ถนนสายนี้มีตะพาบโครงการ 15: หลอน



ตึกแถวเก่าๆสูงสี่ชั้นลึกเข้าไปในซอยตัน หลายคูหาถูกทิ้งร้างไร้ผู้อยู่อาศัย ป้ายประกาศขายประกาศเช่าติดเกลื่อนกลาด ถัดจากคูหาหัวมุมทางขวามาคูหาที่สามสี่คือสถานที่แห่งเรื่องราวอันน่าหวาดสะพรึง
ค่าเช่าราคาถูกทำให้สองคูหาติดกันนี้ถูกปรับปรุงต่อเติมเป็นออฟฟิศทำงาน บริษัทเล็กๆพนักงานไม่ถึงสิบคนพอเหมาะกับสถานที่ แต่ด้วยบรรยากาศโดยรอบที่เงียบเหงาวังเวง เปลี่ยวร้างไร้ผู้คนพลุกพล่าน การอยู่เวรเฝ้าออฟฟิศจึงถูกจัดตาราง

ผมเป็นพนักงานชาย หนึ่งในสี่ของบริษัท ตารางเวรถูกจัดให้อยู่เวรถัดไปในสัปดาห์ที่สอง ระยะเวลาคือหนึ่งอาทิตย์ของการนอนเฝ้าออฟฟิศ กับรปภ.ชราที่นั่งเฝ้าด้านหน้าของอาคาร หนึ่งวันก่อนถึงเวลาหน้าที่เข้าเวรของผม

“เป็นไง นอนออฟฟิศสบายเปล่า” ผมตบไหล่เพื่อนเบาๆก่อนเอ่ยถาม
“อือ ก็ดีว่ะเงียบดี” เพื่อนตอบโดยสายตายังจ้องหน้าจอตรงหน้า
“ไม่เจออะไรๆน่ากลัวๆบ้างรึ” ผมเอามือโอบไหล่สายตาจ้องไปที่หน้าจอ
“ไม่นะไม่เห็นมีอะไร มีก็แต่...ผีอำแมร่งทุกคืน ชินเลย” เพื่อนตอบพร้อมหันมายิ้มแบบมีเลศนัย
“ไอ้ห่า พูดเป็นเล่นไปได้” ผมสบถเบาๆก่อนเดินจากมา

ค่ำคืนของการนอนเฝ้าออฟฟิศตามตารางเวรมาถึง ผมเตรียมหมอนที่นอนผ้าห่ม และที่ขาดไม่ได้ สร้อยคอพร้อมหลวงพ่อองค์เล็กที่ใส่ไว้ตลอดเวลาแม้ตอนอาบน้ำ รปภ.ชราเป็นเพื่อนคุยฆ่าเวลาพอให้ถึงเวลาง่วง เลยผ่านสองยามไปเพียงเล็กน้อยหนังตาที่เริ่มปิดไม่อาจทนทานขืนขันต่อไปได้ ผมลาจากรปภ.ชรา ขึ้นไปยังห้องนอนชั้นสาม

ห้องโล่งๆไม่มีสิ่งของอะไรให้รกลูกตา สีขาวซีดกระดำกระด่างของฝาผนังและเพดานยังคงเดิมไม่ได้ถูกทาสีใหม่เหมือนชั้นล่าง ด้านตรงข้ามประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกสีชาหมองสามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ ไม่มีม่านไม่มีมู่ลี่สำหรับบังแดดแสง พัดลมตั้งพื้นหนึ่งตัววางแอบอยู่มุมห้องใกล้ๆกับกองที่นอนหมอนของเพื่อนเฝ้าเวรคนก่อน

ผมจัดแจงปูผืนที่นอนที่เตรียมมาและเปิดพัดลม เอนตัวลงนอนหลังจากปิดไฟ เงียบจริงๆอย่างที่เพื่อนว่า มีเพียงเสียงหึ่งๆเคร้งๆของพัดลมที่ส่ายไปส่ายมาเท่านั้น แสงจันทร์สาดเข้ามาทางประตูระเบียงทำให้ในห้องไม่ได้มืดสนิท สามารถมองเห็นทั้งห้องได้รางๆ แม้จะง่วงหนักมาจากข้างล่าง แต่ผมกลับไม่ได้หลับอย่างที่ตั้งใจ หัวใจเต้นตูมตลอดเวลา คิดถึงคำพูดของเพื่อนเรื่องโดนผีอำ จินตนาการเริ่มเตลิดเปิดเปิง

“นับแกะๆ” ผมคิดในใจ เริ่มต้นนับ แกะตัวที่หนึ่ง แกะตัวที่สอง........
ถึงตัวที่เท่าไหร่แล้ว สภาวะจิตกำลังเคลิ้ม
พลัน! ป๊อกๆๆๆ.... เสียงเหมือนใครสักคนเคาะกระจกประตูระเบียง ผมสะดุ้งขว้าผ้าห่มคลุมโปงทันที
นะโม นะโม นะโม....... เสียงสวดมนต์ มือไม้สั่นเหงื่อซึมฉาบฝ่ามือ กุมองค์พระที่ห้อยคอไว้แน่น
เงียบงันในบรรยากาศมีเพียงเสียงลมหายใจแข่งกับเสียงพัดลมที่ยังส่ายไปมาไม่รู้ร้อนรู้หนาว เป็นเวลาของการตั้งสติ ตัดสินใจ

“เอาไงดีว่ะ เอาไงดี” ผมคิดตัดสินใจ “เอ้า...เป็นไงเป็นกัน” รวบรวมสติ พลิกตัวหันหน้าไปทางระเบียง ก่อนค่อยๆแง้มผ้าห่มที่คลุมโปง เพ่งสายตาไปยังประตูกระจกทางระเบียงนั้น แสงจันทร์ทาบฉาบบริเวณโดยทั่ว เงาตะคุ่มๆนิ่งงันสนิทเงียบอยู่ในมุมหนึ่งของประตู ผมพยายามเพ่งสายตา

“โธ่เอ้ย ไอ้นกพิราบบ้า” ผมสบถเบาๆ


“เป็นไงวะ หลับดีป่าวเมื่อคืน” เพื่อนคนเดิมทักในตอนเช้าวันทำงาน
“อือ ก็ดี” ผมตอบเบาๆ เพื่อนเพียงมองหน้าที่อิดโรยของผม พลางตบไหล่และยิ้มบางๆ

คืนสองสามสี่ผ่านไปโดยมีนกพิราบตัวนั้นเป็นเพื่อนนอนทุกคืน ผมได้หลับมากขึ้นแม้ในห้วงลึกยังหวั่นกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เรื่องผีอำในคำพูดของเพื่อนผมแทบลืมมันไปแล้ว

คืนสุดท้ายมาถึงก่อนที่จะโยนห้องนี้ไปให้เวรคนต่อไป ก่อนถึงเวลาเข้านอนผมลงไปนั่งคุยกับรปภ.ชราเช่นเดิมเหมือนทุกคืน

“เป็นไงบ้างครับ นอนเจออะไรดีๆบ้างเปล่าครับ” ลุงรปภ.เอ่ยปากถาม
“อะไรดีๆ นี่คืออะไรหละลุง” ผมถามปนสงสัย
“ก็แบบ ผมยาวๆสวยๆ ลอยไปลอยมาหรือมายืนให้เห็น อะไรอย่างเนี๊ย” ลุงรปภ.พยายามอธิบาย
“อ๋อ ผีหนะรึ ไม่นะ เจอแต่ผีนกพิราบตรงระเบียง เดี๋ยวนี้เป็นเพื่อนกันแล้วนอนด้วยกันทุกคืน” ผมตอบ

“อือ ดีแล้วครับที่ไม่เจอ นี่นะคุณ เมื่อคืนวานตอนคุณเข้านอนแล้วหนะ รปภ.ฝั่งหมู่บ้านโน้นแกเดินมาคุยกับผม แกเล่าให้ฟังว่า ตอนสร้างตึกแถวคูหานี้หนะ กว่าจะสร้างเสร็จใช้เวลาตั้งหลายปี ผู้รับเหมาเจ้าแรกมีคนงานผู้หญิงตกนั่งร้านตายที่นี่แหละ จากนั้นผู้รับเหมาเจ้านั้นก็หนีเลยไม่ยอมทำต่อ เอาเจ้าที่สองมาทำ อยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ไปอีก เจ้าของเลยทิ้งปล่อยร้างอยู่ตั้งปีสองปี ช่วงนั้นนะ มอซงมอไซค์ที่วิ่งผ่านตึกนี้โดนกันทั้งนั้น พวกขี้ยานี่เข็ดขยาดไปเลย ไม่กล้าแอบเข้ามาเล่นยาเลยหละ มีคนนึงขับวินเข้าไปส่งลูกค้าข้างในแค่สี่ห้าทุ่มเอง ขากลับเขาเห็นผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีขาวทั้งตัวยืนยิ้มโบกมืออยู่บนระเบียงชั้นสาม โบกแบบโบกรถหนะ เขาตกใจขับรถชนเสาไฟสลบไปเลยหนะ กว่าคนจะมาเจอก็ตอนเช้า ดีไม่ตายนอนอยู่โรงบาลตั้งหลายวัน เลิกขับวินไปเลย” ลุงรปภ.เล่าความเป็นมาของตึกหลังนี้ให้ฟังจนผมขนแขนตั้งชัน

ผมรีบขอตัวแกเข้านอนไม่รอให้ดึกมากกว่านี้ ปิดไฟล้มตัวลงนอน คืนนี้แสงเดือนเงียบสนิทมืดมิดมองอะไรแทบไม่เห็น แต่กระนั้นก็ยังพอมีแสงเงาจากความสว่างที่ลอดผ่านประตูกระจกมาจากข้างนอก พัดลมส่งเสียงหึ่งๆเคร้งๆเหมือนเดิมเช่นทุกคืน เงาของนกพิราบตรงระเบียงยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน ผมกระสับกระส่ายพยายามหลับเปลือกตา นับแกะก็แล้ว ท่องนะโมก็แล้ว แต่ใจกลับคิดวนเวียนเกี่ยวกับเรื่องที่รปภ.เล่า

เวลาผ่านเลยไปไม่รู้เท่าไหร่ ผมรู้แต่เพียงว่ามันนานเหลือเกินและผมก็ข่มใจให้หลับลงไม่ได้เลย ก่อนแกะตัวที่สี่ร้อยสิบจะกระโดยข้ามรั้ว เสียงหนึ่งดังแว่วเข้ามา

“ซู่ๆๆๆๆ” เสียงเหมือนน้ำที่ไหลจากก็อกดังมาจากประตูทางเข้า ผมพยายามเงี่ยหูฟัง ใช่มันต้องมาจากทางประตูทางเข้า ใครหละจะมาเปิดน้ำตอนนี้ รปภ.รึ! คงไม่ใช่แน่ห้องน้ำชั้นหนึ่งก็มี เรื่องอะไรแกจะต้องมาเข้าห้องน้ำชั้นสาม ผมควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้หัวนอนเปิดดูเวลา ตีสองกว่าแล้ว ใครจะมาทำงานตอนนี้
เสียงของมันดังอยู่สักพักก่อนเงียบสนิทไป ผมตาสว่างแล้วตอนนี้ พยายามหลับยังไงมันก็ไม่ยอมแล้ว เรื่องลี้ลับต่างๆผุดขึ้นมาในสมองตลอดเวลา

“ซู่ๆๆๆๆ” มันมาอีกแล้วเสียงน้ำไหลจากก๊อก ผมขยับใช้นิ้วโป้งเท้ากดปิดปุ่มสวิทช์พัดลมเพื่อเงียบเสียง เสี่ยงแผ่วเบาของน้ำไหลดังชัดเจนขึ้น มันยังดังต่อเนื่อง เอาไงดีหละทีนี้ผมคลุมโปงเงียบนิ่ง หัวใจเต้นตึกแรงกว่าเดิม เหงื่อซึมทั่วตัวขนแขนลุกตั้งชูชันสองมือประสาน องค์พระย้ายเข้าไปอยู่ในปาก
เป็นไงเป็นกันผมตัดสินใจอีกครั้ง คราวนี้รวบรวมสติทั้งหมด ลุกขึ้นควานหาสวิทช์ไฟ “พรึบๆๆ” ผมสดุ้งสุดตัวหลังจากไฟสว่าง ที่ระเบียงนกพิราบมันคงตกใจในแสงไฟกางปีกออกบิน

เงียบเสียงปีกนกเงียบเสียงน้ำไหล อะไรกัน!

ผมยืนนิ่งแสงไฟในห้องสว่าง แต่ข้างนอกที่มองไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น ผมยังนิ่งรอ หากมีคนข้างนอกคงมีการเคลื่อนไหว แต่ทุกอย่างเงียบสนิท เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ผมคิด ก่อนเดินไปคว้าโทรศัพท์มือถือ กดหน้าจอให้สว่าง เดินไปเปิดประตู ค่อยๆแง้มประตูออก มืดสนิทไร้การเคลื่อนไหว ผมค่อยๆคลำไปหาสวิทย์ไฟ ก่อนเปิดให้แสงสว่าง เงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ในห้องน้ำ

“ฮาโหลลลล รปภ ครับ” เสียงลุงรปภ.งัวเงีย

“ลุง ลุงขึ้นมาเข้าห้องน้ำข้างบนรึปล่าว” ผมกรอกเสียงไปในโทรศัพท์

“เปล่านี่ครับคุณ ผมยังไม่ได้ไปไหนเลย มีอะไรเปล่าครับ” ลุง รปภ.ปฏิเสธ

“เอ่อ ไม่มีอะไรหลอกครับลุง ขอบคุณมาก” ผมกดวางสายโทรศัพท์ ปิดไฟและเปิดประตูเดินเข้าห้องนอน ความกลัวผสมปนเปกับความงงงวย ปล่อยให้ทั้งห้องสว่างโล่ง ขณะล้มตัวลงนอนหัวพาดกับหมอน

“ซู่ๆๆๆ” มันมาอีกแล้ว ผมสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที ลืมคิดถึงความกลัวชั่วขณะ เดินดุ่มๆออกไปพร้อมเปิดประตู

ฉับพลันนั้นหัวใจแทบหล่นลงพื้น ขนแขนลุกตั้งชูชันมือไม้อ่อนแรง เสียงน้ำไหลเมื่อครู่เงียบทันทีที่ผมเปิดประตู จะอยู่ทำไมหละตอนนี้ ผมวิ่งพรวดลงบันไดทันที จุดหมายคือชายแก่รปภ.ด้านล่าง
ลุงรปภ.ทำท่าตกใจสะดุ้งตื่นเลิ่กลั่ก ถามผมเกิดอะไรขึ้น

“ขอนอนด้วยคนนะลุง” ผมไม่ตอบแต่เปลี่ยนเป็นขอความเอื้อเฟื้อแทน
“หึๆ สงสัยเจอดี” แกหัวเราะเบา

เจ็ดโมงเช้าลุงรปภ.กลับไปแล้วเปลี่ยนเวรกับรปภ.คนใหม่ ผมยังไม่กล้าขึ้นไปชั้นสามเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทำงาน นั่งจิบกาแฟร้อนอยู่บนโต๊ะทำงาน
“โห วันนี้ตื่นเช้าเชียวนะมึง” เพื่อนคนเดิมเปิดประตูเข้ามาทักทาย อย่างแปลกใจ
“อือ แล้วมึงมาทำไรแต่เช้า” ผมถามกลับ
“มาซ่อมห้องน้ำหน่อยหว่ะ แล้วมึงเป็นไรตาโหลๆ ท่าทางซึมๆ” เพื่อนถามผมเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ
“เมื่อคืนเจอดีหนะสิ แมร่งไม่ได้นอนสักงีบ” ผมอธิบาย
“เฮ้ย จริงเหรอเป็นไงวะ เล่าให้ฟังสิ” เพื่อนทำท่าตกใจ ก่อนลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งใกล้
“เออ นี่นะโว้ย เมื่อคืน..............”

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงเพื่อนระเบิดหัวเราะทันทีที่ผมเล่าจบ ผมทำท่างงๆกับการกระทำของมัน
“เฮ้ย กูไม่ได้กุเรื่องหลอกมึงนะโว้ย กลัวจนฉี่จะราดเลยเมื่อคืน”
“เออๆ กูรู้มึงไม่ได้โกหก เอานี่ถือไว้เดี๋ยวกูไปเอากระเป๋าเครื่องมือก่อน” มันยื่นถุงพลาสติคใส่ของให้ผมถือ ก่อนลุกเดินเข้าไปเอาเครื่องมือในห้องเก็บของใต้บันได
ผมเปิดถุงดูพบสายฉีดน้ำล้างก้นอยู่ในแพ็ค “อะไรของมันว่ะ”

“ไปเดี๋ยวกูพาไปดูผีก๊อกน้ำ” เพื่อนหันมาเรียกก่อนเดินขึ้นบันไดไป ผมลุกเดินตามนึกหวั่นๆผสมงงๆกับการกระทำของเพื่อน

“ซู่ๆๆๆ” เสียงน้ำไหลดังมาจากห้องน้ำ เพื่อนชี้ให้ดูจุดที่น้ำไหลพร้อมหัวเราะ “นั่นไงผีก็อกน้ำของมึง ฮ่าๆๆๆๆ”
ผมยืนงงกับสายฉีดที่ถูกงอปลายสายแล้วเอาสายยางรัดไว้ “อะไรว่ะ แล้วมันไหลๆหยุดๆได้ไง” ผมยังงงอยู่

“ก็นี่ไง มึงคอยดูนะ ตอนนี้มันไหลเพราะแรงดันน้ำมันเยอะเต็มสายมันก็ดันออกมาทางรอยแตกของสาย เดี๋ยวพอแรงดันมันลดลงรอยแตกมันก็สนิทกันน้ำมันก็ไม่ดันออกมา แต่พอน้ำมันไหลมาสะสมแรงดันเยอะขึ้น มันก็ดันออกมาทางรอยแตกอีก”

“ฮ่าๆๆๆๆ เออว่ะ แมร่งผีก๊อกน้ำเล่นซะกูไม่ได้นอนทั้งคืน” ผมหัวเราะพร้อมหันหลังเดินหนีเข้าห้องนอน

สะดุ้งหยุดยืนนิ่งงันฉับพลันที่เปิดประตู นกพิราบตัวนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนขอบระเบียงด้านนอก มันหันหน้าจ้องมองมาทางผม

ดวงตาแดงก่ำสบสายตาและแสยะยิ้ม



Create Date : 08 กันยายน 2553
Last Update : 26 ตุลาคม 2553 15:38:43 น.
Counter : 1454 Pageviews.

43 comments
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
15 เมษายน 2567 คุกกี้คามุอิ
(15 เม.ย. 2567 04:15:53 น.)
๏ ... คืนฟ้าไร้ดาว ... ๏ นกโก๊ก
(14 เม.ย. 2567 09:49:36 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
  
ปล. เป็นการเขียนที่ยาก และไม่ถนัดเลยครับ ลองดูว่าคนอ่านจะหลอน หรือคนเขียนจะหลอน ฮ่าๆๆๆๆ
โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:9:19:16 น.
  
อ้าว...นกพิราบที่อยู่เป็นเพื่อนกันทุกคืนหน้ากลัวกว่าอีก

เวลาเงียบๆ มีเสียงอะไร นิด ๆ หน่อย ๆ มันก็ชวนขนลุกนะคะ
โดย: kapeak วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:9:41:54 น.
  
ถ้ากลัวนะครับ
เสียงลมพัดเบาๆในห้อง
ยังทำให้สติแตกได้เลยครับ 5555


นกพิราบแสยะยิ้มนี่ก็ให้อารมณ์หลอนไม่น้อยเลยนะครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:11:09:58 น.
  
ผีนกพิราบ ลองจินตนาการตาม

ถ้าเจอจะกลัวมั้ย แต่พวกค้างคาวนี่

ถึงมันทำตัวปกติ แต่ถ้าเจอตอนดึก ๆ

ปายก็กลัวนะ

เป็นกำลังใจให้กับการเขียนในโครงการหน้านะคะ

ร่วมเขียนไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เป็นมือโปรแน่ค่ะ
โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:11:47:21 น.
  
เอ๊า...
นึกว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ
ดันจบซะน่ากัวเชียวค่ะ

แง่วๆๆๆ
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:12:52:57 น.
  
เขียนดีมากเลยครับผม

เห็นภาพตามเลย

แต่ความกลัวเนอะ เสียงลมยังทำให้กลัวได้เลยครับ

โดย: กลิ่นดอย วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:13:05:35 น.
  
คนเราถ้าความกลัวมันเกิดขึ้นมาน่ะ ไม่ว่าได้ยินเสียอะไรก็กลับไปหมดแหละ จนเหมือนหลอนไปเลย

ว้าย ว้าย ผีก๊อกน้ำ
โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:13:26:48 น.
  
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ ...





ดินแดนนี้อยู่หนใด.........................มีจริงใช่ไหม
หัวใจจึงเพรียกพร้องหา


รุ้งรอบขอบรั้วเมฆา........................คล้องคุ้มพสุธา
แพรกพรมพฤกษาผลิบาน


โน้มนำสองจิตวิญญาณ...................บรรจบพบพาน
วิมานใต้แสงตะวัน


ทั้งสุขทุกข์พร้อมแบ่งปัน.................ห้วงหฤหรรษ์
มีกันและกันร่วมทาง


เพียงเส้นขอบฟ้าบางบาง.................มิอาจกั้นกาง
ขวากหนามขวางหน้าจรลี
.
.
.
โดย: ploythana วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:13:33:50 น.
  
สวสัดีค่ะ เจนต้องขอโทษด้วยที่หายไปหลายวันโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า
เมื่อศุกร์ที่แล้วคุณทวดเกิดอุบัติเหตุค่ะจนทำให้ท่านเสียชีวิต เจนก็ต้องกลับบ้านกระทันหัน ยังไงก็ขอบคุณมากๆที่คิดถึงและเป็นห่วงเข้าไปเยี่ยมเจนที่บ้านค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
โดย: ภายใต้ วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:14:34:47 น.
  
แม่เจ้า พูดเรื่องผีนก แล้วนึกถึงผีชีวะภาคสามครับ

แต่นกไทยๆอย่างนกแสก นกกลางคืนนี่

น่ากลัวกว่าเยอะครับ

ยิ่งมายิ้มให้แล้วเนี่ย

หวายยยยยยยยยยยย

ฮ่าๆๆ


ทำลิ้งค์ให้แล้วครับ คนแรกเลย

โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:16:01:14 น.
  
เรามาอยู่บ้านพักใหม่ ๆ กลางคืนจะได้เสียงร้องฮือ ๆ ตลอด น่ากลัวมาก แต่พอถามพี่ข้างบ้าน เค้าบอกว่าเป็นเสียงนกพิราบ แต่น่ากลัวเป็นบ้าเลย
โดย: magic-women วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:16:49:45 น.
  
โอ้โห อ่านเม้นของทุกๆคนแล้วยิ้มได้เลย ไม่คิดว่าการเขียนที่แสนยากครั้งนี้จะมีคำชื่นชม

ขอบคุณสำหรับเม้นต์ของทุกๆคนครับ มีกำลังใจในการเขียนขื้นเยอะเลยครับ

ตอนนี้ปฏิบัติหน้าที่อยู่บางสะพาน ประจวบ แอบออนแอร์การ์ดเล่นๆ คืนนี้กว่าจะกลับ กทม.คงดึก ไม่ได้แวะไปอ่านบ้านคนอื่น ไว้พรุ่งนี้นะครับ

ราตรีสวัสดิ์ทั้งมิตรภาพทางอักษร และมิตรภาพทางสายตาทุกๆคนครับ
โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน IP: 116.58.231.242 วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:19:04:03 น.
  


แวะเอาแอ๊ปเปิ้ลมาให้ทานจ้า

โดย: แอ๊ปเปิ้ลโบราณ วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:19:47:49 น.
  
จขบ.ยิ้มหวาน ท่าทางใจดีแบบนี้ เด่วโลงทองขอตามไปนอนด้วยซักคืน ได้ไหมฮ้า

55555555

มาแล และมาอ่าน เรื่องผีด้วยคน เขียนได้ดีคับ ใกล้มืออาชีพ

ชอบมากเลย ผีเนี่ย..ชอบเป็นชีวิตจิตใจ หากินกับผีมาก็เหยียบแสนแล้ว จะไม่ให้รักได้ยังไงล่า
โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:20:13:30 น.
  
มาส่งเข้านอนคะ เรื่องผีขอเอาไว้อ่านพรุ่งนี้นะ กลัวเป็นชีวิตจิตใจคะ

ฝันดี
โดย: ฝนโปรย วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:22:41:26 น.
  
อิอิ
พี่ก๊อกน้ำ
โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:6:35:20 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:8:06:01 น.
  
ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ขำผีก๊อกน้ำค่ะ แต่มาขนลุกตอนจบน่ะนกผีเหรอเหอๆ

สงสัยจังว่านกปากแหลมๆเวลายิ้มมันจะเป็นยังไง

เขียนดีค่ะ โครงการหน้าเขียนร่วมกันอีกนะคะ
โดย: ท่านหญิงน่าเกลียด วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:9:27:57 น.
  

เรื่องสั้นเรื่องนี้ดีค่ะ บ่งบอกถึงความกลัวในจิตใจคน

คนเราถ้ากลัว แม้แต่..ตดตัวเองก้จินตนาการได้ว่าเป็นกลิ่นศพ
โดย: คล้ายดาว วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:10:56:37 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: kapeak วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:12:03:46 น.
  
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ





นครแห่งรัก
...............


แสงทองยามรุ่งอรุณฉาน.............วิจิตรตระการ
นิรมาณผ่านฟ้าเรืองไร


ศรัทธาบังเกิดเปิดใจ..................ชวนชิดพิศมัย
อุ่นไอสัมผัสอัศจรรย์


เพลิดเพลินนิยมชมพลัน.............ดินแดนในฝัน
คนธรรพ์บรรเลงกล่อมเกลา


ร่ายร้อยรักแท้นานเนา................สืบสู่รุ่นเรา
รักเจ้าสรรค์สร้างตำนาน



ร่ำลืออนุสรณ์สถาน...................อิฐหินดินดาน
ยังหวานแม้นผ่านร้อนหนาว

.
.
.
โดย: ploythana วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:15:59:41 น.
  
โดย: ภายใต้ วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:16:46:54 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมไข้นะคะ
โดย: teansri วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:6:34:04 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:8:00:17 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ อิอิอิ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:10:20:13 น.
  
สวัสดียามเที่ยงคร๊าบ

ดีนะที่แวะมาอ่านตอนนี้..ถ้ากลางคืนละก็ ตัวใครตัวมันครับ
โดย: CEO นิ้วก้อย วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:12:13:10 น.
  
แวะมาทักทายวันศุกร์ค่ะ ไม่มีเวลาก็แสดงว่ายุ่ง ๆ อยู่

อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ เที่ยงคืนของวันนี้

ปายก็จะไปโคราช อาจจะไม่ได้เข้าบล็อกสัก 2 วัน

แอบยุ่งตามค่ะ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก
โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:13:38:24 น.
  
ขอบคุณครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:14:46:53 น.
  
ขอบคุณค่ะ ^_^
พรุ่งนี้ไปเที่ยวใหนดีคะเนี่ย วันหยุดแล้วซิเนาะ
โดย: ภายใต้ วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:16:33:39 น.
  



อากาศเปลี่ยนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

โดย: แอ๊ปเปิ้ลโบราณ วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:16:43:09 น.
  
สวัสดีขอรับ

ความจริงผมชอบงานเขียนบทกวี อย่างงานของ วาร วายุ นะครับ

อ่านแล้วกระแทกอารมณ์ดี

แต่ไม่นิยมงานที่แต่งตามฉันท์จ๋าเกินไป

มันดูอึดอัดน่ะครับ
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:18:22:16 น.
  
สายัณห์สวัสดีค่ะดอกดินฯ
+====================+

ผีก๊อกน้ำ.. น่ากลัวเหมือนกันนะคะ เหอ ๆ ๆ

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:19:09:48 น.
  


เนี่ยผมต้องเปิดผ่านเลย แม้จะรู้ว่าเป็นผีก็อกน้ำ ก็อดคิดไม่ได้
โดย: กลิ่นดอย วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:22:41:58 น.
  
วันนี้งานเยอะมาก เลยแวะมาทักทายตอนดึกๆค่ะ

โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:22:59:20 น.
  
ที่แท้ก็ผีก็อกน้ำเนี่ยนะ...555

โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:5:24:04 น.
  
แวะมาดูเจ้านกพิราบอีกที

น่ากัวนะ แหะๆ...

ตื่นหรือยังคะ
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:6:57:07 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:8:09:42 น.
  
หวัดดียามบ่ายค่ะ ทา้นข้าวเที่ยงรึยังคะ
โดย: kapeak วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:13:01:11 น.
  
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายยามบ่ายๆ ของลอนดอนนะคะ

อยากรู้จังว่ามีนกกี่ตัว?
โดย: teansri วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:18:02:22 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณเคยพูดคำนี้มั้ยค่ะ "ไม่มีเวลา"



เรื่องของเรื่องจะชวนไปเยี่ยมบบล็อกเรานั่นแหละ
โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:19:40:59 น.
  
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ ...





ค่ำคืนที่ฉันหลับหลับใหล............ฟากฟ้าอำไพ
ดังเผยความนัยให้กัน


ดาวน้อยลอยเรียงเคียงจันทร์.......เปล่งแสงอำพัน
กล่อมขวัญนิทราราตรี


เชื่อมรูปลักษณ์จักรราศี..............บรรจบชีวี
ไมตรีจากคนข้างเคียง


จันทร์งามท่ามดาวล้อมเรียง........เสนาะสรรพเสียง
สำเนียงขับกล่อมขานไข


เสียงหนึ่งนุ่มนวลกล่อมไกว.........พาฉันหลับใหล
ล่องลอยตามใจปรารถนา
.
.
.
โดย: ploythana วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:23:00:30 น.
  


สวัสดีตอนดึกค่ะ

ขอกลับมาอ่านในวันพรุ่งนี่แล้วกันนะค่ะ ..

ประมาณตอนนี้มันดึกมากแล้ว ... เหอะๆๆๆ


ปอยแวะมาบอกว่าช่วงที่ผ่านมางานยุ่งมากค่ะ เลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาแวะมาทักทายกันนะค่ะ

แต่พรุ่งนี้คงจะสบายแล้วล่ะค่ะ

นอนหลับฝันดีคะ
โดย: reception hall วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:0:35:01 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: kapeak วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:9:09:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thep-thong.BlogGang.com

ดอกหญ้า บนทางดิน
Location :
ปทุมธานี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด