Shawshank Redemption (1994) : ดูตอนนี้ก็ยังไม่สาย

Shawshank Redemption (1994)

คะแนน IMDB : 9.2/10 (292,158 votes) , ส่วนตัว 10/10



เพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังเก่าเรื่องนี้ หลังจากเคยได้ยินกิตติศัพท์จากผู้คน รวมถึงจากเวปไซด์ต่างๆว่า เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในโลก จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การดูครั้งแรกของผมนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างสูง

วันที่ดู 2/12/2550 : หนังดำเนินเรื่องได้อย่างน่าทึ่ง เด่นที่สุดคงเป็นเนื้อเรื่อง ซึ่งต้องให้เครดิตแก่คนเขียนบท (ราชาหนังสยองขวัญ สตีเฟ่น คิง) ส่วนการกำกับภาพ ดนตรีประกอบ รวมถึงองค์ประกอบหนัง ปลีกเล็ก ปลีกย่อยทุกอย่าง ทำได้ดีเลิศ จนไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นหนังใน ปี ค.ศ.1994 ต่อให้ Shawshank Redemption (1994) ได้มาเข้าฉายในบ้านเรา ปี 2007 ก็ยังถือว่าสุดยอดอยู่ดี

เรื่องราวหลักๆเกี่ยวกับ 2 ตัวละคร

"แอนดี้" ผู้บริหารธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ข้อหาฆ่าภรรยาตัวเอง ทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่การไปใช้ชีวิตในนรก (คุก) เค้าได้รับโทษหนักเทียบเท่านักโทษทุกคน ทั้งยังโดนกฏขี่ทางเพศ แต่สิ่งหนึ่งที่แอนดี้ไม่เหมือนใครคือ ความฉลาด ความรักสันโดษ และที่สำคัญที่สุดคือ ความหวัง ที่เค้ามีอยู่ตลอดเวลาในการที่จะหาหนทางออกจากเรือนจำ Shawshank แห่งนี้ให้ได้

"เรด" นักโทษคดีฆาตกรรมเช่นเดียวกัน เป็นนักโทษที่มีความสามารถในการหาสิ่งของเข้ามาในเรื่อนจำ Shawshank ได้ ทำให้แอนดี้ผู้ไม่สุงสิงกับใครมาคุยกับเขาเป็นคนแรกเพื่อต้องการให้เขาช่วยหาของบางอย่าง จากนั้นทั้งคู่ก็สนิทสนมกัน

หนังสะท้อนให้เห็นชีวิตของนักโทษในเรือนจำ คนที่เข้าไปวันแรกที่นั่นก็ไม่ต่างไปจากนรกดีดีนี่เอง แต่เมื่อคุณได้อยู่ไปยิ่งนานเข้า บางทีคุณอาจจะรู้สึกผูกพันธ์กับสถานที่แห่งนั้นจนเกิดการ "ยึดติดกับสถาบัน" โดยไม่รู้ตัว สังคมในคุกนั้นผู้ใดประพฤติตัวดี ก็มีโอกาสได้ดี มีหน้าที่การงานที่ดี มีชื่อเสียง แต่ตรงกันข้ามถ้าคุณถูกลดหย่อนโทษ และถูกอนุมัติให้ออกสู่โลกภายนอกได้ คุณก็คือ คนขี้คุก คนหนึ่งที่สังคมไม่ยอมรับ และผมก็เข้าใจว่าทำไมนักโทษที่ออกจากคุกมาแล้ว ต้องทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เข้าๆออกๆในคุกอยู่ทั้งชีวิต

ความหวัง อันเต็มเปี่ยมในตัวแอนดี้ ทำให้เค้าหาทุกวิถีทางเพื่อจะออกจาก Shawshank ให้ได้ ด้วยความที่เป็นคนฉลาด ทำให้เป็นที่พึ่งแก่เพื่อนๆและนายตำรวจทุกคน จนเค้าได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยพัสดี ยิ่งทำให้เค้ามีโอกาสจะทำความหวังให้เป็นจริง แต่จะได้หรือไม่คนที่ดูเท่านั้นถึงจะทราบ....ช่วงท้ายของหนังเรื่องนี้ เป็นการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยดูมา เป็นหนังที่มีการดำเนินเรื่องในช่วงท้ายจนจบเรื่องได้อย่างวิเศษจริงๆ ไม่แปลกเลยที่หนังในช่วงหลังๆจะเลียนแบบ Shawshank กันเยอะ

หนึ่งชั่วโมงกว่าๆกับหนัง Drama ที่เค้าว่ากันว่าดีที่สุด และดูไม่ยากเลย คุณได้อะไรมากกว่า ความบันเทิง ความสนุก แต่เต็มไปด้วยข้อคิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดสำคัญๆของหนัง มันทำให้เรามองเห็นคุณค่าของชีวิต สร้างความหวัง สร้างมิตรภาพ เรียนรู้ถึงโทษของความรุนแรง การใช้ไหวพริบในการตอบคำถามชี้เป็นชี้ตาย ฯลฯ จนเรื่องนี้วิ่งเข้ามาสู่หนังในดวงใจ 5 อันดับของผมเรียบร้อยแล้ว...

Create Date : 03 ธันวาคม 2550 Last Update : 16 มกราคม 2551 16:25:52 น. Counter : 1370 Pageviews.		9 comments
Share Tweet