ยังไม่พ้นในช่วงของเทศกาล อาหารเลยยังคงวนเวียนไปมาเรื่อยๆ เกรงใจเจ้าพุงน้อยๆ เหมือนกัน ว่ากันไปแล้วการกินอาหารของคนอิตาเลี่ยนก็ไม่ต่างจากคนไทยเท่าไหร่นัก เพียงแต่ปริมาณและการกินดูเป็นพิธี มากกว่าเท่านั้น ใครที่อยู่หรือได้ไปร่วมวงรับประทานอาหารกับครอบครัว ชาวอิตาเลี่ยน แล้วละก็ อืมคงจะต้องพยุงพุงเป็นแน่ เพราะอยากลองและไม่อยากอิ่มจริงๆ

ทางนี้เขาจะเริ่มทางตั้งแต่วัน คริสมาส อีฟ แล้วค่ะ คือใน คืนของวันที่ 24 ธันวาคม อาหารที่ทานจะเป็นเมนูปลา และ อาหารทะเล เป็นหลัก เพราะทางอิตาลี่ เป็นชาวโรมัน คาทอลิก จึงไม่ทานเนื้อสัตว์ที่เป็นสีแดง เพราะเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนา ที่เราสามารถอดกลั้น ความอยาก ปล่อยให้ใจบริสุทธิ์เพื่อรอการเกิดของพระเยซู แต่ในปัจจุบันถึงแม้ว่า ชาวอิตาเลี่ยนไม่ได้นับถือโรมันคาทอลิก อย่างเคร่งครัดแต่ประเพณีที่ไม่ทานเนื้อแดงก็ย้งคงมีอยู่
อาหารเริ่มแรกก็จะเป็น อาหารเรียกน้ำย่อย สำหรับเรา อิ่มไปตั้งแต่น้ำย่อยยังไม่ทันได้ย่อยเลยทีเดียว ก็มี อะไรให้ทานตั้งมากมาย ก่อนอื่นที่นิยมกันคือ bruschetta ขนมปังที่ไปปิ้งให้กรอบราดด้วยน้ำมันมะกอกโรยเกลือเล็กน้อย หรือจะเป็นหน้ามะเขือเทศลูกเล็กๆหั่น ผสมกับน้ำมันมะกอกโหระพาอิตาเลี่ยน หรือจะเป็นหน้าชีสนิ่มที่เรียกว่า มอสเรล่า

อืมรับรองว่าอร่อยมากๆ เลยค่ะ


อาหารเรียกน้ำย่อยต่อไปคือ fried calamari คือรวมมิตรทะเล และผักชุบแป้งทอด จะมี ปลาหมึกหั่นแว่น ปลาบักคาร่า (ปลาที่ทำให้เค็ม สีขาวก่อนทำให้แช่น้ำเอาความเค็มออก) ส่วนผักก็จะเป็นกระหล่ำดอก บล็อคโคลี่ หรืออันตีชอค จะเป็นผักที่เอาส่วนที่เป็นดอกมาทอด คล้ายๆดอกบัวบ้านเรา
ต่อด้วย มะเขือเผาราดด้วยน้ำมันมะกอกและโรยด้วยกระเทียมซอยละเอียด พร้อมทั้งผักชีอิตาเลี่ยนที่กลิ่นแตกต่างจากผักชีไทย แค่นี่ก็เริ่มที่จะทำให้พุงน้อยๆ เริ่มที จะขยายได้อย่างรวดเร็ว จริงๆ







พร้อมทั้งมีจานโปรดคือ Mussels Oreganata หอยแมลงภู่ ผสมกับแป้งและเครื่องเทศนำไปทอด จานนี้เป็นอาหารประมาณทางภาคใต้ที่ติดกับชายฝั่งทะเลนะค่ะ ที่นี้อาหารก็แบ่งเป็นภาค เป็นท้องถิ่นคล้ายคลึงกับบ้านเรานะค่ะน่าทานคล้ายกับห่อหมกหอยนะค่ะแต่ไม่มีพริกแกง



จากนั้นพอให้หายใจได้หน่อย มาอีกแล้วครับท่าน อาหารจานหลัก ด้วยการทำลายกระเพาะ เพราะจะเป็น พาสต้า หรือ สปาเกตตี้นั่นเอง หรือ ข้าว พาสต้าจะต่างจากสปาเกตตี้คือ จะเป็นรูปร่างหลายหลายแต่ไม่เป็นเส้น ส่วนเส้นสปาเกตตี้ก็มีหลากหลายเหมือนกัน ไม่ว่าจะสดหรือแห้ง อย่างสดส่วนมากจะมีไข่เป็นส่วนประกอบ คล้ายๆ บะหมี่เหลือง มีทั้งเส้นกลม เส้น แบน รสชาดต่างกันเวลาเคี้ยว จานนี้เป็นหอย คล้ายๆ หอยตลับ หอยลาย ผัดกับซอสมะเขือเทศ ความหวานของหอย กลมกล่อมด้วยไวน์ขาว หอมด้วยพาสลี่ (ผักชี) อืม อยากกินแต่กระเพาะคงรับไม่หมดแน่ๆ ค่ะ



ในที่สุดก็เป็นอาหารจานที่สอง คือ จานสุดท้ายของของคาว บางท่านอาจจะมีสลัดเป็นของทานแก้มกันไปด้วย อาหารจานรองเป็นปลา แซลมอนอบนะค่ะ ก็โรยหน้าด้วยพริกไทย บางท่านอาจจะใสเนยเพิ่มความหอมไปด้วย แกล้มกับถั่ว คล้ายๆ ถั่วแขกนะค่ะ




หลังจากพักท้องได้เป็นที่เรียบร้อย แล้วก็จะเป็นอาหารหวาน ส่วนเครื่องดื่มระหว่างมื้ออาหาร ถ้าเป็นเมนูทะเล จะเป็นไวน์ขาว แบบดราย หรือเป็นแก็สคล้ายๆ แชมเปญ ส่วนเครื่องดื่มที่ คู่กับอาหารหวานจะเป็นไวน์ขาวที่รสชาดออกหวานสีของไวน์จะออกเหลืองเล็กน้อยค่ะ อาหารหวานจะเป็น ทิรามิสุ คือครีมกับบิสกิต 3 ชนิดบดรวมกัน แช่เย็น หรือจะเป็น เค็กเล็กๆ แต่ในช่วง คริสมาสและปีใหม่จะมีขนมสำหรับเทศกาลค่ะ เรียกว่า Panettone จะมีหลายๆ ยี่ห้อมาก แบบธรรมดาหรือ สอดใส้ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชอคโกเลต หรือ ครีม หรือ ลูกเกด หรือ ผลไม้แห้งต่างๆ บางชนิดใส่น้ำผื้งกับอบเชย หอมอร่อยเชียว พร้อมทั้งมี ชอคโกเลตทั้งขนาดเล็กและแท่งขนาดใหญ่ สอดใส้ด้วยถั่วเม็ดใหญ่ เวลากินต้องใช้มีดหั่นเป็นท่อนๆ และเครื่องดื่ม หลังจากเริ่มอิ่มก็จะเป็น Grappa คือเหล้าขาวที่หมักบ่มอย่างหอม จิบนิดเดียว อีกอย่างคือ lemoncello คือ เครื่องดื่มเข้มด้วยผิวมะนาวและแอลกอฮอล์ 2 ชนิดนี้จะมี แอลกอฮอล์ อยู่ประมาณ 30% ขึ้นไป บางคนก็จะต่อด้วยกาแฟ Expresso ที่เป็นแก้วเล็กๆ นั้นละค่ะ อืม คราวนี้ก็คงไม่ต้อง ทานไปอีกหลายวัน








ส่วนปีใหม่ก็ไม่ต่างกันค่ะ เพียงแต่มีเมนูเนื้อสัตว์เพิ่ม ขอให้มีความสุข อิ่มกันถ้วนหน้าค่ะ

Reference photos :
ourmet Chef on the Go
//www.gourmetchefonthego.com
//www.mrmechoui.com
//www.denbushi.net
//www.whlphoto.com/food.htm