป็นแค่ตำนานเดียวที่เล่าสืบต่อกันมาถึงต้นกำเนิดของไอศครีมไม่ หากแต่บางกระแสก็ระบุว่าบรรพชนของคนจีนค้นพบไอศครีมเป็นครั้งแรก เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะของไอศครีมในประเทศจีนทำมาจากข้าวบดผสมกับนมสดที่เย็นจนเป็นนำแข็งทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนในสมัยนั้นเพิ่งจะมีการรู้จักรีดนมจากสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในฟาร์ม เมื่อรีดออกมาจำนวนมากก็บริโภคไม่หมด ประกอบกับน้ำนมเป็นสินค้าที่มีราคาแพงมากๆ คนชั้นสูงเห็นท่าไม่ดีจึงเกิดแนวคิดนำน้ำนมไปหมกซ่อนไว้ในหิมะนัยว่าเพื่อต้องการที่จะถนอมน้ำนมเอาไว้รับประทานได้นานๆ คือเป็นน้ำแข็ง ผสมน้ำหวาน ตั้งแต่ ศตวรรษ ที่ 20 ซึ่งไอศครีมจะดูเหมือนนมขุ่นๆ แช่แข็ง ไม่ได้เป็นครีมนุ่มๆ อย่างทุกวันนี้ เนื่องจากตอนนั้นประเทศจีนเพิ่งจะเริ่มมีการรีดนมจากสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม นมจึงจัดเป็น อาหารที่มีราคาแพง พวกชนชั้นสูงจะนำนมไปหมกไว้ในหิมะเพื่อถนอมอาหารจนกลายเป็นนมแช่แข็ง หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนาทำน้ำผลไม้แช่แข็งรับประทานกัน พอถึงต้นศตวรรษที่ 13 ขนมแช่แข็งสารพัดชนิดก็มีวางขาย เข็นขายกันตามถนนและทุกซอกซอยทั่วกรุงปักกิ่ง ว่ากันว่าเป็นที่มาของน้ำแข็งใสในปัจจุบัน
อีกตำนานที่แพร่หลายมากกว่ามาจากฝั่งตะวันออกบอกว่ากลุ่มชนที่เป็นต้นกำเนิดไอศครีมที่เก่าแก่ที่สุดคือ คนจีนโดยรู้จักการนำหิมะมาผสมกับน้ำผลไม้เมื่อราว 4 พันปี จนปลายศตวรรษที่ 13 มาร์โคโปโลซึ่งเดินทางไปใช้ชีวิตในจีนนาน 16-17 ปี ได้นำสูตรนี้กลับมาแพร่หลายในอิตาลีซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่คนตะวันตกรู้จักการนำน้ำแข็งและเกลือมาเป็นส่วนผสมเพื่อทำให้เกิดความเย็น คนอิตาเลียนจึงถือว่าตนเป็นต้นตำรับไอศครีมแบบที่นำมาปั่นให้เย็นจนแข็ง เรียกว่าเจลาติน จึงเรียกว่า เจลาโต้

และได้มีการเผยแพร่การทำไอศครีมไปยัง อินเดียและชาวเปอร์เชียอีกด้วย แล้วได้นำไป ที่ ซิซิลี่
เล่ากันว่า"ไอศครีม"มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนในต่างประเทศ ในเมืองไทยไอศครีมเข้ามาช่วงไหนไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่คาดว่าคงมาหลังสมัย รัชกาลที่ 5 ในสมัยนั้นส่วนใหญ่จะใช้รับประทานกันแต่ภายในวังเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีการผลิตนํ้าแข็งกินเอง ไอศครีมตอนนั้น ทำจากนํ้าหวานหรือนํ้าผลไม้นำไปปั่นเย็นจนแข็ง ไม่มีนมหรือครีมผสมด้วย เรียกว่า "ไอติม" ใช้แรงคนในการปั่น โดยมีหม้อทองเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลาง 50-60 ซม.สูง 30 ซม.ภายในมีรูคล้ายลังถึงสำหรับเสียบกระบอกโลหะทรงกลมขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม. ภายในบรรจุนํ้าผลไม้หรือนํ้าหวาน กระบอกนี้คือแม่พิมพ์ที่ทำให้ไอติมเป็นแท่ง เนื่องจากไอศครีมเป็นอาหารหวานที่ทันสมัยหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหมาก็ว่าได้ ใครได้ลองรับประทานไอศครีมในสมัยนั้นก็ถือว่า เป็นคนที่ก้าวล้ำนำสมัยไปโดยปริยาย

จากนั้นไอศครีมเดินทางไปถึงฝรั่งเศส ในงานเฉลิมฉลองพระราชพิธีอภิเษกสมรส ระหว่างแคเธอรีน เดอ เมดิซี แห่งเวนิส กับว่าที่กษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 แห่งฝรั่งเศสในปี 1533 ซึ่งนอกจากจะเสิร์ฟของหวานแช่แข็งหลากรสแล้ว ยังมีการเสิร์ฟของหวานกึ่งแช่แข็งที่ทำจากครีมข้นหวานซึ่งมีลักษณะคล้ายไอศครีมในปัจจุบัน จนกลายมาเป็นที่นิยม

หลังจากที่หมอชาวสเปนในกรุงโรมคนหนึ่งได้พบเทคนิคพิเศษที่ว่า อุณหภูมิของ ส่วนผสมในการทำไอศครีมแช่แข็งจะลดลงถึงจุด เยือกแข็งได้อย่างรวดเร็วขึ้น หากเติมดินประสิวลงในหิมะหรือน้ำแข็งที่อยู่รอบถัง เมื่อนั้นชาวฟลอเรนซ์จึงเป็นผู้ริเริ่มผลิตของหวานแช่แข็งที่ทำจากครีมล้วนๆ ชนิดแรกของโลก

ไอศครีมเดินทางไปอังกฤษ จากบันทึกพบว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ทรงรับสั่งให้พ่อครัวทำไอศครีมให้เสวยและให้เก็บเป็นความลับด้วย

ไอศครีมข้ามไปอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนอเมริกันมาก ขนาดที่ว่า ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตัน ลงทุนถึง 200 ดอลลาร์ซื้อเครื่องปั่นไอศครีมไปทำกินเองในหน้าร้อน จากบันทึกพบว่า มีการเรียกขานคำว่า ไอศกรีม เป็นครั้งแรกในปี 1673 ตอนนั้นหน้าตาของไอศครีมจัดเป็นประเภทเดียวกับไอซ์ทีหรือชาเย็น กับไอซ์คอฟฟี หรือกาแฟเย็น จึงตั้งชื่อคล้ายๆ กันแม้ว่าต่อมาหน้าตาของไอศครีมจะเปลี่ยนไปจากเดิมก็ตาม

เครื่องที่ผลิตของหวานแช่แข็งในยุคแรกๆ ทำจากเครื่องมือหมุนโดยใช้น้ำแข็งกับเกลือ และได้มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ Gelato ได้ประสบความสำเร็จในการขายมากในประเทศฝรั่งเศส ในปี 1686 และ ได้เริ่มขยายไปยังที่อื่น จนเกิด Gelateria มากมายในอิตาลี และหลายๆ ประเทศ
เวลาจะสั่งกิน ที่อิตาลี จะให้ใส่ถ้วย หรือ ใส่โคน จะได้ 2-3 รสให้เลือกค่ะ และจะเติมด้วยวิปครีม หรือไม่เติมก็ได้ แล้วแต่ชอบค่ะ ราคา อยู่ในราวๆ 1.50 ยูโร ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดค่ะ gelato al cono อาล โคโน คือใส่โคน, alla coppa อาลลา คอปป้า คือ ใส่ถ้วย ส่วนครีม ก็ panna ค่ะ แต่ใส่โคนดูเหมือนจะได้รสชาดกว่านะค่ะ เขาก็จะมีช้อนเล็กๆ ปักในไอศครีมให้ด้วยสำหรับตักแม้ว่าจะใส่โคนค่ะ หรือ จะเป็นโคนเล็กๆ ปักไว้ หน้าหนาวจะหาทานได้ยากหน่อยเพราะไม่เปิด นอกจากในเมืองท่องเที่ยว จะเปิด ทั้งหน้าร้อนและหน้าหนาวค่ะ

(credit: //www.foodsciencetoday.com,www.bloggang.com/sweetyclub)

เราพากันไปทานร้านอร่อยๆ กันที่ โบโลเนีย Bologna กันค่ะ

Create Date :08 พฤษภาคม 2554 Last Update :8 พฤษภาคม 2554 21:27:07 น. Counter : Pageviews. Comments :1