บันทึกคนหลงโลก "หลงที่ไหน ตั้งใจเลี้ยว" สวัสดี สายลมแห่งเดือนเมษา ..... เพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยมต้นได้กลับมารวมรุ่นและสร้างเครือข่ายสังคมกัน หนึ่งในนั้นเป็นคนจิตอาสาพัฒนาชนบทเหมือนฉัน เมื่อฉันโพสท์กิจกรรมพัฒนาสระบุรีเขามากดไลค์ และ เมื่อเขาโพสท์กิจกรรมพัฒนากาญนะจ้ะฉันก็ไปร่วมชื่นชม สองปีที่ผ่านมาเพื่อนโกนหัวเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์และกลับมาจำพรรษาที่วัดใกล้บ้านในจังหวัดสระบุรี บวชแล้วท่านยังคงอุดมการณ์เรื่องการพัฒนาชุมชน ฉันก็มีอุดมการณ์เรื่องพัฒนาเมือง ถึงจะวุ่นวายหนอเพราะท่านเป็นบรรพชิตจะคุยจะแลกเปลี่ยนความคิดต้องเป็นกลุ่มเพื่อป้องกันข้อครหา ..... ครั้งหนึ่งในการสนทนา ฉันพูดถึงความฝันวันเยาว์ว่าสักวันถ้าฉันมีวันว่างยาวนาน จะไปขับรถเล่นเลาะตะเข็บชายแดนไทย ได้บางอ้อกันว่า ครั้งหนึ่งท่านก็เคยวางแผนไว้เช่นกัน ..... รับกฐินหลังออกพรรษาปี 2564 เรียบร้อย พระเพื่อนออกธุดงค์จากสระบุรีจาริกไปพร้อมอัฏฐบริขารสงฆ์ เต๊นท์พัก และเป้ 1 ใบ ดิ่งไปกาญจนบุรีทำกิจธุระของครอบครัว และเริ่มตั้งต้นการเดินทางเลาะเรื่อยริมขวานทองของไทย ขึ้นเหนือ อีสาน ตะวันออก ภาคกลาง ลงสู่ภาคใต้ฝั่งอันดามันและวนกลับทางฝั่งอ่าวไทย ระหว่างการจาริกท่านก็ปฏิบัติตามวินัยสงฆ์และแนวทางการธุดงค์ตามที่ได้สอบถามจากพระผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์และพรรษา ตั้งเป้าหมายการเดินทางและกำหนดว่าค่ำจะเข้าพักที่ไหน แน่ล่ะนอกจากจาริกแสวงบุญทางธรรมบางแห่งก็เป็นวัดสายพัฒนาที่ท่านสนใจเป็นพิเศษ ..... นับเวลาตั้งแต่ออกพรรษา พฤศจิกายน - เมษายน อีกไม่กี่วันท่านก็ธุดงค์เดี่ยวเที่ยวไทยมาเกือบ 6 เดือนเต็มแล้ว ..... บันทึกการเดินทางของพระเพื่อนเขียนไว้ว่า วันหนึ่งที่วัดทางใต้หลังการสนทนาธรรมที่เจ้าอาวาสคงมองว่าพระเพื่อนจาริกธุดงค์เพราะต้องการตามหาสิ่งใดในชีวิตท่านก็ได้กรุณาสอนว่า สิ่งที่ตามหาบางทีอาจจะไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลแต่อาจอยู่ในใจของเราตั้งแต่แรกนั่นเอง จบการสนทนาพระเจ้าอาวาสเอ่ยปริศนาธรรมเมื่อพระธุดงค์นมัสการกราบลา "ไปหลงทางต่อไป" ..... พวกเราเป็นคน "หลง" กันในทางธรรม เพราะยึดติดกับมายาคติและอุดมการณ์ ยังไม่ปล่อยวาง แบบที่เรียกกันว่า รู้ว่า "หลง" ก็ยังตั้งใจ "เลี้ยว" ..... ข้อคิดจากนักเดินทาง "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด แต่จะหลงเตลิด" ^^
|
บทความทั้งหมด
|
สาธุ