เริ่มก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิงมาได้ระยะหนึ่งก็จริง แต่ดูเหมือนว่าชื่อของ "จุ๋ม นุสรา สุขหน้าไม้" ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนและรองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2548 จะมาสร้างความฮือฮาจริงๆ ก็ในงาน "FHM 100 Sexiest 2008" เมื่อไม่นานนี้เอง

เหตุผลสำคัญก็คงจะเป็นเพราะความโดดเด้งของหน้าอกหน้าใจภายใต้ชุดสีแดงเด้ง ผ่ากว้างชนิดที่ทำเอาหนุ่มๆ ทั้งหลายต้องเหลียวหันมองเธอจนคอเคล็ดนั่นเอง

"จริงๆ จุ๋มไม่ได้ตั้งใจจะใส่ชุดนั้นเลยนะ พอดีว่ามีพี่เตรียมไว้แล้วตอนนั้นมันฉุกละหุกเพราะจุ๋มติดธุระ พอมาถึงก็เลยไม่ได้ลองกันมาก ก็ใส่เลย..."

ไม่ว่าเหตุผลของการสวมใส่จะเป็นไปด้วยกลใด จะเป็นจริงอย่างที่เธอว่าหรือไม่ก็ตาม แต่ภายหลังผลของการแต่งชุดดังกล่าวก็ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตัวของเธอตามมาในระดับหนึ่งทันที

โดยบ้างก็ว่าเป็นเพราะเธออยากดัง บางส่วนที่เป็นแฟนคลับก็รู้สึกผิดหวังเพราะที่ผ่านมาเธอนั้นค่อนข้างจะเป็นคนที่แต่งตัวเรียบร้อย ขณะที่บางส่วนก็ติดภาพเธอในชุดไทยๆ จากละครที่เธอเคยแสดงมาและรับไม่ได้กับชุดดังกล่าว ฯ

เหล่านี้เองที่ทำให้ "ดาวดวงใหม่" ต้องเรียกเธอมานั่งพูดคุยกันสักเล็กน้อย เพราะไม่แน่ว่าสาวคนนี้จะมีอะไรในตัวตนที่น่าสนใจมากกว่าร่างกายที่เห็นกันเฉพาะภายนอก

"นิสัยจุ๋มเป็นคนยังไงหรือคะ ก็พูดเก่งค่ะ ชอบคุย เข้ากับคนได้ง่าย ร่าเริง เป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่มันซีเรียสน่ะค่ะ จะหนักไปในทางที่ว่าคุยเรื่องที่สนุกสนาน เฮๆ ฮาๆ มากกว่า..."


เพราะแบบนี้หรือเปล่าที่ทำให้เราเรียนเกี่ยวกับประชาสัมพันธ์?
"มีส่วนค่ะ ที่เรียนประชาสัมพันธ์เพราะคิดว่าน่าจะเหมาะน่ะค่ะ ไม่แน่นะถ้าไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงก็คงจะเป็นพีอาร์ จุ๋มว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายในระดับหนึ่ง เพราะว่าต้องทำงานประสานกับคนหลายๆ กลุ่ม คืออย่างน้อยๆ ก็กับนักข่าวแบบพวกพี่นี่แหละค่ะ"

"แต่ถ้าถามว่าอนาคตอยากจะเป็นอะไร อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกค่ะ (...?) ดูไม่เกี่ยวกันเลยใช่มั้ย (หัวเราะ) เป็นความอยากค่ะ แต่ยังไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นธุรกิจแบบไหน ส่งออกอย่างไร เพราะตอนนี้ยังอยากที่จะอยู่ในวงการไปก่อน เนื่องจากยังรู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งเยอะแยะ"

เคยคิดมั้ยว่าทำไมดาราส่วนใหญ่ถึงชอบเรียนนิเทศน์?
"อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ ไม่รู้จริงๆ นะ ไม่อยากตอบแทนคนอื่น คงแล้วแต่คนมากกว่ามั้งคะ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาคงคิดว่าการเรียนในสาขานี้มันมีส่วนที่สามารถเชื่อมโยงกับงานที่เขาทำอยู่ได้ แต่อย่างของจุ๋มเนี่ย จุ๋มเข้ามาเป็นนักศึกษาก่อน แล้วจึงได้มีโอกาสเข้ามาในวงการบันเทิง"

"ตอนนี้ก็อยู่ปีสี่แล้วค่ะ จะจบแล้ว..."

นอกจากอาชีพของนักประชาสัมพันธ์แล้ว อีกด้านหนึ่งที่เธอคนนี้ให้ความสนใจก็คือเรื่องของการโรงแรมจนตัดสินใจเลือกเรียนเป็นวิชาโท..."ไม่รู้สิ จุ๋มรู้สึกว่าตรงนี้มันมีหลายๆ ส่วนให้เข้าไปเรียนรู้ ตั้งแต่เรื่องของการบริหาร การจัดการ การได้ทำได้ลงมือด้วยตนเอง คือเรียกว่าตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับบน ระดับบนลงมาล่าง มันค่อนข้างที่จะได้รู้ในวงกว้างน่ะค่ะ"

คิดอย่างไรที่ "ทราเวล แอนด์ เลเชอร์" นิตยสารการท่องเที่ยวชื่อดังจากอเมริกาจัดให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก?
"จุ๋มไม่รู้ว่าเขามีอะไรเป็นกฏเกณฑ์นะ คนกรุงเทพฯ หรือว่าคนไทยเองอาจจะรู้สึกว่าที่นี่มันวุ่นวาย แต่ถ้ามองในมุมของนักท่องเที่ยวจุ๋มได้ยินชาวต่างชาติหลายคนบอกว่าที่นี่มันเหมือนกับแดนสวรรค์น่ะ เพราะเรามีอะไรที่เยอะมากแล้วครอบคลุมทุกระดับ จะเป็นมหาเศรษฐีหรือว่าพวกแบ็คแพ็ก แล้วก็มีทั้งเรื่องของวัฒนธรรม วัดวาอาราม มีเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีที่ที่ดูหรูหรา หรืออาจจะเป็นที่เที่ยวกลางคืนก็ดี อย่างถนนข้าวสารใครๆ ก็รู้จัก"

"การไปมาเดินทางก็ค่อนข้างจะสะดวกสบาย เป็นจุดศูนย์กลางที่นักท่องเที่ยวสามารถเชื่อมโยงไปประเทศเพื่อนบ้านได้ ที่สำคัญจุ๋มว่าค่าครองชีพของเรานั้นถูกมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในเรื่องของที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง สินค้าของที่ระลึก พวกแบ็คแพ็กมาอยู่กันทีนึงคิดดูนานเป็นเดือนๆ ถ้าเขาจัดอันดับออกมาแบบนี้มันก็ถือว่าเป็นเหมือนมุมที่ดีนะ เราน่าจะดีใจ"

"จุ๋มว่ามันเป็นโอกาสดีที่เราจะใช้ตรงนี้ในเรื่องของการโฆษณากรุงเทพหรือว่าประเทศไทย เพียงแต่เราก็ต้องจัดบางอย่างให้มันเป็นระเบียบมากขึ้น เช่นเรื่องของการจราจร เรื่องของความปลอดภัย เรื่องของทรัพยากร บรรยากาศต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ได้อย่างเดียว คิดแต่เรื่องเงินหรือว่าเรื่องของตัวเลขนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว"

"อย่างตอนนี้ที่สวยมากๆ ในความคิดของจุ๋มก็คือช่วงตอนกลางคืน เรื่องของไฟเฉลิมฉลอง ไฟที่ติดตามต้นไม้ ตามถนนราชดำเนิน ซึ่งจุ๋มว่ามันสวยมาก น่าจะมาเก็บภาพกันไว้ ถ้าจุ๋มจะประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยวก็คงจะใช้ช่วงปีแห่งการเฉลิมฉลองนี้แหละค่ะเชิญชวนชาวต่างชาติให้มาถ่ายภาพเก็บไว้เพราะนานๆ คงจะมีที จุ๋มว่าไฟมันสวยจริงๆ นะ จุ๋มอาจจะเป็นคนที่ชอบไฟด้วยนั่นแหละ"



ชอบไฟ? เหมือนจะเป็นคนที่ชอบเที่ยวกลางคืน?
"ก็มีบ้าง แต่ว่าไม่บ่อยนะ ถ้าเป็นวันเกิดเพื่อนหรือฉลองอะไรกับเพื่อนก็ไปค่ะ..."
สนใจติดตามข่าวสารเรื่องการเมืองมั้ย?
"นิดหน่อยค่ะ ไม่มาก ดูแล้วก็เห็นเขาเถียงๆ กัน ก็ดูบ้างรู้ไว้บ้าง แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นค่ะ"

ในส่วนของงานละครนั้น จุ๋มบอกว่าอยู่ในช่วงรองานจากทางช่อง 7 เพราะเพิ่งจบจากเรื่องทอง 9 เลยยังไม่มีงานเข้ามา ก่อนจะขอย้อนไปพูดถึงเรื่องแต่งชุดชวนหวือว่า...
"ไม่ได้ตั้งใจจะโชว์จริงๆ นะ แต่จุ๋มว่ามันก็ไม่ได้น่าเกลียดมากนะ อาจจะดูว่ามันหวือ มันเปิดมาก แต่อย่างหนึ่งก็เพราะจุ๋มเป็นคนร่างใหญ่ อวบ มันก็เลยอาจจะดูหวือไปนิดนึง ซึ่งมันก็เข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานเขานะ...ผลกระทบหรือคะ ก็มีบ้าง อย่างในอินเทอร์เน็ตก็มีคนที่ไม่เคยเห็นภาพจุ๋มในลักษณะเช่นนั้นก็ตกใจ แต่บางคนก็บอกว่าสวยดี"
"ผู้ใหญ่ก็มีบ้างที่พูด ส่วนถ้าเรื่องงานถ่ายหวือนี่จุ๋มว่ายังไม่พร้อมค่ะ หนึ่ง หุ่นตอนนี้คงไม่ได้ สองคือจุ๋มไม่อยากให้ภาพของตัวเองถูกมองว่าเป็นไปในลักษณะทำนองแนวนี้ตลอด ยังไม่อยากสร้างลุคเซ็กซี่ ยังไม่พร้อมที่จะถ่ายในแนวที่ว่า"

สุดท้าย หากถูกล็อตเตอรี่ ได้เงินมา 20 ล้าน จะเอาไปทำอะไร?
"ตั้งมูลนิธิเกี่ยวกับเด็กค่ะ...(โห อารมณ์นางงามจริงๆ)...ไม่ใช่ค่ะ ไม่เกี่ยวกัน(เสียงสูง)...จริงๆ นะจุ๋มตั้งใจไว้ว่าอยากจะมีมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่เขายากไร้ ไม่สามารถจะเรียนได้ เราก็ให้ทุนกับเขา จุ๋มว่าเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ผ่านมาก็เคยไปเลี้ยงข้าวกลางวันเด็กกำพร้าเด็กยากไร้อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ"

"อีกอย่างจุ๋มคิดว่าถ้าเราทำดี เราก็ย่อมจะได้ผลดีน่ะค่ะ เราช่วยในเรื่องการศึกษา ชีวิตเราก็อาจจะก้าวหน้า ก็เป็นสิ่งที่อยากทำ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้มากน้อยเพียงใด"

ได้ยินมาจากคนของช่อง 7 ว่า รอจุ๋มลดความอ้วนถึงจะส่งงานให้ ถามจริงๆ ตอนนี้น้ำหนักเท่าไรแล้ว?
"บ้า...ใครเขาจะบอก..(หัวเราะ)"
...
ชื่อจริง : นุสรา สุขหน้าไม้
ชื่อในวงการ : นุสรา สุขหน้าไม้
ชื่อเล่น : จุ๋ม
วันเกิด : 6 พ.ย. 2528
สถานที่เกิด : ร.พ. ภูมิพลฯ กรุงเทพฯ
น้ำหนัก/ส่วนสูง : 54 กก. / 172 ซม.
พี่น้อง : 2 คน
การศึกษา : ปี 3 คณะนิเทศศาสตร์ เอกสาขาประชาสัมพันธ์ โทสาขาการโรงแรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
คติประจำใจ : ใส่ใจ มุ่งมั่น ในสิ่งที่คาดหวังทุกๆ เรื่อง
ผลงานในวงการบันเทิง : ละครปิ่นมุก, ละครชุมแพ, ทอง 9
รางวัลที่ได้รับ : รองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2548 / ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนปี 2548

ที่มา
ผู้จัดการออนไลน์