Arctic Monkeys - Humbug : ใครว่ามันไม่โจ๊ะ?!? ... ก็แค่ช้าลง [และพวกเขาโตขึ้นแล้วนะ] ขณะที่ฉันกำลังสัมผัสหูตัวเองให้กับ Humbug ด้วยความตื่นเต้นระคนรอมร่อจะง่วงอยู่นั้น ข้อความของโปรแกรมสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ตจากเพื่อนคนหนึ่งก็โผล่เข้ามาสอบถามอาการและสรรพคุณอัลบั้มใหม่ของสี่หนุ่มขวัญใจวัยโจ๋จากเชฟฟิลด์ หลังจากที่เห็นฉันฟังเพลงในอัลบั้มนี้ ฉันทิ้งค้างข้อความนั้นไว้และไม่ได้ตอบกลับไปเป็นเวลาพักหนึ่ง ครั้งแรกฉันกำลังจะพิมพ์กลับไปแล้วด้วยซ้ำว่า มันน่าผิดหวัง น่าเบื่อ และโปรดลืมวงที่ชื่อ Arctic Monkeys แบบเดิมๆไปได้เลย แต่พลันนิ้วมือที่กำลังเริงร่ากระแทกแป้นคีย์บอร์ดก็ถูกทำให้ค้างชะงักไว้โดยห้วงความคิดภายใต้จิตสำนึกเล็กๆ ว่าแล้วฉันก็ทำเสมือนตนเองเป็นตัวละครในภาพยนตร์ สร้างแฟลชแบ็กให้กับตนเอง ปรากฏภาพขาวดำมึนทึมพร้อมเสียงประกอบก้องๆดังสะท้อนเป็นห้วงของบุคคลคนหนึ่งที่เคยบอกฉันไว้ว่า อย่ารีบตัดสินอัลบั้มหนึ่งใดว่ามันดีหรือไม่ดีเพียงแค่การฟังไม่กี่รอบ แต่ได้โปรดให้เวลากับมันอย่างน้อยสักอาทิตย์และฟังให้ลึกซึ้งจริงๆแล้วค่อยประเมินค่ามันเถิด เป็นเรื่องทั่วๆไปที่ใครก็ต้องทราบอยู่แล้วในการฟังเพลง เราไม่สามารถตัดสินอะไรโดยความคิดฉับพลันได้ ยิ่งการฟังทั้งอัลบั้มด้วยแล้ว มีอย่างที่ไหนที่จะไปด่วนทึกทักเอาว่านี่มันห่วย หรือเจ๋ง ประสบการณ์ฉันก็เคยมีมาแล้วให้ได้เห็น เพลานั้นฉันจึงตั้งกฎให้ตัวเองว่าจะยังไม่ออกความเห็นต่ออัลบั้มนี้จนกว่าตัวเองจะแน่ใจ ฉะนั้น ใครมีท่าทีมาถามในวันนั้นอันเป็นวันแรกที่ฉันได้ฟังอัลบั้ม ฉันก็จะฟาดงวงในทันใดว่า อย่าเพิ่งรีบมาถามกรูได้ม้ายยยยย นอกจากจะเป็นการให้เวลาปรับสภาพจิตใจตนเองแล้ว ยังช่วยไม่ให้ตนเองหน้าแหกอีกด้วย ความรู้สึกครั้งแรกของฉันต่อ Humbug คือ ความผิดหวัง แต่เนื่องด้วยความสามารถที่ฉันเป็นคนหลอกตัวเองเก่ง ฉันจึงเฝ้าบอกตัวเองให้ฟัง ฟัง และฟัง อัลบั้มนี้ต่อไป จนกว่าจะจับประประเด็นเข้าถึง Humbug ได้อย่างลึกซึ้งถ่องแท้ Humbug จึงอยู่เคียงข้างรูหูฉันไปทุกที่ ไหลหลั่งแทรกซึมเข้าไปทุกอณูแห่งอวัยวะ ว่างเมื่อไหร่คือต้องจับยัด ตอนแรก ฉันกะไว้ที่หนึ่งอาทิตย์อาจสัมฤทธิ์ผล แต่มันดันไวนรกติดจรวดเพียงแค่สองสามวันเท่านั้นก็ทำให้ฉันประทับใจงานชุดนี้ในท้ายที่สุด ในเช้าวันที่ฉันตื่นขึ้นมาขณะหูฟังยังประทับอยู่ตำแหน่งเดิมและเพลงจาก Humbug ก็เล่นไปเรื่อยๆนั้น (ปกติเป็นคนนอนหลับทั้งๆเพลงเปิดอยู่) เสมือนหนึ่งมีพญามารซาตานตนใดมากระชากหูแล้วดลใจให้ฉันชอบอัลบั้มนี้อย่างฉับไวและรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด มันแปลกประหลาดจนฉันยังเอะใจว่าเป็นความรู้สึกของฉันเองจริงๆหรือไม่ หรือเพราะ Humbug มันดีอยู่แล้ว เพียงแต่ฉันเพิ่งรู้สึกและค้นพบ หรือเพราะฉันบีบบังคับให้ตัวเองฟังมากเกินไปกระทั่งชอบเอาเอง?!? ฉันพบว่าหลายแทร็กมีความพิเศษในแบบที่ฉันอยากค้นหาให้มากขี้นไปอีก โดยเฉพาะ Crying Lightning เพลงซิงเกิ้ลแรกที่สรุปแล้วฉันต้องใช้เวลานานกว่า 6 เดือนตั้งแต่ได้ยินครั้งแรก (แบบไลฟ์และสตูดิโอเวอร์ชั่น) และใช้แรงงานหูในการฟังไปเกือบร้อยรอบกว่าจะชอบได้แบบลึกซึ้งกินใจ มีข้อแนะนำสำหรับผู้ชอบความโจ๊ะ สะเด่าดิบทรวงดั่งอดีตกาลของวงนี้ว่า ควรเปิดใจให้กว้าง และทิ้งความรู้สึกนี้ไปสักหน่อยก่อนฟังทั้งอัลบั้มจะเป็นผลดีอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงและเติบโตของพวกเขาหรืออิทธิพลและแนวทางของอัลบั้ม ก็มีข่าวมาอยู่เรื่อยๆ ใน Humbug ส่วนแรกที่ต้องยอมรับคือ การขาดซึ่งความน่าตื่นตาตื่นใจ หรือสิ่งปลุกเร้าอารมณ์ให้กับอัลบั้มนี้มีเสน่ห์ตั้งแต่ครั้งแรกฟัง ในแทร็กแรก My Propeller กลองกระหน่ำมาในช่วงอินโทรหลอกคนฟังว่ามันจะโจ๊ะได้แบบ Brianstorm แต่พอเพลงเปิดตัวเสียงแบบกำลังจะง่วงของ Alex Turner ก็ดุนดันคนฟังให้รีบถลาเข้าไปสู่อ้อมกอด Josh Homme ในทันใด Crying Lightning เสียงเบสในโทนมืดมนที่ไม่ค่อยได้เห็นของวงเริ่มต้นสอดรับกันกับการกระแทกกลองเร้าใจของ Matt Helders ก่อนที่ Alex จะพาเสียงอันเกลี้ยงเกลากว่าเดิมมาตัดพ้อหญิงสาวตัวแสบที่ "เล่นเกมบ้าบออะไรของมันก็ไม่รู้ ที่หล่อนเรียกว่า ครายอิ้ง ไลท์นิ่ง" แม้ท่อนฮุคจะซ้ำไปซ้ำมาในโทนเดียวจนเกินควรและเนิบนาบจืดชืด แต่จังหวะเพอร์คัสชั่นเนิบๆถูกเร่งเร้าให้เร็วและหนักขึ้นไปเรื่อยๆ ในช่วงท้ายชักชวนให้คึกคักในอารมณ์ดิบประหนึ่งคนกำลังเมากรุ่มกริ่ม แปลกขึ้น โตขึ้น แต่เนื้อหาเพลงคือ Arctic Monkeys ดังเดิม เสียแค่เอ็มวีที่..เอ่อ ขอโทษ ห่วยแตก!!! Dangerous Animals มีเสียงร้องที่แปลกไปของ Alex และท่วงทำนองในโทนเดียวนอนมาตอนแรก เพลงยังเป็นการเริ่มต้นเปิดฉากให้ความเร้าใจหลังจากสองแทร็กแรกผ่านไปแบบเนิบๆ โดยเฉพาะโหมดสะเด่าเร้าอารมณ์ช่วงท้าย ทั้งยังมีการสร้างความโดดเด่นให้ Nick กับการโชว์ลีลาเสียงเบส เพลงนี้ฟังแรกๆแล้วยังไม่สุด ไม่อิ่ม เผลออยากจะเร่งสปีดให้เพลงมันเร็วกว่านี้ คงจะมันส์ได้พิลึก แต่หากเป็นเช่นนั้นคงผิดคอนเซ็ปต์ Humbug ไป Secret Door ไพเราะด้วยลิงขั้วโลกในกลิ่นเดิมที่ยังสัมผัสได้ หลังจากเริ่มต้นด้วยความนุ่มนวลชวนฝัน ช่วงที่กลองรัวตุบตับขึ้นมานั่นกินใจฉันเป็นอย่างดี เพลงมีการการร้องในโทนที่รัวเร็วขี้นมาบ้าง สลับไปมากับการเข้าไปสู่โหมดเชื่องช้า ช่วงนาทีสุดท้ายของเพลงเจ๋งมาก Potion Approaching ยอมรับว่าตอนฟังครั้งแรก นี่เป็นแทร็กที่หงุดหงิดที่สุด และก็ยังคงเป็นเพลงโปรดน้อยสุดในอัลบั้มอยู่ ที่ฉันชอบคือกีต้าร์ริฟฟ์และช่วงจังหวะช้าๆก่อนจบลงที่โจ๊ะตรงท้ายเพลงซึ่งถือว่าฟังแล้วโอเค แต่พอ Alex มาร้องแล้วมันแปลกและรัวมั่วกันเกินไป Fire and The Thud แม้เริ่มต้นดูน่าเบื่อ แต่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาตัดสินใจถูกที่ทำมันในเวอร์ชั่นใหม่ที่แปลกกว่าเดิมเข้าไปแทนที่แบบอคูสติกเวอร์ชั่นซึ่งเคยมีมา อันนี้อาจสร้างความแปลกใจให้สำหรับที่เคยได้ยินเวอร์ชั่นนั้นมา เสียงที่โผล่มาของ Alison Mosshart ในช่วงท้ายเพลงและจังหวะเร่งเร้าขึ้นลบความน่าเบื่อของเพลงไปได้ดี Cornerstone นี่คืออีกเพลงที่สามารถเลือกเป็นซิงเกิ้ลได้สบายๆ (จากที่ให้สัมภาษณ์ NME มาก่อนหน้า ดูเหมือนพวกเขาเกือบจะเลือกเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลนำ) ด้วยความหวานของสรรพสำเนียงกีต้าร์นำทางอารมณ์เพลงที่ดูเศร้าสร้อยกับเสียงกลองกระทบตุบๆนุ่มนวลเป็นจังหวะ และเนื้อเพลงซึ่งเล่าเรื่องได้เยี่ยมยอดมหัศจรรย์น่าสนใจที่สุดในอัลบั้ม Dance Little Liar เป็นเพลงไคลแม็กซ์สำคัญที่ดีและชวนฟังมากในชุดนี้ ท่วงทำนองไพเราะแบบอ่อนหวาน การก่อร่างตัวของเมโลดี้ ไปจนถึงจุดไคลแม็กซ์ในจังหวะหนักหน่วง การร้องแบ็กประสานเสียงตรงช่วง ฮูววว ฮาาาา งดงามหมดจด การร้องซ้ำคอรัสตอนสุดท้ายของเพลง และกีต้าร์ริฟฟ์บรรเจิด สมบูรณ์แบบ! Pretty Visitors ในอารมณ์ที่ก้ำกึ่งหรือหยวนๆได้ว่าให้ความรู้สึกพอๆกับเพลงในสไตล์โจ๊ะแดนซ์แบบที่ผ่านมาซึ่งคุ้นเคยกันดีของวง และนี่ก็คือสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดแล้วสำหรับคนที่ตั้งตาคอยอะไรแบบนั้น การสาดกลองของ Matt Helders อย่างเมามันส์ในท่อนคอรัสคือไฮไลท์สำคัญ ท่อนนี้ “what came first, the chicken or the dickhead” ฮาาาาาา The Jeweller's Hands โอววว The Last Shadow Puppets ชุดที่สองหรอกหรือเนี่ย ตรงอินโทร ตึ่ดๆๆๆๆๆ ฟังแล้วคิดไม่ออกว่ามันดูเหมือนอะไรสักอย่าง คิดว่าประมาณสกอร์สักอันหนึ่งในหนัง Ocean's ไม่ก็สกอร์ James Bond แทร็กนี้ฟังดูยาวเกินความจำเป็นไปนิด แต่โครงสร้างโดยรวมของเพลงไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย Arctic Monkeys ไม่ใช่วงที่ฉันเคารพบูชามากมาย ถึงบางครั้งจะออกหมั่นไส้ในความโด่งดัง แต่แน่นอนว่าฉันยังยอมรับในความสามารถพวกเขาเสมอ และยังคงมองว่าในยุคนี้พวกเขาคือความหวังในการเป็น Beatles เจนเนเรชั่นของพวกเรา พิจารณาว่า Alex และผองเพื่อนยังอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ เวลาที่พวกเขาจะเติบโตและการพัฒนาตนเองในอาชีพยังอีกยาวไกลแค่ไหน ฉันไม่สามารถยืนยันได้ว่า Humbug เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของวง มีสิ่งหนึ่งที่ฉันขอนั่งยันได้เลยว่า อัลบั้มนี้มันยิ่งฟัง ยิ่งจะดีขึ้น และจะเติบโตในจิตใจคุณสัมพันธ์กับครั้งของการฟังที่เพิ่มขึ้น รายชื่อเพลง 1. My Propeller เพลงแนะนำ : Dance Little Liar * หมายเหตุ : กำหนดวางขายที่ UK คือ 24 ส.ค. ส่วนแผ่นลิขสิทธิ์โดย platinum นั้น ฉันจะมาบอกอีกทีว่าวันไหนจึงจะวางแผง เอาตุ๊กตามาฝากก้าบ
โดย: พลังชีวิต วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:21:35:46 น.
อ่านไปนิดนึงและ เด๋วไปอาบน้ำก่อนนะ
จะกลับมาอ่านต่อ อิอิ ปล. อดเจิมมมมมมมมม แง่งๆๆๆๆๆๆ โดย: little_fuku (บ่ได้ล๊อกอิน) IP: 125.27.58.169 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:0:47:52 น.
อ่านจบแล้ว
รู้สึกว่าบล๊อกนี้ลูเขียนดีเป็นพิเศษ ดูไม่สปอยเกินไป :) ตอนฟังวันแรกๆพี่ฟังวนแต่ Dangerous Animals (ฮา) ส่วน Crying Lightning ฟังแรกก็เฉยๆหลังๆเริ่มชอบ ปล.เมื่อไหร่อเล็กจะเปลี่ยนทรงผม ทรงนี้ป่วยมาก อ๊ากกกก โดย: little_fuku (บ่ได้ล๊อกอิน) IP: 125.27.58.169 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:1:05:47 น.
หาฟังได้จากไหนอะครับ
หรือตัว leak โดย: prasittinawa IP: 124.120.111.215 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:1:23:52 น.
ขอไม่อ่านจบนะ เพราะยังไม่ได้ฟัง !~
ครั้งแรกที่ได้ดูรูปปกบอกกับตัวเองจนถึงทุกวันนี้ว่า "ตูโคดเกลียดรูปนี้ว่ะ" ซึ่งได้รับมาพร้อมๆ กับซิงเกิ้ล Crying lightning ต้องยอมรับว่าเพลงมันเก๋มากๆ เห็นได้ชัดมันไม่เข้ากับปกแน่นอน -*- เห็นจำนวนเพลงแล้วนึกในใจว่ามันงกจัง ทำได้ดีแค่ 10 เพลงเองเหรอ? เชื่อนะว่ามันน่าจะมีดีกว่านี้อีก ส่วนตัวชื่นชอบ QOTSA อยู่แล้ว ในอัลบั้มที่เดป โกลไปเล่นกลองให้รวมถึงชุดต่อๆ มาของพวกเขาด้วย มีคนเอ่ยไว้ว่า "พวกเขา (qotsa) เป็นวงสำหรับคนฟังเฉพาะกลุ่ม เพราะเพลงมันฟังยาก" เท่านั้นล่ะ ฟังแล้วมันขัดหูชิป .. สุดแต่จะได้ฟังครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ถึงจะตัดสินใจอย่างที่ลูซี่ว่านั่นแล ... หวังเหลือเกินว่ามันจะออกมาดี โดย: ฮาโร IP: 10.11.20.181, 203.153.163.34 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:13:19:55 น.
the last shadow ยังฟังไปแค่รอบเดียวเอง -_-"
โดย: strawberry machine gun วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:15:12:21 น.
จะมาแล้วกับอัลบั้ม bughum เจ้ย humbug
ฟังเพลงเดียวคือ Crying Lightning ก็ชอบนะ ดูหม่นๆหมองๆ เท่ดี ที่เหลือยังไม่ได้อ่าน กลัวไม่ตื่นเต้น ฮ่าๆๆ สุดท้าย ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคงไม่มีอะไรเท่ากับกล้ามโตๆและหนวดของเจมี่... ปล.แอบชอบอเล็กซ์ลุคนี้นะ เท่ดี 55 โดย: Lonely Windmill วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:19:15:56 น.
เธเธญเนเธกเธฅเนเธซเธเนเธญเธขเนเธเนเนเธซเธกเธเธฃเธฑเธ เนเธกเธฅเนเธเธฃเธฐเธเธกเธเธฐเธเธฃเธฑเธ bishop_19@hotmail.com เธญเธขเธฒเธเธเธฒเธกเธญเธฐเนเธฃเธซเธเนเธญเธขเธญเธฐเธเธฃเธฑเธ เนเธเธเธงเนเธฒ เธชเนเธเนเธกเธฅเนเธกเธฒเธซเธฒเธเธกเธเนเธญเนเธเนเธเธฐเธเธฃเธฑเธ เธเธญเธเธเธธเธเธกเธฒเธเธเธฐเธเธฃเธฑเธ
โดย: เธเธธเธ IP: 112.142.172.23 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:14:45:41 น.
ครั้งแรกที่ผมได้ฟัง Crying Lightning ประมาณ สามรอบ ถึงจะเริ่มชอบเพลงนี้ ส่วนเพลงอื่นๆขี้เกียจพิมพ์เอาเป็นว่า
รู้สึกว่า อัลบั้มนี้มันจะมีเสน่ห์อยู่ในตัวของมันเอง อย่างมากๆเลยล่ะ เหมือนผู้หญิงที่ไม่สวยแต่ดูนานๆแล้ว ดันเคลิ้มว่างั้นเหอะ ไม่ใช่ไม่สวยนะ พอน่ารักอยู่ อิอิ ไม่โจ๊ะแต่ก็มันส์โว้ย ชอบๆ ปล.ผมแค่ผ่านมาตามสายธารแห่งอินเตอร์เนต อ่านบล็ิอกนี้แล้วรู้สึกรักเจ้าของ บล็อกจังเลย อิอิ โดย: The Strokes IP: 61.19.144.194 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:1:51:02 น.
ฟังแล้วดูพวกเค้าโตขึ้นมาอีกขั้น เหมือนที่วง incubus เป็นหลังจากมือเบสจากไป
โดย: retro80 IP: 124.120.14.106 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:20:19:32 น.
ฟังอยู่ตอนนี้ โดยรวมไม่ถึงกับขี้เหร่ชนิดจับไม่ลง มีหลายเพลงดีซ่อนตัวอยู่ แต่เป็นเพลงที่ต้องให้เวลากับหูของตัวเองมากหน่อย และต้องไม่ลืมที่จะลบภาพทรงจำทุกอย่างที่เคยมีเกี่ยวกับ Arctic Monkeys ออกไป ยังไม่โดนใจจี๊ด ไม่ใช่เพราะว่าเป็น New Arctic Monkeys เพียงแต่สีสันตุ่นๆในอารมณ์เพลงเรื่อยๆเนือยๆของงานชุดนี้ ทำให้ต้องอย่างเรื่อยๆมาเรียงๆไปด้วย โดย: กะนูปิง วันที่: 2 กันยายน 2552 เวลา:15:16:30 น.
อารมณ์เดียวกันกับเจ้าของ blog วันแรกที่ซื้อมาคือ 25/8 วันแรกที่วางเลย ฟังครั้งแรก เซงจัด แบบว่าแฟนโทรมาตอนฟังได้ครึ่งนึงแบบทรมาณ บ่นใส่แฟนเลย แบบน่าเบื่อสัด แต่ด้วยที่เราฟังวงนี้มา ฟังมาตลอด จึงทนฟัง และเป็นคนที่ฟังเพลงต้องเอาให้ช้ำก่อนจึงชอบ จึงทนฟังต่อไปนึกว่าจะต้องฟังนานแล้วล่ะมั้งกว่าวะเนี่ย แต่เรวเกินคาดแฮะ มันเริ่มเพราะทีละเพลง จนตอนนี้ เกือบทั้งอั้มบั้มแล้ว อยากให้ลองฟังดูคับ...
โดย: vic IP: 124.121.18.252 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:1:16:26 น.
ตอนแรกผมก็เซงครับ แบบ โหยยยย ไรวะ
อย่างว่า มันเรื่อยๆ อย่าง เดอะ สโตรค ฟังๆไปก็หลงรัก ไม่รุตัว โดย: The long and winding road IP: 202.28.45.20 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:21:28:52 น.
พี่เขียนวิจารณ์เพลงได้เยี่ยมมากเลยครับ
อยากให้พี่มาวิจารณ์เพลงผมมั่ง ฮ่าๆๆ ^^ โดย: solo!13 IP: 58.9.150.196 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:22:06:27 น.
ตอนนี้ฟัง Cornerstone เพราะดี ยิ่งฟังไปยิ่งชอบ มีช่วงที่เราเกิดอาการตามเพลงครับผมว่าเป็นกันหมดแหละ
.......และพอดู MVของเพลงนี้นะครับ เหอะๆ นี่แหละ Alex เขาเลยหละ โดย: bunsai IP: 125.27.51.217 วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:3:16:33 น.
ช่ายเเล้วค๊าบ อิกอย่าง "alex" ยังเท่มากอิกตังหาก
Arctic Monkeys เปนระไรที่ใช่ๆมากๆๆ โดย: PersonaL IP: 118.173.12.136 วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:16:10:38 น.
จขพ ยังกลับมาฟังชุดนี้อีกเปล่าครับ
ผมก็ยังฟังตลอดตั้งแต่ออกนะ น่าจะเป็นเพราะฟังช่วงที่เราโตจากวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เหมือนกับว่าโตมาด้วยกัน อยู่ข้างๆกันเสมอ จนวันนี้ 30/9/2022 ทางวงปล่อยเพลงBody Paintมา เล่าสู่กันฟังได้นะครับ โดย: smatisan IP: 159.192.41.141 วันที่: 30 กันยายน 2565 เวลา:21:23:00 น.
|
บทความทั้งหมด
|