มนุษย์คือผู้สร้าง/ผู้ทำลาย
 

มนุษย์คือผู้สร้าง/ผู้ทำลาย
 


 
     11 ตุลาคม 2566  โจรได้บุกรุกเข้ามาภายในวัดอริโซน่าธรรมาราม และใช้ขวานทุบทำลาย พระสีวลี  พระพุทธรูปหน้าวัด และได้วิ่งหนีขึ้นรถไป   จากนั้น  เจ้าอาวาส ได้โทรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่วัด และบันทึกรายละเอียดการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว   โจรคนนี้ได้พยายามขอเข้าไปด้านในวัด   แต่เจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้เข้า และก็เดินออกไป   จากนั้นเขาเข้ามาหาเจ้าอาวาสรอบที่สอง   บอกว่าจะขอเข้ามาถ่ายภาพด้านในวัด แต่เจ้าอาวาสปฏิเสธ และบอกให้เขาออกไปกราบพระด้านนอก และโจรคนนี้เดินออกไปตรงหน้าพระสีวลี ได้ใช้ขวานสับตรงผ้าสังฆาฏิ และวิ่งออกไปใช้ขวานทุบประพุทธรูปด้านหน้าวัด แล้ววิ่งหลบหนีขึ้นรถไป   มุ่งหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก   โดยไม่ทราบยานพาหนะในการหลบหนี   จากการสันนิษฐาน คิดว่ามาแบบเป็นกลุ่ม   โดยมีคนรออยู่ในรถคอยเป็นต้นทางเฝ้าระวัง
เหตุการณ์ครั้งนี้    พระสงฆ์ภายในวัดปลอดภัยดีทุกรูป...
และขอเตือนให้วัดต่างๆ เฝ้าคอยระมัดระวังภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ถวายคำแนะนำว่า   หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นในอนาคต ให้พยายามหลบเข้าภายในอาคารวัดแล้วล๊อคประตู   เพื่อไม่ให้โจรเข้ามาทำร้าย และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที 911
 



 


มนุษย์เป็นทั้งผู้สร้างและเป็นทั้งผู้ทำลาย  ไม่ใช่พระเจ้าพระแจ้วที่ไหนมาสร้างให้แล้วทุบทำลายเองหรอก  คนทุบเองสร้างเอง  แล้วก็สร้างตามความเชื่อของกลุ่มตน  เมื่อกลุ่มของตนไม่เชื่อ  ก็อย่าไปทุบไปทำลายของผู้เชื่อเขา 

อัลลอฮฺ อักบัร  ดีใจ + เสียใจ   

https://www.facebook.com/reel/1288869835155444

ทำไมพระเจ้าไม่เผยตัวตนของพระองค์มาให้เห็น | อ.ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม 450

https://www.facebook.com/watch?v=850188033567191
 


https://www.facebook.com/photo?fbid=363294369374894&set=pcb.1374109863178813


     เจ้าลัทธิ  เจ้าทฤษฎี   เป็นต้น   ที่สั่งสอนเผยแพร่    มีคนเชื่อถือเห็นตามยอมรับ  สมาทาน เอาไปปฏิบัติขยายออกไปๆ สามารถบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ และความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เป็นกันมามากมาย

     เห็นได้ชัดว่า   หมู่ชนไม่ว่าระดับไหน   ถูกขับเคลื่อนด้วยแนวคิดความเชื่อ จนกระทั่งเป็นอารยธรรม ก็มีทิฏฐิเป็นตัวขับเคลื่อนอยู่เบื้องหลัง แล้วสังคมมนุษย์ก็ได้รับผลดีผลร้ายไปตามมโนกรรมที่สมาทานกันนั้น

     ทั้งที่ทิฏฐิเป็นมโนกรรมอยู่ในใจ  แต่มีอิทธิพลต่อสังคมแสดงผลต่อโลกนี้ยิ่งใหญ่ที่สุด  ดังที่อาจจะอ้างพุทธพจน์ว่า

        "ภิกษุทั้งหลาย  เอกบุคคล  เมื่อเกิดขึ้นในโลก  ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เกื้อกูล ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความพินาศ  มิใช่ประโยชน์  เกิดขึ้นเพื่อความทุกข์ แก่เทวะและมนุษย์ทั้งหลาย คือ เอกบุคคลอย่างไหน  ได้แก่  เอกบุคคลที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ  มีทัศนะวิปริต  เขาพาพหูชนออกไปจากสัทธรรมแล้ว ให้ตั้งอยู่ในอสัทธรรม  ภิกษุทั้งหลาย เอกบุคคลนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความพินาศ มิใช่ประโยชน์ เกิดขึ้นเพื่อความทุกข์ แก่เทวะและมนุษย์ทั้งหลาย

        "ภิกษุทั้งหลาย   เอกบุคคล  เมื่อเกิดขึ้นในโลก  ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก  เพื่อประโยชน์  แก่เทวะและมนุษย์ทั้งหลาย คือ เอกบุคคลอย่างไหน ได้แก่ เอกบุคคลที่เป็นสัมมาทิฏฐิ   มีทัศนะไม่วิปริต  เขาพาพหูชนออกไปจากอสัทธรรมแล้ว ให้ตั้งอยู่ในสัทธรรม  ภิกษุทั้งหลาย  เอกบุคคลนี้แล  เมื่อเกิดขึ้นในโลก  ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่พหูชน  เพื่อประโยชน์สุข แก่เทวะและมนุษย์ทั้งหลาย"  (องฺ.เอก.20/191-2/44)


235 พุทธธรรมมองลึกลงไปถึงในจิตในใจโน่น ไม่ใช่มองแค่พฤติกรรมเห็นๆข้างนอก แต่มองลึกไปถึงตัวบ่งการพฤติกรรม


 


 


พระพุทธรูปแห่งบามิยัน|กลับมาอีกครั้งอย่างสวยงามค่ำคืนแห่งพุทธองค์เคยยืนทอดสายตามองเหนือหุบเขาบามิยัน

https://www.youtube.com/watch?v=Cw1wyVWlxV4

https://www.youtube.com/watch?v=_jHroL_bpsc

 
 



Create Date : 16 ตุลาคม 2566
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2566 16:22:23 น.
Counter : 198 Pageviews.

0 comments
: รูปแบบของความว่าง : กะว่าก๋า
(18 เม.ย. 2567 04:00:35 น.)
봄 처녀(Virgin spring) by 홍난파(NanPa Hong) ปรศุราม
(17 เม.ย. 2567 10:09:12 น.)
หลักของสติ **mp5**
(16 เม.ย. 2567 12:14:57 น.)
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Samathijit.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด