ปกาศิตเทพคุณธรรม ตอนที่ 1
ในยามราตรีที่ไร้แสงจันทร์ ท้องฟ้าอันมืดมิดกลับประดับประดาด้วยดวงดาวนับพันนับหมื่น ส่องแสงแวววาวระยิบระยับดั่งพรายแสงบนเกลียวคลื่น แลดูงดงามสุดพรรณนา
แต่แล้วค่ำคืนอันสงบเงียบพลันแปรเปลี่ยน ที่ขอบฟ้าอันไกลโพ้นกลับปรากฏแสงสีขาวนวลเจิดจ้าสว่างไสวไปทั่วท้องนภา บดบังแสงดาราให้ลับหายไปในบัดดล แสงนั้นแม้สว่างเจิดจ้าแต่กลับนุ่มนวลเยือกเย็นน่าอัศจรรย์
เพียงชั่วอึดใจหนึ่งแสงนั้นกลับพลันรวมกันเข้าเป็นหนึ่งสู่จุดศูนย์กลางบนยอดขุนเขาสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ณ.ดินแดนสุดขอบฟ้า ณ.จุดนั้นกลับเป็นร่างของเทพคุณธรรมในชุดนักรบยืนโดดเด่นน่าเกรงขาม ใบหน้าเต็มเปี่ยมด้วยพลังกลับแฝงไว้ด้วยเมตตา หันหน้าเข้าหากึ่งกลางภิภพอันเป็นดินแดนของอาณาจักรไท่หลานอันเกรียงไกร
เมื่อท่านเทพหลับตาลง พลันปรากฎแสงมรกตพุ่งออกจากกึ่งกลางหน้าผาก ตรงสู่จุดศูนย์กลางดินแดนไท่อันเป็นที่สิงสถิตย์แห่งภูติอารักษ์ผู้รักษาอาณาจักร ลำแสงนั้นกลับเป็นลำแสงหยั่งรู้พุ่งตรงเข้ากึ่งกลางหน้าผากภูติอารักษ์ เทพคุณธรรมถึงกับมีบัญชาผ่านลำแสงนั้น
“รายงานนน”
สิ้นเสียงบัญชา ความเป็นไปในอาณาจักรถูกถ่ายทอดเข้าสู่ญาณจิตแห่งเทพคุณธรรมดั่งกระแสน้ำไหลพรั่งพรูเสมือนหนึ่งเหตุการณ์นั้นได้มาปรากฎตรงหน้า ครู่หนึ่งร่างของท่านเทพเริ่มสั่นเทา ยิ่งมายิ่งสั่นมากขึ้นจนกระทั่งจบรายงานลำแสงจึงหายไป ท่านเทพพลันลืมตาขึ้น สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นแดงกล่ำถึงกับเปล่งเสียงออกมา
“ชั่วววช้า … ชั่วววช้า …”
สุ้มเสียงแหบพร่าดั่งเสียงกระซิบแต่กลับทรงพลังอำนาจประหนึ่งเสียงคำรามแห่งราชสีห์ลั่นฟ้าสะเทือนดินดังไกลไปถึงสามโลก เบื้องบนขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นสูงสุด ต่ำลงไปใต้บาดาลลึกลงสู่นรกอเวจีขุมสุดท้าย ทวยเทพและภูตผีปีศาจสัมผัสได้ถึงกระแสจิตแห่งเทพคุณธรรมถึงกับสะดุ้งแตกตื่นมิอาจอยู่นิ่งเฉยต้องเปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน
“ชั่วช้า!”
ครู่หนึ่งเทพคุณธรรมจึงส่งกระแสจิตไปยังภูติอารักษ์แล้วเอื้อนเอ่ยวาจา
“ขอถามภูติอารักษ์… ในเมื่อสวรรค์เมตตามอบดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ให้แก่ชาวไท่แล้ว ใยราษฎรยังคงร้อนรุ่มมิอาจอยู่เป็นสุข กลับด่าทอทะเลาะกันเองมิว่างเว้น ร้อนถึงสวรรค์มีบัญชาให้ข้ามาสะสาง”
“เรียนท่านเทพ เพราะอาณาจักรไท่หลานอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่หมายปองของเหล่าสัตว์นรก ต่างแย่งชิงกันมาเกิดจนรกแผ่นดิน คนพวกนี้กลับร่วมมือกันเที่ยวทำร้ายผู้คนอยู่เนืองๆ บัดนี้กลับยิ่งเหิมเกริม เหตุจากหัวหน้ามัน จอมมารผู้ซึ่งหลบเร้นจากอเวจีมาเกิด บัดนี้กลับได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน หามีผู้ใดต้านทานได้ไม่”
“หา… ถึงกับมีเรื่องเช่นนี้ด้วย… ท่านยมทูต” ท่านเทพพลันส่งกระแสจิตพุ่งลงสู่มหาสมุทรทะลุผ่านบาดาลลงสู่นรกภูมิ
“ท่านเทพโปรดบัญชา” ยมทูตพลันรับรู้กระแสจิตจากเทพคุณธรรม
“ขอถามท่านยมทูต เรื่องจอมมารหลบหนีอเวจีไปเกิดในอาณาจักรไท่หลาน เจ้าคิดชี้แจงว่ากระไร”
“เรียนท่านเทพ ผู้น้อยสมควรตายพันครั้ง เหตุเพราะไม่รู้เท่าทันจอมมารพันปีผู้มีวิชามารสูงส่ง มิทันได้ระวังบัญชีเกิดของสุนัขปล่อยให้มันแก้ไขเป็นบัญชีเกิดมนุษย์ แล้วลงชื่อพวกมันให้ไปผุดเกิด”
“หา… ถึงกับแย่งชิงสุนัขมาเกิด ช่างชั่วร้ายนัก”
“ยังมี ท่านเทพ มันถึงกับนำพาลิ่วล้อหลบหนีตามไปอีกมากมาย ข้าน้อยมิอาจสะกัดกั้นได้ทัน ขอท่านเทพโปรดอภัย”
“ท่านยมทูต ในเมื่อรู้แล้วว่าพวกมันหลบหนีเป็นภัยใหญ่หลวงต่อมนุษย์ ใยไม่ติดตามจับตัวกลับมาลงโทษ”
“เรียนท่านเทพ สวรรค์มีกฎสวรรค์ นรกย่อมมีกฎนรก ในเมื่อพวกมันแก้ไขบัญชีเกิดได้แล้ว ย่อมมิอาจพรากชีวิตพวกมันกลับมาได้ ยังไงต้องรอพวกมันหมดอายุขัยก่อน”
“เป็นเช่นนี้ ยังคงต้องรออีกนานเท่าใด”
“เรียนท่านเทพ บัดนี้พวกมันล้วนอยู่ในวัยชราใกล้หมดอายุขัยเต็มที ราษฎรคงมิต้องรอนาน เพียงแต่ว่า เมื่อพวกมันใกล้ตายกลับรีบเร่งสร้างความชั่วเพื่อเสริมบารมีมารให้แก่กล้า มุ่งหมายไว้รับมือเหล่ายมบาล ถ้ายังไงคงต้องรบกวนท่านเทพช่วยออกหน้ายับยั้งพวกมันไว้ด้วย”
“เรื่องนั้นไว้เป็นธุระของข้า วันนี้รบกวนเจ้าเพียงเท่านี้”
“ขอขอบคุณท่านเทพ ผู้น้อยต้องขออภัยมิอาจไปส่ง”
เทพคุณธรรมสนทนากับยมทูตเสร็จจึงกลับมากล่าวกับภูติอารักษ์ต่อ
“ภูติอารักษ์ เรื่องราวในดินแดนไท่โดยละเอียดเป็นเช่นใดโปรดชี้แนะ”
“มิกล้า กลับเป็นผู้น้อยต้องขอคำชี้แนะจากท่านเทพ เนื่องเพราะในดินแดนไท่นั้นทุกอย่างล้วนกลับกันสิ้นทำให้ผู้น้อยสับสนยิ่งนัก ผู้คนล้วนยกย่องตนเองเป็นผู้มีคุณธรรมเหยียบย่ำผู้อื่นว่าต่ำช้า ที่มองเห็นเป็นสีขาวที่แท้กลับเป็นสีดำช้า ที่มองเป็นเห็นสีดำที่แท้กลับเป็นสีขาว บางครั้งผู้น้อยยังเกิดไม่แน่ใจตนเองว่าคิดถูกต้องหรือไม่”
“มิคาดคิดมีเรื่องเช่นนี้”
“เรียนท่านเทพ อันคนชั่วผู้รู้ตัวว่าชั่วนับว่าน่ากลัวแล้ว คนชั่วผู้มิรู้ว่าตัวเองชั่วกลับยิ่งน่ากลัวกว่า คาดมิถึงในดินแดนไท่นั้นกลับน่ากลัวยิ่งนัก เหตุเพราะคนชั่วช้ากลับคิดว่าตนเองเป็นคนดี ถึงกับเหยียบย่ำคนดีกล่าวหาว่าเป็นคนชั่ว”
“อา…หรือว่าดินแดนแห่งนี้ได้เข้าสู่ยุคกาขาวแล้ว” เทพคุณธรรมมีสีหน้าครุ่นคิด
“ผู้น้อยโง่เขลา มิรู้ว่ายุคกาขาวเป็นเช่นใด ขอท่านเทพโปรดชี้แนะ”
“เป็นพระพุทธองค์ทรงทำนายไว้ ว่าเมื่อล่วงเลยกึ่งพุทธกาลแล้วผู้คนจากห่างหายจากศีลธรรม เห็นผิดเป็นชอบ ยกย่องอธรรมเหยียบย่ำธรรมะ กลับดำเป็นขาว ผู้คนจึงเรียกว่ายุคกาขาว”
--------
วโรทาห์
6 มิถุนายน 2550



Create Date : 06 มิถุนายน 2550
Last Update : 7 มิถุนายน 2550 8:03:24 น.
Counter : 576 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Warotah.BlogGang.com

warotah
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด