พันธุรเถรคาถา ... อานิสงส์การโปรยดอกไม้ต้อนรับ พระพุทธเจ้า และพระภิกษุสงฆ์
พันธุรเถรคาถา ... อานิสงส์การโปรยดอกไม้ต้อนรับ พระพุทธเจ้า และพระภิกษุสงฆ์ (อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา เอกกนิบาต วรรคที่ ๑๑)
แม้พระเถระนี้ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ เป็นผู้คุ้มครองในพระราชวังของพระราชาพระองค์หนึ่ง ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าสิทธัตถะ ในวันหนึ่งเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยบริษัท เสด็จผ่านสนามหน้าพระราชวัง มีจิตเลื่อมใสเก็บดอกชบาไปบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้นำของโลก พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาไปบังเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวไปๆ มาๆ อยู่แต่ในสุคติภพเท่านั้น เกิดเป็นบุตรแห่งเศรษฐี ในสีลวดีนคร ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่าพันธุระ เขาถึงความเป็นผู้รู้แล้ว ไปในกรุงสาวัตถีด้วยกรณียกิจบางอย่าง แล้วไปสู่พระวิหารพร้อมด้วยอุบาสกทั้งหลาย ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว ได้เป็นผู้มีศรัทธาจิต บวชแล้ว เริ่มตั้งวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก เพราะเป็นผู้มีญาณแก่กล้าแล้ว.
สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑-
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าสิทธัตถะ เชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐกว่านระ แวดล้อมด้วยพระสาวกทั้งหลาย เสด็จดำเนินไปสู่พระนคร เราเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้คุ้มครองในภายในพระราชวัง
**************High Light****************
เราเข้าไปในปราสาท ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้นำของโลก จึงถือเอาดอกชบาไปโปรยลงในภิกษุสงฆ์ แยกพระพุทธเจ้าไว้แผนกหนึ่ง โปรยดอกชบาลงบูชายิ่งกว่านั้น.
**************High Light****************
ในกัปที่ ๙๔ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา.
ในกัปที่ ๘๗ แต่ภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีนามว่ามหิทธิกะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพลมาก. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.
Cr: //www.4000.org, Jed Va
ภาพ พลังจิตดอทคอม