พร่ำพรรณนา---> เช้าวันอากาศร้อนๆ
วันนี้ข้าพเจ้าตื่นเช้ากว่าปกติ แต่ก็อาจช้ากว่าใครหลายๆคนที่ต้องเร่งรี ใช้ชีวิตในเมืองหลวง เร่งรีบเพื่อความสุขสบายที่คาดหวังไว้ เร่งรีบเพื่อค้าหาเงินตรา ที่ใครหลายๆคนหรือจำนวนส่วนมาก ก็ว่าได้ คิดว่ามันคือ ปัจจัยจำเป็นที่จะอำนวยความสุขสบายมาสู่ตน หากลองแยกความหมายของคำว่า “สุข” กับ “สบาย” บางทีความหมายที่แตกต่างกัน อาจทำให้เราได้เลือกที่จะสุข หรือสบาย อย่างใดอย่างหนึ่ง
หากเนื้อหาเพลง “ทะเลใจ” ของคาราบาว คือหนทางของการค้นหาความสุข “หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข” เราทุกๆคนก็มีเข็มทิศชี้ทางความสุข อยู่ที่ตัวเราเองทุกๆคน

เช้าที่ต้องตื่นเพราะ คนข้างๆ คนที่ยากจะเอาใจ และยากจะเข้าใจในบางอารมณ์ แต่ความน่ารัก น่าถนุถนอม และความรัก บางครั้งอย่างอื่นก็แค่ บางช่วงอารมณ์เท่านั้น ใครคนนั้นอยากใส่บาตร ทำบุญในเช้านี้ จะไม่ไปด้วยก็คงไม่ดีแน่ เดี๋ยวจะต้องมาง้องอนกันตามหลังซะป่าวๆ อิสตรีที่ยากจะเข้าใจของบุรุษ ไม่แน่ใจไม่รู้เจอเหมือนกันไหมกับใครคนอื่นๆ

แม้เป็นตอนเช้าตรู่ แต่สภาพอากาศใช่เย็นสบายไม่ กับร้อนระเหยในสายลมบางๆ อาจนี่เป็นเพราะอยู่ในเดือนเมษาฤดูแห่งความร้อนแล้ง เลยต่างจากเช้าตรู่ของฤดูกาลอื่นๆ แต่ที่แน่ๆ ฤดูกาลปีนี้
รู้สึกถึงความปรวนแปรเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ในทุกๆพื้นที่ทั่วโลก
จากข่าวคราวที่เห็นทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าประเทศยากจน หรือร่ำรวย ล้วนได้รับผลที่ธรรมชาติลงโทษต่อมนุยษ์ ผู้ที่ตั้งตนเองว่าเป็น ผู้ครอบครองโลกใบนี้

หรือว่า2012จะเป็นเรื่องจริงที่จะเกิดขึ้น หรือว่าระบบนิเวศของธรรมชาติ กำลังปรับระบบสมดุลย์ให้กับโลกใบนี้ ระบบวัฏจักรของโลก จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ อาจเพราะตอนนี้ ประชากรมนุษย์บนโลกใบนี้มากเกินไป การใช้ทรัพยากรอื่นๆมากเกินกว่าจะเหลือไว้ให้ใช้แล้ว สุดท้ายทุกอย่างอาจกลับไปที่จุดเริ่มต้นของโลกใบนี้ ถึงเวลานั้นไม่รู้จะนับปีพ.ศ ว่าอย่างไร

ตลาดใหญ่กลางชุมชนชานเมือง มีทุกอย่างทั้งของกินของใช้ ร้านสะดวกซื้อแทบทุกเจ้า มีครบครัน ผู้คนจับจ่าย ซื้อขาย พลุกพล่านแต่เช้าตรู่ คงเพราะการแข่งขันไม่มีเวลาให้หยุดรอ เสียงต่อรอง สอบถามราคา ทักทาย ถามสารทุกข์สุกดิบ ยังพอมีให้เห็น รอยยิ้มจริงใจ และบ้างที่แอบแฝง

ณ หลายมุมของตลาดใหญ่ พุทธสาวกยึดเป็นจุดหมายทำเลของตน ยืนบ้าง นั่งบนเก้าอี้บ้าง แม้ใช่พระผู้สูงพรรษา หรืออาพาธ รถเข็น ถังพลาสติก หรือแม้แต่กระสอบ วางอยู่ใกล้ๆ มองหาแม้เพียงลูกศิษย์ตัวน้อยๆ ไม่พบในระยะใกล้เคียง มีก็แต่เพียงแผงขายกับข้าว ขนม ที่ถูกจัดเตรียมพร้อมสำหรับ ใส่บาตรถวาย อยู่ไม่ไกลนัก

ข้าพเจ้าก็พุทธศาสนิกชนผู้หนึ่ง ใช่ไม่มีศาสนาในหัวใจ หรือหมางเมิน ดูหมิ่นในพุทธศาสนาที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายนับถือมาแต่โบราณ แม้จะผ่านการถือครองผ้าเหลืองมาไม่นานวันเท่าใดนัก แต่ในสมัยเด็กๆ ก็ใช้ชีวิตวิ่งเข้าออกวัดเหมือนบ้าน ผ่านการเป็นเด็กวัดมาบ้าง ถูกสั่งสอนอบรมจากพระท่าน มาพอควร ถือปิ่นโตเดินตามหลวงพ่อหลวงพี่บนถนนกรวด โดยไร้รองเท้าห่อหุ้มมาก็หลายปี

จำได้ว่า การบิณฑบาต วัตรอย่างหนึ่งของภิกษุสามเณร ควรอยู่ในอาการสำรวม ใช่ยืนนิ่งนั่งคอยบิณฑบาตอยู่กับที่ การเดินควรสงบนิ่ง มองทางข้างหน้าไม่เกินสองสามเมตร ไปตามเส้นทาง เป็นกิจวัตร ถึงบ้านใดที่ใด ที่พุทธศาสนิกชนอยากใส่บาตร จะนิมนต์ท่านด้วยคำพูดนั้นแล เป็นเช่นนี้มิใช่หรือ
หากเป็นสมัยก่อนพุทธสาวกองค์ใดทำบาตรหรือฝาบาตรหล่น ในเขตเคหะสถานของชาวบ้าน ต้องไปยืนขาเดียวสวดอิติปิโสร้อยบทให้เขา ถึงแม้เป็นการสอนสั่ง ให้พระได้สำรวมระมัดระวัง ซึ่งสมัยนี้คงไม่มี

แต่ข้าพเจ้าอาจล้าสมัยเกินไป กิจของภิกษุบางรูปอาจเปลี่ยนไป ในเมืองที่วุ่นวานเช่นนี้ แม้ขนาดบ้านนอกของข้าพเจ้า พุทธพาณิชยังเข้าครอบครองแทบทุกพุทธเคหะ จ นเป็นการขันแข่ง แย่งชิง ทางพุทธศาสนา ป้ายโฆษณาบ่งบอกความศักดิ์สิทธิ์ ความขลัง วิเศษ ให้โชค ให้ลาภ ให้รวย อายุยืนยง ยืนยาว มีทั่วไป
พอๆกับป้ายแสดงความขอบคุณชาวบ้าน ของท่านนักการเมืองระดับจังหวัด หรือแม้แต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล
เช่นนี้แล้ว พระสงฆ์ผู้เผยแผ่ พุทธศาสนา เผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เดินมาถูกทางแล้วเช่นนั้นหรือ

หากการทำบุญคือการทำด้วยความบริสุทธิใจ เช้านี้ข้าพเจ้าก็คิดเช่นนั้น เสียงสวดบาลี ให้พร เรียกสติข้าพเจ้ากลับมา จะคิดอะไรไปให้มากมาย ขอเพียงทำแล้วสบายใจ ข้าพเจ้าก็คงได้บุญ หากวันข้างหน้า กิจเผื่อการเผยแผ่ศาสนา เผยแผ่คำสอนของพุทธองค์ จะคงอยู่หรือไม่ คงอีกนานกว่าจะถึงวันนั้น
บางทีอาจเลยเวลาการปรับสมดุลระบบนิเวศของโลกใบนี้ ไปแล้วก็ได้



Create Date : 05 เมษายน 2553
Last Update : 26 ตุลาคม 2553 15:51:24 น.
Counter : 9861 Pageviews.

2 comments
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
ep 4 ขับรถบนถนนเริ่มจะประมาท โอพีย์
(10 เม.ย. 2567 05:03:14 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)
  
คืนนั้น คืนไหน ใจแพ้ตัว
คืนและวันอันน่ากลัว ตัวแพ้ใจ
.......

แวะมาเยี่ยมค่ะ
โดย: ผู้หญิงของกาลเวลา วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:20:45:11 น.
  
ขอเพียงทำแล้วสบายใจ แล้วก็คงได้บุญ

...คิดแบบนั้นเหมือนกัน
แต่จริงๆแล้วไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิด
...ไม่อยากตื่นเช้าเพื่อที่จะลุกมาตักบาตร
โดยที่จิตใจขุ่นมัว
ไม่อยากเข้าวัดเพื่อที่จะไปทำบุญ
แต่จิตใจยังคลางแคลงกับการปฏิบัติของพระบางรูป

เพียงแต่มีความสุขกับการทำอะไร
ที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ
....พอใจที่จะเหยียบเบรคกะทันหัน จนตัวเองหัวทิ่ม
และแอบยิ้มเมื่อเห็นลูกสนัขตัวเล็กๆลนลานวิ่งผ่านหน้ารถไปอย่างปลอดภัย
...บางทีเราอาจไม่ได้บุญ แต่เราก็อิ่มใจ


โดย: ผู้หญิงของกาลเวลา วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:13:48:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thep-thong.BlogGang.com

ดอกหญ้า บนทางดิน
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด